บริษัท Voyager ตัดสินใจที่จะดำเนินการเปิดให้ถอนเงินสดในแอปพลิเคชันได้ ผู้ใช้จะสามารถถอนเงินสดที่ตกค้างอยู่ได้ในเร็วๆ นี้ หลังจากทางบริษัทระงับการซื้อขาย การฝาก การถอน และรางวัลสมาชิกนานกว่าหนึ่งเดือน
ทางบริษัท วางแผนเตรียมอนุญาตให้ลูกค้าถอนเงินได้อีกครั้งในวันที่ 11 สิงหาคม ตามที่กล่าวไว้ในบล็อกโพสต์ของบริษัท แพลตฟอร์มดังกล่าวก่อนหน้านี้ได้ยื่นขอความคุ้มครองการล้มละลายในเดือน กรกฎาคม และได้รับการอนุมัติจากศาลไปเมื่อต้นเดือน
การอนุมัตินี้หมายความว่า ทางบริษัทสามารถเริ่มคืนเงินสดให้กับลูกค้า จากในบัญชีเงินฝากที่ธนาคาร Metropolitan ที่พวกเขาเคยเก็ยเงินลงทุนเอาไว้ หลังจากการถอนไม่ถูกปิดจากความสูญเสียครั้งใหญ่ ในกรณีการล่มสลายของกองทุน hedge fund คริปโต Three Arrows Capital
ทางบริษัท กล่าวว่าลูกค้าที่มีเงินดอลลาร์สหรัฐในบัญชีของพวกเขา จะสามารถถอนเงินได้สูงถึง 100,000 ดอลลาร์ ในหนึ่งวันตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป ลูกค้าจะได้รับเงินเหล่านี้ภายใน 5-10 วันทำการ
การประกาศนี้เกิดขึ้นหลังจากผู้พิพากษาผ่านกฎในสัปดาห์นี้ว่า ทางแพลตฟอร์มสามารถคืนเงินจำนวน 270 ล้านดอลลาร์ในกองทุนของลูกค้าที่เปิดบัญชีอยู่ที่ธนาคาร Metropolitan ในนิวยอร์ก
นโยบายปรับโครงสร้างหนี้ของ Voyager
การปรับโครงสร้างบริษัทเป็นกระบวนการ “stand-alone restructuring” หรือการอนุญาตให้มีการขายบริษัทเพื่อปรับโครงสร้างได้ อ้างอิงจาก blog ของทางบริษัท ศาลได้อนุญาตให้บริษัทสามารถขายกิจการได้แล้ว ตามกระบวนการทางกฎหมาย
การประมูลกิจการคาดว่าจะเกิดขึ้น ในปลายเดือนสิงหาคมนี้ และการเปิดรับผู้ประมูลจะเริ่มต้นเดือนหน้า สำหรับการฟ้องร้องวันที่ 3 ตุลาคมจะเป็น deadline สำหรับผู้ที่ต้องการฟ้องร้องบริษัท ทั้งผู้เสียหายที่เป็นผู้ให้กู้และผู้ที่ถือคริปโตอยู่ในกระเป๋าที่ถูกล็อค
ในขณะเดียวกัน ผู้บริหารระดับสูงเก่าของทางบริษัท Shingo Lavine และ Adam Lavine เสนอว่า บริษัทยังไม่ควรเปิดบริการด้านการกู้ยืม แต่ควรเปิดให้มีการซื้อขายได้เพียงเท่านั้น
มันหมายความว่า เหรียญคริปโตต่างๆ จะถูกส่งมอบคืนให้กับลูกค้าและมันเป็นไปตามแผนของทางบริษัทที่วางไว้ หลังเกิดวิกฤตขึ้น
ทางบริษัทปฎิเสธการเข้าซื้อกิจการจาก FTX
Sam Bankman-Fried มหาเศรษฐี Crypto เคยเสนอซื้อกิจการด้วยเงินสดตามมูลค่าตลาด โดยเสนอให้ลูกค้ามีทางเลือกในการรับเงินคืนตามสัดส่วน โดยการเปิดบัญชีใหม่ที่ FTX จะสามารถทำผู้งานถอนเงินออกไปได้
ทางบริษัทปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าวโดยระบุว่าเป็นการประมูลเพื่อชำระบัญชีที่เอาเปรียบ และกล่าวว่า ข้อตกลงนี้ไม่ได้เป็นประโยขน์สูงสุด สำหรับลูกค้าของบริษัท ทางทนายความกล่าวในศาลว่า ทางบริษัทได้รับการเสนอราคามากมายสำหรับสินทรัพย์ของตน ซึ่งมีมูลค่ามากกว่าข้อเสนอจาก FTX และ Alameda
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ