หลายๆ คนคงเคยได้ยินชื่อ พอล ภัทรพล หรือเห็นเขาตามสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์หรือสื่อออนไลน์ในฐานะอดีตดาราที่ผันตัวมาเป็นนักธุรกิจและนักลงทุนพันล้าน เราจะสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ของเขาได้อย่างไรบ้าง?
การจะเป็นนักลงทุนหรือนักธุรกิจที่สำเร็จนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ เขาเป็นตัวอย่างหนึ่งของผู้ที่เคยล้มเหลวมาหลายครั้ง กว่าจะเป็นนักธุรกิจพันล้านได้ในปัจจุบัน
พอล ภัทรพล คือใคร
ในอดีต พอล ภัทรพลเคยเป็นทั้งนักแสดง นักร้อง พิธีกร และดีเจ ตามรายการต่างๆ มากมาย ระหว่างที่เขาโลดแล่นในวงการสื่อบันเทิง เขาเริ่มทำธุรกิจต่าง ๆ ไปพร้อม ๆ กันจนกลายเป็นนักลงทุนนักธุรกิจอย่างเต็มตัวในที่สุด
ปัจจุบันในวัย 45 ปี ธุรกิจอาหารเสริมเกรดยาของเขาโกยเงินไปกว่าพันล้าน และยังใช้เวลาว่างทำรายการสาระเกี่ยวกับการลงทุนมากมายตามสื่อออนไลน์ รวมถึงการเขียนหนังสืออีกด้วย
ประวัติการศึกษา
พอล ภัทรพล ศิลปาจารย์ เกิดเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2521 จังหวัดภูเก็ตและจบการศึกษาระดับมัธยม ที่โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย ช่วง ม.4-ม.6 เขาสอบชิงทุนได้ไปเรียนต่อที่ Northern Potter High School ที่รัฐเพนซิลเวเนีย
สำหรับการศึกษาระดับอุดมศึกษา เขากลับมาศึกษาต่อที่ มหาวิทยาลัยโยนก จังหวัดลำปาง และ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วิชาเอกการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ
เส้นทางด้านธุรกิจ
พอลเคยทำธุรกิจมามากมาย ทั้งรายการทีวี อีเวนต์ออร์แกไนเซอร์ คลินิก ฟิตเนส สปา และอื่นๆ อีกมายมาก แถมยังเคยมีประสบการณ์โดยหุ้นส่วนโกงอีกด้วย แต่สุดท้ายก็หันมาจับธุรกิจอาหารเสริมเกรดยาที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และทำกำไรถึงหลักพันล้านบาท
ปัจจุบัน เขาไม่ได้ทำงานในวงการบันเทิงมากนักและหันมาเปิดช่องยูทูป Paul Pattarapon สอนเกี่ยวกับเรื่องการเงิน การรณรงค์ประเด็นทางสังคม รวมถึงเชิญวิทยากรชื่อดังมาร่วมพูดคุยให้ความรู้เกี่ยวกับธุรกิจ ช่องของเขาก็ประสบความสำเร็จเช่นกันโดยมีผู้ติดตามกว่า 1.43 ล้านคน นอกจากนี้ยังมีหนังสือและคอร์สเรียนสำหรับผู้ที่สนใจอีกด้วย
พอล ภัทรพล กับแนวคิดด้านการลงทุน
จากหนังสือของพอล เขามีแนวทางด้านการลงทุนอยู่ 5 ข้อหลัก ๆ ดังนี้
1.การออมเงินไม่ได้ทำให้รวย
การออมเงินไม่สามารถทำให้ใครรวยได้ เพราะดอกเบี้ยธนาคารที่จ่ายนั้นแค่ 0.25% ต่อปีเท่านั้น ซึ่งต่ำยิ่งกว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยที่เติบโตขึ้นราว 3% ต่อปี มันจึงไม่แปลกนักที่คนรวยจะเลือกนำเงินไปลงทุนต่อยอดในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าการออมเฉย ๆ ในธนาคาร เช่น หุ้น กองทุน อสังหาริมทรัพย์ รวมถึง Bitcoin
2.ควรลงทุนเฉพาะจุด
หลาย ๆ คน คงเคยได้ยินว่า “การลงทุนควรกระจายความเสี่ยง” แต่กลยุทธ์นี้ไม่เหมาะสำหรับนักลงทุนรายย่อย หากคุณเพิ่งเริ่มลงทุนและไม่ได้มีทุนที่สูงเหมือนสถาบันการเงิน คุณควร “ลงทุนเฉพาะจุด” มากกว่า หรือทำธุรกิจเพียงธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง หากเริ่มมั่งคั่งแล้วจึงเริ่มพิจารณากระจายความเสี่ยงในภายหลัง
3.ทำธุรกิจแทนการทำงาน
การทำธุรกิจ ไม่ได้อ้างอิงเวลาและไม่มีขอบเขต แตกต่างจากการทำงานที่ขายเวลาแลกกับเงิน แต่ละคนจึงมีเพดานรายได้ ก็คือทำงานเท่าไร ก็ได้เงินเท่านั้น
4.ปัญหายิ่งใหญ่ รายได้ยิ่งมาก
คนที่ร่ำรวยคือคนที่เห็นโอกาสสร้างรายได้จากปัญหา หากคุณหาทางแก้ปัญหาที่ยิ่งใหญ่ได้ คุณยิ่งได้เงินเยอะมากเท่านั้น เพราะลูกค้าต้องการ solution ของคุณที่ตอบโจทย์ ดังนั้นปัญหายิ่งยาก ความต้องการก็ยิ่งสูงตาม
5.เพิ่มเวลาในการพัฒนาตัวเอง
การพัฒนาตนเองเป็นหนึ่งในการใช้เวลาที่มีค่ามากที่สุดเพื่อเปิดมุมมอง พัฒนาทักษะ และการแก้ปัญหาต่างๆ ในโลกปัจจุบัน คุณสามารถหาความรู้ได้ทุก ๆ ที่ เช่น คอร์สออนไลน์ต่างๆ หนังสือ หรืองานสัมนาต่างๆ ความรู้อาจทำให้คุณเห็นโอกาสที่ไม่มีใครเห็นก็เป็นได้
สรุป
เทคนิคของ พอล ภัทรพล นักธุรกิจพันล้านที่เราสรุปมา 5 ข้อนี้ อาจสอดคล้องกับใครหลายคนที่เพิ่งเริ่มต้นชีวิตด้านการลงทุนและธุรกิจที่มีเงินทุนเริ่มต้นไม่มากนักในฐานะนักลงทุนรายย่อย เราหวังว่าเทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้คุณวางแผนการใช้เวลาและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับตนเอง
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์