Mark Zuckerberg ผู้เป็น CEO ของ Meta เปิดเผยว่าบริษัทจะหาทางพัฒนาแชทบอทที่ขับเคลื่อนด้วย AI ตัวใหม่เพื่อแข่งขันกับ ChatGPT ทั้งนี้ บริษัทด้านเทคโนโลยีอื่นๆ ล้วนรุดหน้าเข้าสู่สนามแข่งดังกล่าวเช่นกัน เหล่านี้ ล้วนเริ่มจากความสำเร็จของ ChatGPT โดย OpenAI
เขาได้เปิดเผยว่า Meta จะทุ่มเททรัพยากรเพื่อสร้างแชทบอทของตัวเอง ข้อมูลดังกล่าวเปิดเผยเมื่อแชทบอท ChatGPT ของ OpenAI กลายเป็นที่นิยมทั่วโลก ทำให้เกิดการแข่งขันด้านการพัฒนาแชทบอทในโลกเทคโนโลยี นอกจากนี้ Microsoft ได้เริ่มรวม ChatGPT เข้ากับผลิตภัณฑ์ของตนแล้ว รวมถึงในเว็บเบราว์เซอร์ Bing ของ Microsoft เอง
Zuckerberg แถลงการณ์ถึงมพยายามในการพัฒนา AI ดังกล่าวในโพสต์บน Facebook เมื่อวันที่ 27 ก.พ. เขาไม่ได้เปิดเผยข้อมูลละเอียดมากนัก แต่เน้นไปที่การกล่าวถึงทีมงานที่จะมาพัฒนาแชทบอทตัวดังกล่าว
“เรากำลังสร้างกลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับบนสุดของ Meta โดยมุ่งเน้นที่ Generative AI เพื่อเร่งการทำงานของบริษัทเราในด้านนี้ เรามีทีมงานที่มีศักยภาพพื้นฐานมากมาย รวมถึงภารกิจต่าง ๆ ที่ต้องทำก่อนที่จะไปถึงโลกแห่งอนาคตจริงๆ ผมตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ ๆ เหล่านี้ ทั้งหมดนี้ เราจะสร้างมันไปพร้อมกัน เราจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนา AI ที่สามารถช่วยเหลือผู้ใช้งานได้หลากหลายวิธี”
ขณะนี้ Meta กลายเป็นหนึ่งในหลาย ๆ บริษัทที่เข้าสู่วงการเทคโนโลยีที่หันมาพัฒนาแชทบอท นอกจาก ChatGPT และ Microsoft แล้ว ทาง Google ยังได้เปิดตัวแชทบอทของตัวเองที่ชื่อว่า Bard Snapchat ทั้งยังเปิดเผยแผนการพัฒนาแชทบอทของตัวเองในวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่ง ChatGPT จะขับเคลื่อนแชทบอทดังกล่าวด้วยเช่นกัน
บริษัทเทคต่าง ๆ เตรียมตัวแข่งกับ ChatGPT
ความนิยมอย่างมากใน ChatGPT เกิดขึ้นทั่วโลกและส่งเสริมจินตนาการของผู้ใช้งาน นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังแสดงความกระตือรือร้นในบริการแชทบอท ตั้งแต่การเขียนนวนิยายไปจนถึงการแก้ปัญหาการเขียนโค้ด
ปัจจัยข้างต้นทำให้บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งเปิดตัวแชทบอทที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของตนเอง ซึ่งอาจท้าทายอำนาจสูงสุดของ Google บนอินเทอร์เน็ตในขณะนี้ ทั้ง Elon Musk และ Tencent ล้วนประกาศเจตนารมณ์ของตนเอง นอกจากนี้ มีรายงานว่า Musk ทาบทามนักวิจัย AI ในช่วงที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างห้องปฏิบัติการสำหรับงานวิจัยแห่งใหม่
Meta ซุก Metaverse กลับเข้าลิ้นชัก
Meta ได้เปลี่ยนแผนการดำเนินงานจากการเป็นเพียงโซเชียลมีเดียไปยังการให้การพัฒนา Metaverse ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ทาง Meta ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทิศทางการบริหารครั้งนี้ด้วยผลประกอบการรายไตรมาสที่น่าผิดหวังหลายต่อหลายไตรมาส ขณะนี้ ดูเหมือนว่า Meta จะหันมาสนใจการพัฒนา AI และรักษารายได้และผลลัพธ์ให้เป็นไปตามแผน
ปี 2023 เป็น “ปีแห่งการพัฒนาศักยภาพ” สำหรับ Meta ซึ่งบางคนตีความว่าหมายถึงปีแห่งการปลดพนักงาน ทั้งนี้ อุตสาหกรรมเทคโนโลยีกำลังประสบช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่บางที Meta อาจนำตัวเองกลับมาสู่เส้นทางสู่ความสำเร็จได้
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ