SEC สหรัฐ กล่าวหาว่า บริษัทคริปโต 2 แห่ง ทำการบิดเบือนความจริงและให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ เพื่อหลอกลวงนักลงทุนและ Pump and Dump เหรียญคริปโตของแพลตฟอร์มตัวเอง
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐอเมริกา (SEC) ได้กล่าวหาบริษัท 2 แห่ง รวมถึงผู้บริหารของพวกเขา ที่อ้างตัวว่าเป็นผู้ค้าทองคำระหว่างประเทศ ว่าดำเนินแผนฉ้อโกงเพื่อเพิ่มความต้องการโทเคนดิจิทัลของพวกเขา และทำให้พวกเขาได้รับเงินมากกว่า 36 ล้านดอลลาร์ บริษัททั้ง 2 แห่งคือ Arbitrade และ Cryptobontix
การซื้อทองคำมูลค่า 1 หมื่นล้านที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริง
ตามคำฟ้องเมื่อวันศุกร์ที่ 30 กันยายน 2022 จำเลยได้แก่ บริษัทที่ Bermudan ชื่อ Arbitrade และ บริษัท Cryptobontix ของแคนาดา รวมถึง Troy Hogg ผู้ก่อตั้งและเจ้าของ Cryptobontix, James Goldberg, Stephen Braveman ผู้ดำรงตำแหน่ง COO ของ Arbitrade และ Max Barber
Sponsoredพวกเขาอ้างว่า ได้ซื้อทองคำที่ไม่มีอยู่จริงเพื่อมาค้ำมูลค่าของสกุลเงินดิจิตอลของพวกเขาที่เรียกว่า Dignity (DIG) ตั้งแต่ปี 2017 ถึง 2019
ทั้ง Arbitrade และ Cryptobontix ประกาศว่า Arbitrade ซื้อทองคำมูลค่า 10 พันล้านดอลลาร์จาก SION ซึ่งเป็นบริษัทที่ Barber เป็นเจ้าของ และอ้างว่าทุก 3 พันล้าน DIG ได้รับการค้ำมูลค่าด้วยทองคำมูลค่า 1 ดอลลาร์
ตามที่ระบุไว้ในการร้องเรียนของ SEC Hogg จ้างนักพัฒนาชาวรัสเซียในปี 2017 เพื่อสร้าง Dignity ซึ่งเป็นโทเค็นบน Ethereum โดยมี Hogg และ Cryptobontix เป็นเจ้าของและควบคุม เหรียญดังกล่าวเริ่มซื้อขาย บน Livecoin ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขาย crypto ของรัสเซีย
บริษัทยังอ้างว่าพวกเขามีบริษัทตรวจสอบบัญชีเพื่อตรวจสอบทองคำเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุน อย่างไรก็ตาม ก.ล.ต. กล่าวหาว่าทั้งการซื้อทองคำและการตรวจสอบทองคำไม่เคยเกิดขึ้น มันเป็นเพียงกลลวงเพื่อหลอกล่อนักลงทุนให้ซื้อโทเค็น DIG
Pump and Dump จน DIG มูลค่าเหลือ 0
ก.ล.ต. ยังกล่าวอีกว่า Hog และ Goldberg ขาย DIG บน Livecoin ณ “ราคาที่สูงเกินจริง” ส่งผลให้มีรายได้รวม 36.8 ล้านดอลลาร์ หลังจากนั้น DIG ถูกเพิกถอนออกจากแพลตฟอร์ม Livecoin เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2020 หลังจากที่มูลค่าของโทเค็นลดลงเหลือศูนย์
ตามที่ระบุไว้ในคดีความ นักลงทุนมีส่วนร่วมในสิ่งที่พวกเขาเชื่อว่าเป็นโอกาสในการลงทุนโดยมอบเงินของพวกเขาโดยใช้ bitcoin หรือ crypto อื่น ๆ
ดังนั้นสำนักงาน ก.ล.ต. จึงเรียกเก็บเงินจากจำเลยในคดีที่มี “การละเมิดบทบัญญัติการต่อต้านการฉ้อโกงและการจดทะเบียนหลักทรัพย์ของกฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐบาลกลาง” นอกจากนี้ การร้องเรียนของผู้กำกับดูแลกำลังมองหาการชดใช้กำไรที่ได้มาโดยมิชอบ บวกกับดอกเบี้ยจากการถูกพิพากษา คำสั่งห้ามชั่วคราว และบทลงโทษทางแพ่ง
