Bitcoin Rainbow Chart คืออะไร? มันเป็นวิธีการใหม่ที่มีความน่าเชื่อถือมากในการแสดงให้เห็นถึงความเคลื่อนไหวของราคาในอดีตของ Bitcoin
มันอาจจะถูกเรียกในอีกชื่อว่า BTC Rainbow Chart เครื่องมือที่เป็นมิตรต่อนักลงทุนนี้ประกอบไปด้วยความเคลื่อนไหวของราคาในอดีต, แถบสีที่มีสีสัน, และความอดทนต่อความผันผวนเป็นศูนย์ เราอาจจะพูดเกินจริงไปบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม Bitcoin Rainbow Chart (แผนภูมิสายรุ้งของบิตคอยน์) แสดงให้เห็นถึงราคา BTC ที่ไม่มีการเจือปน — ทำให้ความผันผวนรายวันไม่มีการปะปนกัน และยังใช้แบบจำลองทางสถิติ — เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือในฐานะเครื่องมือในการประเมินราคา Bitcoin ที่เชื่อถือได้
เราไปดูกันดีกว่าว่า Bitcoin Rainbow Chart คืออะไร? และเราจะใช้งานมันได้อย่างไร?
ความต้องการที่ทำให้เกิด Bitcoin Rainbow Chart
Bitcoin นั้นได้เปิดตัวในปี 2009 ท่ามกลางความกังวลและความผันผวนมากมาย ในขณะที่เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคส่วนใหญ่ เช่น Moving Averages, Bollinger Bands ฯลฯ ได้ถูกนำมาใช้เพื่อกำหนดระดับการซื้อ-ขาย การควบคุมความผันผวนของราคานั้นยังคงเป็นสิ่งที่ท้าทาย
ความท้าทายเช่นนี้ทำให้เกิดความต้องการเครื่องมือตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ที่จะให้มุมมองที่กว้างขวางของความเคลื่อนไหวของราคา BTC ซึ่ง Bitcoin Rainbow Chart ก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้งานวางแผนการซื้อขายและการลงทุนระยะยาวได้
ทำความเข้าใจกับ Bitcoin Rainbow Chart
Bitcoin Rainbow Chart (แผนภูมิสายรุ้งของบิตคอยน์) เป็นเครื่องมือที่ผ่านการทดสอบแล้วและมีความน่าเชื่อถือในทางคณิตศาสตร์ซึ่งใช้ “แถบสี” เพื่อกำหนดโซนการซื้อขายที่สำคัญ และถูกต้องแล้ว มันจะแสดงให้เห็นเป็นแถบสายรุ้ง ไม่เหมือนกับแผนภูมิการซื้อขายอื่นๆ BTC Rainbow Chart จะซ้อนทับกับรูปแบบราคาในอดีตบนแผนภูมิลอการิทึมที่เป็นเหมือนสายรุ้ง — ตัดความผันผวนและข้อมูลที่ผิดในกระบวนการออกไป
มีศัพท์แสงมากจนเกินไปอย่างงั้นหรือ? นี่คือคำอธิบายในเวอร์ชั่นที่เรียบง่าย:
จำ Exponential Growth (การเติบโตแบบก้าวกระโดด) ได้หรือไม่? เส้น/แผนภูมิที่เริ่มต้นอย่างช้าๆ และไต่ไปสู่จุดสูงสุดหลังจากผ่านไประดับหนึ่ง
ทีนี้ลองมาพิจารณาถึงสิ่งที่ตรงกันข้ามกัน — เส้นลอการิทึม (Logarithmic) ที่เริ่มต้นอย่างรวดเร็วและแผ่ออกไปเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป นอกจากนี้ ทั้งเส้น Exponential และเส้น Logarithmic ยังคงเคลื่อนที่ออกจากแกน X — เปลี่ยนจุดสูงสุดและจุดที่ผ่านสำหรับทุกๆ วัฏจักรขาขึ้น/ขาลง
องค์ประกอบของ Bitcoin Rainbow Chart
อ้ะ เมื่อกี้เราพูดถึงเรื่อง “แถบสี” ออกมาใช่มั้ย? ใช่แน่ๆ เพราะว่า BTC Rainbow Chart ประกอบด้วยแถบสีหลายสี — สีน้ำเงินคือแถบที่อยู่ล่างสุด และสีแดงเข้มคือแถบที่อยู่ด้านบนสุด
นี่คือองค์ประกอบทั้งหมดของ Rainbow Chart และความหมายของมันที่มีต่อคุณในฐานะนักลงทุน:
- สีแดงเข้ม: FOMO อย่างรุนแรง มีแนวโน้มที่จะเข้าสู่ Dip/Bubble Territory
- สีแดง: เป็น Overbought Zone; แนะนำให้ทำการ Profit Booking
- สีส้มเข้ม: ผู้ซื้อเข้าควบคุมและทำให้เกิด FOMO อย่างรวดเร็ว
- สีส้มอ่อน: ดินแดนที่สมดุลและเป็นทางตันของผู้ซื้อ-ผู้ขาย
- สีเหลือง: ดินแดนของ BTC Hodler
- สีเขียวอ่อน: ขณะนี้ราคา BTC อยู่ใน Buy Zone
- สีเขียว: ราคาขายกำลังดำเนินอยู่; Accumulation Zone
- สีฟ้าอ่อน: เป็น Buy Zone ที่ชัดเจน
- สีน้ำเงิน: ตลาดหมีอย่างรุนแรง
อย่างที่เห็น แถบสีแต่ละแถบนั้นมีความหมายต่อนักลงทุน ปัจจุบัน BTC กำลังซื้อขายอยู่ในโซนสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นพื้นที่ “เทขาย” ที่ชาวทวิตเตอร์อ้างถึง
สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่คำแนะนำให้ทำการลงทุน คุณควรจะ DYOR (Do-Your-Own-Research หรือ ทำการศึกษาข้อมูลด้วยตัวคุณเอง) ก่อนที่จะทำการลงทุน
ประวัติของ Bitcoin Rainbow Chart
Rainbow Chart จะใช้ประวัติของราคาในอดีตและปัจจุบันในการสร้างกราฟ อย่างไรก็ตาม ตัวมันก็มีประวัติอยู่เช่นกัน BTC Rainbow Chart เป็นผลงานการผลิตของ Azop (ผู้ใช้งาน Reddit) ซึ่งเป็นผู้สร้างสิ่งที่คล้ายๆ กันในปี 2014
มันเริ่มต้นขึ้นมาจากการเป็นแผนภูมิที่ทำเล่นสนุกๆ เท่านั้น แต่มันก็ดึงดูดสายตาได้อย่างรวดเร็ว เมื่อมันได้รับความนิยม Trolololo ซึ่งเป็นผู้ใช้งาน Bitcointalk ได้จับคู่มันกับ Logarithmic Regression ในปี 2014 ทำให้มันมีรูปแบบและวัตถุประสงค์ในกระบวนการนี้
นี่คือ Rainbow Chart เวอร์ชั่นอย่างทางการที่นำเสนอบน Blockchaicenter.net เราอยากจะบอกให้คุณรู้ว่า ผู้เล่นรายที่ 3 — Uber Holger — ได้เข้ามาปรับแต่งและพัฒนาแผนภูมิเพิ่มเติม และสุดท้ายก็ได้อัพโหลดแผนภูมินี้บน Blockchain Center
ข้อดีและข้อเสีย
BTC Rainbow Chart เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็เหมือนกับแผนภูมิข้อมูลเฉพาะทางอื่นๆ มันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย:
ข้อดี:
- มีความแม่นยำตั้งแต่เปิดตัว
- ใช้แบบจำลองทางสถิติที่น่าเชื่อถือ (Logarithmic Regression)
- มีประโยชน์เมื่อพูดถึงพัฒนาการของราคาในระยะยาวโดยปราศจากสิ่งรบกวน (ความผันผวน)
- เข้าใจได้ง่ายแม้เป็นตัวชี้วัดแบบสแตนด์อโลน
- ปราศจากความผันผวนและสิ่งรบกวนรายวัน
ข้อเสีย:
- ไม่เหมาะสำหรับการวัดเทรนด์ของราคาในระยะสั้น
- แผนภูมิต้องการเวลาเป็นอย่างมากเพื่อที่จะนำมาเปรียบเทียบได้
- ไม่ใช่เครื่องมือคาดการณ์ราคาในอนาคต
Logarithmic Regression สนับสนุนสายรุ้ง
Logarithmic Regression (การถดถอยแบบลอการิทึม) เป็นเทคนิคการสร้างแบบจำลองทางสถิติที่ใช้ในการประเมินกระบวนการของการเติบโต/การเสื่อมสลายที่รวดเร็วแล้วช้าลงเมื่อเวลาผ่านไป
พูดง่ายๆ ก็คือเป็นมันเป็นวิธีการที่ใช้ในการวิเคราะห์และสร้างความสัมพันธ์ที่เส้นตรงมาตรฐานไม่สามารถเป็นตัวแทนได้ ในกรณีของ Bitcoin ราคาของ BTC (ซึ่งมีการเติบโตเริ่มต้นอย่างมหาศาล) และเวลาที่ผ่านไปไม่สามารถสัมพันธ์กันผ่านเส้นตรงได้ นั่นจึงเป็นความจำเป็นในการใช้งาน Logarithmic Regression
แต่คำถามก็คือ Logarithmic Regression เข้ากับนิยามของ Rainbow Chart ได้อย่างไร
แผนภูมิต้นฉบับ — ที่เผยแพร่โดย Azop — นั้นเกี่ยวกับการจำแนกความเคลื่อนไหวของราคาด้วยแถบสี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเส้นตรง Logarithmic Regression Chart จาก Trolololo นั้นผสมผสานอย่างลงตัวกับแผนภูมิของ Azop ซึ่งเป็นการพัฒนา Rainbow Chart ที่เต็มไปด้วยข้อมูลเชิงลึกที่เราใช้อยู่ในปัจจุบัน
แผนภูมิที่ไม่มี Logarithmic Regression
ดูว่าราคาขยับขึ้นไป 10 เท่าได้อย่างไร และวันเวลาที่จะบรรลุในเรื่องเดิมก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือสิ่งที่เราเรียกว่าการเติบโตแบบราบเรียบ/ชะลอตัว (Flattening/Slowing Growth)
Rainbow Chart ทำงานอย่างไร?
Rainbow Chart มีประโยชน์ดังต่อไปนี้:
- เป็นตัวคาดการณ์ในโซนการลงทุนเฉพาะแถบที่เป็นมาตรฐาน
- การกำหนดการกลับตัวของราคาเมื่อใช้กับตัวชี้วัด Moving Average
- ค้นหา Profit Booking Zone หากคุณใช้มันกับตัวชี้วัดเทรนด์เฉพาะทาง
- แสดงให้เห็นถึง Overbought Zone
- ค้นพบอนาคตที่เป็นไปได้ในการสะสม BTC ในราคาที่มีส่วนลด
หมายเหตุ
หากคุณวางแผนที่จะใช้งาน Rainbow Chart แบบที่มันเป็นอยู่ คุณสามารถดูภาพที่กว้างขึ้นได้โดยการดูที่ราคาและแถบสีที่จัดอยู่ในปัจจุบัน เราจะอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนั้นในส่วนถัดไป
การอ่าน Bitcoin Rainbow Chart
การอ่าน Bitcoin Rainbow Chart นั้นเป็นเรื่องง่าย เนื่องจากมันใช้ข้อมูลราคาในอดีต คุณจะเห็นว่าทุกความเคลื่อนไหวของราคาตั้งแต่ปี 2014 จะตกลงในพื้นที่เฉพาะของ Rainbow Chart
ที่ตรงกลาง เราจะมีโซนสีเหลืองตรงกลาง ซึ่งทำหน้าที่เป็นจุดเริ่มต้นของแผนภูมิ แถบสีที่อยู่เหนือและใต้แถบสีเหลืองเรียกว่าส่วนเบี่ยงเบน
เมื่อ BTC เคลื่อนเข้าสู่ Warmer Zones (สีแดงและสีส้ม) นักลงทุนจะต้องเริ่มพิจารณาว่าราคาจะอยู่ในช่วง Bubble Territory แล้ว Profit Booking มักจะตามมาเมื่อ BTC พักตัวใน Warmer Zones เหล่านี้ชั่วขณะหนึ่ง
ตัวอย่างเช่น: BTC อยู่ในโซน “Light Orange” ในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2021 ราคาอยู่ที่ 67,492 ดอลลาร์ ในที่สุด BTC ก็เห็นผลกำไรที่ชัดเจนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
การเทขายที่โซนอุ่น เช่น สีแดงและสีส้ม หมายความว่า BTC มีการซื้อขายที่สูงกว่าราคาที่เหมาะสมและอยู่ใน “Bubble Zone”
ในทางตรงกันข้าม BTC เคลื่อนที่ไปยังแถบสีเขียวและสีน้ำเงิน (โซนที่เย็นกว่า) บ่งบอกถึงความรู้สึกถึงการซื้อและการสะสม เราคาดว่า BTC จะมีราคาที่ลดลงเป็นพิเศษในโซนเหล่านี้
ตัวอย่างเช่น: BTC อยู่ในโซนสีน้ำเงินในช่วงวิกฤตในปี 2020 เมื่อราคาลดลงต่ำถึง 5,000 ดอลลาร์ ตามข้อมูลของ BTC Rainbow Chart นี่คือโซน “เทขาย” และเหมาะสำหรับการสะสม
จากระดับราคาในปัจจุบัน BTC อยู่ในโซนสีน้ำเงิน ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วเป็นการเทขาย จากข้อมูลของ Rainbow Chart
อย่างไรก็ตาม ไม่เหมือนกับการล่มสลายในปี 2020 ที่ราคาลงไปเกือบจะแตะจุดต่ำสุดของแถบสีน้ำเงิน ตำแหน่งของราคาในปัจจุบันดูเหมือนจะสูงขึ้นเล็กน้อย หมายความว่าจุดต่ำสุดของตลาดหมีนี้อาจจะยังคงอยู่
ตัวชี้วัดที่รองรับสำหรับ BTC Rainbow Indicator
Rainbow Chart ทำงานได้ดียิ่งขึ้นด้วยตัวชี้วัดดังต่อไปนี้:
1. Volume Indicators
ความเคลื่อนไหว Sideway บน Rainbow Chart นั้นเป็นเรื่องปกติ ในระยะยาว ราคาจะไม่ลดลงหรือเพิ่มขึ้นในทันทีทันใด ดังนั้น ในฐานะนักลงทุน คุณอาจจะต้องพิจารณาจับคู่ Rainbow Chart กับ Volume Indicator เพื่อควบคุมการลดลง, การเพิ่มขึ้น, และการถอยกลับ
On-Balance Volume และ Accumulation and Distribution Indicators เป็นเครื่องมือเกี่ยวกับ Volume เฉพาะทางที่ดีที่สุดที่จะใช้กับ Rainbow Chart
On-Balance Volume เป็นเส้นสีน้ำเงินที่อยู่ด้านล่างและ Accumulation and Distribution Indicators เป็นเส้นสีเขียว
2. Trend Indicators
เทรนด์จะช่วยให้คุณปรับกลยุทธ์การลงทุนระยะยาวได้อย่างละเอียดมากขึ้น ตัวอย่างเช่น หากคุณรู้ว่าราคากำลังมุ่งหน้าไปที่ใดในระยะสั้น คุณสามารถใช้แถบราคาสายรุ้งได้ดีกว่า ตัวอย่างเช่น หากเทรนด์บ่งบอกถึง Price Action ที่อยู่ใน Rangebound มันคงจะดีที่จะไม่รีบร้อนเพราะราคาก็จะเคลื่อนที่ไปในแบบ Sideway ชั่วขณะหนึ่ง
ในกรณีของเทรนด์ขาขึ้น ซึ่งราคา (ในระยะสั้น) ปรับขึ้นสูง อาจจะมีการขยับขึ้นอย่างรวดเร็วจากแถบสีที่มันอยู่หรือแม้แต่ภายในแถบสีเดียวกันก็ตาม
RSI (Relative Strength Index), Bollinger Bands และ MACD (Moving Average Convergence/Divergence) คือ Trend Indicator ที่น่าเชื่อถือมากขึ้นสำหรับ Rainbow Chart
RSI และ Bollinger Bands ในแผนภูมิเดียวกัน
3. Sentimental Indicators
Rainbow Chart ทำงานได้ดีเป็นพิเศษกับ Bitcoin Fear and Green Index ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่วัดความรู้สึกทางสังคม, ความผันผวนของราคาในระยะสั้น, ปริมาณซื้อขายในตลาด, เทรนด์การค้นหา, และอิทธิพลของตลาด
Bitcoin Rainbow Chart vs. Stock-to-Flow
Bitcoin Stock-to-Flow Chart เป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดการคาดการณ์ราคาที่เชื่อถือได้ อย่างไรก็ตาม มันแตกต่างจาก Rainbow Chart ในส่วนที่สำคัญบางประการ ในขณะที่ Rainbow Chart จะพิจารณาราคาในอดีตและการถดถอยแบบลอการิทึมเพื่อกำหนดโซนมูลค่าที่เหมาะสมสำหรับราคาเหล่านั้น Stock-to-Flow Model จะนำราคาและความขาดแคลนของ BTC มาคำนวน
Stock-to-Flow Chart สำหรับ BTC ประกอบด้วย 2 ปัจจัยหลัก: Stock หรืออุปทาน BTC ทั้งหมด (21 ล้าน) และ Flow หรืออัตราการขุดตามระยะเวลา ต่างจาก Rainbow Chart ที่เคลื่อนไหวไปตามแบบจำลองราคา Stock-to-Flow จะนำเอาการ Halving ของ Bitcoin เข้ามาพิจารณาด้วย เนื่องจากรางวัลการขุด BTC จะลดลงครึ่งหนึ่ง ก็คาดว่าอัตราส่วน Stock-to-Flow จะเพิ่มขึ้น (เพราะว่า Flow ลดลง) ดังนั้น อัตราส่วน Stock-to-Flow จะเพิ่มขึ้นในเหตุการณ์การ Halving แต่ละครั้ง ทำให้ราคาของมันสูงขึ้นตามไปด้วย
Rainbow Chart “เชื่อถือได้” แค่ไหน?
Rainbow Chart นั้นมีความแม่นยำมาตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงวันนี้ ราคาไม่เคยเบี่ยงไปจากโซนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นช่วงตลาดกระทิงหรือช่วงตลาดหมีก็ตาม เพื่อที่จะยืนยัน คุณอาจจะตรวจสอบการคาดการณ์ราคาอีกครั้งจาก Stock-to-Flow Model ในระหว่างรอบการ Halving และดูว่าราคาอยู่ในโซนใดในช่วงเวลานั้น
เส้นแนวตั้งสีขาวคือจุดที่มีการ Halving จะสังเกตเห็นได้ว่าราคาของ BTC มีการลดลงอย่างไรในระหว่างรอบการ Halving และราคาขยับขึ้นหลังจากเหตุการณ์นั้นอย่างไร
มี Ethereum Rainbow Chart หรือไม่?
แน่นอน เช่นเดียวกับ BTC คอนเซปต์ของ Rainbow Chart สามารถใช้กับสินทรัพย์ Crypto อื่นๆ ได้เช่นกัน นี่คือ Ethereum Rainbow Chart ล่าสุดที่คุณสามารถใช้อ้างอิงได้:
BTC Rainbow นั้นได้รับความนิยมมากกว่าเนื่องจากมันเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่เก่าแก่ที่สุดจึงมีจุดราคาที่สามารถใช้อ้างอิงได้เยอะกว่า
สายรุ้งและแสงแดด: วิธีที่เรามองไปที่ Bitcoin
โดยสรุปแล้ว Bitcoin Rainbow Chart นั้นมีประสิทธิภาพเมื่อต้องคาดการณ์ความเคลื่อนไหวของราคาในระยะยาว มันจะตรวจสอบความรู้สึกของตลาด แยกความเคลื่อนไหวของราคาออกเป็นโซนเฉพาะ และมีความแม่นยำพอสมควรจวบจนถึงปัจจุบัน จับคู่ Rainbow Chart กับตัวชี้วัดอื่นๆ แล้วคุณจะมีแหล่งข้อมูลในการคาดการณ์ราคาระยะกลางถึงระยะยาว
อย่างไรก็ตาม เราจะไม่แนะนำและเชียร์ให้คุณใช้แผนภูมินี้เพื่อคาดการณ์ราคาของ BTC คุณควรจะใช้มันเพื่อตรวจสอบลักษณะการ Overbought และการ Oversold ของระบบนิเวศ Bitcoin แทน และก็อย่างที่เขาว่ากัน: มันต้องใช้แสงแดด (ตลาดกระทิง) และฝน (ตลาดหมี) เพื่อสร้างสายรุ้ง
คำถามที่พบบ่อย
Bitcoin Rainbow Chart เชื่อถือได้หรือไม่?
Bitcoin มีความผันผวนน้อยลงหรือไม่?
Rainbow Chart คืออะไร?
Halving คืออะไร?
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์