Tencent Holdings บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านโซเชียลมีเดียของจีน ได้ปิดแพลตฟอร์ม Non-Fungible Tokens (NFT) Huanhe ของพวกเขา หลังจากเปิดให้บริการได้เพียงปีเดียว ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นสาเหตุมาจากกฏระเบียบในการตรวจสอบการใช้งาน NFT ในประเทศที่เข้มงวดมากขึ้น
Huanhe เปิดตัวเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเพื่อให้ Tencent Holdings สร้างรายได้จากความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ NFT อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มดังกล่าวได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการตัดสินใจของจีนในการห้ามการซื้อขาย NFT ในตลาดรองเมื่อไม่นานมานี้
Tencent ถอนตัวเมื่อแรงกดดันจากหน่วยงานกำกับดูแลเพิ่มมากขึ้น
จากรายงานของ Reuters ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการถอยครั้งใหญ่ของ Tencent จากตลาด NFT ซึ่งตกเป็นเป้าหมายในการตรวจสอบที่เพิ่มมากขึ้นจากหน่วยงานกำกับดูแลของจีนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
ประเทศจีนได้เปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) ต่อสาธารณชนในช่วง Winter Games (โอลิมปิกฤดูหนาว) ปี 2022 เพื่อเป็นแนวทางในการขยายโปรเจกต์นำร่องเงินหยวนดิจิทัล ในเดือนมิถุนายน ธุรกรรมของเงินหยวนดิจิทัลของจีนมีมูลค่าถึง 8.3 หมื่นล้านหยวน จำนวนการทำธุรกรรมทั้งหมดอยู่ที่ 264 ล้านครั้ง และมีร้านค้าเชิงพาณิชย์มากกว่า 4.5 ล้านแห่งที่สมัครใช้บริการดังกล่าว
เมื่อไม่นานมานี้ ธนาคารกลางของจีน (PBOC) ประกาศว่า จะเพิ่มเมืองอีก 11 เมืองในการเข้าร่วมโครงการนำร่องเงินหยวนดิจิทัล ซึ่งหมายความว่า ผู้อยู่อาศัยในพื้นที่เหล่านี้จะสามารถใช้กระเป๋าเงินหยวนดิจิทัลได้ในไม่ช้า
ในขณะเดียวกัน ประเทศอื่นๆ ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา CBDC ของตนเองเท่านั้น สหรัฐฯ ได้ประกาศว่าจะเริ่มกระบวนการพิจารณาเรื่องเงินดอลลาร์ดิจิทัล อินเดีย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศเศรษฐกิจหลักที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ยังได้ประกาศเกี่ยวกับการศึกษาการใช้งานเงินรูปีเสมือนจริง
กำลังทำการตรวจสอบ NFT
NFT เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทหนึ่งที่เป็นปรากฏการณ์ในพื้นที่บล็อกเชน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาด NFT ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นและมีการใช้งานที่หลากหลาย โดย NFT สามารถใช้เพื่อเป็นตัวแทนของศิลปะดิจิทัล เพลง วิดีโอ หรือเนื้อหาดิจิทัลประเภทอื่นๆ นอกจากนี้ มันยังถูกใช้เพื่อเป็นตัวแทนของสิ่งของที่จับต้องได้ เช่น ตั๋วหรือบัตรผ่านอีกด้วย
ในแง่ของกรอบกฎหมาย การถ่ายโอนจากสินทรัพย์ที่จับต้องได้ไปเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลและอิเล็กทรอนิกส์ช่วยอำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยน อย่างไรก็ตาม ความยากก็คือวิธีการที่จะควบคุมเศรษฐกิจในรูปแบบใหม่นี้ ซึ่งสุดท้ายแล้ว รัฐบาลจีนก็จะต้องพยายามในการที่จะไล่ตามนวัตกรรมใหม่นี้ในที่สุด
