เพื่อให้ธุรกิจ Web3 เติบโตมากยิ่งขึ้น พวกเขาต้องการวิธีที่จะช่วยดึงดูดลูกค้า การใช้ประโยชน์จาก Memetic บนเครือข่ายคริปโตได้รับการพิสูจน์แล้วว่า สามารถช่วยให้ผลิตภัณฑ์ทางการตลาดมากมายประสบความสำเร็จได้ แต่มันก็คงจะไม่ได้ผลตลอดไป และเนื่องจาก Web3 กำลังเข้าสู่ช่วงที่สำคัญเป็นอย่างมาก ถึงเวลาแล้วที่เราจะมาพูดคุยกันในเรื่อง “ทุกสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ Web3 Lead Generation“
Web3 Lead Generation คืออะไร?
“Lead Generation” ใน Web3 คือ กระบวนการใช้การค้นหา, กำหนดเป้าหมาย, และปลูกฝังแนวคิดให้กับผู้ที่มีโอกาสจะกลายมาเป็นลูกค้า หรือ “ว่าที่ลูกค้า” ของผลิตภัณฑ์หรือบริการของธุรกิจ หรือถ้าจะให้พูดง่ายๆ ก็คือ กระบวนการในการค้นหาผู้ที่สนใจในสิ่งที่บริษัทจะนำเสนอและเปลี่ยนเป้าหมาย ให้กลายมาเป็นลูกค้าจริงๆ ในอนาคตนั่นเอง
เมื่อระบุตัว “Lead” หรือ “ว่าที่ลูกค้า” ได้แล้ว ธุรกิจจะใช้วิธีการต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคทางการตลาดหรือการขาย เพื่อสร้างความความสัมพันธ์ และให้คำแนะนำกับลูกค้าตลอดช่องทางการขาย (Sales Funnel) ซึ่งอาจจะรวมไปถึง แคมเปญอีเมลที่ระบุกลุ่มเป้าหมาย, การโทรศัพท์เพื่อเสนอขาย, หรือเนื้อหาที่ปรับแต่งให้เฉพาะบุคคล ฯลฯ เพื่อสร้างความไว้วางใจและโน้มน้าวให้ “ว่าที่ลูกค้า” ตัดสินใจซื้อ
ในด้านการตลาด Funnel (ช่องทาง) หมายถึง ขั้นตอนที่ “ว่าที่ลูกค้า” จะต้องทำหรือเผชิญในกระบวนการในการซื้อสินค้าหรือบริการ ภาพด้านบนเป็นตัวอย่างของ Sales Funnel ที่แสดงกระบวนการต่างๆ โดยฐานชั้นบนสุด (ที่ใหญ่ที่สุด) จะเป็นตัวแทนของกลุ่ม “ว่าที่ลูกค้า” จำนวนมาก และไล่ลงมาจนถึง ฐานชั้นล่างสุด ที่เป็นตัวแทนของผู้ที่ทำการซื้อจริง และกลายมาเป็นลูกค้าที่มีความภักดีต่อแบรนด์
ทำไม Web3 Lead Generation จึงมีความสำคัญนัก?
“Lead Generation” มีความสำคัญด้วยเหตุผลหลายๆ ประการ แทนที่จะพึ่งพาการอัดฉีดเงินสดเข้าไปในช่วงสภาวะ ZIRP (Zero Interest Rate Policy หรือ นโยบายการลดอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับ 0% เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ) Lead Generation หรือ การสร้าง “ว่าที่ลูกค้า” และโอกาสในการขาย เป็นวิธีที่ดีกว่าในการจัดหาเงินทุนให้กับโปรเจกต์ Web3 ในช่วงตลาดหมี
นอกจากนี้ มันยังช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถค้นหาและพัฒนาความสัมพันธ์ต่อ “ว่าที่ลูกค้า” ที่สนใจในตัวสินค้าหรือบริการของพวกเขาได้ ด้วยการโฟกัสกลยุทธ์การสร้างคอมมูนิตี้ให้เติบโตของคุณกับว่าที่ลูกค้าเหล่านี้ คุณจะสามารถเพิ่มโอกาสให้การเปลี่ยนให้พวกเขากลายมาเป็นลูกค้าที่ซื้อสินค้าหรือบริการจริงๆ ได้ ซึ่งจะนำไปสู่ยอดขายที่เพิ่มขึ้นในที่สุด
ยิ่งไปกว่านั้น Lead Generation เป็นแนวทางที่มีความคุ้มค่าอีกด้วย เพราะคุณจะโฟกัสความสนใจของคุณไปยังว่าที่ลูกค้าเท่านั้น ทำให้ช่วยประหยัดทรัพยากร, ได้รับข้อมูลที่มีค่าเกี่ยวกับลูกค้า, และเหมือนได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย (เพราะใช้ต้นทุนน้อยลงนั่นเอง)
Lead Generation ยังเป็นการสร้าง Brand Awareness (การส่งเสริมให้ผู้บริโภคเกิดการรับรู้ต่อสินค้าหรือบริการของแบรนด์) อีกด้วย การสร้างแบรนด์เป็นส่วนที่สำคัญอย่างยิ่งของการทำการตลาดในโลกคริปโต และ FTX คือตัวอย่างของบริษัทที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยมในเรื่องการสร้างแบรนด์ (ถึงแม้ว่าจะเกิดปัญหาขึ้นในภายหลังก็ตาม) Brand Awareness สามารถนำไปสู่การบอกต่อแบบปากต่อปาก และทำให้ลูกค้ามีความภักดีในระยะยาวได้
ถึงแม้ว่าผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้าอาจจะไม่เปลี่ยนเป็นลูกค้าที่จ่ายเงินจรงๆ เลยในทันที แต่การใช้กลยุทธ์ Lead Generation ก็สามารถช่วยเพิ่ม Brand Awareness, เพิ่มยอดขาย, และลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวลงได้
หากต้องการความช่วยเหลือในการทำ Web3 Lead Generation หรือ ส่งเสริมการขายให้กับธุรกิจหรือโปรเจกต์ของคุณในระยะใดๆ ก็ตาม คุณสามารถติดต่อทีมงานผู้เชี่ยวชาญในการทำการตลาด Web3 ของเราได้เลย
เคล็ดลับและกลยุทธ์สำหรับ Web3 Lead Generation
ด้วยแคมเปญโฆษณาที่เหมาะสม ธุรกิจต่างๆ สามารถสร้างแคมเปญที่ตั้งเป้าหมายเพื่อเข้าถึงลูกค้าที่ต้องการ และดึงดูดให้พวกเขาทำการซื้อได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กหรือนักการตลาดที่ช่ำชอง เคล็ดลับในการทำโฆษณา Web3 ต่างๆ เหล่านี้จะช่วยคุณสร้าง “ว่าที่ลูกค้า” และนำพาธุรกิจของคุณไปสู่อีกระดับนึงได้
เข้าร่วมคอมมูนิตี้ Web3
หากคุณต้องการสร้างว่าที่ลูกค้าใน Web3 คุณก็จะต้องไปอยู่ในที่ที่พวกเขาอยู่ และมีส่วนร่วมกับคอมมูนิตี้คริปโตเหล่านี้ มีแพลตฟอร์มออนไลน์อยู่มากมายที่คุณจะสามารถพบกลุ่มเป้าหมายของคุณได้ คอมมูนิตี้ชื่อดังบางส่วนที่คุณสามารถเข้าร่วมได้ ได้แก่:
- Discord
- Telegram
- Twitter (มักจะถูกเรียกว่า Crypto Twitter หรือสั้นๆ ว่า “CT”)
รายชื่อแพลตฟอร์มเหล่านี้คือ สถานที่ยอดนิยมในการสร้างคอมมูนิตี้คริปโต ซึ่งจะเติบโตได้อย่างเป็นธรรมชาติ การจัด Twitter Space, ตอบคำถามบน Reddit, และทำ AMAs (Ask Me Anything) บน Discord ฯลฯ วิธีการเหล่านี้เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการสร้าง “ว่าที่ลูกค้า” ในคอมมูนิตี้ Web3
สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่ต้องทราบก็คือชุมชนคริปโตนั้นกว้างใหญ่, เต็มไปด้วยวัฒนธรรมย่อยๆ, และมีกลุ่มผู้ชมร่วมกัน ฯลฯ บางกลุ่มอย่างเช่น “Link Marines” และ “Bitcoin Maxis” อาจจะไม่ได้มีกลุ่มผู้ชมเหมือนกัน แต่กลุ่มอื่นๆ อย่างเช่น “Doge Army” และ “SHIB Army” ก็มีแนวโน้มว่าจะมีผู้ชมร่วมกัน สิ่งเหล่านี้คือประเด็นสำคัญที่จะต้องพิจารณาเมื่อคิดถึงคอมมูนิตี้คริปโต
เข้าร่วมงานอีเว้นต์ Web3
ในปัจจุบัน คอมมูนิตี้คริปโตออนไลน์มากมายกำลังขยายขอบเขตของตนเองเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริง เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของคุณ ซึ่งมีตัวตนอยู่ในทั้งโลกออนไลน์ และโลกแห่งความเป็นจริง สิ่งสำคัญก็คือคุณจะต้องมีตัวตนอยู่ในทั้ง 2 ที่เช่นกัน
การเข้าร่วมงานอีเว้นต์, มีตอัพ, การประชุม หรือ งานแฮ็กกาธอน ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ Web3 จะทำให้ทุกคนได้พบปะและทำความรู้จักคุณ ซึ่งจะช่วยสร้างความไว้วางใจและชื่อเสียงต่อว่าที่ลูกค้าของคุณ เพราะว่าผู้คนจะรู้สึกดีกว่าหากสามารถเชื่อมโยงบริษัทเข้ากับผู้ที่เป็นหน้าตาของบริษัทได้
งานอีเว้นต์คริปโตนั้นมีจัดขึ้นตลอดทั้งปี และทั่วทุกมุมโลก ดังนั้น มันจึงไม่ใช่เรื่องยากที่คุณจะหางานอีเว้นต์ที่คุณสามารถเข้าร่วมได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถตรวจสอบรายชื่องานอีเว้นต์คริปโตต่างๆ ที่จะจัดขึ้นในปี 2023 ได้จากบทความ “งาน Crypto Event ชั้นนำที่จะจัดขึ้นในปี 2023” ได้อีกด้วย
ใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดีย
จากงานวิจัยที่เผยแพร่บน Sprout Social ผู้บริโภคบนโลกโซเชียลมีเดียต่างต้องการที่จะมีส่วนร่วมกับแบรนด์มากยิ่งขึ้น การทำการตลาดบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยให้โปรเจกต์คริปโตประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างมาก พร้อมๆ ไปกับการสร้างความสัมพันธ์กับว่าที่ลูกค้าของโปรเจกต์
บนโลกอินเทอร์เน็ต ข้อมูลสามารถแพร่กระจายออกไปได้อย่างรวดเร็วเหมือน ข่าวซุบซิบนินทาหรือโรคระบาด ดังนั้น นั่นจึงเป็นเหตุผลที่โซเชียลมีเดียช่วยประหยัดต้นทุนให้กับการโฆษณาโปรเจกต์คริปโตได้ อย่างไรก็ตาม การโปรโมตโปรเจกต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียบางแห่งก็จะต้องระมัดระวังให้ดี เช่น Google หรือ TikTok ที่มีการกีดกันไม่ให้มีการโฆษณาเกี่ยวกับคริปโตในอดีตที่ผ่านมา
แต่อย่างไรก็ดี แพลตฟอร์มโซเชี่ยลมีเดียยอดนิยมบางแห่งก็เปิดกว้างในเรื่องการโปรโมท เพื่อให้คนเข้ามาสนใจในสกุลเงินคริปโต เช่น Twitter, YouTube, Reddit, Discord และ Telegram เป็นต้น
ยังมีแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมอยู่อีกมากมาย แต่แพลตฟอร์มต่างๆ ที่เรากล่าวถึงไปข้างต้นเป็นแพลตฟอร์มที่เหล่าสาวกหรือผู้ที่สนใจคริปโตต่างให้ความสนใจเป็นหลัก เช่น การทำการตลาด Web3 บน YouTube ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับโปรเจกต์คริปโต
ร่วมงานกับอินฟลูเอนเซอร์ด้านคริปโต
เหมือนกับที่คุณต้องการให้นักแสดงและนักกีฬาที่ชื่นชอบร่วมงานกัน ผู้บริโภคเองก็ต้องการเห็นแบรนด์โปรดของพวกเขาเป็นพันธมิตรกับเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงให้เหล่า “ว่าที่ลูกค้า” เห็นว่า แบรนด์ที่พวกเขาชื่นชอบนั้นมีความ “ทันสมัย” หรือ “เป็นที่รู้จัก”
นอกจากนี้ การร่วมงานกับอินฟลูเอนเซอร์ด้านคริปโต จะทำให้ว่าที่ลูกค้ามีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นในการทดลองใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ เพราะว่าอินฟลูเอนเซอร์ได้สร้างความสัมพันธ์ที่ทำให้ผู้ชมของพวกเขาเกิดความไว้วางใจไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ทำให้ธุรกิจของเราได้รับผลประโยชน์เป็นอย่างมาก
เมื่ออินฟลูเอนเซอร์โปรโมตผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ ผู้ติดตามของพวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะไว้วางใจคุณเช่นกัน การทำการตลาดโดยใช้อินฟลูเอนเซอร์นั้นจะคล้ายๆ กับ Affiliate Marketing ที่เป็นหนึ่งใน Web3 Marketing Strategy ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งธุรกิจนั้นๆ จะให้รางวัลแก่พันธมิตรเมื่อพวกเขาสามารถหาหรือนำมาซึ่งลูกค้ารายใหม่ๆ ต่อโปรเจกต์ได้
ใช้การโฆษณาแบบเจาะจงต่อกลุ่มเป้าหมาย (Targeted Advertising)
Targeted Advertising เป็นการทำโฆษณาประเภทหนึ่งที่จะโฟกัสที่กลุ่มผู้ชมที่เฉพาะเจาะจงตามข้อมูลประชากร, ความสนใจ, พฤติกรรม, หรือลักษณะอื่นๆ เป็นต้น Targeted Advertising มีเป้าหมายในการเข้าถึงกลุ่มผู้ชมที่เหมาะสม, ด้วยข้อความที่เหมาะสม, และในเวลาที่เหมาะสม
กลุ่มผู้ชมของคุณอยู่ในยุโรปหรือไม่? หรือบางที พวกเขาอาจจะอยู่ในอเมริกาใต้กันแน่? กลุ่มอายุหรืออาชีพใดที่คุณกำลังมองหา? หรือพวกเขาชอบอ่าน Substack มากกว่า Medium? ชอบคอนเท้นต์สั้นๆ หรือยาวๆ มากกว่า? นี่คือคำถามที่จะต้องตอบให้ได้ หากคุณพิจารณาที่จะใช้งาน Targeted Advertising
ปัจจุบัน เว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นจำนวนมาก จะทำการโปรโมตโฆษณาบนไทม์ไลน์หรือฟีดของคุณ ตามประวัติการค้นหาและพฤติกรรมการซื้อของคุณ พูดได้ว่านี่อาจจะเป็นรูปแบบของ Targeted Advertising ในสมัยใหม่ที่สามารถเห็นได้ชัดเจนมากที่สุด
เพิ่มประสิทธิภาพด้วยการทำ SEO
SEO (Search Engine Optimization) คือกระบวนการในการปรับแต่งคอนเทนต์หรือเว็บไซต์ เพื่อให้ติดอันดับสูงขึ้นในหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา (Search Engine Results Pages หรือ SERPs) ซึ่งจะเป็นการช่วยเพิ่มยอดผู้เข้าชมของเว็บไซต์ได้มากยิ่งขึ้น Search Engine เช่น Google ต้องการให้คุณสร้างยอดการเข้าชมแบบออร์แกนิกให้ได้ก่อนที่พวกเขาจะแนะนำเว็บไซต์ของคุณ
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำ SEO คุณจะต้องทำการเลือกคำ/วลีหลักที่เหมาะสม, เพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างหน้าเพจ, สร้างคอนเท้นต์ที่มีคุณภาพ, ทำ Backlink (การที่เว็บไซต์อื่นมีการลิงก์มาหาเว็บไซต์ของเรา และทำให้แน่ใจว่า เว็บไซต์ของคุณมีการปรับแต่งที่เหมาะสมสำหรับการแสดงผลบนมือถือ เป็นต้น
ด้วยการใช้เทคนิคเหล่านี้ คุณจะสามารถปรับปรุงการมองเห็น และเพิ่มยอดการเข้าชมแบบออร์แกนิกมายังเว็บไซต์ของคุณได้ คุณสามารถใช้งานเครื่องมืออย่าง Ahrefs, SEMrush หรือ Moz เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ SEO และสร้างว่าที่ลูกค้าเพิ่มขึ้นได้ หรือไม่ คุณก็สามารถจ้างวานบริษัทที่เชี่ยวชาญในการทำ SEO ได้หากคุณไม่ต้องการที่จะทำด้วยตนเอง
สร้าง “Lead Magnet”
สิ่งที่ควรจำเอาไว้ก็คือ เมื่อคุณพบผู้ที่มีโอกาสเป็นลูกค้าของคุณ นั่นคือโอกาสในการสร้าง Lead Magnets ซึ่งเป็นกลยุทธ์การตลาด Web3 ในการนำเสนอสิ่งที่มีคุณค่าให้กับว่าที่ลูกค้า เพื่อแลกกับข้อมูลติดต่อของพวกเขา
เป้าหมายคือเพื่อให้ “ว่าที่ลูกค้า” มีความรู้สึกที่ดีในการแบ่งปันข้อมูลติดต่อของพวกเขา อย่างเช่น อีเมล, หมายเลขโทรศัพท์, หรือข้อมูลติดต่ออื่นๆ ที่จะช่วยสร้างความความสัมพันธ์ และทำให้พวกเขามีโอกาสในการตัดสินใจซื้อมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างของ Lead Magnet บางส่วนก็คือ:
- eBooks หรือ เอกสารไวท์เปเปอร์
- การสัมมนาอบรมความรู้ออนไลน์ หรือ วิดีโอการสอน
- การทดลองใช้ฟรี หรือ ของตัวอย่าง
- ส่วนลด หรือ คูปอง
ใช้ “Lead Scoring”
Lead Scoring คือกระบวนการในการให้คะแนนหรือจัดอันดับให้กับ “ว่าที่ลูกค้า” โดยอิงตามระดับการมีส่วนร่วมและความสนใจที่มีต่อผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ เป้าหมายของ Lead Scoring คือการจัดลำดับความสำคัญของว่าที่ลูกค้า และโฟกัสในเรื่องการตลาดและการขายกับ “ว่าที่ลูกค้า” ที่มีแนวโน้มจะกลายมาเป็นลูกค้าจริงมากที่สุด
Lead Scoring จะเป็นการประเมินปัจจัยต่างๆ เช่น ข้อมูลประชากร, พฤติกรรม, และการมีส่วนร่วมของว่าที่ลูกค้ากับแบรนด์ของคุณ ฯลฯ ตัวอย่างเช่น ว่าที่ลูกค้าที่เข้าชมเว็บไซต์ของคุณหลายครั้งและดาวน์โหลดเอกสารไวท์เปเปอร์ไป และเข้าร่วมการสัมมนา อาจจะได้ Lead Score ที่สูงกว่าว่าที่ลูกค้าที่เคยเข้าชมเว็บไซต์ของคุณเพียงครั้งเดียว
ด้วยการกำหนดช่วงคะแนนให้กับว่าที่ลูกค้าแต่ละระดับ คุณสามารถระบุได้ว่า “ว่าที่ลูกค้า” ในระดับใดที่มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนเป็น “ลูกค้าจริง” มากที่สุด เพื่อจัดลำดับความสำคัญในการขาย, การทำตลาด, และทุ่มเทเวลาและทรัพยากรของคุณให้กับพวกเขาก่อนได้ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการเพิ่มยอดขายของคุณให้ได้มากที่สุด
ใช้งาน Email Marketing
Email Marketing เป็นกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลในการ “ส่งข้อความส่งเสริมการขาย” หรือ “โฆษณา” ให้กับสมาชิกที่เป็นเป้าหมายผ่านทางอีเมล ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเข้าถึงลูกค้า เพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์หรือบริการโดยตรง
ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของการทำ Email Marketing ก็คือความคุ้มค่า มันมีราคาที่ไม่แพงเมื่อเทียบกับการทำการตลาดในช่องทางอื่นๆ เช่น โฆษณาบน TV หรือ ตามคลื่นวิทยุต่างๆ ข้อดีอีกอย่างก็คือการทำ Email Marketing จะช่วยให้เราติดตามผลประสิทธิภาพของแคมเปญและวัด ROI ได้
ปัจจุบัน มีบริการการทำ Email Marketing ให้เลือกใช้งานมากมายในตลาด เช่น Mailchimp หรือ Campaign Monitor ด้วยความช่วยเหลือของบริการ Email Marketing ธุรกิจต่างๆ จะสามารถสร้างและส่งมอบแคมเปญการตลาดที่มีประสิทธิภาพผ่านทางอีเมลได้อย่างง่ายดาย
ปรับปรุง Conversion Rates
การปรับปรุง Conversion Rates (สัดส่วนของผู้ชมที่ทำการตอบสนองต่อโฆษณา หรือยอดผู้ซื้อที่เกิดขึ้นจริงผ่านโฆษณา เป็นต้น) ให้เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญของการตลาดในยุคดิจิทัล เนื่องจากมันสามารถช่วยเพิ่มรายได้และขยายฐานลูกค้าให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างมาก ต่อไปนี้คือแนวทางบางอย่างที่สามารถใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ Conversion Rates ได้:
- ปรับปรุงการออกแบบเว็บไซต์: เว็บไซต์ควรใช้งานได้ง่าย, ดึงดูดสายตา, และปรับแต่งให้เหมาะสมกับอุปกรณ์เคลื่อนที่/มือถือ
- ปรับหน้า Landing Page ให้เหมาะสม: หน้า Landing Page ควรจะถูกปรับแต่งให้เหมาะสมกับความต้องการ และความสนใจที่เฉพาะเจาะจงของกลุ่มเป้าหมาย ควรมีคำกระตุ้นการตัดสินใจที่ชัดเจน และปรับให้เหมาะสมสำหรับเครื่องมือค้นหา
- ทำ A/B Testing: A/B Testing เป็นการทดลองใช้งานเว็บไซต์ หรือ หน้า Landing Page ในเวอร์ชั่นที่แตกต่างกันเพื่อพิจารณาว่าเวอร์ชั่นใดทำงานได้ดีกว่ากัน
- ปรับปรุงความเร็วของเว็บไซต์: เว็บไซต์ที่โหลดช้าอาจจะทำให้ผู้เข้าชมรู้สึกหงุดหงิด และทำให้มีอัตราการกดออก (Bounce Rate) สูง การปรับปรุงความเร็วของเว็บไซต์จะช่วยเพิ่มโอกาสที่ผู้ชมจะยังคงอยู่บนเว็บไซต์ ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของ Conversion Rates ได้
- ใช้สำนวนที่ชัดเจนและน่าสนใจ: สำนวนบนเว็บไซต์ หรือ หน้า Landing Page ควรที่จะชัดเจน, กระชับ, และน่าสนใจ ควรเน้นย้ำถึงประโยชน์ของผลิตภัณฑ์หรือบริการ และให้คำกระตุ้นการตัดสินใจที่ชัดเจน
- ใช้ประโยชน์จาก Social Proof: Social Proof เช่น ข้อความรับรอง หรือ รีวิวจากลูกค้า จะช่วยเพิ่มความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือได้ การรวมเอา Social Proof ไว้บนเว็บไซต์ หรือ หน้า Landing Page จะช่วยเพิ่ม Conversion Rates ได้
- เสนอรางวัลเพื่อเป็นแรงจูงใจ: การเสนอรางวัลต่างๆ เพื่อเป็นแรงจูงใจ เช่น ส่วนลด หรือ การทดลองงานใช้ฟรี จะช่วยกระตุ้นให้ผู้เข้าชมเปลี่ยนเป็นลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิเคราะห์ข้อมูลของคุณ
เมื่อคุณทำตามขั้นตอนก่อนหน้านี้เรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่า คุณจะมีข้อมูลมากมายให้เลือกกลั่นกลอง การวิเคราะห์ข้อมูลมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการสร้าง “ว่าที่ลูกค้า” บน Web3 มันจะช่วยให้คุณประเมินและปรับเปลี่ยนเนื้อหางานด้านการตลาดของคุณได้
ข้อมูลบางส่วนที่คุณรวบรวมมาเป็นเพียงข้อมูลที่คุณอาจจะไม่ต้องการและไม่จำเป็นต้องใช้ เช่น ว่าที่ลูกค้าที่ต้องการโฆษณา NFT จะไม่มีข้อมูลเดียวกันกับผู้ที่ต้องการบริการตรวจสอบสัญญาอัจฉริยะ
ข้อมูลที่คุณควรวิเคราะห์นั้นจะขึ้นอยู่กับ รูปแบบธุรกิจของคุณ และ เป้าหมายที่คุณต้องการ อย่างไรก็ตาม ต่อไปนี้คือข้อมูลทั่วไปบางประเภทที่มีประโยชน์ต่อการทำ Lead Generation ซึ่งรวมไปถึง:
- ข้อมูลประชากร: ข้อมูลต่างๆ เช่น อายุ เพศ รายได้ และตำแหน่งที่ตั้ง เป็นต้น ข้อมูลประชากรจะช่วยให้คุณเข้าใจผู้ชมเป้าหมาย และสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดที่ดึงดูดใจพวกเขาได้ดียิ่งขึ้น
- การวิเคราะห์เว็บไซต์: ข้อมูลต่างๆ เช่น ยอดการเข้าชมเว็บไซต์, การดูหน้าเว็บ, Bounce Rate, และ Conversion Rate เป็นต้น การวิเคราะห์เว็บไซต์จะช่วยให้คุณเข้าใจได้ว่า ผู้คนโต้ตอบกับเว็บไซต์ของคุณอย่างไร และสามารถระบุจุดที่ต้องปรับปรุงได้
- ข้อมูลโซเชียลมีเดีย: ข้อมูลต่างๆ เช่น อัตราการมีส่วนร่วม, ผู้ติดตาม, และการแชร์ เป็นต้น ข้อมูลโซเชียลมีเดียเหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจได้ว่า กลุ่มเป้าหมายโต้ตอบกับแบรนด์ของคุณบนโซเชียลมีเดียอย่างไร และสามารถระบุถึงโอกาสในการมีส่วนร่วมได้
- ข้อมูลจากการทำการตลาดทางอีเมล: ข้อมูลต่างๆ เช่น อัตราการเปิด, อัตราการคลิก, และอัตราการยกเลิกการสมัคร, ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจได้ว่า กลุ่มเป้าหมายของคุณตอบสนองต่อแคมเปญอีเมลของคุณอย่างไร และสามารถระบุจุดที่ต้องปรับปรุงได้
- ข้อมูล CRM: ข้อมูลต่างๆ เช่น ข้อมูลติดต่อลูกค้า, ประวัติการซื้อ, และการโต้ตอบกับฝ่ายบริการลูกค้า, ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจความต้องการและความชอบของลูกค้า และสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดที่ปรับปรุงให้เหมาะสมกับพวกเขาได้
ดูแล “ว่าที่ลูกค้า” ของคุณ
เพื่อรักษา “ว่าที่ลูกค้า” ของคุณเอาไว้ สิ่งสำคัญคือการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และมอบคุณค่าให้กับพวกเขา เมื่อพวกเขาอยู่ในช่องทาง (Funnel) แล้ว จงให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่พวกเขา สิ่งนี้จะช่วยให้พวกเขาเดินหน้าต่อไปในกระบวนการขายได้อย่างราบรื่น จนกว่าที่พวกเขาจะพร้อมในการตัดสินใจซื้อ
เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะไม่พลาดโอกาสในการทำเงิน คุณจะต้องดูแลลูกค้าในทุกขั้นตอนของการซื้อ ทำให้พวกเขาได้รู้ว่าพวกเขาอยู่ในขั้นตอนใด, ปรับแต่งข้อความให้เหมาะสม, และวิเคราะห์แคมเปญที่ผ่านมาของคุณ สร้างแผนการที่ชัดเจน และตั้งค่าการสื่อสารอัตโนมัติ โดยเริ่มจากข้อความต้อนรับของแคมเปญ
เพื่อให้ “ว่าที่ลูกค้า” ของคุณเกิดความสนใจ หรือยังคงอยู่ คุณควรติดตามผลการทำงาน, เสนอรางวัล, และใช้วิธีการต่างๆ ในการสื่อสารกับพวกเขา แบ่งพวกเขาออกเป็นกลุ่มต่างๆ แล้วดูว่าแคมเปญของคุณมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน อย่างไรก็ตาม การดูแล “ว่าที่ลูกค้า” นั้นเป็นกลยุทธ์ในระยะยาวที่ต้องใช้ความอดทน, พากเพียร, และโฟกัสไปในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ
ข้อมูลสำคัญในการประเมินผลประสิทธิภาพ Web3 Lead Generation ของคุณ
การวัดผลความสำเร็จของกลยุทธ์การทำ Lead Generation ของคุณเป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณใช้พลังงานและทรัพยากรได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด มีวิธีการต่างๆ อยู่มากมายในการใช้เพื่อประเมินผลว่า การทำ Lead Generation ของคุณประสบความสำเร็จเพียงใด โดยแต่ละวิธีก็จะให้มุมมองที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าแผนการของคุณเป็นอย่างไร
อันดับแรก การตรวจสอบจำนวน “ว่าที่ลูกค้า” ที่สร้างขึ้นมาจากช่องทางต่างๆ ของคุณ เช่น เว็บไซต์, โซเชียลมีเดีย, หรือแคมเปญอีเมล ฯลฯ จะช่วยให้คุณปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมของกลยุทธ์ Lead Generation ของคุณได้ และสิ่งสำคัญก็คือ ”คุณภาพ” ของว่าที่ลูกค้านั้นสำคัญพอๆ กับ “ปริมาณ” ผู้ที่แสดงความสนใจในผลิตภัณฑ์ของคุณมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นลูกค้าได้อย่างแน่นอน
การวัดจำนวน “ว่าที่ลูกค้า” ที่กลายมาเป็น “ลูกค้าจริง” หรือ “Conversion Rate” ก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน เนื่องจากมันจะช่วยให้คุณเข้าใจได้ว่ากลยุทธ์ Lead Generation ของคุณทำงานได้ดีเพียงใดในสร้างยอดขายและรายได้ให้กับธุรกิจของคุณ
นอกจากนี้ การคำนวณ “ต้นทุน” ต่อ “ว่าที่ลูกค้า” จะช่วยให้คุณกำหนด ROI ของกลยุทธ์ Lead Generation ของคุณได้ ซึ่งทำได้ด้วยการหารค่าใช้จ่ายทั้งหมดของกลยุทธ์ดังกล่าวด้วยจำนวน “ว่าที่ลูกค้า” ที่สร้างขึ้นมาได้
อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญก็คือการตรวจสอบว่า คุณสามารถทำเงินได้มากแค่ไหนจาก “ว่าที่ลูกค้า” ที่คุณได้รับจากกลยุทธ์ Lead Generation ของคุณ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณเห็นได้ว่า “ว่าที่ลูกค้า” เหล่านี้มีคุณค่าต่อธุรกิจของคุณในระยะยาวเพียงใด
สุดท้าย การตรวจสอบว่าผู้ชมโต้ตอบกับเนื้อหาของคุณอย่างไร จะช่วยมอบข้อมูลเชิงลึกต่างๆ ให้กับคุณได้ ไม่ว่าจะเป็น อัตราการคลิก, อัตราการเปิด, และการมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดีย ฯลฯ ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณกลยุทธ์ได้ดียิ่งขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
ข้อมูลคือทุกสิ่ง!
การบรรลุความสำเร็จใน Web3 Lead Generation ขึ้นอยู่กับข้อมูลเป็นอย่างมาก ด้วยการใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกมากมาย ธุรกิจต่างๆ จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในกลยุทธ์ Lead Generation และเพิ่มโอกาสที่จะเปลี่ยนเป้าหมายให้กลายเป็นลูกค้าของพวกเขาได้ การรวบรวม, วิเคราะห์, และตีความข้อมูลจะช่วยให้ธุรกิจมองเห็นแนวโน้ม, ปรับปรุงการกำหนดเป้าหมาย และวัดประสิทธิภาพได้
ในขณะที่เทคโนโลยี Web3 พัฒนาอย่างต่อเนื่อง บริษัทต่างๆ ที่ให้ความสำคัญกับข้อมูลที่สามารถใช้ในการทำ Lead Generation ได้ จะมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
คุณกำลังมองหาความช่วยเหลือในการทำ Lead Generation และการตลาดต่อธุรกิจหรือแบรนด์ Web3 ของคุณอยู่หรือไม่? ติดต่อหาผู้เชี่ยวชาญของเราเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
คำถามที่พบบ่อย
จะสร้าง “ว่าที่ลูกค้า” ใน Web3 ได้อย่างไร?
จะหา “ว่าที่ลูกค้า” ในพื้นที่ Crypto ได้อย่างไร?
Web3 Lead Generation ต่างจาก Lead Generation แบบดั้งเดิมอย่างไร?
กลยุทธ์ Web3 Lead Generation ที่มีประสิทธิภาพมีอะไรบ้าง?
จะวัดผลความสำเร็จของแคมเปญ Web3 Lead Generation ได้อย่างไร?
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์