CyberConnect คืออะไร? เครือข่ายโซเชียลมีเดีย Web3 ที่ร้อนแรงที่สุด!

ในปัจจุบัน ด้วยการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้น Web3 ได้กลายมาเป็นอนาคตของอินเตอร์เน็ตยุคใหม่ หนึ่งในโปรเจกต์ที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพเป็นอย่างมากก็คือ CyberConnect ซึ่งมีเป้าหมายที่จะช่วยให้ผู้คนเชื่อมต่อกันบนโลกโซเชียลมีเดียได้มากยิ่งขึ้น ในขณะที่ยังคงความสามารถในการกระจายอำนาจเอาไว้ ในบทความนี้ เราจะมาเรียนรู้กันว่า CyberConnect คืออะไร? มันทำงานอย่างไร? รวมไปถึงข้อมูลต่างๆ ที่น่าสนใจ

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาของ CYBER ซึ่งเป็นโทเค็นของเครือข่าย CyberConnect พุ่งสูงขึ้นกว่า 250% ส่งผลให้มันได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากนักลงทุน ถึงแม้ว่าในขณะที่เขียนบทความนี้ ราคาของ CYBER จะลดลงมาอยู่ที่ราวๆ 5 ดอลลาร์ แต่การที่ราคาของมันพุ่งสูงขึ้น ในขณะที่ความเชื่อมั่นโดยรวมของตลาดคริปโตอยู่ในขาลง นั่นก็ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากจริงๆ

CyberConnect คืออะไร?

CyberConnect คือ เครือข่ายโซเชียล Web3 แบบ Multi-Chain ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปโซเชียลมีเดียที่ผู้ใช้งานสามารถควบคุมข้อมูลประจำตัว เนื้อหาต่างๆ การเชื่อมต่อ และการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์

ด้วยการใช้ประโยชน์จากมาตรฐานโทเค็น ERC-4337 (Account Abstraction) CyberConnect ช่วยลดความซับซ้อนในการใช้ในการใช้งานเครือข่ายสกุลเงินคริปโตได้เป็นอย่างมาก และช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ในการใช้งานโซเชียลมีเดียแบบกระจายอำนาจที่สามารถเทียบเคียงกับเครือข่าย Web2 แบบดั้งเดิมได้เลยทีเดียว

ประวัติความเป็นมาของ CyberConnect

CyberConnect ก่อตั้งขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2021 โดยทีมงาน 4 คน ได้แก่ Wilson Wei (CEO), Ryan Li (CTO), Zhimao Liu (รองประธานฝ่ายวิศวกรรม), และ Shiyu Zhang (หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์) ก่อนหน้านี้ พวกเขาร่วมงานกันที่ BitTorrent และเริ่มที่จะตะหนักว่า เทคโนโลยีบล็อกเชนอาจจะเป็นแนวทางที่ดีที่จะใช้เพื่อสร้างข้อมูลประจำตัวดิจิทัลและเชื่อมต่อมันเข้ากับคนอื่นๆ

บริษัทแม่ของ CyberConnect อย่าง Cybertino Inc. ได้รับเงินลงทุนจากบริษัทร่วมทุนชื่อดังเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Animoca Brands, Multicoin Capital, Sky9 Capital, Draper Dragon และ Lattice Capital เป็นต้น ปัจจุบัน เหล่านักพัฒนาซอฟต์แวร์มากมายต่างก็ใช้เครือข่าย CyberConnect ในการสร้าง Web3 Social DApps ของตนเองขึ้นมา

CyberConnect ทำงานอย่างไร

CyberConnect ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานสำหรับแอปพลิเคชั่นเครือข่ายโซเชียล Web3 พร้อมกับมอบประสบการณ์ Web2 ที่คุ้นเคยให้กับผู้ใช้งาน CyberConnect จะประกอบไปด้วยองค์ประกอบหลักๆ ดังต่อไปนี้:

• CyberID: เป็นโทเค็น ERC-721 ที่ใช้เป็นโปรไฟล์ประจำตัวของคุณ (ทำงานคล้ายกับโปรไฟล์ของคุณบน Instagram หรือ Twitter) CyberProfiles ที่ผู้ใช้งานได้ลงทะเบียนไว้บน CyberConnect V2 จะได้รับการอัพเกรดให้เป็น CyberID ในเร็วๆ นี้ และจากการที่ CyberID เป็นโทเค็น ERC-721 ดังนั้น มันจึงเป็น NFT ด้วยเช่นกัน

• CyberAccount: ระบบ CyberAccount คือ กลุ่ม Smart Contract ที่ใช้สร้างข้อมูลประจำตัวดิจิทัลแบบองค์รวม ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าสู่แพลตฟอร์มโซเชียล Web3 แบบ Multi-Chain ได้อย่างง่ายดาย ด้วยการใช้ประโยชน์จาก ERC-4337 (Account Abstraction) ผู้ใช้งานสามารถชำระค่าแก๊สด้วยโทเค็น CYBER บนเครือข่ายที่รองรับได้ ทำให้การทำธุรกรรมต่างๆ มีความราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น CyberAccount มีอยู่หลายรูปแบบ คุณสามารถเลือกได้ว่าจะใช้เป็นบัญชีผู้ใช้งานรายบุคคล หรือ บัญชีกลุ่มสำหรับแบรนด์หรือทีมงานก็ได้

• CyberGraph: เป็นกลุ่ม Smart Contract ที่เชื่อมโยงข้อมูลประจำตัวของผู้ใช้งาน (CyberAcconts) เข้ากับเนื้อหาและผู้ใช้งานรายอื่นๆ โดยจะบันทึกข้อมูลโซเชียลที่สำคัญเหล่านั้นลงไปในบล็อกเชนต่างๆ ที่สามารถทำงานร่วมกับ EVM (Ethereum Virtual Machine) ได้ ด้วย CyberGraph ผู้ใช้งานสามารถสร้างรายได้จากเนื้อหาของตนด้วยการเปลี่ยนมันเป็นโทเค็นได้ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสในการสร้างเศรษฐกิจในรูปแบบใหม่ในเครือข่ายโซเชียลมีเดีย

• W3ST (Web3 Status Token): เป็น NFT ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้เพื่อกำหนดบทบาทและเข้าร่วมกลุ่ม Web3 (หรือที่เรียกว่า “Tribe”) ที่ต้องการได้ องค์กรต่างๆ สามารถใช้ W3ST เป็นรางวัลให้แก่สมาชิกที่มีความกระตือรือร้นมากที่สุดได้ ซึ่งเป็นการช่วยสร้างระบบแรงจูงใจที่ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานได้

คุณสมบัติต่างๆ ที่ทำให้ CyberConnect โดดเด่น

จุดประสงค์หลักของ CyberConnect คือการช่วยให้ผู้ใช้งานควบคุมข้อมูลประจำตัว เนื้อหา และข้อมูลบนโลกโซเชียลของตนได้ ทำให้ผู้ใช้งานได้รับประโยชน์จากอัตลักษณ์ในโลกดิจิทัลของตนเองได้อย่างเต็มที่ และช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมาได้

คุณสมบัติต่างๆ ที่ทำให้ CyberConnect มีความโดดเด่นมีดังต่อไปนี้:

• เพิ่มศักยภาพในการควบคุมข้อมูลของผู้ใช้งาน: CyberConnect ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตัดสินใจได้ว่าจะใช้ข้อมูลโซเชียลของตนอย่างไร ที่ไหน และเพื่อวัตถุประสงค์ใด ผู้ใช้งานสามารถสร้าง แก้ไข และถ่ายโอนข้อมูลต่างๆ ผ่าน DApps หลายๆ ตัวในระบบนิเวศ CyberConnect ได้อย่างอิสระ และยังช่วยปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานเช่นกัน

• ความยืดหยุ่นในการใช้งาน: ผู้ใช้งานเครือข่าย CyberConnect สามารถเคลื่อนย้ายข้อมูลของตนเองสลับไปมาระหว่างแอปพลิเคชั่นต่างๆ โดยไม่ทำให้ผู้ใช้งานขาดการติดต่อกับบุคคลที่พวกเขาเชื่อมต่ออยู่ นอกจากนี้ โปรโตคอล CyberConnect ยังสามารถปรับขนาดเพื่อรวบรวมข้อมูลประจำตัวผู้ใช้งานและข้อมูลต่างๆ ผ่านเครือข่ายบล็อกเชนที่หลากหลายได้อีกด้วย

• เป็นที่จดจำของคอมมูนิตี้ได้อย่างง่ายดาย: ด้วยข้อมูลที่บันทึกไว้ในโทเค็น W3ST องค์กรหรือกลุ่มต่างๆ จะสามารถจดจำและให้รางวัลแก่ผู้ใช้งานที่ให้การสนับสนุนโปรเจกต์หรือกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

• ความสะดวกสบาย: CyberConnect ช่วยให้ DApp ใช้ Middleware จาก Repository ซ้ำอีกครั้งได้เลย ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาและต้นทุนให้กับนักพัฒนาได้ เมื่อเทียบกับการเขียนโค้ดเพื่อใช้งานซอฟต์แวร์ตามปกติ

• ลดค่าแก๊ส: CyberAccount ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Account Abstraction เพื่อปรับแต่ง Smart Contract ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้โทเค็น CYBER บนเครือข่ายใดๆ เพื่อชำระค่าแก๊สบนเครือข่ายอื่นๆ ได้โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเครือข่าย

• การกระจายอำนาจ: บัญชีและเนื้อหาของผู้ใช้งานจะถูกเชื่อมโยงและบันทึกไว้ใน Smart Contract ของ CyberGraph ซึ่งเป็นการลดอำนาจในการควบคุมของ 3rd Party และเพิ่มความสามารถในการกระจายอำนาจของ DApps ที่สร้างไว้บนเครือข่าย CyberConnect

• สร้างรายได้จากการสมัครสมาชิก: กลไกการสมัครสมาชิก (Subscribe) จะกระตุ้นให้ผู้ใช้งานกลายมาเป็นครีเอเตอร์เพื่อผลิตคอนเท้นท์คุณภาพสูงที่สามารถสร้างรายได้ และดึงดูดผู้ใช้งานเข้ามาที่คอมมูนิตี้ได้มากยิ่งขึ้น

โทเค็นหลักของเครือข่าย: CYBER

CYBER คือ Utility (โทเค็นที่สามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลายรูปแบบ) และ Governance (โทเค็นที่ผู้ถือจะมีสิทธิ์ในการลงคะแนนเพื่อกำหนดทิศทางในการพัฒนาเครือข่าย) Token ของเครือข่าย CyberConnect ซึ่งมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก ผู้ใช้งานที่ถือโทเค็น CYBER จะมีสิทธิ์ในการลงคะแนนผ่านระบบกำกับดูแลแบบกระจายอำนาจเพื่อกำหนดทิศทางในการพัฒนาเครือข่าย นอกเหนือจากการกำกับดูแลแล้ว CYBER ยังสามารถใช้เพื่อซื้อ CyberID ในระดับพรีเมี่ยมได้ และใช้เพื่อจ่ายเป็นค่าแก๊สในการใช้งานเครือข่ายได้อีกด้วย

CYBER เป็นโทเค็นที่สร้างขึ้นบนมาตรฐาน ERC-20 ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบกับบล็อกเชนต่างๆ ได้โดยไม่ต้องใช้งานสกุลเงินคริปโตหลายสกุล CYBER มีอุปทานทั้งหมดอยู่ที่ 100 ล้านโทเค็น อุปทานหมุนเวียนในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 11 ล้านโทเค็น และอุปทานทั้งหมดจะไม่ถูกปลดล็อกจนกว่าจะถึงปี 2028 โทเค็น CYBER มีการจัดสรรดังต่อไปนี้

การจัดสรรโทเค็น CYBER

• ทีมงานและที่ปรึกษา: 15% — จะถูกล็อกไว้เป็นเวลา 15 เดือนหลังจาก TGE และจะทยอยปลดล็อกทุกๆ ไตรมาสภายในช่วงระยะเวลา 3 ปี

• Private Sale: 25.12% — จะถูกล็อกไว้เป็นเวลา 12 เดือนหลังจาก TGE และจะทยอยปลดล็อกทุกๆ ไตรมาสภายในช่วงระยะเวลา 3 ปี

• Treasury ของคอมมูนิตี้: 10.88% — 10% จะถูกปลดล็อกในช่วง TGE; ส่วนที่เหลืออีก 90% จะทยอยปลดล็อกทุกๆ เดือนภายในช่วงระยะเวลา 5 ปี

• รางวัลสำหรับคอมมูนิตี้: 12% — 20% จะถูกแจกจ่ายให้กับผู้ใช้งานในช่วงเริ่มต้นในช่วง TGE; ส่วนที่เหลืออีก 80% จะเก็บไว้เป็นรางวัลสำหรับคอมมูนิตี้ในอนาคต

• CoinList Public Sale: 3% — 25% จะถูกปลดล็อกในช่วง TGE; ส่วนที่เหลืออีก 75% จะทยอยปลดล็อกทุกๆ เดือนภายในช่วงระยะเวลา 6 เดือน

• การพัฒนาระบบนิเวศ: 34% — รายละเอียดจะแยกย่อยเพิ่มเติมในหัวข้อด้านล่าง

รวมทั้งหมด 100%

โทเค็นที่จัดสรรให้กับการพัฒนาระบบนิเวศ

• พาร์ทเนอร์ของระบบนิเวศ: 9% — 20% จะถูกปลดล็อกในช่วง TGE; ส่วนที่เหลืออีก 80% จะทยอยปลดล็อกทุกๆ เดือนภายในช่วงระยะเวลา 4 ปี

• คอมมูนิตี้ของนักพัฒนา: 10% — 5% จะถูกปลดล็อกในช่วง TGE; ส่วนที่เหลืออีก 80% จะทยอยปลดล็อกทุกๆ เดือนภายในช่วงระยะเวลา 3 ปี

• พาร์ทเนอร์ที่เชื่อมต่อผลิตภัณฑ์และบริการเข้าด้วยกันในช่วงเริ่มต้น: 5% — 10% จะถูกปลดล็อกในช่วง TGE; ส่วนที่เหลืออีก 90% จะทยอยปลดล็อกทุกๆ เดือนภายในช่วงระยะเวลา 3 ปี

• การตลาด: 10% — 10% จะถูกปลดล็อกในช่วง TGE; ส่วนที่เหลืออีก 90% จะทยอยปลดล็อกทุกๆ เดือนภายในช่วงระยะเวลา 3 ปี

รวมทั้งหมด 34%

โอกาสและความท้าทายสำหรับ CyberConnect

ปัจจุบัน อุตสาหกรรมเครือข่ายโซเชียลมีเดียนั้นถูกควบคุมโดยบริษัทยักษ์ใหญ่เพียงไม่กี่รายเท่านั้น ซึ่งพวกเขาเหล่านี้ต่างก็มุ่งเน้นไปที่เรื่องผลกำไร ซึ่งมักจะนำไปสู่การแสวงหาผลประโยชน์ต่างๆ รวมไปถึง การควบคุมและจัดการเนื้อหา คอมมูนิตี้ และข้อมูลผู้ใช้งานเพื่อสร้างรายได้ให้กับตนเองมากยิ่งขึ้น อำนาจรวมศูนย์ของเครือข่ายโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่เหล่านี้ต่างก็ใช้ข้อมูลของผู้ใช้งานในการสร้างรายได้โดยที่ผู้ใช้งานไม่มีทางเลือกมากนัก

CyberConnect มีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ เหล่านี้ด้วยการสร้างเครือข่ายโซเชียลมีเดียที่คอมมูนิตี้เป็นผู้ควบคุมดูแลด้วยตนเอง ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมข้อมูลต่างๆ ของพวกเขาบนโลกดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์ และจะไม่ถูกควบคุมหรือจัดการจากบริษัทใดบริษัทหนึ่ง

CyberConnect คือเครือข่ายโซเชียลแบบกระจายอำนาจแห่งแรกและใหญ่ที่สุดบนแพลตฟอร์ม Web3 พวกเขาช่วยให้เหล่านักพัฒนาสามารถสร้างแอปโซเชียลที่ผู้ใช้งานสามารถเป็นเจ้าของข้อมูลและเนื้อหาของตนเองได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งยังสามารถสร้างรายได้จากคอนเท้นต์เหล่านั้นได้อีกด้วย

นอกจากนี้ โดยหลักการแล้ว การใช้งานเครือข่าย CyberConnect จะทำให้ข้อมูลของผู้ใช้งานมีความโปร่งใสอย่างสมบูรณ์ ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ใช้งานที่ชื่นชอบในความเป็นส่วนตัวของข้อมูลเกิดความกังวลอยู่บ้าง อีกทั้ง CyberConnect ยังคงต้องเผชิญหน้ากับการแข่งขันที่ดุเดือดในพื้นที่ Web3 นี้ คู่แข่งที่โดดเด่นหลายๆ ราย ไม่ว่าจะเป็น Mirror, Paragraph, Orbis Club หรือ Convo Space ฯลฯ แอปเหล่านี้ต่างก็เป็น Web3 Social DApp แบบ Multi-Chain ซึ่งถือเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับ CyberConnect เช่นกัน

บทส่งท้าย

CyberConnect ตั้งเป้าที่จะส่งมอบเครือข่ายโซเชียลมีเดีย Web3 ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร โดยการช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบกับ DApps บนเครือข่ายที่หลากหลายได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมทั้งยังสามารถรักษาความเป็นเจ้าของของข้อมูลประจำตัว และเนื้อหาต่างๆ ของตนเองได้อย่างสมบูรณ์ CyberConnect มีศักยภาพที่ซุกซ่อนอยู่มากมาย มาจับตาดูกันว่า แพลตฟอร์มของพวกเขาจะกลายมาเป็นมิตรแท้ของผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตในยุคใหม่อย่าง Web3 ได้หรือไม่?

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | เมษายน 2024

YouHodler สำรวจเลย →

BYDFi สำรวจเลย →

CoinEx สำรวจเลย →

BingX สำรวจเลย →

Coinrule สำรวจเลย →

Bybit สำรวจเลย →

ดูเพิ่มเติม