VeChain ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ของโปรเจค VeCarbon กับ Amazon โดยมุ่งเป้าไปที่การใช้ประโยชน์จาก Cloud computing และเทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อสนับสนุนบริการการจัดการคาร์บอน ขยายขนาดการดำเนินงาน และบรรลุเป้าหมายที่กำหนดโดยทางการจีน
VeChain เปิดตัวในปี 2015 ในฐานะเครือข่ายบล็อกเชนส่วนตัว ต่อมามูลนิธิได้เปิดตัวเชนสาธารณะ VeChainThor ที่รองรับการใช้งาน Smart Contract และเป็น Ethereum Virtual Machine (EVM)
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Amazon Web Services (AWS) ได้ลงนามเป็นพันธมิตรด้านเทคโนโลยีของโปรเจคจัดการ carbon นี้ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Shanghai Tanlian Technology Co., Ltd. ด้วยอีกแรงหนึ่ง
การโจมตีเทคโนโลยี Blockchain ในประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม
การแก้ปัญหาในโลกแห่งจริง เช่น ปัญหาการปล่อยคาร์บอนและห่วงโซ่การผลิต ได้กลายเป็นจุดสนใจของบล็อกเชนสาธารณะต่างๆ ทั่วโลกหลังจากการโจมตีในประเด็นดังกล่าวเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ จากรัฐบาลและองค์กรต่างๆ โดยอ้างสนธิสัญญา Paris Agreement (GHG) เเละ Environmental, Social, and Governance (ESG) หรือนโยบายสากลต่างๆ เกี่ยวกับการควบคุมธุรกิจเเละสิ่งเเวดล้อม
จีน เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน โดยได้กำหนดนโยบายการปล่อยคาร์บอนที่เข้มงวดในเดือนกันยายน 2020 มีเป้าหมายลดคาร์บอนให้เป็นศูนย์ในปี 2060 จึงออกนโยบายบังคับให้บริษัทต่างๆ คิดทบทวนกลยุทธ์การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี เพื่อบรรเทาผลกระทบนี้
VeCarbon ระบบจัดการการปล่อย Co2 เต็มรูปแบบ
โปรเจคนี้เกิดขึ้นในปี 2021 เป็น เพื่อปรับการทำงานของ VeChain ให้เป็นไปความต้องการและนโยบายการจัดการคาร์บอนของจีน โปรเจคนี้ได้รับการสนับสนุนจาก The VeChain Foundation และ Shanghai Tanlian Technology Co.,Ltd., เป็นหลัก ซึ่งมันจะทำงานในรูปแบบ one-stop-service แบบใช้งานง่ายและมีอัตราการปล่อย Co2 เป็นศูนย์
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา การร่วมมือกับ Amazon Web Services จะทำให้ระบบนี้ขยายผลได้มากขึ้น และสามารถทำงานได้ในระดับประเทศ หรืออาจข้ามทวีปได้ โดย 2 ส่วนสำคัญที่ AWS เข้ามาจัดการ คือ เรื่องค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการที่ถูกลง และ ด้านความปลอดภัยของระบบ
Gong Diyun หัวหน้าฝ่ายกิจการเพื่อความยั่งยืนกล่าวว่า มันเป็นเหตุผลหลักในการร่วมมือครั้งนี้
“การบริการที่หลากหลายของ AWS นั้น ตอบโจทย์ของทางบริษัทและสามารถนำมาใช้งานร่วมกับระบบของเราได้ทันที ซึ่งมันลดค่าปฏิบัติติการของเรา และลดความจำเป็นในการลงทุนที่สิ้นเปลืองบนโครงสร้าง hardware อีกด้วย”
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ
