เมื่อการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่อง Bitcoin (BTC) ได้เริ่มเปลี่ยนหัวข้อไปที่บล็อกเชนอื่นๆ และการนำพวกมันมาใช้งาน เช่น การอัปเกรดเครือข่าย Ethereum เราก็ควรที่สรุปได้แล้วว่าการนำ Crypto มาใช้งานนั้นเป็นเรื่องในกระแสหลักไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม มีอยู่โครงการหนึ่งที่ได้นำ Crypto เข้าไปสู่กิจกรรมประจำวันของบริษัท — VeChain
ตัวอย่างเช่น การจัดการซัพพลายเชนนั้นเป็นสิ่งสำคัญแต่มันก็ยังไม่มีการป้องกันในกระบวนการทำงานของบริษัทหลายๆ แห่ง มันมักจะไม่มีปฏิสัมพันธ์กันระหว่างฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องโดยตรง เนื่องจากหลายฝ่ายยังคงใช้วิธีการแบบเดิมในการรวบรวมข้อมูล มันทำให้พวกเขามีความเสี่ยงที่จะถูกปลอมแปลงผลิตภัณฑ์
VeChain เสนอทางแก้ปัญหาที่สมบูรณ์แบบสำหรับปัญหาเหล่านี้โดยทำให้กระบวนการทำงานกลายเป็นแบบอัตโนมัติและเพิ่มความสามารถในการตรวจสอบย้อนกลับที่ราบรื่น ที่สำคัญกว่านั้น พวกเขาได้ค้นหาหนทางที่จะเป็นการแก้ปัญหาบล็อกเชนที่เปลี่ยนแปลงได้หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจ
หากคุณยังไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ บทความนี้จะเป็นการอธิบายว่ามันเกี่ยวข้องกับอะไรและการคาดการณ์ของการเปลี่ยนแปลงของราคาของมัน
VeChain คืออะไร?
VeChain เป็นแพลตฟอร์มบนบล็อกเชนที่เน้นการให้ความโปร่งใส การตรวจสอบย้อนกลับ และปรับปรุงฟังก์ชันบล็อกเชนให้เข้ากับธุรกิจในโลกแห่งความเป็นจริง หรือให้พูดง่ายๆ VeChain ได้รวมเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ากับ ‘Internet of Things’ (IoT) เพื่อปรับปรุงกระบวนการซัพพลายเชนสำหรับองค์กร
เริ่มแรกนั้นมันกำเนิดมาเพื่อแก้ปัญหาสำหรับซัพพลายเชนที่ทำงานบนบล็อกเชน Ethereum ในปี 2018 VeChain ได้วิวัฒนาการและเปิดตัวบล็อกเชนของตัวเอง — VeChainThor
เพื่อขยายตัวสู่การนำไปใช้ในโลกแห่งความเป็นจริง เครือข่ายโอเพ่นซอร์สนี้นำเสนอคุณสมบัติที่เป็นนวัตกรรมโดยอนุญาตให้ผู้ใช้ภายในระบบนิเวศสร้าง DApps ที่สามารถแก้ปัญหาในโลกแห่งความเป็นจริงได้ อุตสาหกรรมต่างๆ เช่น โลจิสติกส์ บริการเครือข่ายอาหาร การท่องเที่ยว สุขภาพ และความปลอดภัยของอาหาร ได้มีการใช้ศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัดของมัน
บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ใช้งาน VeChain
ในปี 2019 Walmart ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทค้าปลีกข้ามชาติรายใหญ่ที่สุดที่มีเครือข่ายไฮเปอร์มาร์เก็ตได้ประกาศความร่วมมือกับ VeChain
จากความร่วมมือของ VeChain และ Walmart ทำให้ผู้ใช้สามารถติดตามการส่งอาหารในประเทศจีนผ่านแอพได้ สามารถแสดงข้อมูลผลิตภัณฑ์และข้อมูลการตรวจสอบย้อนกลับ เช่น เงื่อนไขการจัดเก็บ เวลาจัดส่ง เวลารับ และอื่นๆ อีกมากมาย
ระบบนิเวศของ BMW-VeChain นั้นเชื่อว่าความสำคัญของการเติบโตมาจากการสร้างความเชื่อมโยงเพื่อสร้างมูลค่าแบบกลุ่ม เช่นเมื่อพวกเขาประกาศความร่วมมือกับ BMW ข้อตกลงนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเก็บรักษาความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ของ BMW สำหรับผลิตภัณฑ์ต้นแบบผ่านเครื่องมือบัญชีแยกประเภทแบบแบ่งส่วนเพื่อบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ เช่น การซ่อมครั้งก่อน ระยะทาง และบริการเสริมอื่นๆ
แม้กระทั่งรัฐบาลจีนภายใต้กฎระเบียบที่เข้มงวดของ Gui’an ยังได้ประกาศความร่วมมือกับ VeChain รวมไปถึงความร่วมมืออื่นๆ ได้แก่ PwC, DNV Grant Thornton, LVMH เป็นต้น
โดยรวมแล้ว VeChain เป็นโซลูชันบล็อกเชนระดับองค์กรที่ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถตามรอยผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภค รับรองคุณภาพและช่วยบริษัทในการระบุความแตกต่างใดๆ ที่มีอยู่
ต้นกำเนิดของ VeChain
VeChain ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 โดยเป็นผลงานของ Jay Zhang และ Sunny Lu โดยที่ Lu เคยดำรงตำแหน่ง Chief Information Officer ของ Louis Vuitton ในประเทศจีน ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เซี่ยงไฮ้ และมีสำนักงานในฝรั่งเศส ฮ่องกง สิงคโปร์ และประเทศอื่นๆ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกในการรวบรวมโครงการทั่วโลก
VeChain เริ่มเป็นคอนเซ็ปต์ครั้งแรกในปี 2015 สำหรับ IoT และการจัดการซัพพลายเชน ในช่วงเวลานั้น ได้มีการใช้โทเค็น VEN ก่อนที่จะเปลี่ยนใช้บล็อคเชนของตัวเองในกลางปี 2018 เพื่อปรับปรุงความสามารถในการปรับขนาด
ในตอนนี้ VeChain ค้นพบว่ามันถูกนำไปใช้งานในอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกหลายแห่ง มันมักจะถูกมองว่าเป็นผู้บุกเบิกของแอปพลิเคชันบล็อกเชนในโลกแห่งความเป็นจริง ตอนนี้มันคือตัวแทนของ VET — โทเค็นดั้งเดิมที่ช่วยให้ผู้คนทำธุรกรรมบนบล็อกเชนได้
ความเป็นมาคร่าวๆ
- มิ.ย. 2015: เปิดตัว VeChain ครั้งแรก
- พ.ย. 2016: VeChain เปิดตัวโมเดลสัญญาอัจฉริยะสำหรับ DBMSP, DBGP และ DGIP
- พ.ค. – ก.ค. 2017: เริ่มการผสานรวมกับธุรกิจมากมายจากอุตสาหกรรมยานยนต์ เกษตรกรรม และการตรวจสอบ ในช่วงเวลานี้ Vechain Foundation ก็ถูกก่อตั้งขึ้นด้วยเช่นกัน
- มิ.ย. 2018: เปิดตัว VeChainThor หลังจากทำเงินได้มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์
- 2019: เป็นพาร์ทเนอร์กับ Walmart และบริษัทใหญ่อื่นๆ
- ส.ค. 2020: ใบรับรองการป้องกันความปลอดภัย COVID-19 ผ่าน ToolChain
- พ.ย. 2021: VeChain อัปเกรดเป็นฉันทามติ Proof-of-Authority 2.0
จนถึงปัจจุบัน บริษัทที่มีฐานอยู่ในสิงคโปร์นี้ได้นำเสนอฟังก์ชันอเนกประสงค์ใหม่ๆ เช่น การทำงานร่วมกันแบบมัลติเชน การกำกับดูแลแบบ on-chain ค่าธรรมเนียมก๊าซราคาถูก และการปฏิบัติตาม KYC
พวกเขามีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างสมดุลระหว่างข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดที่มีให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อกระบวนการทางธุรกิจที่มีการโต้ตอบกับ Mainnet ของ VeChainThor
คุณสมบัติหลักของ VeChain
VeChain นำเสนอฟังก์ชันมากมายให้กับบริษัทหลายแห่งทั่วโลก มันเป็นหนึ่งในบริษัทบล็อกเชนรายแรกๆ ที่สร้างสมดุลระหว่างความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพ ด้วยความโปร่งใสนั้น VeChainThor ได้ผสานรวมกับเครื่องมือมากมาย รวมถึง KYC เพื่อให้แน่ใจว่าสัญญาอัจฉริยะนั้นรองรับมัน
เรามาดูคุณสมบัติหลักบางประการของมันกัน:
เครื่องมือการกำกับดูแลอย่างเป็นธรรมชาติ
VeChain ผสมผสานระหว่างการกระจายศูนย์และการรวมศูนย์เพื่อให้เกิดความสมดุลในการนำเสนอบริการที่เหมาะสมที่สุด การกระจายศูนย์เป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีบล็อกเชนได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีปัญหาในเรื่องของความสามารถในการปรับขนาดในเครือข่ายบล็อกเชนบางเครือข่าย เช่น Bitcoin และ Ethereum VeChain ได้สร้างสมดุลให้กับสิ่งนี้โดยการสร้าง VeChainThor ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างรูปแบบการกำกับดูแลที่มีการผสานรวมอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
กรอบและหลักการในการกำกับดูแลได้รับการออกแบบมาเพื่อความชัดเจน ครอบคลุม โปร่งใส มีความสามารถในการปรับขนาดและมีประสิทธิภาพ พวกเขาทำให้ประสิทธิภาพและความคืบหน้าของระบบนิเวศโดยรวมเร็วมากขึ้น
Proof-of-Authority (PoA)
ต่างจากโปรโตคอลทั่วไป เช่น Proof-of-Work (PoW), Proof-of-Stake (PoS) และ Proof-of-History บล็อกเชน VeChainThor นั้นเลือกที่จะใช้โปรโตคอลฉันทามติ Proof-of-Authority (PoA)
PoA ปรับปรุงความโปร่งใสในกรอบการกำกับดูแลโดยอนุญาตให้มีการยืนยันตัวตนที่ถูกต้องของผู้ตรวจสอบ 101 โหนด (Authority Masternodes หรือ มาสเตอร์โหนดผู้มีอำนาจ) ที่ได้รับอนุญาตจากระบบนิเวศ Authority Masternode แต่ละตัวต้องผ่านกระบวนการ KYC ตามมาตรฐานที่กำหนดโดยเครือข่าย
ด้านล่างนี้คือคุณสมบัติบางประการของโปรโตคอล PoA ของ VeChainThor:
- ค่าธรรมเนียมพลังงานต่ำ
- ปรับปรุงความเร็วในการตรวจสอบบล็อก
- เครือข่ายไม่ได้พึ่งพา authority masternodes ทั้งหมด
- ปรับปรุงความสามารถของ side-chain
- แพลตฟอร์มทำงานบน 101 โหนด ซึ่งน้อยกว่า Ethereum และ Bitcoin ปูทางสำหรับความเร็วและความน่าเชื่อถือที่เพิ่มขึ้นในเครือข่าย
- เปิดใช้งานสำหรับ IoT Solutions
VeChain ผสมผสาน IoT เข้ากับบล็อกเชน และสร้างความเป็นไปได้มากมาย ซึ่งรวมถึง:
- การระบุตัวตนแบบดิจิทัลและการเป็นเจ้าของอุปกรณ์
- การยืนยันตัวตน ความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยของอุปกรณ์
VeChain (VET) ทำงานอย่างไร?
VeChain ใช้ PoS เวอร์ชันดัดแปลงที่เรียกว่า Proof-of-Authority (PoA) แทนที่จะตรวจสอบเหรียญของคุณ Vechain Foundation จะเลือกผู้ที่จะเป็นผู้ตรวจสอบความถูกต้อง (Authority Masternodes)
ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น VeChainThor จะเน้นไปทางการรวมศูนย์มากกว่า เนื่องจากมันจะให้ความสำคัญกับความเร็วและความปลอดภัยมากที่สุด
ด้วยการให้ความสำคัญกับความปลอดภัย VeChain ใช้กระบวนการสุ่มหลอกแบบกำหนด (DPRP) เพื่อเลือกโหนด ด้วยเหตุนี้ มันจึงได้ออกแบบคอนเซปต์ของสถานะ “ใช้งาน/ไม่ใช้งาน” ของ Authority Masternodes เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ไปสู่จุดสูงสุด การออกแบบนี้ช่วยให้ผู้ใช้ทราบได้ว่าผู้ตรวจสอบความถูกต้องได้รับอนุญาตให้สร้างบล็อกหรือไม่
แพลตฟอร์มนี้ส่วนใหญ่จะถูกใช้สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่และองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมากกว่าคุณสมบัติอื่นๆ
VeChain ToolChain
เพื่อทำให้ VeChain เหมาะสมสำหรับการนำไปใช้ในวงกว้าง แพลตฟอร์มได้ลงทุนเป็นอย่างมากในการเปิดตัว VeChain ToolChain ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์บล็อกเชนที่ครอบคลุมการเข้ารหัสอย่างดีเยี่ยม ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยบล็อกเชน VeChainThor
พวกเขาให้บริการ BaaS, PaaS, SaaS แก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดเล็กเพื่ออำนวยความสะดวกในการรวมเข้ากับรูปแบบธุรกิจของตนได้ง่ายมากยิ่งขึ้น VeChain ToolChain มอบวิธีการที่ไม่เหมือนใครให้กับธุรกิจในการคิดค้นซัพพลายเชนของตนขึ้นใหม่ และดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น คุณสมบัติอื่นๆ ได้แก่ :
- ความโปร่งใส
- การตรวจสอบย้อนกลับผลิตภัณฑ์
- การจัดเก็บข้อมูล
- วิธีที่สร้างสรรค์เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งานของผู้บริโภค
โทเค็น VeChain — VET และ VTHO
ระบบนิเวศของ VeChain มีโทเค็นดั้งเดิมสองโทเค็น ได้แก่ VeChain Token (VET) และ VeChainThor Energy หรือที่รู้จักกันว่า VeThor (VTHO)
VET เป็นโทเค็นหลักที่รันปฏิบัติการทั้งหมดบนแพลตฟอร์ม ในขณะที่ VTHO ช่วยให้เกิดการทำงานที่เหมาะสมที่สุดของโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนทั้งหมด
กล่าวอีกนัยหนึ่ง VTHO เป็นตัวแทนของพลังงานที่ใช้ในการรันธุรกรรมการชำระเงินในการใช้งานสัญญาอัจฉริยะที่จะเกิดขึ้นบนเครือข่าย เป้าหมายหลักคือการอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมบนบล็อกเชน
VeChain มีคู่แข่งหรือไม่?
VeChain เป็นราชาแห่งแพลตฟอร์มในพื้นที่ Blockchain-IoT พวกเขาสามารถโอ้อวดความสำเร็จของพวกเขาได้ว่ามีพันธมิตรมากกว่า 200 รายทั่วโลก มูลค่าการตลาดรวมของแพลตฟอร์มนั้นมีมากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์
ย้อนกลับไปในปี 2018 มีคู่แข่งที่คู่ควรเกิดขึ้นมาอยู่บ้าง เช่น Ambrosus(AMB) และ Waltonchain(WTC)
Ambrosus (AMB) เป็นโทเค็นสารพัดประโยชน์ที่ใช้โปรโตคอล Ethereum มันถูกจำกัดในความสามารถในการปรับขนาด แพลตฟอร์มดังกล่าวมีความร่วมมือกับ Blendhub และ Flatev ซึ่งมีพันธมิตรน้อยกว่า VeChain
คู่แข่งอีกรายคือ Waltonchain โครงการนี้ทำงานบน Ethereum โดยผสมผสานบล็อกเชนกับ IoT (RFID) เพื่อสร้างระบบที่ราบรื่นสำหรับซัพพลายเชน พวกเขามีพันธมิตรน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับ VeChain
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีศรัทธาใน Crypto จำนวนมากได้รายงานว่าคู่แข่งเหล่านี้เป็นโครงการหลอกลวง มันจึงเป็นเรื่องที่สำคัญในการทำการค้นคว้าเกี่ยวกับโครงการให้เพียงพอหากคุณกำลังต้องการที่จะพิจารณาในการลงทุนกับโครงการเหล่านี้
คู่แข่งรายอื่นๆ ที่มีความเป็นไปได้ ก็ได้แก่ OriginTrail(TRAC) และ Antchain
Tokenomics
ในช่วงเริ่มต้นของโครงการ VeChain Foundation ได้แจกจ่าย ERC20 ประมาณ 133 ล้านชุดให้กับชุมชนผ่าน Private/Public Sale โปรโมชั่น การตลาด และอื่นๆ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 70% VET รวมถึงโทเค็นที่ถูกทำลายไป พวกเขามีเป้าหมายที่จะแจกจ่ายโทเค็นเหล่านี้ให้อย่างต่อเนื่องด้วยวิธีการต่างๆ ในอนาคต
โทเค็น VeChain เปิดตัวในกลางปี 2017 ที่ราคาประมาณ 0.26 ดอลลาร์ และราคาก็แกว่งไปมาจนกระทั่งเพิ่มขึ้นในเดือนตุลาคม 2017 อย่างไรก็ตาม มีการเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงภาวะตลาดกระทิงของ Crypto ในช่วงปลายปี 2017 ถึงต้นปี 2018 ในขณะนี้ VET มีราคาเพิ่มขึ้นมากกว่า 2800% จาก 0.240301 ดอลลาร์เป็น 7.03 ดอลลาร์ นอกเหนือจากภาวะตลาดกระทิงแล้ว ราคาที่เพิ่มขึ้นนั้นก็เป็นผลมาจากการเปิดตัวของ VeChainTHOR และความร่วมมือที่มากขึ้นเรื่อยๆ
ราคาของมันลดลงจาก 7.03 ดอลลาร์เป็น 5.48 ดอลลาร์ในปลายปี 2018 และลดลงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และในปัจจุบันมันถูกซื้อขายที่ราคา 0.04 ดอลลาร์ โดยรวมๆ แล้ว VeChain อยู่ในอันดับที่ 20 ในการจัดอันดับสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลก โดยมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 220.83 ล้านดอลลาร์ มีการหมุนเวียน VET มากกว่า 66 พันล้านครั้ง
นอกจากนี้ มันยังมีมากกว่า 1.6 ล้าน Known Addresses, 16,000 Contracts Known, 101 Authority Nodes และ 2,580 X-Node Token
โร้ดแมปและแผนการพัฒนา
VeChain ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อมิถุนายน 2015 เมื่อการออกแบบ TCOP ถูกปล่อยออกมา ดูเหมือนว่ามันจะมีการลงทุนเป็นจำนวนมากในการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ในบรรดาการอัปเดตต่างๆ ได้แก่
- การปรับเปลี่ยนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่มีอำนาจลงคะแนน — Authority Masternode, Economic X Node และ Economic Node
- การปรับปรุง DApp — ทำให้การใช้งานง่ายขึ้นเพื่อเพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้งาน
ด้านล่างนี้คือแผนภาพที่แสดงให้เห็นถึงการเดินทางทั้งหมดของ VeChain
ราคาและการคาดการณ์ราคาในอนาคต
ดูเหมือนว่าในทุกๆ สัปดาห์ จะมีพาดหัวข่าวอีกหัวข้อหนึ่งเกี่ยวกับระบบนิเวศของ VeChain การคาดการณ์ราคาทั้งหมดนี้ถูกพูดถึงโดยนักเทรดมืออาชีพซึ่งได้แสดงคุณลักษณะขาขึ้นและมีแง่ดีอย่างมาก
มีการคาดการณ์ว่าราคาอาจจะสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม มันอาจจะฟังดูดี แต่ว่าตลาดนั้น Crypto มีความผันผวนสูง และการคาดการณ์ราคาของเราก็ไม่ใช่คำแนะนำให้ทำการลงทุนอย่างแน่นอน
คุณควรซื้อ VeChain (VET) หรือไม่?
VET นั้นมีศักยภาพและมันอาจจะเป็นการลงทุนที่ดี แม้ว่าตลาด Crypto จะมีความผันผวน แต่มันก็มีการเติบโตในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และแสดงให้เห็นถึงโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่จะเติบโตขึ้นต่อไปอีก
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่คุณจะพิจารณาในการซื้อโครงการใดๆ ก็ตาม คุณควรทำค้นคว้าด้วยตัวคุณเอง (DYOR) และวิเคราะห์ราคาตลาดที่น่าจะเป็นสำหรับ VET
ทำการวิเคราะห์ทางเทคนิค — ดูระดับแนวรับและแนวต้านเพื่อลดความเสี่ยงและซื้อขายอย่างปลอดภัย
วิธีการซื้อ VET
โทเค็น VET นั้นมีลิสต์อยู่ในเว็บเทรด Crypto รายใหญ่
เพื่อที่จะซื้อมัน คุณจะต้องซื้อ Bitcoin หรือ Ethereum หรือ Stablecoin อื่นๆ จากเว็บเทรดที่เชื่อถือได้ หรือไม่ก็ส่งเข้าสู่กระเป๋าของคุณโดยตรง เรามาดูขั้นตอนโดยละเอียดในการซื้อ VET ผ่าน Binance กันดีกว่า
1. ลงทะเบียน
ขั้นตอนแรกในการซื้อสกุลเงินดิจิทัลคือการสมัครบัญชี จากนั้น คุณต้องยืนยันตัวตนของคุณโดยทำตามขั้นตอน KYC ให้เสร็จสิ้น
2. ซื้อ BTC
ตอนนี้คุณสามารถฝาก BTC โดยส่งเหรียญไปยังกระเป๋าเงิน Binance ของคุณ
3. ซื้อ VET
เมื่อคุณฝากเงินเสร็จแล้ว คุณจะต้องเลือกคู่เหรียญ VET ที่คุณต้องการ (เช่น VET/USDT) และป้อนจำนวน VET ที่คุณต้องการซื้อ
คุณสามารถป้อนจำนวนเงินเป็น BTC หรือ VET หลังจากนั้น เลือกราคาตลาดที่ดีที่สุดหรือกำหนดวงเงินของคุณเองก่อนคลิก “ซื้อ”
ก้าวถัดไปของ VeChain คืออะไร?
VeChain ประสบความสำเร็จในการสร้างโซลูชันบล็อกเชนระดับองค์กร ซึ่งนำไปสู่การปรับใช้บล็อกเชนทั่วโลกอย่างกว้างขวาง บริษัทกระแสหลักผสานรวมเครือข่ายของตนเองไว้เพื่อการจัดเก็บข้อมูลและคุณสมบัติบล็อกเชนอื่นๆ อนาคตของพวกเขาดูสดใสเนื่องจากหลายๆ บริษัทกำลังทำข้อตกลงกับพวกเขา และคาดการณ์ว่าจะยังมีบริษัทอีกมากมายที่ต้องการจะร่วมมือด้วย
นอกจากนี้ มันยังมีโครงการที่น่าสนใจอีกมากมายในปี 2022 เนื่องจากแพลตฟอร์มดังกล่าวเพิ่งประกาศเปิดตัว VeCarbon ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้รัฐบาลและองค์กรต่างๆ บรรลุความเป็นกลางของคาร์บอน โปรดจับตาดูพวกเขาไว้ให้ดี!
คำถามที่พบบ่อย
- ทำไม VeChain ถึงมีความพิเศษ?
ซัพพลายเชนแบบเดิมนั้นใช้ RFID ใน FC และ QR code ที่เชื่อมโยงกับฐานข้อมูลมาระยะหนึ่งแล้ว VeChain ก็ยังคงใช้วิธีนี้แต่ในแนวทางที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง วิธีการแบบเก่าเช่น RFID ได้ถูกรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวในเครือข่ายที่ใช้ IoT และบล็อกเชน ซึ่งนั่นหมายความว่ามันได้เข้าไปอยู่ในหลายๆ อุตสาหกรรมปัจจุบันซึ่งเป็นเรื่องที่ดีและในขณะที่มันเติบโตอย่างต่อเนื่อง มันคงจะไม่น่าตกใจนักที่จะได้เห็น VET เป็นหนึ่งใน Cryptocurrency ที่ใหญ่ที่สุดในปีต่อๆ ไป
- VeChain เป็นของจริงหรือไม่?
ใช่ VeChain นั้นเป็นของจริง และในความเป็นจริงแล้ว มันยังมีโอกาสมากมาย จากการนำเสนอโซลูชันที่ไร้รอยต่อเพื่อประสิทธิภาพการทำงานแบบองค์กรที่เป็นที่ชื่นชอบ
- ใครเป็นเจ้าของ VeChain Crypto?
VeChain เป็นของ Sunny Lu — อดีตประธานฝ่ายสารสนเทศ (CIO) ของ Louis Vuitton China และ Jay Zhang
- เหรียญ VeChain ใช้ทำอะไร?
VET ใช้เพื่อตรวจสอบธุรกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้นในระบบนิเวศ VeChain คุณสามารถซื้อขายผ่านเว็บเทรด Crypto ยอดนิยมได้
- เหรียญ VET มีมูลค่าเท่าไหร่?
ปัจจุบัน VeChain มีมูลค่าตลาดรวมมากกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ เหรียญ VET มีการซื้อขายที่อยู่ 0.04665 ดอลลาร์
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์