กลุ่มนักวิจัยบล็อกเชนของ Standford University ทำให้เกิดข้อถกเถียงในชุมชนคริปโตมากมายเมื่อสัปดาห์ที่แล้วด้วยข้อเสนอการวิจัยที่อาจความเป็นไปได้ในการสร้างธุรกรรมแบบย้อนกลับบน Ethereum หรือ ERC-20R และ ERC-721R
ข้อเสนอนี้ได้รับการต้อนรับจากบรรดาผู้ที่เชื่อว่าสถานะที่เป็นอยู่ของ crypto นั้นมีการโจรกรรมมากขึ้นเรื่อยๆ และบางครั้งการพิมพ์ผิดในการทำธุรกรรมอาจทำให้คุณเสียเงินหลายล้านดอลลาร์
คนบางกลุ่มจึงมองว่ามันเป็นอุปสรรคต่อการนำไปใช้ในกระแสหลัก เช่นเดียวกันคนบางกลุ่มก็วิจารณ์อย่างหนักเพราะมันคือสิ่งตรงข้ามกับอุดมการณ์ที่พยายามกำจัดตัวกลางออก
Immutability กลายเป็นดาบ 2 คม เพราะมนุษย์มักพลาดพลั้ง
หลักการสำคัญในอุดมคติของบล็อคเชนอย่าง Ethereum คือแนวคิดเรื่องการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ (immutability) แนวคิดที่ว่าธุรกรรมไม่สามารถย้อนกลับได้เมื่อเสร็จสิ้น
แน่นอนว่า มันเป็นคุณลักษณะที่สำคัญสำหรับ cryptocurrencies เพราะมันคือความพยายามในการกำจัดตัวกลางที่มีอำนาจอย่าง ธนาคาร รัฐบาล และหน่วยงานกลางอื่น ๆ ในการเข้ามาและเปลี่ยนแปลงบัญชีแยกประเภทของ chain ออกไป
แต่ Immutability ก็เป็นดาบ 2 คม มันอาจกลายปัญหาสำคัญสำหรับผู้ใช้งาน หากคุณถูกหลอกลวง ตกเป็นเหยื่อของการแฮก หรือเพียงแค่ทำผิดพลาดและส่งเงินไปยังที่อยู่ที่ไม่ถูกต้อง คุณจะไม่มีทางขอความช่วยเหลือในการกู้คืนความสูญเสียของคุณได้เลย
Standford University มองว่าการโจรกรรมคืออุปสรรคที่สำคัญ
ปัจจุบันคำถามที่กำลังเกิดขึ้นคือ ในอุตสาหกรรมการขโมยเงิน 100 ล้านดอลลาร์ถัดไปอาจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และมันจะเกิดขึ้นเพียงแต่ว่าเมื่อไหร่เท่านั้น การปกป้องผู้ใช้จำเป็นต้องประนีประนอมกับหลักการหลักหรือไม่
ในแง่ของการโจรกรรมแบบ on-chain นักวิจัยบล็อกเชนจากมหาวิทยาลัยระบุไว้ในรายงานของพวกเขาว่า “ในปี 2020 เงินจำนวน 7.8 พันล้านดอลลาร์ถูกขโมยไป และในปี 2021 จำนวนเงินนั้นเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่านับเป็นมูลค่ากว่า 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์”
สิ่งที่พวกเขามองก็คือ “หากมีวิธีการย้อนกลับการทำธุรกรรมที่กระทำผิด เช่นเดียวกับในการเงินแบบดั้งเดิม ความเสียหายจะลดลงอย่างมาก” และนี้จึงเป็นที่มาขอการนำเสนอ ERC-20R และ ERC-721R นั่นเอง ทว่าแนวคิดเช่นนี้ค่อนข้างจะขัดแย้งกับอุดมการณ์ที่พยายามลดทอนอำนาจของตัวกลางหรือการแก้ไขธุรกรรมอันมิชอบ ที่จะเป็นช่องโหว่ที่เกิดขึ้นใหม่
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ