Ripple เผยว่ามีการขยาย Liquidity Hub เข้าตีตลาดอีก 2 ประเทศ ได้แก่ Brazil และ Australia เพราะมีเครือข่ายธุรกิจที่ทำงานด้วยกันอยู่แล้ว การร่วมมือกันจะทำให้ผู้ให้บริการด้านคริปโตเข้าถึงสภาพคล่องได้ง่ายขึ้น
ทางบริษัทได้ขยายบริการไปสู่ทั้ง 2 ประเทศเพื่อตอบสนองต่อความต้องการทางด้าน Crypto ของลูกค้า Brad Chase หัวหน้าแผนกดูแลสภาพคล่องของสินทรัพย์ กล่าวว่าการร่วมมือกันนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
Liquidity Hub ของ Ripple
ผลิตภัณฑ์ Liquidity hub เปิดตัวขึ้นเมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา แพลตฟอร์มนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกด้านสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจทางการเงินที่ต้องการเพิ่มบริการทางด้าน Crypto โดยมีหน้าที่เป็นสภาพคล่องสำหรับแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลกับเงิน Fiat
สินทรัพย์ต่างๆ ที่พวกเขาให้บริการได้แก่ bitcoin (BTC), ether (ETH), USD Coin (USDC), Tether (USDT), and Litecoin (LTC) ส่วน XRP นั้นยังไม่มีการให้บริการเพราะยังติดปัญหาด้านคดีความกับทาง SEC สหรัฐอยู่ การรวบรวมสินทรัพย์ต่างๆ ไว้ในสภาพคล่องเดียวทำให้ ธุรกิจที่จะเข้ามาขอใช้บริการมีต้นทุนที่ต่ำลงนั่นเอง
ตอบโจทย์ผู้ใช้งานใน Brazil และ Australia
นอกจากการให้สภาพคล่องแก่ผู้ให้บริการในทั้ง 2 ประเทศนี้แล้ว พวกเขายังมี Trading UI ต่างๆ อีกด้วยเพื่อเสริมประสบการณ์การใช้งานที่ง่ายขึ้นให้แก่ลูกค้า ทำให้การฝากถอนคริปโตทำได้ง่ายขึ้น
ทางบริษัทกล่าวว่า การขยายเข้าสู่ 2 ประเทศนี้ สืบเนื่องมากจากความร่วมมือกับธุรกิจต่างๆ ที่มีปฎิสัมพันธ์กันอยู่แล้วและพบเห็นว่าลูกค้าต้องการบริการทางด้านคริปโตมากขึ้น การเข้าให้บริการสภาพคล่องจึงตอบโจทย์ของนักลงทุนและผู้ใช้งานบน XRPL ที่กำลังเติบโต
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ
