Square Enix บริษัทผู้พัฒนาวิดีโอเกมสัญชาติญี่ปุ่นได้ขายสตูดิโอพัฒนาเกมหลายแห่ง รวมไปถึง Crystal Dynamics ซึ่งเป็นผู้พัฒนา Tomb Raider บริษัทได้ดำเนินการดังกล่าวเพื่อนำเงินไปลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมไปถึงเทคโนโลยีบล็อกเชน
Square ได้ขายสตูดิโอพัฒนาเกมหลายแห่ง รวมไปถึง Crystal Dynamics ซึ่งเป็นสตูดิโอผู้พัฒนา Tomb Raider เพื่อไปลงทุนในเทคโนโลยีที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งรวมไปถึงบล็อกเชนด้วย ทางบริษัทได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม โดยกล่าวว่าได้ขายสตูดิโอ Crystal Dynamics, Eidos-Montréal และ Square Enix Montréal ซึ่งรับผิดชอบในทรัพย์สินทางปัญญาที่มีชื่อเสียงหลายเกม บริษัทเหล่านี้ได้ถูกขายให้กับ Embrace Group ในราคา 300 ล้านดอลลาร์
เป็นที่ทราบกันดีว่า Square Enix ได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมากต่อเทคโนโลยีบล็อกเชน การประกาศดังกล่าวได้ระบุว่าการขายสตูดิโอเหล่านี้ก็เพื่อจะ “เปิดตัวสายงานธุรกิจใหม่โดยจะเดินหน้าลงทุนในด้านต่างๆ รวมไปถึงบล็อกเชน, AI และคลาวด์”
บริษัทได้ประกาศความร่วมมือกับ double jump.Tokyo โดยจะเน้นไปที่การสร้างเนื้อหา NFT ซึ่งได้ทำมานานกว่าหนึ่งปีที่ผ่านมาแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการอัปเดตใดๆ เพิ่มเติมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
การตอบสนองจากชุมชนเกมนั้นเต็มไปด้วยความผิดหวังและการวิพากษ์วิจารณ์ หลายคนไม่เห็นด้วยว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนนั้นจะนำมาใช้กับวิดีโอเกมได้
Tomb Raider เป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในอุตสาหกรรมเกม มันถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์และถือเป็นสิ่งที่โดดเด่นในอุตสาหกรรม และด้วยการที่บริษัทผู้พัฒนาวิดีโอเกมเริ่มให้ความสนใจในเทคโนโลยีใหม่ๆ มากขึ้น มันอาจจะเป็นไปได้ว่าตัวเกมที่มีชื่อเสียงอื่นๆ จะพิจารณาถึงการใช้งาน NFTs เช่นกัน
ความรักที่เพิ่มมากขึ้นต่อเทคโนโลยี Blockchain?
อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมีการต่อต้านอยู่บ้าง เหล่าเกมเมอร์รู้สึกว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนและ NFT นั้นเป็นเพียงความนิยมชั่วขณะหรือมันไม่ได้ช่วยปรับปรุงประสบการณ์การเล่นเกมเลย ผู้พัฒนาเองก็ยังไม่แน่ใจในเรื่องนี้เช่นกัน บางส่วนกล่าวว่าพวกเขาจะไม่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน และคนอื่นๆ กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาเพื่อตัดสินใจใช้ NFT อีกครั้งหลังจากเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่สาธารณะชน
ผู้พัฒนาวิดีโอเกมได้มีการถกเถียงกับเหล่าผู้ให้บริการเรื่องปัญหาการผสานรวมบล็อกเชนลงไป แต่ความพยายามของ Square นั้นได้แสดงให้เห็นว่าความสนใจนั้นยังคงมีอยู่ Ubisoft ก็เป็นอีกหนึ่งในผู้ให้บริการรายใหญ่ที่ขลุกอยู่กับความพยายามในการใช้งาน NFT และบล็อกเชน
ในขณะเดียวกัน เกม Play-to-Earn ก็ทำได้ดีกว่าที่เคย กิจกรรมของผู้ใช้งานเฉพาะกลุ่มเพิ่มขึ้นกว่า 2,000% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ
