Trusted

เคล็ดลับความปลอดภัย Cryptocurrency 10 ประการ

2 mins
โดย
แปลแล้ว Akradet Mornthong

เมื่อคุณซื้อหรือได้รับ Bitcoin มาแล้ว ตอนนี้คุณต้องทำให้พวกมันปลอดภัยที่สุด ในบทความนี้ คุณจะได้พบกับ “เคล็ดลับความปลอดภัย Cryptocurrency” 10 อย่างที่คุณจำเป็นจะต้องรู้ไว้

Cryptocurrency 2

Bitcoin นั้นมีประโยชน์ใช้งานมากมาย หนึ่งในนั้นคืออิสรภาพทางการเงินที่คุณจะไม่เคยได้รับมาก่อนจากเทคโนโลยีของธนาคาร สิ่งนี้เป็นแนวคิดที่จะปฏิวัติวงการ เราไม่จำเป็นต้องมีธนาคารอีกต่อไป มันดูเหมือนว่าจะไม่เคยมีแนวคิดที่ว่ามีเพียงคุณเท่านั้นที่จะเป็นเจ้าของเงินเพียงผู้เดียวนี้ปรากฏขึ้นมาก่อนหน้านี้ สิ่งนี้มันเป็นเรื่องที่ใหม่มากกับการที่ภาระในสิ่งเดียวที่ธนาคารเคยจัดการให้กับคุณได้กลายมาเป็นความรับผิดชอบของคุณ ซึ่งนั่นก็คือการดูแลความปลอดภัยของทรัพย์สินของคุณเอง

ในบทความนี้ คุณจะพบ “เคล็ดลับความปลอดภัย Cryptocurrency” พื้นฐานทั้งหมดที่คุณต้องรู้ เมื่อคุณเข้าใจทุกอย่างในบทความนี้แล้ว คุณอาจจะอยากรู้เกี่วกับเคล็ดลับการรักษาความปลอดภัย Cryptocurrency ขั้นสูงของเรา หลายๆ คนไม่ได้ใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยใดๆ เลย ซึ่งมันจะทำให้พวกเขาตกเป็นเหยื่อของแฮ็กเกอร์ได้ง่าย คุณต้องจัดการกับสิ่งนี้ให้เหมือนว่าคุณเป็นนายอำเภอของเมืองที่ปกป้องห้องนิรภัยของธนาคารจากคนร้าย ซึ่งคนร้าย (แฮ็กเกอร์) นั้นจะโจมตีตัวเลือกที่ง่ายกว่าเสมอ ดังนั้น พยายามอย่าทำตัวเป็นตัวเลือกที่ง่ายกว่าสำหรับคนร้าย

มาเข้าเรื่องกันเลย นี่คือ เคล็ดลับความปลอดภัย Crypto อันดับต้นๆ ของ BeInCrypto:

1. ให้ความสำคัญกับเรื่องการรักษาความปลอดภัย

Blockchain และ Cryptocurrency นั้นมีความปลอดภัยเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว เมื่อคุณสนทนากับผู้อื่นเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลนั้น คุณจะสามารถโต้แย้งเรื่องคุยโม้ว่าพวกเขาสามารถแฮ็กบล็อกเชนหรือสกุลเงินดิจิทัลของคุณได้อย่างง่ายดาย มันเป็นความเข้าใจผิดที่หลายคนมักจะมองข้าม เทคโนโลยีนี้ได้รับการปกป้องโดยอัลกอริธึมที่ได้รับการป้องกันด้วยการเข้ารหัส (Cryptographic) ดังนั้น มันจึงมีชื่อว่า Cryptocurrency ตัวระบบเองก็มีมาตรการรักษาความปลอดภัยสำหรับแฮ็กเกอร์อยู่แล้ว หากต้องการเจาะทะลวงปราการนี้ คุณจะต้องมีพลังในการคำนวณมหาศาล ตัวอย่างเช่น Bitcoin ซึ่ง Cryptocurrency ที่เก่าแก่ที่สุดยังไม่เคยถูกแฮ็กเลยตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 2008

หากแฮ็กเกอร์ไม่สามารถแฮ็กตัวสกุลเงินดิจิทัลได้ เป้าหมายที่ชัดเจนของพวกเขาก็คือผู้ใช้งาน พวกเขาจะตามล่าหาผู้ที่ไม่รักษาความปลอดภัยและแฮ็กแพลตฟอร์มที่คุณใช้เพื่อจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณเพื่อนำมันไปสู่กระเป๋าของพวกเขา ดังนั้นเคล็ดลับด้านความปลอดภัยที่สำคัญที่สุดคือการให้ความสำคัญกับเรื่องการรักษาความปลอดภัยและดำเนินการมันอย่างจริงจัง

Cryptocurrency 3

2. ใช้รหัสผ่านที่มีความซับซ้อน

สำหรับผู้อ่านหลายๆ ท่าน เคล็ดลับนี้อาจดูเหมือนว่ามันเป็นเรื่องที่ต้องทำอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้ รหัสผ่านที่ใช้กันโดยทั่วไปสามรหัสก็คือ 123456, 123456789 และรหัสผ่านที่ตลกที่สุด

ในรหัสผ่านของคุณ พยายามรวมตัวอักษรพิมพ์เล็ก ตัวเลข และสัญลักษณ์เข้าด้วยกัน รหัสผ่านยิ่งยาวยิ่งดี คุณสามารถใช้เครื่องมือทดสอบรหัสผ่านออนไลน์เพื่อดูว่ารหัสผ่านของคุณแข็งแกร่งเพียงใด การใช้ตัวสร้างรหัสผ่านเพื่อรับรหัสผ่านแบบสุ่มก็เป็นหนึ่งในความคิดที่ดี

มีบริการยอดนิยมอยู่ ซึ่งนั่นก็คือตัวจัดการรหัสผ่าน (Password Manager) มันสามารถใช้สร้างรหัสผ่านที่ไม่ซ้ำกัน ยาวและซับซ้อนมากๆ สำหรับบัญชีออนไลน์แต่ละบัญชีของคุณ บริการเหล่านี้สะดวกสบายมาก ปลอดภัย และบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งใช้บริการเหล่านี้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด หากคุณมีเวลาและความทุ่มเท (หรือเงินก้อนโตในสกุลเงินดิจิทัล) วิธีแก้ปัญหาที่ปลอดภัยที่สุดคือการจดรหัสผ่านไว้บนกระดาษเสมอ

3. หลีกเลี่ยงการใช้งาน WiFi สาธารณะ

WiFi สาธารณะเป็นบริการที่สะดวกสบาย อย่างไรก็ตาม คุณต้องหลีกเลี่ยงในการใช้งานเว็บเทรดหรือกระเป๋าเงินในขณะที่เชื่อมต่อมัน แฮ็กเกอร์สามารถรวบรวมข้อมูลที่ส่งผ่านเครือข่ายได้อย่างง่ายดาย เช่น ข้อมูลรับรองการเข้าสู่ระบบของคุณ

Cryptocurrency 4

4. ระวัง Phishing Scams

คุณอาจจะทราบถึงเรื่องการหลอกลวงเพื่อเอาข้อมูลส่วนตัว (Phishing Scams) ซึ่งเป็นวิธีการทั่วไปในการขโมยข้อมูลส่วนตัวสำหรับธนาคารออนไลน์แบบเดิม เว็บเทรด Cryptocurrency และกระเป๋าเงินนั้นก็ยังคงอยู่ภายใต้การหลอกลวงนี้ มันเป็นหนึ่งในเทคนิคการหลอกลวงขั้นพื้นฐานที่สุดที่แฮ็กเกอร์ใช้เพื่อขโมย Bitcoin หรือ altcoins ของคุณ

Phishing Scams ****จะสร้างเว็บไซต์ปลอมซึ่งคล้ายกับเว็บไซต์ดั้งเดิม ผู้ใช้งานจะถูกหลอกและจะไม่รู้ตัวว่าพวกเขาถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังเว็บไซต์ปลอม เมื่อผู้ใช้งานใส่ชื่อผู้ใช้งานและรหัสผ่านลงไป ตอนนี้ แฮกเกอร์ก็จะได้ข้อมูลประจำตัวของคุณไปแล้ว แฮ็กเกอร์สามารถส่งเงินไปยังกระเป๋าเงินของพวกมันได้อย่างง่ายดาย

หากคุณเข้าเว็บเทรดเป็นประจำ มาตรการรักษาความปลอดภัยที่ง่ายคือการบุ๊กมาร์กเว็บไซต์เหล่านี้เอาไว้ เข้าใช้งานผ่านทางบุ๊กมาร์กของคุณเสมอ ซึ่งนั่นจะช่วยให้คุณจะปลอดภัย เว็บไซต์ฟิชชิ่งมักจะเน้นที่การพิมพ์ผิดทั่วไป ตัวอย่างเช่น myetherwallet (แพลตฟอร์มกระเป๋าเงิน Etheruem ที่น่าเชื่อถือ) ซึ่งตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงแบบฟิชชิ่งหลายครั้ง

เว็บไซต์ที่สร้างขึ้นสำหรับการหลอกลวงฟิชชิ่ง (mÿetherwallët.com):

Cryptocurrency 5

เว็บไซต์ตัวจริง (myetherwallet.com):

Cryptocurrency 6

ในแวบแรก คุณจะไม่สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติใดๆ มันได้ลอกเลียนรูปแบบของเว็บไซต์ต้นฉบับ แม้ว่า URL จะแตกต่างกันเล็กน้อย: myetherwallet.com กับ myetherawllet.com W และ A ถูกเปลี่ยนลำดับ ซึ่งเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่คุณไม่สามารถมองเห็นได้ง่าย

5. อย่าเก็บ Cryptocurrency ของคุณในเว็บเทรด

นี่อาจจะเป็นข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดโดยผู้ถือ Crypto คำว่า Exchange ได้บอกคุณอยู่แล้วว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้มีจุดประสงค์อะไร นั่นก็คือใช้เพื่อซื้อขายแลกเปลี่ยน มันไม่ได้มีไว้เพื่อดูแล Cryptocurrency ของคุณ Bitcoin ที่ถูกขโมยwxจำนวนมากที่สุดนั้นเกิดจากการแฮ็กเว็บเทรด ไม่ใช่การแฮ็กตัวสกุลเงินดิจิตทัลโดยตรง โดยปกตินั้น แฮ็กเกอร์จะโจมตีเว็บเทรดขนาดเล็กซึ่งขาดความปลอดภัย แต่ว่าเว็บเทรดใหญ่ๆ ก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน นี่คือรายการของการปล้น Bitcoin ที่โดดเด่นที่สุดบางส่วนจนถึงปัจจุบัน:

  1. Mt. Gox: 850,000 BTC (มูลค่า 450 ล้านดอลลาร์ ณ เวลานั้นในปี 2011)
  2. Bitfinex: 120,000 BTC
  3. Bitcoinica: 43,554 BTC
  4. Bitfloor: 24,000 BTC
  5. Bitstamp: 19,000 BTC
  6. Binance: 7000 BTC
  7. Poloniex: 97 BTC

ที่เราใส่ชื่อ Binance และ Poloniex ไว้ด้วยมันไม่ใช่เพราะจำนวนเงิน แต่เพียงเพื่อให้คุณทราบว่าแม้แต่เว็บเทรดที่มีชื่อเสียงก็สามารถถูกแฮ็กได้ โชคดีที่เว็บเทรดมีได้การพัฒนามากขึ้น รวมไปถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยของพวกเขาอีกด้วย การแฮ็ก BTC ครั้งใหญ่ส่วนมากจะเกิดขึ้นเมื่อเว็บเทรดสกุลเงินดิจิตอลยังเปิดมาได้ไม่นานและมาตรการรักษาความปลอดภัยอยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตาม Binance ถูกโจมตีในปี 2019 หมายความว่า ไม่มีเว็บเทรดใดที่ปลอดภัยจากการถูกแฮ็ก

เหตุผลเดียวในการเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณไว้ในเว็บเทรดก็คือถ้าคุณเป็นนักเทรดรายวัน หากคุณเป็นแค่ผู้ถือครองหรือนักเทรดระยะยาว แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดคือการเก็บ Bitcoin และ/หรือ altcoins ของคุณไว้ในกระเป๋าเงินดิจิทัล หากคุณต้องการแลกเปลี่ยนมันเป็นสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ หรือสกุลเงินจริง ก็ให้ส่งมันไปที่กระเป๋าเงินของคุณเมื่อคุณทำการซื้อขายเสร็จสิ้น จำไว้ว่าใครก็ตามที่มีกุญแจส่วนตัวจะเป็นผู้ควบคุมเงิน

6. เก็บรักษาอุปกรณ์ของคุณให้ปลอดภัย

จงใช้สามัญสำนึกของคุณและจดจ่อไปกับแนวทางปฏิบัติของผู้ใช้งานที่ปลอดภัยขั้นพื้นฐาน เช่น ห้ามดาวน์โหลดไฟล์ที่น่าสงสัย คอยอัปเดตและเปิดใช้งานไฟร์วอลล์ของคุณอยู่เสมอ และห้ามเข้าเว็บไซต์อันตรายที่เป็นที่รู้จัก หากคุณต้องการติดตั้งซอฟต์แวร์ ให้ตรวจสอบความคิดเห็นของผู้ใช้งานรายอื่นก่อนเสมอ หรือเฉพาะเมื่อบริษัทที่อยู่เบื้องหลังมีความโปร่งใสมากเพียงพอที่จะไว้วางใจเท่านั้น

7. ซื้อกระเป๋าเงิน Cryptocurrency แบบฮาร์ดแวร์

มาตรการความปลอดภัยนี้จะขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่คุณมีใน Bitcoin โดยหลักการแล้ว เราแนะนำว่าหากคุณมีมูลค่า Bitcoin มากกว่า 500 ดอลลาร์ขึ้นไป เราแนะนำให้คุณซื้อกระเป๋าเงิน Cryptocurrency แบบฮาร์ดแวร์ ซึ่งมีให้เลือกใช้มากมายในตลาด

กระเป๋าเงิน Cryptocurrency แบบฮาร์ดแวร์นั้นเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดในการจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณ มันเป็นอุปกรณ์พิเศษที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยเท่านั้น ตัวอุปกรณ์จะเก็บคีย์ส่วนตัวของคุณไว้ในวงจรที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ และช่วยให้พวกเขาสามารถลงนามในการทำธุรกรรมได้ด้วยคลิกเดียว เช่นเดียวกับกระเป๋าเงินอื่นๆ มันมี Seed สำหรับโอนคีย์ส่วนตัวของคุณอย่างง่ายดายในกรณีที่อุปกรณ์ของคุณถูกขโมยหรือสูญหาย

หากคุณมี Bitcoin จำนวนเล็กน้อยหรือต้องการกระเป๋าเงินที่รวดเร็วและราบรื่น คุณอาจใช้กระเป๋าเงินแบบร้อน (Hot Wallet) มันมีความแตกต่างระหว่างกระเป๋าเงินแบบร้อนและแบบฮาร์ดแวร์ หากอุปกรณ์ของคุณมีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย กระเป๋าเงินแบบร้อนจะปลอดภัยกว่าการปล่อยให้ Cryptocurrency ของคุณอยู่บนเว็บเทรด

8. เปิดใช้งานระบบยืนยันตน 2 ชั้น

Two-factor Authentication (ระบบยืนยันตน 2 ชั้น) เป็นระบบการยืนยันตนเพื่อรักษาความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง มันจะเพิ่มขั้นตอนพิเศษในกระบวนการเข้าสู่ระบบ ซึ่งเป็นความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง คุณต้องใส่รหัสผ่านพิเศษในการเข้าถึง รหัสผ่านนี้จะสร้างโดยแอป (Google Authenticator หรือ Authy) ที่จัดเก็บไว้ในสมาร์ทโฟนของคุณ ทุกๆ สองสามวินาที รหัสผ่านใหม่จะถูกสร้างขึ้นเพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้น จุดประสงค์คือเพื่อสร้างชั้นความปลอดภัยภายนอกเพิ่มเติมเพื่อให้แฮ็กเกอร์ทำงานได้ยากขึ้น แฮ็กเกอร์จำเป็นจะต้องขโมยโทรศัพท์ของคุณเพื่อเข้าใช้งานมัน

เว็บเทรดส่วนใหญ่จะเสนอให้ใช้งานการยืนยันตน 2 ชั้นและมันติดตั้งได้ง่ายมาก คุณควรจะใช้ระบบยืนยันตน 2 ชั้นกับอีเมลที่คุณใช้งานเพื่อเข้าสู่บัญชีของเว็บเทรด

ตัวเลือกอื่นๆ คือ PIN แบบสุ่มที่จะส่งไปยังอีเมลและ SMS ของคุณ โดยเป็นตัวเลือกการใช้งานของเว็บเทรดบางเว็บ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด เราขอแนะนำว่าอย่าใช้การยืนยันทาง SMS

9. เก็บเรื่องการถือครอง Cryptocurrency ไว้ให้เป็นเรื่องส่วนตัว

คุณอาจจะภูมิใจกับการลงทุนที่คุณได้ทำในสกุลเงินดิจิทัล นักลงทุนจำนวนมากมักจะโม้ถึงการถือครองและความสำเร็จของพวกเขา หลายคนประสบความสำเร็จอย่างมากในปี 2017 ทุกวันนี้ ผู้คนได้เรียนรู้แล้วว่านี่อาจไม่ใช่ความคิดที่ดี ตัวอย่างที่ร้ายแรงที่สุดคือผู้ถือ Bitcoin ที่ถูกฆ่าหลังจากถูกบังคับให้ส่ง Bitcoin ของเขาไปให้ฆาตกร

Cryptocurrency ไม่มีข้อมูลระบุตัวตนติดอยู่กับเงินเหมือนกับธนาคารแบบดั้งเดิม หากคุณมีคีย์ส่วนตัวของ Bitcoin คุณคือเจ้าของ ดังนั้น หากคุณจำเป็นจะต้องส่ง Bitcoin ของคุณไปยัง Address อื่นๆ คุณจะไม่สามารถเรียกมันคืนกลับมาได้ สำหรับเหล่าอาชญากร นี่อาจเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจมาก

วิธีแก้ปัญหาง่ายๆ คืออย่าโอ้อวดเกี่ยวกับการถือครองของคุณกับคนอื่น หรืออย่างน้อย ก็อย่าโอ้อวดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในการประชุม การพบปะ หรือกับความอยากรู้อยากเห็นของเพื่อนๆ คุณอาจได้รับคำถามว่าคุณมี Cryptocurrency อยู่มากแค่ไหน จงหลีกเลี่ยงการตอบคำถามนี้เพื่อความปลอดภัยของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีมันเป็นจำนวนมาก

10. หลีกเลี่ยงในการส่งเงินไปผิด Address

Cryptocurrency Address นั้นยาวและซับซ้อนมาก

bc1qpp83ssd5a3p9vhwktp777n968fdj9fjttswc7a

หากคุณส่งทรัพย์สินไปยัง Address ที่ไม่ถูกต้องโดยไม่ได้ตั้งใจ คุณจะสูญเสียเงินของคุณทันที เนื่องจาก Address ไม่ได้ติดอยู่กับข้อมูลระบุตัวตน คุณจะไม่สามารถติดต่อบุคคลที่ถือ Address นั้นอยู่ได้ นอกจากนี้ ต่อให้คุณสามารถหาผู้ใช้งาน Address นั้นเจอ คุณก็ไม่สามารถที่จะบังคับให้พวกเขาคืนเงินให้ได้ สำหรับ Bitcoin และ altcoins นั้น การไม่มีพ่อค้าคนกลางเป็นข้อดีที่ชัดเจน แต่หากเกิดปัญหาเช่นนี้ขึ้น คุณก็จะไม่สามารถเรียกร้องอะไรจากใครได้

เนื่องจาก Address นั้นมันยาวมาก เราจึงไม่แนะนำให้พิมพ์ Address เหล่านี้ด้วยตนเอง เว็บเทรดและกระเป๋าเงินส่วนมากจะมีปุ่มคัดลอกไปยังคลิปบอร์ด การเลือก Address ด้วยตนเองนั้นอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้เช่นกัน ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด หากคุณคัดลอกและวาง Address ไปแล้ว คุณควรจะต้องตรวจสอบก่อนเสมอว่ามันเหมือนกันหรือไม่ เป็นที่น่าเสียดายว่า มันก็มีอยู่บางกรณีที่ฟังก์ชันการคัดลอกและวางนั้นถูกแฮ็ก แนวทางในการปฏิบัติโดยทั่วไปนั้นคือการตรวจสอบตัวเลขแรกและท้าย 5 หลักของ Address

การโอนเป็นสกุลเงินดิจิทัลนั้นมีค่าธรรมเนียมต่ำมาก ดังนั้น เราจึงแนะนำให้คุณส่งมันเป็นจำนวนเล็กน้อยและตรวจสอบว่ามันถูกต้องหรือไม่ จากนั้นจึงส่งเต็มจำนวนที่ต้องการ มันไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ มากมาย ดังนั้นคุณควรที่จะไม่มีข้อแก้ตัวในส่วนนี้

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | กันยายน 2024
แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | กันยายน 2024
แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | กันยายน 2024

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์

Akhradet-Mornthong-Morn.jpg
Akradet Mornthong
อัครเดช หมอนทอง เป็น นักแปล/นักเขียนคอนเทนต์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน NFT Games, Metaverse, AI, Crypto และเทคโนโลยีใหม่ๆ เขาจบการศึกษาในสาขาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล และมีประสบการณ์ในการทำงานในวงการเกมมากกว่า 10 ปี เมื่อ NFT Games ได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาก็ไม่พลาดที่จะก้าวเข้ามาในวงการนี้เพื่อศึกษาข้อมูลในเชิงลึกต่างๆ ของวงการ NFT รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain และ Crypto อีกด้วย
READ FULL BIO
ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน