Vitalik Buterin เผยแพร่บล็อกโพสต์เกี่ยวกับปัญหาใน “Decentralized proof-of-personhood” ของโปรเจค“Worldcoin” (WLD) จาก Sam Altman CEO ของ OpenAI
แม้ว่าเขาจะชื่นชนแนวคิดของโปรโตคอลนี้ แต่เขามองว่ามันยังมีจุดอ่อนอยู่ 4 อย่าง ได้แก่ ความเป็นส่วนตัว การเข้าถึง การรวมศูนย์ และความปลอดภัย โดยเรื่องความเป็นส่วนตัวและการรวมศูนย์เป็นประเด็นที่สำคัญที่สุด
Worldcoin กับประเด็น Privacy
เขามองว่า Proof of personhood มีความเสี่ยงที่สำคัญอยู่ 2 ประการที่คุกคามความเป็นส่วนตัว ประการแรก คือการเชื่อมโยงทุกการกระทำของใครบางคนกับตัวตนที่แท้จริงของพวกเขา ประการที่ 2 คือการเก็บข้อมูลการสแกนไบโอเมตริกซ์
ระบบพิสูจน์ตัวตนมักจะใช้ข้อมูลไบโอเมตริกซ์เพื่อตรวจสอบว่าผู้ใช้เป็นมนุษย์หรือไม่ และเพื่อป้องกันการใช้ตัวตนซ้ำและการใช้บอท
ทางโปรเจคใช้วิธีการเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานผ่านอุปกรณ์ชื่อ “Orb” ด้วยการสแกนม่านตา และนำมาใช้ระบุตัวตนของ Address ต่างๆ บน Blockchain เพื่อส่ง WLD ให้ในอนาคตสำหรับผู้ที่ให้ข้อมูล วิธีดังกล่าวทำให้ชุมชนคริปโตมองว่าโปรเจคนี้คือ “เผด็จการดิจิทัล”
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของความเป็นส่วนตัว Vitalik อ้างว่า โปรเจคนี้ไม่ได้แย่ขนาดนั้น มันบันทึกเพียงแฮชของการสแกนม่านตาของผู้ใช้ ไม่สามารถระบุตัวตนที่แท้จริงได้ทั้งหมด
ปัญหา Centralization ในมุมมองของ Vitalik
เนื่องจากการใช้งานโปรโตคอลจำเป็นต้องเก็บข้อมูลผ่าน อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ Orb มันจึงเป็นข้อจำกัดด้านการเข้าถึงที่ปิดกั้นผู้ใช้งานในหลายๆ ประเทศ หรือแม้แต่ในสหรัฐอเมริกาเองที่กฎระเบียบไม่ชัดเจน พวกเขาก็อาจไม่สามารถเข้าถึงโปรโตคอลได้เช่นกัน
โปรเจคนี้ยังมีจุดรวมศูนย์อยู่อีกหลายจุด การกำกับดูแลระดับบนสุด การผลิต Orb และอัลกอริทึมแบบกระจายศูนย์ตามเวลา แต่สิ่งนี้ก็อาจล้มเหลว เนื่องจากผู้ผลิตชุดเก็บข้อมูลหรือผู้กำกับดูแลอาจจะมีอำนาจมากเกินไป
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ