Paxos Gold (PAXG) ซึ่งเป็น crypto ที่ค้ำมูลค่าด้วยสินค้าโภคภัณฑ์อย่างทองคำเป็นผู้นำกำลังเป็น top gainer ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางตลาดโดยรวมที่ประสบกับวิกฤตสภาพคล่องของ FTX
PAXG ใหญ่เป็นอันดับที่ 65 ตามมูลค่าราคาตลาด ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 5.26% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา PAXG มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากที่สุดในสัปดาห์ ในขณะที่ altcoin มูลค่าลดลงอย่างรุนแรงเพราะผลกระทบจากวิกฤตสภาพคล่องของ FTX
PAXG ได้รับการกล่าวถึงมากมายบนโซเชียลมีเดียในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา นอกจากนี้ Paxos ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ PAXG กำลังมองหาที่โอกาสที่จะขยายจำนวนพนักงานในสิงคโปร์หลังจากได้รับใบอนุญาตประกอบการ
สัดส่วน PAXG และคริปโต ที่ FTX ถือครอง
Sponsoredเนื่องจาก FTX เผชิญกับการล้มละลาย ข้อมูลล่าสุดของการถือครองกระเป๋าเงิน Ethereum ปัจจุบัน ได้รับความสนใจมาก และค้นพบว่า การถือครองของ PAXG ของ FTX ลดลงในสัปดาห์ก่อนเนื่องจากปัญหาสภาพคล่อง
การถือครองของ FTX มีมูลค่า 61 ล้านดอลลาร์ของทองคำ PAXG นอกจากนี้ยังมีเหรียญ USDC (USDC) มูลค่า 69 ล้านดอลลาร์ และ DAI มูลค่า 50 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นเหรียญ stablecoin นอกจากนี้ยังมี ether (ETH) และ Staked ether (stETH) มูลค่ากว่า 40 ล้านดอลลาร์ในกระเป๋าเงิน
จากข้อมูลของ 21Shares ซึ่งเป็นบริการการลงทุน cryptocurrency ข้อมูลนี้แสดงถึง “absolute minimum” หรือขั้นต่ำของการถือครองกระเป๋าเงินในขณะนี้เพียงเท่านั้น นี่หมายความว่าข้อมูลแสดงส่วนเล็กๆ ของสินทรัพย์ที่บริษัทเป็นเจ้าของเท่านั้น
Paxos วางแผนขยายทีมเพิ่มสวนกระแสตลาด
พวกเขาคือผู้ออก PAXG และกำลังพยายามขยายพนักงานในสิงคโปร์อย่างน้อย 130 คน Bloomberg รายงานว่าบริษัทได้รับใบอนุญาตจากธนาคารกลางของสิงคโปร์ในการทำตลาดและบริการ crypto
ในการให้สัมภาษณ์ Rich Teo ผู้ร่วมก่อตั้งกล่าวว่าบริษัทกำลังวางแผนการพัฒนาระยะสามปี เขากล่าวว่าสิงคโปร์จะเป็นศูนย์กลางของการเติบโตในภูมิภาคนอกสหรัฐอเมริกา บริษัทมีพนักงาน 20 คนในสิงคโปร์ และพนักงาน 350 คนทั่วโลก
ในขณะนี้พวกเขาเป็นหนึ่งใน 20 บริษัทที่ได้รับอนุญาตจาก MAS ของสิงคโปร์ในการดำเนินการโทเค็นดิจิทัลภายใต้พระราชบัญญัติบริการการชำระเงิน
ด้วยความพยายามในการสรรหาบุคลากรในสิงคโปร์ ทางบริษัทดูเหมือนจะสวนกระแสตลาดโดยรวม อย่างไรก็ตาม กระดานแลกเปลี่ยนหลายแห่งกำลังลดจำนวนพนักงานลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน งานที่เกี่ยวข้องกับ crypto ประมาณ 11,700 ตำแหน่งหายไป ตามรายงานข่าวและแถลงการณ์อย่างเป็นทางการต่างๆ
