ผลกำไรเกิดจากการที่มูลค่าของ Bitcoin เพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา ทำให้ MicroStrategy สามารถเรียกร้องสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้ นอกจากนี้การฟื้นตัวของ BTC ยังทำให้บริษัทปลดหนี้ Silvergate ได้อีกด้วย
บริษัทแห่งนี้เป็นแพลตฟอร์ม Enterprise Business Intelligence (BI) ที่ให้บริการซอฟต์แวร์ คลาวด์คอมพิวติ้ง และบริการทางเทคโนโลยีอื่นๆ แก่ลูกค้าหลากหลายราย นอกจากนี้เพราะ Michael Saylor พวกเขาจึงเป็นหนึ่งในผู้ถือครอง Bitcoin รายใหญ่ที่สุดของโลก โดยมีสำรองอยู่ประมาณ 140,000 BTC
ไม่มีกลยุทธ์ไหนที่ดีกว่า HODLing
การตัดสินใจซื้อ บิทคอยน์ จำนวนมากนั้นเกิดขึ้นเพราะ Saylor ซึ่งเป็น CEO ในปี 2020 เขาอ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ และมั่นเป็นจริงตามที่เขาพูด การถือครอง BTC ทำให้บริษัทของเขาได้เปรียบเหนือคู่แข่งในอุตสาหกรรม BI
“ท้ายที่สุดแล้ว เรายังไม่เห็นว่ามีกลยุทธ์ไหนที่ดีไปกว่าการถือครองระยะยาว (HODLing) เราพบว่าเพียงแค่ถือ บิทคอยน์ ไว้เฉยๆ เราก็สามารถทำผลงานได้ดีกว่าคู่แข่งในธุรกิจซอฟต์แวร์ระดับองค์กร นอกจากนี้สภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบสำหรับ บิทคอยน์ ก็กำลังดำเนินไปในทางที่ดี เมื่อใดก็ตามที่เงินทุนไหลออกจากอุตสาหกรรม crypto ส่วนใหญ่ก็จะไหลเข้าสู่ BTC แทน”
อย่างไรก็ตาม คำกล่าวของเขาเกี่ยวกับพัฒนาการทางด้านกฎระเบียบดูเหมือนจะขัดแย้งกับคำวิจารณ์ส่วนใหญ่ตอนนี้อย่าง Coinbase, Kraken และนักลงทุนเอกชนรายอื่นๆ ที่กำลังประณามรัฐบาลสหรัฐฯ พวกเขากล่าวว่า หน่วยงานรัฐพยายามบังคับใช้กฎระเบียบผ่านบทลงโทษ แทนที่จะให้คำปรึกษากับบริษัทที่ต้องการควบคุม
MicroStrategy งบเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 2 ปี
แม้จะมีความไม่แน่นอนในปัจจุบันเกี่ยวกับ กฎระเบียบของ cryptocurrencies ในสหรัฐอเมริกา แต่ บิทคอยน์ก็ฟื้นตัวกลับมาอีกครั้งในปีนี้ ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 70% ในไตรมาสที่ผ่านมา
จากข้อมูลของ Bloomberg การฟื้นตัวที่เกิดขึ้นทำให้ ทางบริษัทสามารถทำกำไรได้ในไตรมาสนี้ รายงานรายไตรมาสของบริษัทระบุว่ามีรายได้สุทธิ 461 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 1 พร้อมรายรับที่เพิ่มขึ้น 2.2% ซึ่งมีมูลค่าราว 121 ล้านดอลลาร์
งบที่เป็นบวก เป็นผลมาจากผลประโยชน์ทางภาษีที่เกิดจากการถือครอง Bitcoin โดยรายงานผลขาดทุนจากการถือครองให้เป็นรายจ่ายแทน ทำให้ภาษีลดลง 18.9 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ในช่วงที่ราคาของบิทคอยน์ฟื้นตัวขึ้น พวกเขานำส่วนต่างมาเพื่อชำระคืนเงินกู้ที่มี BTC ค้ำประกันไว้จาก Silvergate ด้วยส่วนลดถึง 22% ด้วยมูลค่า 205 ล้านดอลลาร์ ทำให้ไตรมาสที่ผ่านมาเป็นช่วงที่ดีสำหรับบริษัทเป็นอย่างมาก จากข่าวดีทั้งหมดนี้ทำให้หุ้นบริษัทเติบโตกว่า 120% ในปีนี้
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ