DIF หรือ Digital Infrastructure คือ ระบบหลังบ้านรูปแบบดิจิทัล ที่ทาง ก.ล.ต. กำลังพัฒนาอยู่ โดยในอนาคตจะถูกนำมาทดแทนระบบปัจจุบันในตลาดทุนไทยทั้งหมด
หากคุณเคยลงทุนทั้งในตลาดหลักทรัพย์ ตลาดตราสารหนี้ และตลาดคริปโตเคอเรนซี่ คุณคงจะสงสัยว่าทำไมตลาดทุนปกติถึงมีการชำระธุรกรรมที่ช้า เช่น การชำระธุรกรรมเมื่อซื้อขายหุ้นต้องใช้เวลากว่า 2 วัน แต่ตลาดคริปโตเคอเรนซี่กลับสามารถถอนได้เลย
สิ่งที่แตกต่างกันคือระบบหลังบ้านที่ต่างกัน และระบบใหม่นี้จะเข้ามาเพิ่มศักยภาพให้แก่ภาคส่วนตลาดทุนในไทยให้ไม่เหมือนเดิม
DIF คืออะไร
ระบบดังกล่าวเป็นโครงสร้างการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศไทย ที่จะถูกนำมาใช้เป็นระบบหลังบ้านของตลาดทุนทั้งหมดในอนาคต โดยการแปลงหลักทรัพย์ต่างๆ ให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล ทั้ง ตราสารหนี้ หน่วยลงทุน หุ้น และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า แบบ end-to-end service
โครงการนี้เริ่มพัฒนาโดย ก.ล.ต. ในปี 2562 และได้รับเงินทุนสนับสนุนจากตลาดทุน CMDF โดยมีความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ ทั้ง กลุ่มบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ และ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยคาดว่าจะพัฒนาได้อย่างสมบูรณ์และนำมาใช้จริงภายในปี 2570
ปัจจุบันพัฒนาถึงขั้นตอนไหนแล้ว?
แม้ระบบทั้งหมดจะยังไม่สมบูรณ์ แต่ตอนนี้เริ่มพัฒนา Web Portal แล้ว หรือ Interface สำหรับนักลงทุนที่จะเชื่อมไปยังระบบหลังบ้านอีกที
ปัจจุบัน Web Portal เริ่มเปิดทดสอบแล้วตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 2566 โดยเริ่มจากระบบรองรับการเสนอขาย “ตราสารหนี้” ของภาคเอกชน ด้วยระบบดังกล่าว นักลงทุนจะได้รับหุ้นกู้ไร้ใบหลักทรัพย์ ภายใน 2 วันทำการนับจากวันที่ออกหลักทรัพย์ และนำไปซื้อขายในตลาดรองได้ทันที ในขณะที่ระบบเก่าให้เวลาถึง 14 วัน
ในขั้นตอนการทดสอบ มีผู้เสนอขายแล้ว 4 ราย ได้แก่ บริษัท ปตท. จำกัดมหาชน บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัดมหาชน ธนาคารกสิกรไทย และ บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง นับเป็นมูลค่ารวม 6.7 พันบาท การทดสอบนี้เปิดให้แต่นักลงทุนสถาบันเข้าซื้อขายเท่านั้น และยังไม่เปิดให้รายย่อยเข้าร่วม
สรุป
DIF หรือ Digital Infrastructure กำลังถูกพัฒนาโดย ก.ล.ต.เพื่อปรับปรุงสมรรถภาพของตลาดทุนในประเทศไทย และแปลงหลักทรัพย์ต่างๆ ให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล ทำให้การชำระธุรกรรมหรือขั้นตอนต่างๆ รวดเร็วมากขึ้น ปัจจุบันมีการทดสอบแล้วในระดับนักลงทุนสถาบันในตลาดตราสารหนี้ และคาดว่าจะถูกนำมาใช้ในตลาดทุนอย่างสมบูรณ์ภายในปี 2570
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ