Trusted

Fibonacci คืออะไร? วิธีตีเส้น Fibo และวิธีการใช้งาน Fibonacci ปี 2023

8 mins
อัพเดทโดย Apinat Phosuwan

Fibonacci คือ สัดส่วนตัวเลขธรรมชาติที่ที่หลังจาก 0 และ 1 ทุกตัวเลขคือผลรวมของตัวเลข 2 ตัวก่อนหน้าไล่ไปเรื่อยๆ โดยปัจจุบันเอามาใช้การในการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวราคาของสินทรัพย์ด้วยเช่นกัน

ในปัจจุบัน เมื่อเรานึกถึงเครื่องมือที่จะช่วยเราในการซื้อขายคริปโต แน่นอนว่าทุกคนมักจะนึกถึงหรือเคยได้ยินชื่อ Fibonacci Retracement Level อย่างแน่นอน มันเป็นหนึ่งในเครื่องมือยอดนิยมที่ช่วยให้นักเทรดสามารถวิเคราะห์หรือคาดการณ์ทิศทางความเคลื่อนไหวของราคาคริปโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้ เราจะมาเรียนรู้กันว่า Fibonacci คืออะไร? มันมีต้นกำเนิดมาจากอะไร? และเราสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างไร? ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย!

BeInCrypto Trading Community บน Telegram: พูดคุยกันเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาด รับชมคอร์สพื้นฐานการซื้อขายฟรี และสอบถามข้อมูลต่างๆ ที่คุณต้องการจากนักเทรดมืออาชีพ!

มาเข้าร่วมกันเลย!

Fibonacci คืออะไร?

Fibo หรือ Fibonacci คือ สัดส่วนตัวเลขที่เท่ากันอยู่ในธรรมชาติ ที่คิดค้นขึ้นโดย Leonardo Bigollo Pisano หรือ คนเรียกว่า เลโอนาร์โด ฟีโบนัชชี (นักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลี) เป็นผู้ค้นพบสัดส่วนนี้โดยการเขาที่สังเกตว่าธรรมชาติรอบตัวเรา มีความพิเศษและมีความเป็นสัดส่วนที่เท่ากันเช่น อัตราส่วนของเปลือกหอย อัตราส่วนคลื่นทะเล และอีกมากมาย

และในต่อมาเมื่อโลกมีตลาดทุน ตลาดหุ้นเกิดขึ้น นักลงทุนได้ลองนำสัดส่วนนี้มาเทียบกับการเคลื่อนที่ของตลาดนั่น เพราะ ราคาพวกนี้มันเคลื่อนที่เหมือนคลื่นทะเลเช่นกัน แล้วก็พบว่า ราคาตลาดหุ้นมีสัดส่วนในการเคลื่อนที่แบบเดียวกับลำดับ Fibonacci ด้วยเหมือนกัน จนมีคำที่เกิดขึ้นมา เรียกว่า Golden Ratio (สัดส่วนทองคำ)

ลำดับสัดส่วน ตัวเลข Fibonacci
Fibonacci Sequence: Wikipedia

เลขลำดับฟิโบนัชชี (Fibonacci Number)

นักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลี Leonardo Fibonacci (เลโอนาร์โด ฟีโบนัชชี) คือผู้ที่คิดค้นและทำให้ชุดตัวเลขที่เรียกว่า Fibonacci Sequence หรือ Fibonacci Number (ลำดับฟีโบนัชชี) โด่งดังและได้รับความนิยมขึ้นมา

ตามทฤษฏี เลขลำดับฟิโบนัชชี (Fibonnacci Number) คือ ลำดับของตัวเลขต่างๆ ที่อยู่ในลำดับจำนวนเต็มดังนี้

0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, 89, 144, 233, 377, 610, 987, 1597, 2584,  … (ลำดับ OEIS A000045)

จะสังเกตว่าลำดับที่เริ่มต้นจาก 0 และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่น 0, 1, 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55… ต่อไปเรื่อยๆ โดยตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมาในลำดับต่อๆ มานั้นจะเป็นผลรวมของตัวเลข 2 ตัวก่อนหน้านั่นเอง

  • 0+1 = 1 (0, 1, 1)
  • 1+1 = 2 (0, 1, 1, 2)
  • 1+2 = 3 (0, 1, 1, 2, 3)
  • 2+3 = 5 (0, 1, 1, 2, 3, 5)
  • 3+5 = 8 (0, 1, 1, 2, 3, 5, 8)

เราสามารถบวกกันต่อแบบนี้ไปได้เรื่อยๆ เป็นตัวเลขอนันต์อย่างไม่รู้จบ

ซึ่งสัดส่วนตรงนี้ เมื่อนำเลขมามาวิเคราะห์ใหม่ จะเจอความมหัศจรรย์มากมาย

เช่น ถ้าเราเอาเลขมากหารเลขน้อยก่อนหน้า เช่น 21÷13 จะได้ 1.625 และถ้าเราเอาเลขใหญ่มากขึ้นมาทำแบบเดียวกัน เช่น 144÷89 จะเท่ากับ 1.618 ซึ่งพอมีนักคณิตศาสตร์พยายามทดลองจะเห็นว่ายิ่งเอาเลขมากหารเลขน้อยไปเรื่อยๆ จะได้เข้าใกล้ค่า 1.618 ขึ้นเรื่อยๆ

ซึ่งเลข 1.618 นี่เอาไปใช้กับกฏธรรมชาติได้หลายอย่าง จนเราเรียกว่า “สัดส่วนทองคำ Golden Ratio”

สัดส่วนทองคำ หรือ Golden Ratio เท่ากับ 1.618

แล้วฟิโบนัชชีเข้ามาเกี่ยวข้องกับคริปโตหรือการเทรดได้อย่างไร?

หลังจากที่ Fibonacci Sequence (ลำดับฟีโบนัชชี) ได้โด่งดังขึ้นมา ผู้คนก็ได้ทำการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับลำดับตัวเลขเหล่านี้และพบว่า มันได้ก่อให้เกิดอัตราส่วน 61.8% หรือที่เรามักจะได้ยินกันในชื่อ “อัตราส่วนทองคำ” (Golden Ratio) ขึ้นมา ซึ่งสามารถพบอัตราส่วนเหล่านี้ได้จากสิ่งต่างๆ ในธรรมชาติด้วยเช่นกัน

สัดส่วนทองคำ หรือ Golden Ratio เท่ากับ 1.618 ซึ่งพบได้ตามธรรมชาติเช่นเปลือกหอย
ตัวอย่างของ Golden Ratio ในเปลือกหอย: mathnasium.com

ยิ่งไปกว่านั้น อัตราส่วนดังกล่าวยังถูกพบในตลาดการเงินของมนุษย์เช่นกัน ซึ่งโดยปกติแล้วจะพบอัตราการกลับตัวที่ 61.8% หลังจากที่ความเคลื่อนไหวของราคามีความก้าวหน้าถึง 100% ซึ่งเป็นที่มาของการสร้างเครื่องมือ Fibonacci Retracement Level ขึ้นมานั่นเอง

เครื่องมือ Fibonacci Retracement หรือ การตี Fibo คืออะไร

Fibonacci Retracement คือ เครื่องดูระดับที่ซ่อนอยู่ของแนวรับและแนวต้านของราคาสินทรัพย์ที่มีโอกาสจะกลับตัว โดยระดับหลักๆ ที่ใช้งานกันก็คือ 23.6%, 38.2%, 50.00%, 61.8% และ 78.6%

แล้วตัวเลขเหล่านี้มาได้อย่างไร?

ระดับของตัวเลขเหล่านี้เกิดจากการใช้ตัวเลขหารตัวเลขที่มีตำแหน่งสูงกว่า 1, 2, 3 ลำดับถัดไป ก็จะได้ผลลัพธ์ค่าเฉลี่ยออกมาเป็นตัวเลขดังกล่าวนั่นเอง

ที่มาของระดับ Fibonacci Retracement
ที่มาของระดับ Fibonacci Retracement: bybit.com

ตัวเลขดังกล่าวก็จะถูกแปลงออกมาเป็นค่าเปอร์เซ็นต์ได้ดังนี้

  • 0.618 = 61.8%
  • 0.382 = 38.2%
  • 0.236 = 23.6%

ระดับ 78.6% หรือ 0.786 นั้นก็เป็นอีกหนึ่งระดับที่สำคัญ ซึ่งเกิดจากการหาค่าสแควรูทของระดับ 0.618 ซึ่งเป็นระดับแรกที่สำคัญนั่นเอง

อีกระดับหนึ่งที่อาจจะไม่ใช่ระดับที่คำนวนมาจาก Fibonacci Sequence แต่ถูกเพิ่มเข้ามาเนื่องจากเป็นจุดที่สำคัญสำหรับการกลับตัวที่สามารถเกิดขึ้นได้ตามทฤษฎีอื่นๆ ได้แก่ ระดับ 0.50 หรือ 50.00% นั่นเอง

ตัวอย่างการใช้งานเครื่องมือ Fibonacci Retracement หรือ ตัวอย่างการตี Fibo

เครื่องมือ Fibonacci Retracement นั้นใช้งานได้ค่อนข้างง่าย คุณเพียงแค่ต้องกำหนดจุดที่ราคาแกว่งตัวต่ำที่สุด (Swing Low) และสูงที่สุด (Swing High) เพื่อทำการสร้างระดับ Fibonacci Retracement ขึ้นมา

กำหนดจุดที่ราคาแกว่งตัวต่ำที่สุด และสูงที่สุด เพื่อสร้างระดับการเทรดที่แม่นยำ

จากรูป เรากำหนดให้จุด A เป็นจุด Swing Low และจุด B เป็นจุด Swing High จากนั้น ให้ใช้เครื่องมือ Fibonacci Retracement ลากจากจุด A ไปยังจุด B (หรือระดับเดียวกันกับจุด B) เพื่อที่จะสร้าง Fibonacci Retracement Level ขึ้นมา ซึ่งจะเห็นได้จากตัวเลขข้างเส้นระดับทางด้านซ้ายมือ ซึ่งก็คือ 0.236 (23.6%), 0.382 (38.2%), 0.5 (50%), 0.618 (61.8%), 0.786 (78.6%), 1 (100%)

จากรูปตัวอย่าง เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เมื่อราคาของ BTC ลดลงมา(เกือบ)อยู่ที่ระดับ 0.618 ราคาของมันก็ได้มีการเด้งกลับขึ้นไป ตามทฤษฏีที่ว่าราคาสินทรัพย์มีโอกาสที่จะกลับตัวในระดับดังกล่าวซึ่งเป็นระดับ Fibonacci Retracement ที่สำคัญ

เครื่องมือ Fibonacci Retracement สามารถใช้งานได้ทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง โดยในตลาดขาขึ้น เราจะต้องลากเส้นจากจุดต่ำสุดไปยังจุดสูงสุด และในทางกลับกัน ในตลาดขาลง เราจะต้องลากเส้นจากจุดสูงสุดไปยังจุดต่ำสุดนั่นเอง

เทคนิคการตี Fibo อย่างมีประสิทธิภาพ

แม้ว่า Fibonacci Retracement จะเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมที่ช่วยให้คุณสามารถคาดการณ์ความเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ได้ แต่ถึงกระนั้น เพื่อที่จะใช้งานมันอย่างมีประสิทธิภาพ มันก็มีข้อจำกัดบางอย่างที่เราควรจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับมันเสียก่อน

  • แนวโน้มของตลาดจะต้องมีความชัดเจน: เพื่อที่จะสามารถใช้งานเครื่องมือ Fibonacci Retracement ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แนวโน้มของตลาดนั้นจะต้องมีความชัดเจนว่าเป็นตลาดขาขึ้นหรือตลาดขาลง เนื่องจากเราจะสามารถค้นหาจุดสูงสุดและต่ำสุดเพื่อใช้สร้างระดับ Fibonacci Retracement ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งจะช่วยให้เราคาดการณ์ถึงความเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น
  • ตลาดขนาดใหญ่ให้สัญญาณที่น่าเชื่อถือกว่าตลาดขนาดเล็ก: ตลาดคริปโตขนาดเล็กนั้นอาจจะมีปริมาณการซื้อขายไม่เทียบเท่ากับตลาดคริปโตขนาดใหญ่ เช่น Bitcoin เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลให้สัญญาณของระดับ Fibonacci Retracement ที่เราได้รับจากตลาดคริปโตขนาดเล็กนั้นไม่มีความน่าเชื่อถือมากนัก
  • ควรใช้มันควบคู่ไปกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ: ถึงแม้ว่าเครื่องมือ Fibonacci Retracement จะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพด้วยตัวมันเอง แต่อย่างไรก็ตาม การใช้มันควบคู่ไปกับตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่นๆ ก็จะยิ่งทำให้มันมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และยังช่วยเป็นการยืนยันเกี่ยวกับข้อมูลที่คาดการณ์ได้ดียิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน ตัวอย่างของตัวชี้วัดที่มักจะใช้ควบคู่ไปกับ Fibonacci Retracement ได้แก่ Bollinger Bands, Stochastic RSI, Ichimoku Cloud เป็นต้น

ประโยชน์และความเสี่ยงจากการใช้งาน Fibonacci Retracement

ความเสี่ยงและประโยชน์จากการใช้ Fibonnaci ในการเทรด

ประโยชน์หลักๆ ของ Fibonacci Retracement นั้นคือการใช้มันเพื่อกำหนดระดับ Stop-Loss หรือกำหนดเป้าหมายของราคาที่เราต้องการ ตัวอย่างเช่น หากนักเทรดมองเห็นความเคลื่อนไหวของราคาคริปโตที่ลดลงหลังจากพุ่งสูงขึ้น (ในขณะที่อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น) พวกเขาสามารถลากเส้นระดับ Fibonacci Retracement เพื่อดูว่าราคามันจะเริ่มเพิ่มสูงขึ้นอีกเมื่อใด เนื่องจากเราสามารถคาดการณ์ได้ว่าราคาของคริปโตจะเกิดการเด้งกลับที่ระดับ Fibonacci Retracement ระดับใดระดับหนึ่ง และเราสามารถเข้าซื้อคริปโตในระดับราคาดังกล่าวก่อนที่ราคาจะเพิ่มสูงขึ้นเพื่อทำกำไรได้ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะมีประสิทธิภาพ แต่ข้อเสียหลักๆ ของ Fibonacci Retracement คือผู้ใช้งานจะต้องมีความรู้ความเข้าใจการพลอตกราฟในระดับหนึ่ง รวมไปถึง เพื่อให้ได้ความแม่นยำมากยิ่งขึ้น ผู้ใช้งานอาจจะต้องศึกษาเครื่องมือทางการเงินตัวอื่นๆ เพื่อใช้งานพวกมันร่วมกับ Fibonacci Retracement อีกด้วย ดังนั้น หากผู้ใช้งานไม่มีความรู้ความเข้าใจที่มากเพียงพอ ก็อาจจะทำให้อ่านสัญญาณผิดพลาด หรือ ใช้งานเครื่องมืออย่างไม่ถูกวิธีได้

บทสรุปเรื่องราวฟิโบนัชชี

เครื่องมือ Fibonacci Retracement ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของเหล่านักเทรด มันสามารถช่วยให้คุณระบุถึงระดับแนวรับและแนวต้านที่ซ่อนอยู่ เพื่อให้คุณสามารถจับจังหวะการซื้อขายเพื่อการทำกำไรได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม เพื่อที่จะใช้งานมันได้อย่างเชี่ยวชาญ คุณอาจจะต้องทำการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับมันเพิ่มเติม รวมไปถึงข้อมูลของเครื่องมือตัวชี้วัดอื่นๆ เพื่อใช้งานควบคู่กันไปและทำให้ได้รับสัญญาณความเคลื่อนไหวของราคาที่ถูกต้องและแม่นยำยิ่งขึ้น

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤศจิกายน 2024
แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤศจิกายน 2024
แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤศจิกายน 2024

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์

Akhradet-Mornthong-Morn.jpg
Akradet Mornthong
อัครเดช หมอนทอง เป็น นักแปล/นักเขียนคอนเทนต์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน NFT Games, Metaverse, AI, Crypto และเทคโนโลยีใหม่ๆ เขาจบการศึกษาในสาขาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล และมีประสบการณ์ในการทำงานในวงการเกมมากกว่า 10 ปี เมื่อ NFT Games ได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาก็ไม่พลาดที่จะก้าวเข้ามาในวงการนี้เพื่อศึกษาข้อมูลในเชิงลึกต่างๆ ของวงการ NFT รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain และ Crypto อีกด้วย
READ FULL BIO
ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน