Moonbirds โปรเจค NFTs ชื่อดัง ประกาศเปลี่ยนแปลงกฎด้านลิขสิทธิ์ ว่าคอลเลคชั่นทั้งชิ้นหลักและ Oddities ที่เป็นคอลเลคชั่นรองจะเปลี่ยนรูปแบบเป็น CC0 ทำให้ผู้ถือชิ้นงานได้รับผลกระทบ
จาก Twitter ของผู้ร่วมก่อตั้งโปรเจค Kevin Rose เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ทางโปรเจคจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านลิขสิทธิ์ชิ้นงานให้เป็น CC0 หรือ การให้สิทธิ์แก่บุคคลใดก็ได้สามารถนำรูปแบบของชิ้นงานไปใช้ได้ แม้จะไม่ได้เป็นเจ้าของ NFTs นั้นๆ ทั้งในด้านธุรกิจ การเปลี่ยนแปลง หรือการนำไปใช้ด้านอื่นๆ โดยไม่ต้องมีคำยินยอมจากผู้ถือชิ้นงาน
Rose กล่าว ความเป็นเจ้าของที่แท้จริง คือข้อมูล On-Chain
ทางโปรเจคมองว่า การเป็นเจ้าของที่แท้จริง ไม่ควรขึ้นอยู่กับกฎหมายที่ออกโดยหน่วยงานรัฐ เช่น เรื่องลิขสิทธิ์ แต่มันควรเป็นข้อมูลที่อยู่ on-chain ของผู้ถือครองมากกว่า แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงนี้สร้างข้อถกเถียงมากมายรวมถึง ความเกลียดชังที่ถูกแสดงออกใน DAO และกระทู้ต่างๆ
กลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยส่วนหนึ่ง ให้ความเห็นว่า พวกเขาตัดสินใจซื้อ NFTs เพราะพวกเขาต้องการสิทธิ์พิเศษของการเป็นเจ้าของชิ้นงาน แต่ตอนนี้พวกเขารู้สึกว่าโดนปล้นสิทธิ์เหล่านี้ไป โดยที่ไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าใดๆ
ด้านหัวหน้าฝ่ายผู้ดูแลด้านผลิตภัณฑ์และการตลาดจาก Twitter ให้ความเห็นว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงกลางคันให้กลายเป็น CC0 หลังเปิดตัวโปรเจคไปแล้ว เพราะมันคือการขโมยสิทธิ์ของผู้ที่ตัดสินใจลงทุนไปก่อนหน้า เขาเสริมอีกว่า ตัวเขาไม่ได้ถือ NFTs นี้ แต่ศิลปินหรือผู้สร้างชิ้นงาน ควร “ชี้แจ้งให้ชัดเจน” ก่อนที่จะเปิดโปรเจคตั้งแต่แรก เพราะผู้ลงทุนไม่ได้รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ตั้งแต่แรก และมันเป็นประเด็นที่สำคัญ
ผลกระทบที่เกิดขึ้น หลัง Moonbirds ประกาศ CC0
เนื่องจากผู้ถือครอง คาดว่าจะได้รับลิขสิทธิ์เต็มตัว พวกเขาจึงอาจลงทุนใช้ NFTs ของพวกเขาไปทำ branding ทางธุรกิจต่างๆ ไปแล้ว แต่การประกาศ CC0 จะทำให้ธุรกิจเหล่านั้นของพวกเขากลายเป็นศูนย์ เพราะพวกเขาไม่มีอำนาจในความเป็นเจ้าของธุรกิจนั้นๆ อีกต่อไป
ผู้ใช้รายหนึ่งบน Twitter นาม Lakoz.eth กล่าวว่า
“หลังการประกาศเรื่อง CC0 ไม่นาน เขาสูญเสียสัญญาด้านลิขสิทธิ์ที่มีมูลค่ากว่า 6 หลักไปในทันที”
ด้านทนายผู้เชี่ยวชาญด้านลิขสิทธ์ NFTs Sohaib Mohammad กล่าวว่า ผู้ถือครองชิ้นงานควรฟ้องร้องทางโปรเจคในประเด็นที่เปลี่ยนแปลงสิทธิ์ด้านลิขสิทธิ์โดยฉับพลันนี้ ส่วนการอ้างเรื่องสิทธิ์ที่แท้จริงอยู่บนข้อมูล on-chain อยู่แล้วนั้นฟังไม่ขึ้นสักเท่าไหร่
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ