ข้อมูล Bitcoin Net Unrealized Profit and Loss หรือ NUPL บ่งชี้ว่าวัฏจักรเชิงราคามีความผันผวนน้อยลงเมื่อเวลาผ่านไป นอกจากนี้วิธีการตีความเครื่องมือบ่งชี้นี้ ควรตีกรอบตามปลายยอดสุดของแต่ละวัฏจักร
ปัจจุบันมีนักลงทุนมากมายมอง Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำหรับการลงทุนระยะยาว หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นทองคำในโลกยุคดิจิตอล ยกตัวอย่างเช่น Michael Saylor เขาเป็นคนหนึ่งที่มองการลงทุนเป็นการลงทุนระยะ 10 ปีขึ้นไป นอกจากนี้มันยังถูกพูดถึงในแง่การเป็นสกุลเงินดิจิตอลสำหรับการชำระสินค้าต่างๆ ในอนาคตอีกด้วย
อย่างไรก็ตามปัจจุบัน ยังมีข้อถกเถียงอยู่มากเรื่องความผันผวนของ Bitcoin แต่จากข้อมูลเชิงสถิติพบว่า Bitcoin อาจมีความผันผวนที่น้อยลงเรื่อยๆ ตามกาลเวลาของมัน
ตัวชี้วัด NUPL คืออะไร
Net Unrealized Profit and Loss คือตัวชี้วัดที่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับ สถานะของผู้ถือครองเหรียญในตลาด ว่าพวกเขาอยู่ในสถานะขาดทุน หรือ กำไรในแต่ละช่วงเวลา เครื่องมือนี้ คำนวณจากผลต่างระหว่าง Market cap และ Realized Cap และหารผลลัพธ์ด้วย Market Cap
NUPL = (Market Cap – Realized Cap) ÷ Market Cap
*Realized Capitalization คือ การแทร็กข้อมูล UTXO ล่าสุดว่าเคลื่อนไหวครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ที่ราคาใดมีมูลค่าเท่าใด มันจึงเป็นวิธีหนึ่งในการวัดต้นทุนมูลค่าการถือครองที่แท้จริง ซึ่งแตกต่างจาก Market Cap ที่นำจำนวนเหรียญทั้งหมดมาคูณกับมูลค่า Realized Cap จะลดน้ำหนักของเหรียญที่สูญหายหรือไม่มีการเคลื่อนไหวให้น้อยลง
สำหรับ Net Unrealized Profit and Loss หากมันมีค่ามากกว่า 0 นั่นหมายความว่า โดยเฉลี่ยแล้วนักลงทุนในตลาดกำลังอยู่ในสถานะกำไร และหากต่ำกว่า 0 คือ ขาดทุน
วิธีการใช้ข้อมูลเพื่อวัดความผันผวน
อ้างอิงกราฟข้อมูลจาก CryptoQuant มีนักวิเคราะห์ท่านหนึ่งนำเสนอวิธีการตีความข้อมูลที่แตกต่างออกไป
![](https://th.beincrypto.com/wp-content/uploads/2022/08/NUPL.png)
โดยทั่วไปแล้ว Net Unrealized Profit and Loss จากถูกใช้ในลักษณะคล้ายกัย Oscillator คล้ายกับการวางกรอบ Over bought และ Over Sold ในตัวชี้วัดแบบวัฏจักรต่างๆ
สำหรับตัวชี้วัดนี้โดยทั่วไป ค่าที่สูงกว่า 0.75 จะถูกใช้เป็นโซนที่เรียกว่า “Greed” หรือ ภาวะโลภในตลาดที่มักจะเป็นจุดสูงสุดของวัฏจักรราคา และ -0.4 ถูกใช้เป็น “Fear” หรือระดับที่ผู้คนมีความกลัวมากเกินไปในตลาด
นักวิเคราะห์ท่านนี้มองว่า การสร้างกรอบชี้วัดแบบเส้นขนานนี้ อาจเป็นวิธีที่ไม่แม่นยำนักในการวัดจุดสูงสุดและต่ำสุดของแต่ละวัฏจักร
เขาเสนอว่า กรอบราคาควรกำหนดจากจุดสูงสุด ต่อจุดสูงสุด และจุดต่ำสุด ต่อจุดต่ำสุด ในปัจจุบันสามารถเห็นได้ว่าวัฏจักรครั้งที่ 3 สอดรับกับแนวคิดนี้ และหากมันเป็นจริงต่อไป มันหมายความว่า ความผันผวนจากจุดสูงสุดสู่ต่ำสุดกำลังแคบลงเรื่อยๆ หมายความว่า ความผันผวนในอนาคตของ Bitcoin จะลดน้อยลงในแต่ละวัฏจักร
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ
![IMG_4466-1.png](https://th.beincrypto.com/wp-content/uploads/2022/10/IMG_4466-1.png)