Sandeep Nailwal ผู้ก่อตั้ง Polygon อธิบายปัจจัยสำคัญ 2 ประการที่จะทำให้ Web3 ประสบความสำเร็จในระยะยาวเหมือนกับอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน
Nailwal เน้นย้ำถึงความสามารถใน “การปรับขนาดได้ไม่จำกัด” และความสามารถของบล็อกเชนใน “Interoperability” หรือการสื่อสารข้ามบล็อคเชน ว่าเป็นปัจจัยสำคัญ เขาเน้นย้ำถึงความจำเป็นสำหรับผู้ใช้งานที่จะต้องมีอิสระในการเลือกใช้บล็อคเชนต่างๆ ที่เชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อ
Web3 ควรให้ความสำคัญกับอะไร
ในโพสต์ล่าสุดบน X Nailwal เน้นย้ำถึงความสำคัญของการออกแบบแพลตฟอร์มที่ควรสร้างโดยมีผู้ใช้เป็นศูนย์กลางและการใช้งานที่หลากหลายควบคู่ไปกับความสามารถของเครือข่ายบล็อกเชนในการโต้ตอบระหว่างกันได้อย่างราบรื่น หรือที่เรียกว่า “Interoperability”
“UX ที่ราบรื่นและความสามารถในใช้งานแบบข้ามบล็อคเชนจะกลายเป็นสิ่งจำเป็น การออกแบบ Ethereum + Rollups/Validium เป็นวิธีเดียวที่จะปรับขนาด web3 ให้ใหญ่เท่ากับอินเทอร์เน็ต”
จากข้อมูลล่าสุดจาก Spherical Insights ตลาดของ Interoperability ทั่วโลกอาจมีมูลค่าจะเกิน 1.98 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2030
ความสามารถด้าน Interoperability กำลังได้รับความสนใจในการธนาคาร
ปัจจุบันมีการพูดคุยเกี่ยวกับ Interoperability Blockchain มากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับบทบาทของมันในอุตสาหกรรมธนาคาร โดยเฉพาะการใช้งานด้าน Tokenized asset หรือ RWA
ยกตัวอย่างเช่น ธนาคารรายใหญ่ของออสเตรเลียอย่าง Australia and New Zealand Banking Group (ANZ) ได้ประกาศการนำโปรโตคอลที่มีความสามารถด้าน Interoperability อย่าง CCIP ของ Chainlink มาใช้งานแล้ว
ในขณะเดียวกัน Nigel Dobson ผู้บริหาร ANZ Portfolio อธิบายว่านี่เป็นประเด็นร้อนสำหรับธนาคารรายใหญ่ทั่วโลก:
“ธนาคารต่างๆ กำลังสำรวจกรณีการใช้งานที่เกี่ยวข้องกับ Tokenized Asset มากขึ้น 93 เปอร์เซ็นต์ของนักลงทุนสถาบันเชื่อว่า RWA จะมีมูลค่าในระยะยาว ตามรายงานของ EY ล่าสุด”
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ