CZ กล่าวว่า การซื้อธนาคารไม่ได้ทำให้ระบบตัวกลางธนาคารเปลี่ยนไปในอนาคต และมันก็เป็นวิธีการที่แย่สำหรับการแก้ปัญหาการขอใช้บริการจากธนาคารของ Binance ที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้
หลังจากที่มีแรงกดดันด้านกฎระเบียบจากสำนักงาน ก.ล.ต. และหน่วยงานเฝ้าระวังทั่วโลกอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้น สมาชิกของชุมชน crypto เริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในอนาคตของอุตสาหกรรมกับภาคการธนาคารที่เป็นข้อต่อระหว่างผู้ใช้บริการกับตลาดคริปโต
ปัญหาความเชื่อมั่นในบริบทปัจจุบัน
ความกระวนกระวายใจเกี่ยวกับกฎระเบียบของ crypto ทวีคูณขึ้นอย่างรุนแรงหลังจากการล่มสลายของทั้ง Signature Bank และ Silvergate Bank ซึ่งทั้ง 2 ธนาคารนี้ มีส่วนในการผลักดันโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมากในการเชื่อมโยงอุตสาหกรรม crypto กับภาคการธนาคาร
ยิ่งไปกว่านั้น การปฏิเสธของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับกฎระเบียบที่ชัดเจนแก่ Coinbase และกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตอื่นๆ ในสหรัฐอเมริกา ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างภาคคริปโต ธนาคาร และ หน่วยงานรัฐย่ำแย่ลงไปอีก ทำให้บริษัทบางแห่ง เช่น Gemini ย้ายสำนักงานใหญ่ไปที่ยุโรปแทน
ปัญหาของ Binance กับตัวกลางและธนาคาร
ปัจจุบันแพลตฟอร์ม Global ของเขาไม่ได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินการในสหรัฐอเมริกาจากกฎระเบียบด้านการธนาคาร พวกเขาจึงเปิดตัว สาขา US ขึ้นมา แม้ว่าทั้ง 2 แพลตฟอร์มจะใช้ชื่อเดียวกัน แต่ สาขา US มีโครงสร้างองค์กรที่แตกต่างกันและไม่ได้ขึ้นตรงกับ CZ หรือสมาชิกคนอื่น ๆ ของ C-suite ของแพลตฟอร์ม Global
เป็นเวลาหลายเดือนที่ทางบริษัทมองหาวิธีแก้ปัญหาสำหรับความสัมพันธ์ที่เปราะบางที่ crypto มีกับภาคการธนาคารในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการข้อพิพาทกับธนาคารและผู้ให้บริการ fiat ในออสเตรเลียเมื่อไม่นานมานี้
“ทาง Binance_AUS ขอโทษสำหรับลูกค้าชาวออสเตรเลีย ตอนนี้เราไม่สามารถให้บริการฝากเงิน PayID AUD ได้เพราะปัญหาระหว่างผู้ให้บริการช่องทางการชำระเงินของเรากับธนาคารในประเทศ”
การซื้อธนาคารจะสร้างปัญหาเพิ่มขึ้นและไม่ช่วยแก้ปัญหาอีกด้วย
ในการให้สัมภาษณ์ในรายการ Bankless podcast นั้น CZ กล่าวว่าเขาและทีมของเขาเคยคิดว่าแค่ซื้อธนาคารสักแห่งก็อาจสามารถแก้ปัญหาประเภทนี้ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาผู้ให้บริการที่เป็นตัวกลางอีกต่อไป แต่พวกเขาก็ตัดสินใจปัดไอเดียนี้ทิ้ง
จากข้อมูลของผู้บริหาร ปัญหาที่แพลตฟอร์ม cryptocurrency เผชิญอยู่นั้นไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการซื้อธนาคารเพียงอย่างเดียว แม้ว่าพวกเขาจะซื้อธนาคารในสหรัฐอเมริกา แต่มันก็ไม่รับประกันการอนุมัติตามกฎระเบียบในประเทศอื่นๆ อยู่ดี
นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการซื้อและดำเนินการธนาคารอาจทำให้ทางบริษัทเสียเงินไปเปล่าๆ เนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแลสามารถห้ามไม่ให้ธนาคารให้บริการแก่ธุรกิจ crypto ได้อยู่ดี
“ธนาคารเป็นธุรกิจที่มีราคาสูง ในขณะที่สร้างรายได้ให้แก่ธุรกิจได้น้อย […] จำนวนเงินทุนที่ต้องใช้ค่อนข้างสูง และการอนุมัติตามกฎระเบียบในการซื้อธนาคารนั้น ไม่ต่างจากการตั้งธนาคารขึ้นใหม่
มันจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก หากหน่วยงานกำกับดูแลด้านการธนาคารออกมาห้ามคุณไม่ให้ธนาคารของคุณให้บริการแก่ธุรกิจคริปโต พวกเขาสามารถยึดใบอนุญาตของคุณได้หากคุณฝืนจะทำเช่นนั้น ดังนั้นการซื้อธนาคารไม่ได้ป้องกันหรือแก้ปัญหาดังกล่าวได้”
อย่างไรก็ตาม Binance กล่าวว่า แม้พวกเขาจะไม่ซื้อธนาคารอย่างแน่นอน แต่ยังมีการลงทุนจำนวนเล็กๆ ในกลุ่มธุรกิจธนาคารอยู่ เพื่อหาช่องทางในการดำเนินการและแก้ปัญหานี้ต่อไป
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ
