อิสรภาพทางการเงินคืออะไร? “อิสรภาพทางการเงิน” ณ ปัจจุบันนี้ มันเป็นคำที่ใช้กันทั่วไป (และมักจะใช้กันอย่างไม่ถูกต้อง) ซึ่งบางครั้งมักจะใช้กล่าวถึงคนรวยที่อย่างมากหรือทำงานที่ได้ค่าตอบแทนสูง นั่นมันไม่ถูกต้องเลย คุณไม่จำเป็นต้องร่ำรวยมากมายเพื่อที่จะเป็นอิสรภาพทางการเงิน
นั่นคือสิ่งที่บทความนี้มุ่งมั่นเพื่อที่จะเจาะลึก — เพื่อให้คุณเห็นมุมมองทั้งหมดของความหมายของอิสรภาพทางการเงินและจำนวนเงินที่คุณต้องใช้เพื่อให้มีอิสรภาพทางการเงิน
นิยามของคำว่า “อิสรภาพทางการเงิน”
อิสรภาพทางการเงินคืออะไร? พูดได้ว่ามันเป็นคำที่ใช้กันอย่างไม่ครอบคลุมมากนัก นิยามของคำว่า “อิสรภาพทางการเงิน” อาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตาม อิสรภาพทางการเงินในความหมายที่แท้จริงหมายถึง การมีเงินสด การลงทุน และเงินออมเพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตในแบบที่คุณต้องการสำหรับตัวคุณเองและครอบครัว มันเป็นความสามารถในการที่จะใช้เงินและเวลาได้ตามที่คุณต้องการ
อิสรภาพทางการเงินที่แท้จริงจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อคุณไม่ต้องทำงานเพื่อเงินอีกต่อไป และเงินของคุณจะทำงานให้กับคุณแทน
มันคือช่วงเวลาสำคัญในชีวิตที่คุณสามารถมีชีวิตที่สะดวกสบายได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย มันคือช่วงเวลาที่คุณสามารถใช้เวลากับคนที่คุณรักได้มากขึ้น อุทิศตัวเองให้กับความหลงใหล หรือเปลี่ยนไปทำอาชีพที่คุณใฝ่ฝันมาตลอด
Consumer Financial Protection Bureau ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลกลางที่รับผิดชอบในการตีความและบังคับใช้กฎหมายการเงินของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกา ได้ระบุเกณฑ์ 4 ข้อต่อไปนี้เพื่อกำหนดนิยามของคำว่า “อิสรภาพทางการเงิน” :
- สามารถควบคุมการเงินแบบวันต่อวันและแบบเดือนต่อเดือนได้อย่างเต็มที่
- ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อบรรลุเป้าหมายทางการเงินระยะกลางและระยะยาว
- ความสามารถในการรองรับเหตุฉุกเฉินหรือผลกระทบที่ไม่ดีทางการเงิน
- ความสามารถในการเลือกที่นำไปสู่ชีวิตที่มีความสุขและได้รับการเติมเต็มได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน
คุณจะต้องทราบก่อนว่า คุณจะต้องมีรายได้ประจำ ไม่ใช่แค่เงินออมเท่านั้น ถึงจะมีอิสรภาพทางการเงิน นั่นเป็นเพราะว่า เงินฝากออมทรัพย์จะหมดลงในไม่ช้าก็เร็วถ้าคุณไม่มีเงินไหลเข้าอย่างสม่ำเสมอ
สำหรับผู้ที่ไม่ทราบ Passive Income คือรายได้ประจำที่มาจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่นายจ้างหรือผู้ทำสัญญา มันจะได้รับโดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องทำงาน “อยู่ตลอด” ตัวอย่างเช่น รายได้ประจำจากอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า ห้างหุ้นส่วนจำกัด การตลาดแบบพันธมิตร หุ้นปันผล เป็นต้น
จะเกิดอะไรขึ้นหากคุณมี “อิสรภาพทางการเงิน”?
อิสรภาพทางการเงินนำมาซึ่งโลกแห่งโอกาสในทุกๆ ด้านของชีวิต คุณไม่จำเป็นต้องรู้ว่าคุณต้องการทำอะไรหลังจากบรรลุอิสรภาพทางการเงินแล้ว เมื่อคุณไปถึงจุดๆ นั้น คุณจะมีเวลาและทรัพยากรทั้งหมดในการทำสิ่งที่คุณใฝ่ฝันมาตลอดโดยไม่ต้องกังวลเรื่องรายได้
มาดูข้อดีที่เยี่ยมยอดที่สุดบางข้อที่คุณสามารถคาดหวังได้หลังจากบรรลุอิสรภาพทางการเงินอย่างรวดเร็วกันดีกว่า:
- ไม่ต้องดิ้นรนอีกต่อไป คุณจะไม่ต้องกังวลกับสิ่งต่างๆ เช่น การกระเสือกกระสนและการแข่งขันอย่างหนักเพื่อได้ขึ้นเงินเดือน หรือการเลื่อนตำแหน่งในงานที่คุณอาจจะไม่ชอบด้วยซ้ำ
- ที่จริงแล้ว คุณสามารถที่จะประกอบอาชีพที่มีรายได้ต่ำกว่าที่คุณพบว่ามันเติมเต็มชีวิตให้กับคุณได้มากกว่าได้
- คุณจะมีความพร้อมทางการเงินสำหรับเหตุฉุกเฉินใดๆ ไม่ว่าจะเป็นความเจ็บป่วย การบาดเจ็บ ความสูญเสียทางธุรกิจ หรือการสูญเสียทรัพย์สิน คุณมีเบาะนิรภัยที่จะรองรับคุณไว้เพื่อการเอาตัวรอดและรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวได้
- มีอิสระในการหยุดเพื่อคลายเครียดและมุ่งเน้นในพัฒนาตนเอง
- ความสามารถในการประเมินลำดับความสำคัญในชีวิตของคุณใหม่จากการที่ไม่ต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำงาน
- ความสามารถในการมีส่วนร่วมในงานอดิเรกใหม่ๆ โดยไม่ปล่อยให้ค่าใช้จ่ายกลายเป็นปัจจัยสำคัญ
- ไร้ความกังวลใดๆ หรืออย่างน้อยๆ ก็รู้สึกสบายใจเมื่อรู้ว่าการเงินของคุณจะมีการจัดการและค่าครองชีพหรือเงินฉุกเฉินจะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป
Financial Freedom กับ Financial Independence
Financial Security (ความมั่นคงทางการเงิน), Financial Independence (อิสระทางการเงิน), Financial Freedom (อิสรภาพทางการเงิน) — คำเหล่านี้มักจะใช้แทนกันได้ อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว มาดูคำนิยามของแต่ละคำกันดีกว่า
- Financial Security: มันเป็นขั้นตอนแรกในการบรรลุอิสรภาพทางการเงินที่แท้จริง การมีความมั่นคงทางการเงินหมายความว่าคุณมี Passive Income เพียงพอที่จะครอบคลุมค่าครองชีพขั้นพื้นฐาน แม้ว่าคุณจะออกจากงานในวันนี้ก็ตาม และ “ค่าครองชีพขั้นพื้นฐาน” หมายถึง ค่าอาหาร ที่พักอาศัย และเสื้อผ้า
- Financial Independence: มันเป็นก้าวที่สองที่สำคัญในการแสวงหาอิสรภาพทางการเงิน การบรรลุความเป็นอิสระทางการเงินหมายความว่าคุณมีรายได้ที่เพียงพอเพื่อรักษาไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันของคุณแม้จะไม่มีงานทำก็ตาม
- Financial Freedom: การมีอิสรภาพทางการเงินหมายความว่ารายได้จาก Passive Income ของคุณมากพอที่จะรองรับไลฟ์สไตล์ที่คุณใฝ่ฝันมาตลอด
ขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติตามหากคุณต้องการบรรลุอิสรภาพทางการเงิน
เพื่อที่จะมีอิสรภาพทางการเงิน คุณต้องจัดการกับเรื่องพื้นฐานบางประการ ตัวอย่างเช่น คุณจะต้องชำระหนี้ผู้บริโภคทั้งหมดของคุณ (เช่น หนี้บัตรเครดิตหรือเงินกู้นักเรียน ฯลฯ) จากนั้น คุณจะต้องสร้างความปลอดภัยด้วยเงินออมทรัพย์ และลงทุนอย่างชาญฉลาดเพื่อให้มี Passive Income ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
เว้นแต่ว่าคุณจะเกิดมารวย ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการทำงานหนักและวางแผนที่จะทำมันขึ้นมา ขั้นตอนแรกคือการมีความชัดเจนเกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องการแล้ววางแผนไปตามนั้น นี่เป็นแนวทางแบบเป็นขั้นตอนที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำโดยทั่วไป:
5 ขั้นตอนสู่ “อิสรภาพทางการเงิน”
- ขั้นแรก ให้กำหนดว่าอิสรภาพทางการเงินมีความหมายต่อคุณอย่างไร พูดง่ายๆ ก็คือ — ลองนึกภาพว่าคุณจะใช้เวลาทั้งวันอย่างไรถ้าเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา คุณต้องการทำอะไรให้สำเร็จ? นั่นคืออิสรภาพทางการเงินส่วนบุคคลของคุณ
- ต่อไป พยายามค้นหาว่าต้องใช้เงินเท่าไหร่เพื่อนำไปสู่ชีวิตที่คุณใฝ่ฝันมาตลอด คำนวณจำนวนเงินที่คุณจะต้องออมต่อเดือนเพื่อใช้เป็นเงินทุนสำหรับไลฟ์สไตล์ในอุดมคติของคุณ
- จัดทำแผนการอย่างละเอียดและสามารถนำไปใช้ได้จริงเพื่อเริ่มการออมตามนั้น ลองคิดดูว่าคุณสามารถลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นที่ไหนได้บ้างและเงินเหล่านั้นไปสู่การออมของคุณ
- ในทำนองเดียวกัน วางแผนการลงทุนและเริ่มลงทุนอย่างมีกลยุทธ์ กระจายพอร์ตการลงทุนของคุณเพื่อป้องกันสภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวยในอนาคต นอกจากนี้ ลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินที่จะสามารถช่วยให้คุณค้นพบตัวเลือกการลงทุนที่น่าเชื่อถือและให้ผลกำไร
- วิถีชีวิตที่เรียบง่ายและประหยัดมักจะช่วยได้ ดังนั้น จงพยายามใช้จ่ายให้ต่ำกว่ารายได้ของคุณเท่าที่จะสามารถทำได้ และหลีกเลี่ยงการใช้จ่ายเงินเพื่อความพึงพอใจในระยะสั้นโดยเปล่าประโยชน์ โปรดจำไว้ว่า วินัยทางการเงินเป็นสิ่งที่สำคัญ มิเช่นนั้น เป้าหมายในการบรรลุอิสรภาพทางการเงินของคุณจะกลายเป็นแค่ความฝันที่ไร้จุดหมาย
หากจะพูดให้ชัดเจน ยิ่งคุณเริ่มทำตามแผนการของคุณได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นการออมและการลงทุนคือช่วงอายุ 20 ปีต้นๆ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดอันดับ 2 ก็คือตอนนี้ โดยไม่รีรออะไรอีกต่อไป
คุณต้องใช้เงินเท่าไหร่จึงจะมีอิสรภาพทางการเงิน?
มันไม่มีคำตอบที่เหมาะสมสำหรับเรื่องนี้ เพราะว่าจำนวนเงินจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ รวมไปถึงเป้าหมายในการใช้ชีวิตของพวกเขา อย่างไรก็ตาม จำนวนเงินที่คุณต้องใช้เพื่อบรรลุอิสรภาพทางการเงินนั้น โดยทั่วไปแล้ว มันจะขึ้นอยู่กับรายได้ประจำปีและค่าครองชีพที่คาดหวังต่อปีของคุณ
สำหรับแนวคิดโดยทั่วไป คุณอาจจะใช้ “กฎ x25 สำหรับการเกษียณอายุ” เพื่อคำนวณว่าคุณอาจจะต้องใช้เงินมากเพียงใดในการบรรลุอิสรภาพทางการเงิน
กฎ x25 นั้นค่อนข้างง่าย และมันจะทำได้โดยการสมมติว่ารายได้เกษียณประจำปีที่คุณคาดหวังจะมาจากเงินออมของคุณเอง:
- ก่อนอื่น ให้คิดดูว่าคุณต้องการดำเนินชีวิตแบบใดหลังเกษียณ
- ต่อไป ให้พยายามจัดทำงบประมาณคร่าวๆ ที่จะช่วยให้คุณดำรงชีวิตหลังเกษียณได้ อย่าลืมคำนึงถึงอัตราเงินเฟ้อและคำนวณจำนวนเงินที่คุณต้องการในแต่ละปี
- คูณจำนวนนั้นด้วย 25 เพื่อให้ได้ตัวเลขคร่าวๆ ว่าคุณจะต้องมีเงินออมเป็นจำนวนเท่าใดเมื่อคุณเกษียณ ตัวอย่างเช่น หากคุณคาดว่าไลฟ์สไตล์หลังเกษียณของคุณจะมีค่าใช้จ่าย 70,000 ดอลลาร์ต่อปี คุณจะต้องเก็บเงินให้ได้ประมาณ 1.75 ล้านดอลลาร์ก่อนเกษียณ
คุณพร้อมสำหรับความท้าทายหรือไม่?
มันยังไม่สายเกินไปที่จะเริ่มการแสวงหา “อิสรภาพทางการเงิน” ที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม ดังที่เราได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ยิ่งคุณเริ่มเร็วเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งง่ายขึ้นเท่านั้น
โอกาสในการได้รับอิสรภาพทางการเงินจะเพิ่มขึ้นอย่างมากหากคุณออมเงินในอัตราที่เหมาะสม ลดหนี้ให้น้อยที่สุด และควบคุมการใช้จ่ายของคุณ ดังนั้น คุณอาจจะต้องการเริ่มทำมันในทันที หากคุณยังไม่ได้ทำมัน
การอัพเดตข้อมูลเกี่ยวกับตลาดและข่าวสารทางการเงินอยู่เสมอจะช่วยให้คุณพบกับโอกาสในการลงทุนที่น่าสนใจ ในขณะเดียวกัน มันก็จะช่วยให้คุณปรับพอร์ตการลงทุนไปตามสภาวะตลาด และไม่ว่าคุณจะทำอะไร อย่าลังเลที่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน หากคุณรู้สึกหลงทาง
ขอให้โชคดี : )
คำถามที่พบบ่อย
อิสรภาพทางการเงินหมายถึงอะไร?
ฉันจะบรรลุอิสรภาพทางการเงินได้อย่างไร?
คุณต้องการเงินเท่าไหร่เพื่ออิสรภาพทางการเงิน?
ทำไมอิสรภาพทางการเงินจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ?
ก้าวแรกสู่อิสรภาพทางการเงินคืออะไร?
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์