Trusted

Bitcoin คืออะไร? ทำความเข้าใจ บิตคอยน์ ก่อนลงทุน [อัปเดต 2023]

11 mins
อัพเดทโดย Apinat Phosuwan

Bitcoin คือ สกุลเงินดิจิทัลตัวแรกที่ถือกำเนิดขึ้นบนโลกนี้ โดยได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ไม่ขึ้นอยู่กับการควบคุมหรือการกำกับดูแลจากตัวตนศูนย์กลางใดๆ

เมื่อพูดถึง Bitcoin (บิตคอยน์) นอกจากมันจะเป็นต้นกำเนิดของสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) ที่เริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายแล้ว มันยังเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ในบรรดาสกุลเงินดิจิทัลที่มีอยู่หลายหมื่นตัวอีกด้วย

แต่ถึงจะมีคู่แข่งปรากฏตัวขึ้นมากมาย แต่ Bitcoin ก็ยังเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เหตุผลเบื้องหลังความนิยมเหล่านี้คืออะไร? เพราะเหตุใด Bitcoin ถึงได้มีมูลค่าที่สูง? มันมีต้นกำเนิดมาจากที่ไหน? วันนี้ เราจะมาหาคำตอบเหล่านี้กัน

คุณต้องการรับข่าวสาร Crypto ที่ร้อนแรงที่สุดและเรียนรู้ว่านักเทรดมืออาชีพทำอย่างไรในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้หรือไม่? มาเข้าร่วม BeInCrypto Trading Community บน Telegram: อ่านข่าวต่างๆ, สอบถามเรื่องการวิเคราะห์ทางเทคนิค, และได้รับคำตอบเหล่านั้นจากนักเทรดมืออาชีพ!

Bitcoin คืออะไร?

Bitcoin นั้นเป็นสกุลเงินดิจิทัลตัวแรกที่ถือกำเนิดขึ้นบนโลกนี้ มันถูกสร้างขึ้นโดยกลุ่มหรือบุคคลนิรนามซึ่งมีนามแฝงว่า Satoshi Nakamoto ในปี 2009 มันได้รับการออกแบบมาให้ไม่ขึ้นอยู่กับการควบคุมหรือการกำกับดูแลจากตัวตนศูนย์กลางใดๆ

Bitcoin นั้นเป็นสกุลเงินดิจิทัลตัวแรกที่ถือกำเนิดขึ้นบนโลกนี้ มันถูกสร้างขึ้นโดยกลุ่มหรือบุคคลนิรนามซึ่งมีนามแฝงว่า Satoshi Nakamoto ในปี 2009 มันได้รับการออกแบบมาให้ไม่ขึ้นอยู่กับการควบคุมหรือการกำกับดูแลจากตัวตนศูนย์กลางใดๆ

ด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Blockchain (บล็อกเชน) ซึ่งเป็นบัญชีแยกประเภทแบบกระจายอำนาจ (Distributed Ledger) ที่ใช้เป็นฐานข้อมูลที่ใช้เก็บข้อมูลร่วมกันในแบบสาธารณะ มันจึงมีความปลอดภัยเป็นอย่างมาก เนื่องจากข้อมูลธุรกรรมใดๆ ที่ถูกบันทึกไว้นั้นไม่สามารถทำซ้ำ ดัดแปลง หรือทำลายได้

เกร็ดน่ารู้: ในวันที่ 8 มกราคม 2009 ซอฟต์แวร์ Bitcoin เวอร์ชั่นแรกได้ถูกประกาศไปยัง Cryptography Mailing List และในวันที่ 9 มกราคม Bitcoin บล็อกแรกได้ถูกขุด และการขุด Bitcoin ก็เริ่มขึ้นนับแต่นั้นเป็นต้นมา

Bitcoin และเทคโนโลยี Blockchain

Bitcoin นั้นเป็นส่วนหนึ่งของ Blockchain โดยเมื่อมีธุรกรรมเกิดขึ้นบนบล็อกเชน ข้อมูลจากบล็อกก่อนหน้าจะถูกคัดลอกไปยังบล็อกใหม่ พร้อมด้วยข้อมูลใหม่ที่มีการเข้ารหัสด้วยอัลกอริธึม SHA-256 และได้รับการตรวจสอบโดย Validators (หรือที่รู้จักกันในชื่อ นักขุดบิตคอยน์) ซึ่งจะผู้ที่ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลบนเครือข่าย เมื่อธุรกรรมได้รับการยืนยันแล้ว บล็อกใหม่จะเปิดออกและ BTC จะถูกมอบให้เป็นรางวัลแก่นักขุดที่ช่วยตรวจสอบข้อมูลภายในบล็อกนั้นๆ

Bitcoin นั้นเป็นส่วนหนึ่งของ Blockchain ทำให้จริงๆ มีความปลอดภัยข้อมูลสูงมาก

แล้วมูลค่าของมันเกิดจากอะไร?

เหตุผลหลักที่ทำให้ Bitcoin มีมูลค่าที่สูงนั้นมาจากการที่มันมีความขาดแคลน (Scarcity) เนื่องจากจำนวนสูงสุดของ BTC ที่ขุดได้นั้นมีเพียง 21 ล้านเหรียญเท่านั้น จากการที่อุปทานของมันมีอยู่จำกัด ทำให้เมื่อเวลาผ่านไป ความสามารถในการหา หรือได้รับ BTC นั้นจะยากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มันมีแนวโน้มที่มูลค่าของมันจะสูงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

ลองดูตัวอย่างนี้สิ! ในปี 2010 ชายคนหนึ่งตัดสินใจที่จะแลก Bitcoin ของเขากับพิซซ่า 2 ถาดในราคา 10,000 BTC ซึ่งจากการประเมินมูลค่าในวันนี้ Bitcoins เหล่านั้นจะมีมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์หากเขาเก็บมันเอาไว้

โพสต์การขอซื้อพิซซ่าด้วย Bitcoin
โพสต์การขอซื้อพิซซ่าด้วย Bitcoin ที่โด่งดังจาก Bitcoin Talk

อีกทั้ง ทุกๆ 4 ปี รางวัลจากการขุดบล็อกนั้นจะถูก Halving (ลดลงครึ่งนึง) — รางวัลของการขุดบล็อก BTC ก่อนหน้าเดือนพฤษภาคม 2020 นั้นจะอยู่ที่ 12.5 BTC ต่อบล็อก หลังจากเดือนพฤษภาคม 2020 (ซึ่งเป็นการ Halving ครั้งที่ 3) BTC ที่ขุดได้ต่อบล็อกนั้นก็จะลดลงเหลือเพียง 6.25 BTC ต่อบล็อกเท่านั้น — และจากสถิติในอดีตที่ผ่านมา ราคาของ Bitcoin นั้นจะพุ่งสูงขึ้นเมื่อเกิดการ Halving ในแต่ละครั้งอีกด้วย

โดยรวมแล้ว สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่มีส่วนทำให้ Bitcoin มีมูลค่าที่สูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม อีกเหตุผลที่ทำให้ Bitcoin นั้นเป็นที่ต้องการและมีมูลค่าเพิ่มมากยิ่งขึ้น นั่นก็คือประโยชน์ในการใช้งานของมัน

เกร็ดน่ารู้: ราคาสูงสุดตลอดกาลของ Bitcoin อยู่ที่ 69,045 ดอลลาร์ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2021

เราใช้ Bitcoin ทำอะไรได้บ้าง?

แรกเริ่มเดิมทีนั้น Bitcoin ได้รับการออกแบบมาให้เป็นสินทรัพย์เพื่อใช้ในการชำระเงินแบบ P2P แต่เนื่องด้วยการแข่งขันของ Crypto ต่างๆ ในปัจจุบัน มันก็ได้ทำให้เกิดกรณีการใช้งานในรูปแบบอื่นๆ มากขึ้น ซึ่งเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับ Bitcoin

  • ใช้ในการชำระเงิน: ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีร้านค้าหรือบริการรองรับมากนัก แต่ Bitcoin เองก็เป็นเหมือนสกุลเงินสกุลหนึ่ง ซึ่งเราสามารถใช้มันเพื่อชำระเงินสำหรับค่าบริการหรือสินค้าต่างๆ ที่รองรับได้ และด้วยความที่มันเป็นสกุลเงินดิจิทัล มันจึงมาพร้อมกับความสะดวกสบายในการพกพาเพื่อใช้งานอีกด้วย
  • ใช้ในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ: การโอนเงินระหว่างประเทศโดยการใช้ระบบทางการเงินแบบดั้งเดิมนั้น อาจจะมีความล่าช้าหรือไม่สะดวก ไม่ว่าจะเป็นการที่เราต้องเดินทางไปใช้บริการเหล่านั้นที่ศูนย์บริการเอง หรือไม่ว่าจะเป็นความล่าช้าในการโอนก็ตาม Bitcoin เป็นสิ่งที่ช่วยทลายข้อจำกัดนั้น คุณสามารถโอน BTC ให้ผู้รับได้อย่างรวดเร็วทันใจ
  • ใช้ในการซื้อขายเพื่อเก็งกำไร: Bitcoin เองก็มีประโยชน์ในฐานะสินทรัพย์ที่เราสามารถใช้มันเพื่อเก็งกำไรได้เช่นเดียวกับสินทรัพย์อื่นๆ ที่มีความผันผวน แต่ด้วยความที่ Bitcoin นั้นมีความผันผวนในระยะสั้นที่มากกว่า ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ดีอย่างยิ่งในการใช้มันเพื่อซื้อขายเพื่อทำกำไร
  • ใช้เป็นสินทรัพย์เพื่อเก็บรักษามูลค่า: จากการที่อุปทานของ BTC นั้นมีอยู่อย่างจำกัดที่ 21 ล้านเหรียญ ทำให้ Bitcoin นั้นเป็นสินทรัพย์ในกลุ่ม Store of Value (สินทรัพย์เพื่อการเก็บรักษามูลค่า) ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับนักลงทุนระยะยาว จนมันได้รับการขนานนามว่าเป็น “ทองคำดิจิทัล”

ประโยชน์การใช้งานที่หลากหลายเหล่านี้เป็นเหตุผลบางส่วนที่ทำให้ Bitcoin ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่สาวก Cryptocurrency แต่ไม่ใช่แค่เพียงเหตุผลของประโยชน์การใช้งานเท่านั้น เหตุผลส่วนหนึ่งมันก็ยังมาจากข้อดีจากคุณสมบัติต่างๆ ที่ Bitcoin มอบให้กับผู้ใช้งาน

เกร็ดน่ารู้: Bitcoin นั้นมีหน่วยย่อยเป็น Satoshi (ได้รับการตั้งชื่อตาม Satoshi Nakamoto ผู้ให้กำเนิด Bitcoin) 1 Satoshi นั้นมีค่าเท่ากับ 0.00000001 BTC

ข้อดี

Bitcoin และการขุดบิตคอยน์

นอกเหนือจากประโยชน์ในการใช้งานแล้ว Bitcoin ยังมีข้อดีต่างๆ ตามนี้:

  • Bitcoin เป็นสกุลเงินแบบกระจายอำนาจ: ข้อดีของการเป็นสกุลแบบกระจายอำนาจนั้นก็คือ ไม่มีใครที่สามารถควบคุมหรือจัดการมันได้ ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่า — นอกเหนือไปจากความผันผวนซึ่งเป็นธรรมชาติของ Crypto แล้ว — มูลค่าของ BTC นั้นจะไม่สามารถถูกแทรกแซงจากตัวตนรวมศูนย์ใดๆ ได้อย่างแน่นอน
  • Bitcoin ไม่ต้องการตัวกลางในการทำธุรกรรม: การทำธุรกรรมของ Bitcoin นั้น คุณไม่ต้องการตัวกลางในการรับหรือส่งเงินต่อให้ผู้รับ แต่สามารถส่ง BTC โดยตรงไปยัง Address (ที่อยู่กระเป๋าเงิน) ได้เลย สิ่งนี้ช่วยลดค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้น รวมไปถึงเพิ่มความรวดเร็วและความสะดวกสบายให้อีกด้วย
  • Bitcoin มีความโปร่งใส: ธุรกรรม Bitcoin ทั้งหมดนั้นจะถูกบันทึกและเปิดเผยเป็นสาธารณะ ใครก็ตามที่ต้องการตรวจสอบธุรกรรมเหล่านั้นก็สามารถทำได้ นั่นทำให้ Bitcoin มีความโปร่งใสเป็นอย่างมากในแง่มุมของที่มาที่ไปของเงินและธุรกรรมเหล่านั้น
  • Bitcoin มีความเป็นส่วนตัวสูง: ถึงแม้ว่าธุรกรรมจะถูกบันทึกเป็นสาธารณะและตรวจสอบได้โดยบุคคลทั่วไป แต่ Bitcoin นั้นถือว่ามีความเป็นส่วนตัวสูง การธุรกรรมของเรานั้นจะไม่มีการเชื่อมโยงกับข้อมูลส่วนตัวใดๆ นอกเหนือไปจาก Address ของเรา ซึ่งเป็นแค่เพียงชุดตัวเลขที่ไม่สามารถเชื่อมโยงไปถึงตัวตนจริงของเราได้
  • Bitcoin มีศักยภาพในการเติบโต: เมื่อมันได้รับการยอมรับในวงกว้างมากยิ่งขึ้น มันก็จะยิ่งเติบโตมากยิ่งขั้นทั้งในเรื่องของมูลค่าและความสามารถในการใช้งานที่แพร่หลาย

ข้อเสีย

Bitcoin ข้อดี ข้อเสีย

ถึงแม้ว่าจะมีประโยชน์มากมาย แต่ Bitcoin ก็มีข้อเสียอยู่บ้างเช่นกัน:

  • Bitcoin ขาดการกำกับดูแล: เมื่อการกระจายอำนาจมีข้อดี ก็ย่อมมีข้อเสียตามมา การไร้การกำกับดูแลหมายความว่า มันจะไม่มีอะไรรับประกันมูลค่าของ BTC ของคุณเลย หากมูลค่าของมันลดลงอย่างมาก จากเหตุผลใดๆ ก็ตาม รวมถึง หากเกิดปัญหาต่างๆ เช่นทำ Private Key สูญหาย หรือ ส่ง BTC ไปผิด Address คุณจะไม่สามารถติดต่อฝ่ายสนับสนุนใดๆ เพื่อขอความช่วยเหลือได้เลย
  • Bitcoin ยังไม่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง: จนถึงทุกวันนี้ มันก็ยังมีข้อถกเถียงกันว่า Bitcoin นั้นเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าที่แท้จริงหรือไม่ สิ่งนี้ทำให้ Bitcoin ยังไม่ได้รับการรองรับในการใช้งานในวงกว้างจากร้านค้าหรือบริการต่างๆ ในกระแสหลัก
  • Bitcoin มีความผันผวน: ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้า ความผันผวนนั้นคือธรรมชาติของสกุลเงินดิจิทัล ดังนั้น ถึงแม้มันจะช่วยให้สามารถซื้อขายเพื่อทำกำไรได้ แต่มันก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้คุณสูญเสียมูลค่าที่คุณจะต้องการรักษาไว้ได้เช่นกัน

หากต้องการลงทุนใน Bitcoin จะทำอย่างไรได้บ้าง?

การลงทุนใน Bitcoin หลักๆ นั้นมีอยู่ 2 วิธี ได้แก่

1. การขุด Bitcoin

การขุด Bitcoin นั้นยังสามารถแบ่งออกได้อีกเป็น 2 ประเภทย่อยๆ ได้แก่การขุด Bitcoin ด้วยตนเอง หรือ การใช้งาน Cloud Mining

1.1 การขุด Bitcoin ด้วยตนเอง: สิ่งที่เราจะต้องทำก็คือการจัดเตรียม Mining Rig หรือก็คือเครื่องขุด Bitcoin ที่มีประสิทธิภาพสูงนั่นเอง ยิ่งประสิทธิภาพสูงมากเท่าไหร่ ความสามารถในการขุด Bitcoin ของคุณก็จะสูงมากขึ้นเท่านั้น แต่แน่นอนว่ามันก็แลกมากับ “ค่าไฟ” ปริมาณมหาศาลที่คุณจะต้องจ่ายเพื่อทำการขุดเหรียญ BTC ดังนั้น ก่อนที่จะทำการลงทุน คุณควรจะศึกษาละเอียดว่า BTC ที่คุณจะขุดได้นั้นจะคุ้มค่ากับจำนวนเงินที่ต้องจ่ายไปสำหรับเครื่องขุดและค่าไฟหรือไม่

1.2 การขุด Bitcoin ด้วยการใช้ Cloud Mining: การขุด Cryptocurrency ด้วยการเช่าพลังการคำนวนที่ทรงพลังจากแหล่งอื่นๆ อย่างเช่น การเช่าจากผู้ให้บริการ Cloud Mining ซึ่งเราก็จะไม่ต้องเสียเงินก้อนใหญ่ไปกับการลงทุนกับเครื่องขุด Bitcoin (รวมถึงค่าไฟด้วย) เพียงแค่การจ่ายค่าบริการรายเดือนตามพลังการคำนวน (Hashrate Power) ที่คุณต้องการ แต่ข้อเสียของมันก็คือเราจำเป็นจะต้องหาผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือเพื่อเลือกใช้งาน ซึ่งเราได้รวบรวมรายชื่อไซต์ Cloud Mining ที่ดีที่สุดในปี 2023 มาไว้ให้คุณแล้ว

การขุด Bitcoin และ Cloud Mining

2. การซื้อขาย Bitcoin ผ่านแพลตฟอร์มกระดานเทรด

เช่นเดียวกับการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ นักลงทุนนั้นสามารถซื้อขาย Bitcoin ได้ผ่านแพลตฟอร์มกระดานเทรด Cryptocurrency ซึ่งเปิดให้ทำการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มนั้นก็จะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป เพื่อนๆ สามารถเข้าไปดูบทความของเรา — “9 กระดานเทรด Crypto ที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่” และ “แพลตฟอร์ม DEX ที่ดีที่สุดทั้ง 10 แพลตฟอร์มในปี 2023” ซึ่งเป็นบทความที่จะมีรายละเอียดต่างๆ ของแพลตฟอร์มกระดานเทรด Crypto ทั้งแบบ Centralized และ Decentralized อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ให้เพื่อนๆ ได้เลือกใช้งาน

ความเสี่ยงในการลงทุน Bitcoin

นักลงทุนมากมายต่างก็ถูกดึงดูดให้ก้าวเข้ามาลงทุนใน Bitcoin เป็นจำนวนมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ราคาของมันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะลดลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางรายก็มองว่าการลดลงของราคา Bitcoin เมื่อไม่นานมานี้เป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อมันเพื่อใช้เก็งกำไรในอนาคต อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมีความเสี่ยงอยู่เนื่องจากไม่มีผู้ใดสามารถรับประกันได้เลยว่า ราคาของมันจะเพิ่มขึ้นตามที่ได้คาดการณ์ไว้ และมันยังมีความเสี่ยงอื่นๆ ที่เราควรต้องระวังให้ดีก่อนที่จะทำการลงทุนใน Bitcoin

  • ความเสี่ยงจากการขาดกฏระเบียบดูแล: ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้า การขาดการกำกับดูแล — ไม่ว่าจะจากส่วนกลางที่เป็นภาคบริษัทต่างๆ หรือแม้กระทั่งในส่วนของรัฐบาลก็ตาม — ทำให้มันขาดการรับประกันราคาและมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการสูญเสียได้ (เหมือนกับกรณีการล่มสลายของ FTX เมื่อไม่นานมานี้) อีกทั้ง มันยังได้ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความยั่งยืนของมันอีกด้วย
  • ความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัย: นอกเหนือไปจากความเสี่ยงที่เกิดจาก Human Error อย่างการทำ Private Key สูญหายหรือส่งสินทรัพย์ไปผิด Address แล้ว มันยังมีความเสี่ยงจากโลกออนไลน์ เช่น ความเสี่ยงในการถูกแฮ็ก, การถูกมัลแวร์ หรือการใช้ช่องโหว่ต่างๆ จากระบบของกระดานเทรดที่เราใช้ทำการซื้อขายอีกด้วย
  • ความเสี่ยงเรื่องตลาดการลงทุน: สกุลเงินดิจิทัลนั้นมีความผันผวนสูง อีกทั้ง มันยังอ่อนไหวต่อเหตุการณ์หรือข่าวต่างๆ ค่อนข้างมากอีกด้วย ซึ่งทำให้ราคาของมันสามารถวิ่งขึ้นลงได้อย่างมากภายในช่วงแค่ไม่กี่ชั่วโมงหรือนาทีเท่านั้น ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดการสูญเสียของเงินทุนของเราได้อย่างรวดเร็ว

การลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลไม่ว่าจะเป็น Bitcoin หรือสกุลเงินดิจิทัลตัวอื่นๆ นั้นต่างก็มีความเสี่ยงอยู่ไม่มากก็น้อย ดังนั้น ก่อนที่จะทำการลงทุนใดๆ ก็ตาม โปรดศึกษาข้อมูลต่างๆ ให้ดีก่อนนะครับ!

🎄แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | ธันวาคม 2024
🎄แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | ธันวาคม 2024
🎄แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | ธันวาคม 2024

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์

Akhradet-Mornthong-Morn.jpg
Akradet Mornthong
อัครเดช หมอนทอง เป็น นักแปล/นักเขียนคอนเทนต์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน NFT Games, Metaverse, AI, Crypto และเทคโนโลยีใหม่ๆ เขาจบการศึกษาในสาขาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล และมีประสบการณ์ในการทำงานในวงการเกมมากกว่า 10 ปี เมื่อ NFT Games ได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาก็ไม่พลาดที่จะก้าวเข้ามาในวงการนี้เพื่อศึกษาข้อมูลในเชิงลึกต่างๆ ของวงการ NFT รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain และ Crypto อีกด้วย
READ FULL BIO
ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน