Crypto Fear and Greed Index คืออะไร?

เช่นเดียวกับพื้นที่อื่นๆ ตลาด Crypto นั้นขับเคลื่อนด้วยความรู้สึก ปัจจัยพื้นฐานและด้านเทคนิคก็มีความสำคัญ แต่ไม่มีอะไรจะเอาชนะอารมณ์ที่ถูกกระตุ้นได้ และอะไรจะเป็นเครื่องมือที่ดีกว่า Crypto Fear and Greed Index (ดัชนีวัดความกลัวและความโลภของ Crypto) เพื่อใช้วัดอารมณ์ของผู้ใช้งานที่ไม่สามารถคาดเดาได้ FUD ที่เพิ่มขึ้น, การสร้าง FOMO, และความคาดหวัง “When Lambo?” — อารมณ์ของผู้ใช้งานใน Crypto นั้นไม่แน่นอนและหลากหลาย

ลองจินตนาการอย่างนี้: คุณได้สร้างพอร์ต Bitcoin ที่มั่นคงขึ้นมาโดยการตรวจสอบตัวชี้วัดทางเทคนิคหลักๆ ในระยะสั้น เช่น รูปแบบแท่งเทียนและการตัดกันของ MA (Moving Average) คุณรู้สึกมั่นใจกับข้อมูลของคุณ ถึงกระนั้น พอร์ตของคุณก็เริ่มที่จะขาดทุนในทันที ทำให้คุณต้องตั้งคำถามถึงวิธีการและการวิเคราะห์ของคุณ มันมีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า?

ต้องการจะแชร์ข้อมูลการวิเคราะห์ของคุณหรือเปล่า? มาเข้าร่วม BeInCrypto Trading Community บน Telegram กับกลุ่มคนที่มีแนวคิดคล้ายๆ กับคุณสิ มาร่วมสนทนากับนักเทรดผู้เชี่ยวชาญทั้ง 3 คนของเราและแชร์ประสบการณ์ของคุณ!

คำตอบก็คือ: คุณไม่ได้พิจารณา Fear and Greed Index ของ Bitcoin ยังไงหล่ะ! แต่มันก็ยังไม่สายเกินไป ในบทความนี้ เราจะอธิบายว่า Fear and Greed Index ของ Crypto (หรือ Bitcoin) คืออะไรและเราจะใช้งานมันได้อย่างไร

ทำไมเราถึงจะต้องการ Index อีกตัวด้วย?

เดี๋ยวก่อนนะ ไม่ใช่ว่าเรามี Crypto Index เพียงพออยู่แล้วเหรอ? — NASDAQ Crypto Index (NCI), NYXBT (New York Stock Exchange Bitcoin Index) และS&P Bitcoin Index (SPBTC) แต่ถึงแม้ว่า Index เหล่านี้จะมีข้อมูลเพียงใด งานหลักของมันก็คือติดตามประสิทธิภาพของสินทรัพย์ ดัชนีเหล่านี้ไม่ได้เอาอารมณ์ของผู้ใช้งานและความรู้สึกของตลาดในวงกว้างมาคำนวน เห็นหรือเปล่าว่ามันมีช่องโหว่ตรงนี้อยู่

Crypto Fear & Greed Index นั้นมีไว้เพื่อเติมเต็มช่องโหว่ดังกล่าว โดยคำนึงถึงจุดข้อมูลหลายจุดและรวมเข้าด้วยกันเป็นเอนทิตี้ทางสถิติแบบสแตนด์อโลน พูดใช้ชัดเจนยิ่งขึ้นก็คือ — มันไม่ใช่เครื่องมือทางการเงิน แต่เป็นตัวชี้ที่จะวิเคราะห์สภาวะและอารมณ์ของนักลงทุนในตลาด — ซึ่งหมายความว่ามันจะมาช่วยส่งเสริมการวิเคราะห์เรื่องการลงทุนของคุณ

เปิดกล่อง Crypto Fear & Greed Index

Crypto Fear & Greed Index เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดความเชื่อมั่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มันเป็นเครื่องมือที่ใช้บ่อยๆ ในการวิเคราะห์ความคิด, ความรู้สึก, และการตอบสนองของนักลงทุนที่เข้าร่วมตลาด

หมายเหตุ

มันยังมีตัวชี้วัดอื่นๆ ที่ขับเคลื่อนด้วยความรู้สึกอยู่ด้วยเช่นกัน ซึ่งก็ได้แก่ WhaleAlert และ Bull & Bear Index ของ Augmento

พูดง่ายๆ ก็คือ Fear & Greed Index จะวิเคราะห์ความรู้สึกของผู้ใช้งานและอารมณ์ที่เกิดขึ้นกับ Crypto ในทุกวัน โดยสรุปจากแหล่งที่มาต่างๆ และแสดงมันออกมาเป็นตัวเลขง่ายๆ

ประวัติ

ที่น่าตลกก็คือ Fear & Greed Index ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้คนยังคำนึงถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินแบบดั้งเดิม CNN Money พัฒนามันขึ้นมาในปี 2012 เพื่อทำหน้าที่เป็นตัววัดความเชื่อมั่นของตลาดแบบหลายปัจจัย — หรือพูดให้ชัด — ก็คือตลาดหุ้นนั่นเอง

ต่อมา มันได้รับการปรับแต่งให้ใช้งานกับระบบนิเวศของ Crypto โดย Alternative.me เพื่อเป็นดัชนีวัดความเชื่อมั่นทั่วไปในตลาด Crypto ดัชนีนี้จะวิเคราะห์ Market Indicator (ตัวชี้วัดตลาด) หลายตัวและส่งคืนค่ารายวันจาก 0 ถึง 100 ในขณะที่ 0 นั้นคือความหวาดกลัวสุดขีด (ผู้เข้าร่วมตลาดควรระวังสภาพตลาด) 100 นั้นคือความโลภสุดขีด (แสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง/การซื้อและการสร้าง FOMO)

องค์ประกอบ

ถึงแม้ว่าดัชนีดังกล่าวจะอ้างอิงถึงอารมณ์เฉพาะ 2 อย่าง ซึ่งได้แก่ ความกลัวและความโลภ การเปลี่ยนจากอารมณ์หนึ่งไปยังอีกอารมณ์หนึ่งจะเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบหลายอย่าง

ที่ 100 ผู้เข้าร่วมจะมองโลกในแง่ดีมากที่สุดและทำการซื้ออย่างรวดเร็ว ดัชนีแสดงถึง Profit Booking และการมองโลกในแง่ดีซึ่งจะเริ่มเคลื่อนเข้าสู่ดินแดนแห่งความ “วิตกกังวล” ความวิตกกังวลตามมาด้วยการไม่ยอมรับจากการที่ผู้เข้าร่วมไม่สนใจการลดลงของราคาใดๆ เพื่อเป็นการปรับฐานเล็กน้อย

เมื่อราคาที่ดิ่งลงมาพร้อมกับความตื่นตระหนกและท้อแท้ โดยดัชนีความกลัวและความโลภจะขยับเข้าใกล้เขตย่อยที่ 40 ผู้เข้าร่วมมองว่าการลดลงของดัชนีที่ตามมาเป็นโอกาสที่ดีในการซื้อ ผลักดันให้อารมณ์ก้าวไปสู่ดินแดนแห่งความหวังและการมองโลกในแง่ดี

มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่คุณจะพบได้ว่าการมองโลกในแง่นี้นั้นถือเป็นอารมณ์สุดขั้วของ Crypto Fear & Greed Index

ต่อไปนี้เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับคลื่นที่แสดงอารมณ์ต่างๆ เคลื่อนไหวไปจาก 100 ถึง 0

Crypto Fear & Greed Index คำนวณอย่างไร?

Fear & Greed Index นำ Market Indicator หลายตัวมาพิจารณา ผสานรวมข้อมูลตามน้ำหนักที่กำหนดไว้ล่วงหน้า และกลั่นทุกอย่างออกมาเพื่อให้ได้ตัวเลขระหว่าง 0 ถึง 100 ต่อไปนี้คือ Sub-Index Indicator ที่ใช้ถ่วงน้ำหนัก:

1. Volatility (ความผันผวน)

ความผันผวนของตลาดเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญ และมีน้ำหนัก 25% ในการพัฒนา Fear & Greed Index ตัวชี้วัดนี้ดูที่การลดลงของ Bitcoin สูงสุด (สำหรับ Bitcoin Index) และความผันผวนของตลาดในปัจจุบันเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยความผันผวนรายเดือนและรายไตรมาส ความผันผวนที่สูงหมายถึงความกลัวที่มากขึ้น แต่มันก็อาจจะนำไปสู่ความกระตือรือร้นของนักเทรดได้เช่นกัน

2. Market Momentum (ความเคลื่อนไหวของตลาด)

ตัวชี้วัดนี้เรียกอีกอย่างว่า Crypto Fear and Greed Index Volume Indicator (ตัวชี้วัดปริมาณดัชนีความกลัวและความโลภของ Crypto) มันมีน้ำหนัก 25% ในการคำนวณ ดัชนีจะพิจารณาปริมาณการซื้อขาย (การซื้อ) ในปัจจุบันและเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยรายเดือนและรายไตรมาส ปริมาณการซื้อปัจจุบันที่สูงจะบ่งบอกการเอนเอียงไปทางฝั่งโลภมากเกินไป

3. Social Media (โซเชียลมีเดีย)

การมี Social Media Indicator เป็นส่วนหนึ่งของดัชนีนั้นเหมาะสมแล้ว มันใช้เพื่อวัดการพูดคุยกันเกี่ยวกับเหรียญที่เฉพาะเจาะจงผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลต่างๆ เป็นหลัก (เช่น BeInCrypto Trading Community บน Telegram ที่นักเทรดและผู้เชี่ยวชาญแบ่งปันความคิดเห็นเกี่ยวกับ Crypto กัน) ตัวชี้วัดนี้มีน้ำหนัก 15% และคำนวณโดยใช้แฮชแท็กและการตอบสนองทางสังคม

นี่คือแพลตฟอร์ม Lunar Crush ที่อนุญาตให้คุณตรวจสอบการกล่าวถึงและการมีส่วนร่วมทางสังคม:

4. Dominance (อิทธิพล)

ด้วยน้ำหนัก 10% มันจึงเป็นหนึ่งใน Sub-Index Indicators ที่ซับซ้อนที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุด นี่คือวิธีที่มันเข้ามาเกี่ยวข้องกัยนิยามของความกลัว-ความโลภ:

อิทธิพลของ Bitcoin ที่เพิ่มขึ้นหมายถึงความโลภน้อยลงสำหรับ Altcoins อื่นๆ ดังนั้น หากเห็นว่าอิทธิพลของสกุลเงินดิจิทัลมีการเติบโต ตลาดจะเริ่มเคลื่อนไปสู่โซนที่น่ากลัว ในทำนองเดียวกัน อิทธิพลของ Bitcoin ที่ลดลงจะเป็นการบอกใบ้ถึงความโลภที่เพิ่มขึ้น

5. Trends (เทรนด์)

Fear & Greed Index จะดึงข้อมูลคำค้นหาจาก Google เพื่อกำหนดปริมาณการค้นหาของเหรียญที่เฉพาะเจาะจง — Bitcoin เป็นหลัก การเปลี่ยนแปลงของปริมาณการค้นหาจะช่วยวัดการเปลี่ยนแปลงของค่าดัชนี ตัวชี้วัดนี้มีน้ำหนัก 10%

6. Surveys (แบบสำรวจ — หยุดใช้ชั่วคราวในขณะนี้)

ตอนนี้ มันถูกหยุดใช้งานชั่วคราว แบบสำรวจนั้นมีน้ำหนัก 15% เมื่อพูดถึงบทบาทในการช่วยสร้าง Fear & Greed Index เมื่อมันเปิดใช้งาน แบบสำรวจมักจะประกอบไปด้วยแบบสำรวจ Crypto ที่มีจำนวนกลุ่มตัวอย่าง 2,000 ถึง 3,000 คน

และนั่นคือการที่ Fear & Greed Index ก่อตัวขึ้นมา ค่านี้จะอัพเดตทุกวัน ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของ Sub-Index Indicators

ประโยชน์ของการใช้ Fear & Greed Index

เมื่อมาถึงตรงนี้ คุณน่าจะรู้แล้วว่า Fear & Greed Index เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ตอนนี้ เรามาดูข้อดีของการใช้งานมันกันก่อนดีกว่า:

• ช่วยนำเสนอมุมมองที่กว้างขึ้นเกี่ยวกับอีกนัยหนึ่งของตลาดที่มีความผันผวน
• มันจะไม่เปลี่ยนแปลงในชั่วข้ามคืน แต่จะเคลื่อนที่ช้าๆ ไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งแทน
• ออกมาเป็นดัชนีสัมพัทธ์ที่เปลี่ยนแปลง (ลดลงหรือเพิ่มขึ้น) ตามระดับราคาสัมพัทธ์
• ช่วยให้นักเทรดประหยัดเวลาอันมีค่าในการศึกษาตลาด เนื่องจากครอบคลุมถึงความผันผวน อิทธิพล ปริมาณการซื้อขาย และแหล่งข้อมูลที่สำคัญอื่นๆ
• ให้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับสภาวะสุดขั้วของตลาด เช่น เมื่อสินทรัพย์ลดราคา และเมื่อเข้าสู่ช่วงฟองสบู่
• นำเสนอภาพที่เหมาะสมกว่าของตลาด Crypto ในช่วงขาขึ้นและช่วงขาลง
• สามารถใช้ในการตัดสินใจลงทุนเชิงรุกได้ เช่นเดียวกับการขายชอร์ต Bitcoin หรือสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ
• ช่วยให้เห็นช่วงระยะเวลาที่มีความเสี่ยงมากที่สุดโดยใช้อารมณ์ของตลาดโดยไม่ต้องให้คำแนะนำทางการเงินโดยตรง

คำวิพากษ์วิจารณ์ของ Fear & Greed Index

อย่างที่เราเห็น Crypto Fear & Greed Index นั้นมีข้อดีอยู่ ถึงกระนั้น มันยังห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบและเป็นที่ทราบกันดีว่าทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ดังต่อไปนี้:

• แสดงให้เห็นถึงการวิเคราะห์ความรู้สึกในระยะสั้นและแทบไม่ช่วยในภาพรวม
• เอนเอียงอย่างหนักไปยังตัวชี้วัดที่ไม่แน่นอน 2 ตัว: ความผันผวนและปริมาณการซื้อขาย
• ไม่มีการสนับสนุนเรื่องการซื้อขายมากนักเมื่อดัชนีอยู่ใกล้ระดับที่เป็นกลาง ที่ระดับ 50 หรือเมื่อ Price Action เป็น Sideways
• ยังคงต้องการตัวชี้วัดทางเทคนิคและพื้นฐานเพื่อแสดงให้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
• ไม่นำเอากิจกรรมของวาฬ, กระแสเงินทุนที่ไหลเข้ากระดานเทรด, และความเข้มข้นของการซื้อขายมาพิจารณาร่วมด้วย
• มันสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างมากแม้ว่าราคาจะไม่เคลื่อนไหวมากนัก

นักเทรด Bitcoin Fear & Greed Index อย่างไร?

แม้ว่ามันจะมีข้อดีมากมายและข้อเสียเพียงเล็กน้อย แต่ Crypto Fear & Greed Index ก็เป็นเครื่องมือการซื้อขายที่เชื่อถือได้ นี่คือวิธีที่นักเทรดใช้มันเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดที่มีความผันผวนอีกตัวหนึ่ง:

การแบ่งสเกลของดัชนีออกเป็น 4 ส่วน

คุณสามารถแบ่งดัชนีออกเป็น 4 โซนดังนี้:

1. กลัวสุดขีดหรือโซนสีส้ม (0–24)
2. น่ากลัวหรือโซนเหลือง/เหลือง (25–49)
3. โลภหรือโซนสีเขียวอ่อน (50–74)
4. โลภสุดขีดหรือโซนสีเขียว (75–100)

โซนที่ 1 แสดงให้เห็นถึงความกลัวอย่างสุดขีด นอกจากนี้ มันยังเสนอโอกาสในการซื้อที่ดีที่สุดและอาจจะหมายความว่าการกลับตัวของราคาใกล้เข้ามาแล้ว โซนที่ 2 คือโซนน่ากลัว จะเกิดขึ้นในช่วงเริ่มต้นของตลาดหมีเมื่อราคาเริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว ระดับเหล่านี้สามารถเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในตลาดกระทิง แต่ในตลาดหมีที่ลึก โซนน่ากลัวมักจะหมายถึงการปรับฐานที่มากกว่า

คำเตือน

ไม่มีใครรู้ว่าจุดต่ำสุดจะอยู่ที่ไหน ดังนั้น มันไม่เป็นการดีที่จะเริ่มซื้อแบบสุ่มสี่สุ่มห้าเมื่อดัชนีอยู่ในโซน 1 เราควรมองหาความเคลื่อนไหวหลายๆ ครั้งในโซน 2 เพื่อใช้ระบุการซื้ออย่างชัดเจน

ราคาเริ่มที่จะดีขึ้นในโซน 3 นอกจากนี้ ความผันผวนยังน้อยที่สุดในโซนนี้ คุณยังจะได้เห็นปริมาณการซื้อที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบอกเป็นนัยถึงขาขึ้น โซน 4 เป็นช่วงที่ตลาดมีการซื้อมากเกินไป ส่วนนี้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สำหรับการกลับตัว/การปรับฐานราคา

นักเทรดสามารถตรวจสอบโซนที่ดัชนีอยู่และทำการตัดสินใจตามนั้นได้

นี่คือวิธีที่ชาวทวิตเตอร์ใช้ Fear & Greed Index เป็นเครื่องมือในการซื้อขาย:

เราได้พูดคุยเกี่ยวกับวิธีที่นักเทรดสามารถใช้โซนดัชนีต่างๆ เพื่อทำการตัดสินใจ นี่คือการวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ว่า Crypto Fear & Greed Index เกี่ยวข้องโดยตรงกับกราฟราคา Bitcoin อย่างไร

หมายเหตุ

เราจะใช้แผนภูมิราคา BTC/USD เนื่องจาก Bitcoin มีความสัมพันธ์โดยตรงกับ Fear & Greed Index และเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีอิทธิพลมากที่สุด

ข้อมูล Crypto Fear & Greed Index (28 ต.ค. 2021 ถึง 27 ต.ค. 2022)

มาตรฐาน Price Action ของ BTC (228 ต.ค. 2021 ถึง 27 ต.ค. 2022)

มันมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร?

ลองดูที่เครื่องหมายแรกจากด้านซ้ายบน Fear & Greed Index Chart นี่คือวันที่ 8 มกราคม 2022 เมื่อค่าดัชนีลดลงมาที่ 10 (โซนความกลัวอย่างสุดขีด) บนชาร์ตราคา BTC/USD จุดนี้ตรงกับวงกลมสีดำ ซึ่งใกล้กับระดับ 40,000 ดอลลาร์ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าความรู้สึกเปลี่ยนไปเป็นความกลัวอย่างรวดเร็วเมื่อ Bitcoin ลดลงเกือบ 30,000 ดอลลาร์จากระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 68,789.63 ดอลลาร์

ใช่ ตลาดได้ตกลงไปไม่น้อยตั้งแต่นั้นมา นี่แสดงให้เห็นว่า Fear & Greed Index ไม่ได้ลดลงทุกครั้งที่ตลาดตกลงไป แต่เปลี่ยนแปลงอย่างช้าๆ และตามระดับของตลาด

เครื่องหมายที่ 2 จากทางซ้ายคือวันที่ 28 มีนาคม เมื่อดัชนีขึ้นไปที่ 60 เมื่อเทียบกับวันที่ 8 มกราคม Fear & Greed Index ขยับขึ้น 50 จุด ซึ่งหมายความว่าราคาที่เพิ่มขึ้นเพียง 7,000 ดอลลาร์ ไม่มากหรือน้อยไปกว่านั้น การซื้อขายแบบ Sideways หรือที่เรียกว่า Whipsaws อาจจะสร้างความสับสนเล็กน้อยและต้องซื้อขายอย่างระมัดระวัง Fear & Greed Index ไม่มีผลมากนักในระหว่างการเคลื่อนไหวแบบ Sideway

อย่างไรก็ตาม 60 เป็นจุดสูงสุดของ Fear & Greed Index ในปีนี้ แต่หลังจากนั้น คุณจะเห็นได้ว่าราคา Bitcoin เริ่มที่จะลดลง ดังนั้น แม้แต่โซน 3 ก็ถือเป็นโซนที่มีการซื้อมากเกินไปสำหรับ Crypto ในตลาดหมี

Fear & Greed Index นั้นน่าเชื่อถือหรือไม่?

ก่อนที่จะพูดถึงความน่าเชื่อถือของ Fear & Greed Index ต่อไปนี้คือสิ่งที่เราสามารถอนุมานได้จากตัวอย่างแบบเรียลไทม์ด้านบน:

1. แม้แต่ความกลัวโซน 1 ที่ต่ำและค่าดัชนีสีเขียวในตลาดหมีก็ไม่ได้หมายความว่าจะถึงจุดต่ำสุด มันอาจจะเป็นเพียงแค่ความตื่นตระหนกและความผันผวนที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น
2. ในตลาดหมี โซน 3 หรือโซนสีเขียวอ่อนสามารถกระตุ้นการเทขายได้เช่นกัน
3. ดัชนีนี้ไม่ได้แสดงถึงการซื้อขายแบบ Sideways ได้ดีที่สุด
4. ความรู้สึกอาจจะมีมากเกินไปในช่วงกระทิงหรือช่วงฤดูหนาวคริปโต

คำชี้ขาดโดยรวม: ใช่แล้ว Fear & Greed Index มีความน่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อคุณใช้มันคู่กับตัวชี้วัดทางเทคนิคและพื้นฐาน นอกจากนี้ มันยังเป็นการดีที่จะตรวจสอบความรู้สึกและการตัดสินใจลงทุนในระยะสั้น เราไม่แนะนำให้ใช้มันสำหรับการวิเคราะห์ระยะยาวและสำหรับนักลงทุน Crypto ที่ทำการตัดสินใจจากการพูดคุยทางสังคม

ความกลัวและความโลภ < ศึกษาข้อมูลด้วยตัวเอง: ความคิดเห็นปิดท้าย

เราสามารถพูดได้ว่า Crypto Fear & Greed Index — ที่จริงเป็นเหมือน Bitcoin Fear & Greed Index มากกว่า — เป็นเครื่องมือที่ดีในการคาดการณ์อารมณ์ของตลาดโดยรวม อย่างไรก็ตาม คุณไม่ควรจะใช้มันเพียงอย่างเดียวในการ DYOR (Do Your Own Research หรือ ทำการศึกษาข้อมูลด้วยตัวคุณเอง)

การผสมผสานที่ลงตัวคือการดูโซนซื้อ/ขายในภาพที่กว้างขึ้นโดยใช้ Bitcoin Rainbow Chart การวัดความรู้สึกของตลาดโดยใช้ Fear & Greed Index และสุดท้ายก็ใช้เครื่องมือ On-Chain และ On-Chart เพื่อปรับแต่งการซื้อ/ขาย เพื่อที่จะประสบความสำเร็จได้ จะต้องทำงานกันเป็นทีม

คำถามที่พบบ่อย

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | เมษายน 2024

YouHodler สำรวจเลย →

BYDFi สำรวจเลย →

CoinEx สำรวจเลย →

BingX สำรวจเลย →

Coinrule สำรวจเลย →

Bybit สำรวจเลย →

ดูเพิ่มเติม