ดูเพิ่มเติม

7 วิธีเพื่อเอาตัวรอดจากตลาดหมี Crypto

2 mins
อัพเดทโดย Passanai Jiraruekmongkol

มันอาจจะดูรุนแรงไปหน่อยในการถึงประโยคนี้ แต่อย่างคนพูดกันว่า แม้แต่คนโง่ก็สามารถทำเงินได้ในตลาดกระทิง (ตลาดขาขึ้น) หลักฐานว่าคุณเป็นเทรดเดอร์ที่ดีเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับว่าคุณทำได้ดีแค่ไหนใน ‘ตลาดหมี’ หลักการง่ายๆ ที่ยอมรับได้โดยทั่วไปนี้สามารถใช้ได้กับทุกตลาด ไม่ใช่แค่กับ Crypto เท่านั้น อย่างไรก็ตาม จากการที่ความผันผวนของสกุลเงินดิจิทัลมักจะเกิดขึ้น ความเสี่ยงและความยากลำบากที่เกิดขึ้นจากตลาดหมีของ Crypto มักจะอยู่ในระดับที่สูงกว่ามาก และในขณะที่เราเริ่มจะเห็นถึงความเป็นไปได้ของ Crypto Winter (ช่วงเวลาที่ยากลำบากของตลาด Crypto) อีกครั้ง เนื่องจากเหรียญที่ได้รับความนิยมส่วนใหญ่อยู่ในช่วงขาลง มันถึงเวลาแล้วที่เราจะปรับกลยุทธ์การซื้อขาย/การลงทุนของเราให้เหมาะสมด้วย 7 วิธีเพื่อเอาตัวรอดจากตลาดหมี Crypto ที่ผ่านการทดสอบและประสบความสำเร็จมาแล้วต่อไปนี้

ตลาดหมีคืออะไร?

Crypto 2

สำหรับผู้ที่อยู่นอกวงจรนี้ การอธิบายตลาดหมีได้ดีที่สุดก็คือการที่ราคาสินทรัพย์ลดลงเป็นเวลานาน ซึ่งจะทำให้พอร์ตของคุณสูญเสียมูลค่า ในตลาดหมี อุปทานของสินทรัพย์มักจะสูงกว่าความต้องการเนื่องจากนักลงทุนกลุ่มใหญ่ (ซึ่งถูกเรียกว่า ‘หมี’) เริ่มถ่ายสินทรัพย์ที่ขาดทุนออกจากพอร์ตโดยเกรงว่าราคาจะลดลงอีก

ตลาดกระทิง vs. ตลาดหมี

ตลาดกระทิงนั้นจะอยู่ตรงข้ามกับตลาดหมี ตลาดกระทิงคือเมื่อราคาของสินทรัพย์หรือประเภทสินทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน ซึ่งส่งผลให้มูลค่าพอร์ตของคุณพุ่งสูงขึ้น

ตลาดกระทิงเริ่มขึ้นเมื่อนักลงทุนรู้สึกมั่นใจว่าราคาจะเพิ่มขึ้นและเทรนด์ขาขึ้นจะดำเนินต่อไปเป็นระยะเวลานาน ในความคาดหมายดั่งกล่าว พวกเขาจะเริ่มซื้อและถือสินทรัพย์ที่พวกเขาเชื่อว่าจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากตลาดกระทิง

กล่าวอีกนัยหนึ่ง นักลงทุนจำนวนมากเต็มใจที่จะซื้อในช่วงตลาดกระทิง ในขณะที่มีเพียงไม่กี่คนที่ยินดีขาย ดังนั้น ความต้องการจึงสูงกว่าอุปทานและราคาก็จะเริ่มเพิ่มขึ้น ด้วยเหตุนี้ การคาดการณ์ของนักลงทุนเกี่ยวกับสภาวะตลาดกระทิงจะกลายมาเป็นคำทำนายที่ถูกต้องด้วยตัวมันเอง

ในทางตรงกันข้าม ตลาดหมีจะเริ่มต้นเมื่อนักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่ำและเริ่มเชื่อว่าราคาจะลดลงอย่างต่อเนื่อง นี่คือข้อเท็จจริงบางประการที่คุณควรทราบที่นี่เพื่อเน้นย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงของตลาดกระทิงและตลาดหมีได้ดียิ่งขึ้น:

  • ในขณะที่นักลงทุนบางรายสามารถเป็นหมีได้ แต่โดยทั่วไปแล้วนักลงทุนส่วนใหญ่มักจะเป็นกระทิง ประเภทของสินทรัพย์ส่วนใหญ่ รวมไปถึงสินทรัพย์ดิจิทัล มักจะให้ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ในเชิงบวกในระยะยาว
  • ตลาดหมีมักจะมีอายุสั้นเมื่อเทียบกับตลาดกระทิง
  • ระหว่าง 2 สิ่งนี้ ตลาดหมีนั้นยากต่อการลงทุน เนื่องจากสินทรัพย์จำนวนมากสูญเสียมูลค่าอย่างรวดเร็วและราคามีแนวโน้มที่จะผันผวนมากขึ้น
  • จิตวิทยาของนักลงทุนและการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงมีบทบาทสำคัญในการพิจารณาว่าตลาดจะเป็นขาขึ้นหรือขาลง อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่ปัจจัยเดียว อุปทานและอุปสงค์ เสถียรภาพทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดไปจนถึงกิจกรรมในตลาดการเงินในวงกว้างก็มีบทบาทสำคัญในการทำให้ตลาดเปลี่ยนแปลงไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

Crypto Winter คืออะไร?

Crypto 3

ฤดูที่น่ากลัวที่สุดในประวัติศาสตร์อันแสนสั้นของ Crypto จนถึงตอนนี้ “ฤดูหนาวของ Crypto” (Crypto Winter) หมายถึงช่วงขาลงที่ยาวนานในระหว่างที่ราคาของสินทรัพย์ดิจิทัลส่วนใหญ่ยังคงลดลงในช่วงหลายเดือน

การลดลงของราคาในช่วง Crypto Winter มีแนวโน้มที่จะสูงชันเป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น ในช่วง Crypto Winter ครั้งสุดท้ายซึ่งเกิดขึ้นระหว่างต้นปี 2018 ถึงกลางปี 2020 (การประมาณการณ์จะแตกต่างกันไป) Bitcoin สูญเสียมูลค่าเกือบ 88% เมื่อเทียบกับราคาที่สูงเป็นประวัติการณ์ในขณะนั้น

ความเย็นยะเยือกของ Crypto Winter ครั้งล่าสุดนั้นเกิดขึ้นจากตลาดสกุลเงินดิจิทัลในวงกว้างเช่นกัน อันที่จริง เหรียญยอดนิยมจำนวนมากมีราคาลดลงมากถึง 90–95% (เทียบกับ ATH — All Time High)

กลยุทธ์ที่ดีที่สุดในการเอาชนะตลาดหมี Bitcoin

Crypto 4
ราคา BTC ในช่วง Crypto Winter: CoinMarketCap

ด้วยการเป็นเหรียญที่ได้รับความนิยมมากที่สุด (ตามมูลค่าตลาด) Bitcoin กลายเป็นตัวกำหนดเทรนด์ในตลาด Crypto

ดังนั้น หากตลาดหมี Crypto ปรากฏขึ้น สัญญาณแรกของมันมักจะมองเห็นได้ในการเคลื่อนไหวของราคาของ Bitcoin ส่วน Cryptocurrency อื่นๆ นั้นเป็นเพียงการเคลื่อนไหวตามมา — อย่างน้อยก็จนถึงในตอนนี้ และการสังเกตนี้ยังคงใช้ได้อยู่จนถึงช่วงวัฏจักรที่ตามมาเมื่อตลาดฟื้นตัวและเริ่มต้นช่วงขาขึ้นใหม่ในที่สุด

ในขณะที่เขียนบทความนี้ Bitcoin อยู่ในโซนสีแดงมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ติดต่อกัน Crypto รุ่นแรกได้สูญเสียมูลค่าไปเกือบ 1 ใน 4 ของมูลค่าเมื่อเปรียบเทียบรายเดือน และเช่นเคย เหรียญหลักๆ เกือบทั้งหมด เช่น Ethereum, Cardano เป็นต้น ได้เกิดปรากฏการณ์เดียวกัน ใช่ มันสมเหตุสมผลแล้วที่จะบอกว่าเรากำลังเผชิญกับตลาดหมี

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลจากตลาดหมีครั้งก่อน มันปลอดภัยที่จะบอกว่า Bitcoin จะเด้งกลับมาเสมอ

ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญและคนในวงการส่วนใหญ่มองว่าวิธีที่ดีที่สุดในการเอาตัวรอดจากตลาดหมี Bitcoin คือการหยุดและอดทนรอให้พายุพัดผ่านไป การมีทัศนคติที่ดีในระยะยาวนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ เมื่อเทียบกับการยอมให้เกิดความตื่นตระหนกในการขาย นอกจากนี้ พยายามหลีกเลี่ยงการซื้อขายเมื่อตลาดอยู่ในช่วงขาลง

นอกจากนั้น ประเด็นส่วนใหญ่ที่เราจะพูดถึงในส่วนต่อไปนี้ก็จะใช้ได้กับตลาดหมีด้วย

7 วิธีเพื่อเอาตัวรอดจากตลาดหมี Crypto

1. สงบสติอารมณ์และประเมินทางเลือกของคุณ

Crypto 5

ไม่ว่าคุณจะมองว่าตลาดหมีเป็นโอกาสในการซื้อขาลงหรือพบว่าราคา Crypto ที่ลดลงนั้นค่อนข้างเคร่งเครียดเกินกว่าจะรับมือได้ พยายามสงบใจและประเมินสถานการณ์อย่างเป็นกลางเสมอ การตัดสินใจด้วยอารมณ์คือสิ่งที่คุณมักจะเสียใจในระหว่างทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณกำลังซื้อขาย

ขั้นแรก ให้เริ่มด้วยการถามตัวเองว่าทำไมคุณถึงลงทุนใน Crypto ตั้งแต่แรก คุณเชื่อในความสำเร็จในระยะยาวของ Crypto และต้องการใช้ประโยชน์จากโอกาสมากมายที่จะเกิดขึ้นได้หรือไม่? หรือคุณแค่มาที่นี่เพื่อรับเงินด่วนจากการเทรดระยะสั้น?

คำตอบสำหรับคำถามนี้อาจจะเป็นก้าวย่างของคุณในการหาทางออกจากตลาดหมีได้โดยปราศจากรอยขีดข่วน

2. อย่าพยายามคาดการณ์ถึงจุดต่ำสุด

Crypto 6

ไม่มีใคร — ไม่มีใครเลยจริงๆ — ที่จะสามารถทำนายจุดต่ำสุดได้อย่างแม่นยำ คุณสามารถศึกษาการวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐานทั้งหมดที่คุณต้องการหรือฟังจากผู้เชี่ยวชาญ แต่ท้ายที่สุดแล้ว คุณอาจจะยังต้องพึ่งพาความรู้สึกของคุณในขณะที่พยายามจะคาดการณ์ถึงจุดต่ำสุด และอย่างที่คุณอาจจะเห็นด้วย ความรู้สึกไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีมากนัก หากคุณกำลังมองหากลยุทธ์ในการนำทางในตลาดหมี Crypto หรือแย่กว่านั้นคือในช่วง Crypto Winter

คุณอาจจะซื้อได้ที่จุดต่ำสุดในช่วงเวลาหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ราคามันก็อาจจะลดลงได้อีก และถ้ามันดิ่งลง คุณจะต้องขายมันอีกครั้งเพื่อให้ได้ช็อตต่อไปของคุณในจังหวะที่ยากจะเข้าใจ บ่อยครั้ง กลยุทธ์นี้จะทำให้กระเป๋าเงินของคุณเล็กลงเท่านั้น

3. การถัวเฉลี่ยต้นทุนดอลลาร์ (DCA)

Crypto 7

Dollar-Cost Averaging หรือ DCA เป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุดที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าทำงานได้ดีแม้ในช่วงตลาดหมีที่ยากลำบากที่สุด มันเป็นกลยุทธ์ระยะยาวที่เรียบง่ายที่คุณจะยังคงซื้อสินทรัพย์จำนวนเล็กน้อยต่อไปในช่วงระยะเวลาหนึ่งโดยไม่คำนึงถึงราคา

ตัวอย่างเช่น กำหนดการ DCA จะทำให้คุณลงทุน 50 ดอลลาร์ใน Bitcoin ทุกสัปดาห์ แทนที่จะลงทุน 200 ดอลลาร์ในคราวเดียว คุณสามารถเปลี่ยนแปลงกำหนดการ DCA ของคุณได้เป็นครั้งคราวเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดที่เปลี่ยนแปลงได้

DCA 50 ดอลลาร์/สัปดาห์เป็นเวลา 3 ปี : มูลค่าการลงทุน vs. มูลค่าพอร์ตปัจจุบัน

ดังนั้น จากตัวอย่างข้างต้น สมมติว่าคุณเริ่มซื้อ Bitcoin มูลค่า 50 ดอลลาร์ทุกสัปดาห์เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ถึงตอนนี้ คุณจะลงทุน 7,850 ดอลลาร์ใน Bitcoin ตลอด 3 ปีนี้ เมื่อใช้การคำนวน DCA คุณจะพบว่ามูลค่ารวมของการลงทุนของคุณในปัจจุบันอยู่ที่ 21,777 ดอลลาร์ นั่นคือการเพิ่มขึ้นอย่างมากของ 177.42% ในช่วง 3 ปี

4. พิจารณาการ Staking

เมื่อตลาดหมี Crypto ยากลำบากมากขึ้นและพอร์ตของคุณเริ่มสูญเสียมูลค่า การ Staking เป็นวิธีที่ดีในการสร้าง Passive Income จากคลัง Crypto ของคุณ การ Staking หมายถึงวิธีการล็อกเหรียญของคุณบนบล็อกเชนแบบ Proof-of-Stake (PoS) เป็นระยะเวลาหนึ่งเพื่อรับรางวัลตอบแทน

สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคย คำแนะนำโดยละเอียดนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการ Staking Crypto ส่วนที่ดีที่สุดเกี่ยวกับการ Staking คือการเพิ่มขนาดกระเป๋าเงินของคุณแม้จะอยู่ในตลาดหมี ด้วยวิธีนี้ เมื่อตลาดกระทิงกลับมาเริ่มต้นใหม่ คุณจะเริ่มต้นด้วยสินทรัพย์ที่มากกว่าที่เคยเป็นมา

นอกจากนี้ การ Staking ยังช่วยลดความเป็นไปได้ของการขายแบบตื่นตระหนก เนื่องจากกองทุนของคุณถูกล็อกอย่างปลอดภัยบนบล็อกเชน

5. หลีกเลี่ยงการ Shorting ในตลาดหมี Crypto

Shorting เป็นเทคนิคที่เทรดเดอร์ใช้เพื่อทำกำไรจากราคา Crypto ที่ลดลง นั่นควรทำให้มันเหมาะสมอย่างยิ่งในตลาดหมีเมื่อราคาลดลงนั้นเป็นเรื่องปกติ

อย่างไรก็ตาม คุณจะพบว่าผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่แนะนำให้ต่อต้านการ Shorting Bitcoin และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ เนื่องจากอาจจะนำไปสู่การขาดทุนอย่างไม่จำกัดหรือการชำระบัญชีสถานะของคุณ นี่เป็นปัญหาพื้นฐานของการ Shorting และไม่มีประสบการณ์ใดที่สามารถเตรียมคุณให้พร้อมสำหรับแรงกระแทกที่เลวร้ายเมื่อเกิดเหตุการณ์แย่ลง

เมื่อคุณซื้อ Crypto (เปิดสถานะ Long) คุณจะไม่สามารถสูญเสียไปมากกว่าจำนวนเงินที่คุณลงทุนได้อย่างแท้จริง ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณซื้อ BTC มูลค่า 100 ดอลลาร์ดังนั้น จำนวนเงินสูงสุดที่คุณจะสูญเสียจากการลงทุนนั้นคือ 100 ดอลลาร์ ในทางกลับกัน กำไรที่อาจเกิดขึ้น อย่างน้อยบนหน้ากระดาษ อาจจะไร้ขีดจำกัด ลองนึกถึงสถานการณ์ที่ราคา BTC เพิ่มขึ้นมากจนการลงทุน 100 ดอลลาร์ให้ผลตอบแทน 500, 1,000, 10,000 ดอลลาร์…..และอื่นๆ

มันตรงกันข้ามกับการ Shorting หากคุณขายเหรียญที่ 100 ดอลลาร์ สูงสุดที่คุณจะได้รับจากการเทรดนั้นคือ 100 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม หากราคาของ Crypto เริ่มเพิ่มขึ้นและเทรนด์ขาขึ้นยังคงดำเนินต่อไป การขาดทุนของคุณอาจจะเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีกำหนด และหากคุณขายโดยใช้มาร์จิ้น คุณจะต้องจ่ายดอกเบี้ยต่อจากการสูญเสียตราบเท่าที่คุณเลือกที่จะเปิดสถานะไว้

6. ประเมินสถานะปัจจุบันของตลาดอย่างระมัดระวัง

ในช่วงกลางปี 2022 ในช่วงกลางของแเทรนด์ขาลงในปัจจุบัน ดูเหมือนว่า Bitcoin จะได้รับการสนับสนุนที่สำคัญใกล้ๆ ราคา 30,000 ดอลลาร์ ด้วยการสนับสนุนนี้ ผู้คนคาดว่าจะสามารถรักษาปราการไว้ได้ในขณะที่นักลงทุนสถาบันรายใหญ่หลายรายเข้าซื้อในช่วงนี้

ในขณะเดียวกัน ตัวชี้วัดอื่นๆ ชี้ให้เห็นว่านักลงทุนรายใหม่กลุ่มใหญ่ที่อาจซื้อใกล้ระดับสูงสุดได้ขาย Crypto ส่วนใหญ่ไปแล้วท่ามกลางความกลัว ความไม่แน่นอน และความสงสัย (FUD) การออกจากตลาดในขั้นตอนนี้จะทำให้ราคา Crypto มีเสถียรภาพมากขึ้น

ประเด็นในที่นี้คือสิ่งสำคัญคือต้องคอยอัพเดตและตระหนักถึงสถานการณ์เกี่ยวกับสถานะปัจจุบันของตลาด วิธีนี้จะทำให้คุณมีโอกาสที่ดีที่สุดในการวางตำแหน่งตัวเองตามนั้น ดำเนินการอย่างรวดเร็ว และลดการสูญเสียให้เหลือน้อยที่สุด

7. หลีกเลี่ยงการทิ้ง Crypto ของคุณไว้ในเว็บเทรด

เช่นเดียวกับที่พวกเขากล่าวว่า “ไม่ใช่กุญแจของคุณ ไม่ใช่เหรียญของคุณ” สิ่งนี้ใช้ได้กับทุกสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเว็บเทรด Crypto แบบรวมศูนย์ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงของการสูญเสียเงินทุนของคุณที่เก็บไว้ในเว็บเทรดเหล่านี้อย่างไม่สามารถแก้ไขกลับกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นในช่วงที่ตลาดหมีปั่นป่วน

พิจารณาว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากมีการล่มสลายของตลาดอย่างกะทันหัน? เงินหลายพันล้านดอลลาร์จะถูกกำจัดออกจากตลาด ทำให้เว็บเทรดจำนวนมากจบลงด้วยการล้มละลาย

เลือกใช้แอพกระเป๋าเงิน non-custodial หรือดีกว่านั้นคือกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ที่ผ่านการทดลองและทดสอบแล้วเพื่อควบคุมคลัง Crypto ของคุณได้อย่างเต็มที่

Crypto Winter ยังไม่ใช่จุดจบ

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าในฐานะนักลงทุนหรือเทรดเดอร์ คุณต้องเสียเงินบ้างเป็นบางครั้ง อัตราการเข้าเป้า 100% นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ไม่ว่าคุณจะเก่งแค่ไหนก็ตาม อย่างไรก็ตาม โดยการปฏิบัติตามกลยุทธ์ที่กล่าวข้างต้น คุณจะลดโอกาสในการตกเป็นเหยื่อของตลาดหมี Crypto ลงได้เป็นอย่างมาก ควบคู่ไปกับการทำให้แน่ใจว่าได้ยึดติดกับพื้นฐานอื่นๆ เช่น ใช้การ Stop-Losses เสมอในกรณีที่คุณกำลังซื้อขาย

เราจะอัพเดตบทความนี้เป็นระยะๆ เพื่อนำเสนอเคล็ดลับเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเอาตัวรอดจากตลาดหมี Crypto จนกว่าจะถึงตอนนั้น ขอให้โชคดีในการเทรด/การลงทุนของคุณที่จะมาถึง

คำถามที่พบบ่อย

ตลาดหมีจะอยู่ยาวนานแค่ไหน?

Crypto Winter มีจริงหรือไม่?

Crypto Winter ยาวนานแค่ไหน?

ตลาดหมีและตลาดกระทิงคืออะไร?

Crypto อยู่ในตลาดหมีหรือไม่?

หมีหมายถึงอะไรใน Crypto?

คุณควรถือ Crypto ผ่านตลาดหมีหรือไม่?

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | เมษายน 2024

Trusted

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์

bic_photo_6.jpg
Akradet Mornthong
อัครเดช หมอนทอง เป็น นักแปล/นักเขียนคอนเทนต์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน NFT Games, Metaverse, AI, Crypto และเทคโนโลยีใหม่ๆ เขาจบการศึกษาในสาขาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล และมีประสบการณ์ในการทำงานในวงการเกมมากกว่า 10 ปี เมื่อ NFT Games ได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาก็ไม่พลาดที่จะก้าวเข้ามาในวงการนี้เพื่อศึกษาข้อมูลในเชิงลึกต่างๆ ของวงการ NFT รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain และ Crypto อีกด้วย
READ FULL BIO
ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน