การล่มสลายของ First Republic Bank (FRB) ในประเทศสหรัฐอเมริกาจริงๆ แล้วมีขนาดใหญ่ยิ่งกว่า Silicon Valley Bank ที่ผ่านมาเสียอีก ล่าสุด JPMorgan Chase ประกาศเข้าซื้อกิจการแล้วเมื่อวันจันทร์ บทความนี้จะมาสรุปเหตุการณ์ทั้งหมด
ธนาคาร FRB ส่อแววล่มมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ก่อนที่หน่วยงานกำกับดูแลเข้ายึดเมื่อวันจันทร์ ภายในวันเดียวกันธนาคารยักษ์ใหญ่ JPMorgan Chase ได้เสนอราคาเพื่อซื้อสินทรัพย์เกือบทั้งหมด ทำให้ผู้ฝากเงินและผู้ถือหุ้นต่างกังวลใจว่าต้องดำเนินการอย่างไรต่อ
ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จุดเริ่มต้นของการล่มสลาย
การล่มสลายเกิดขึ้นหลังจากการ Silicon Valley Bank และ Signature Bank ล้มละลายและถูกยึดโดยผู้กำกับดูแลช่วงต้นเดือนมีนาคม
เช่นเดียว ธนาคาร Silicon Valley เงินฝากของ FRB จำนวนมากไม่มีประกันเพราะเกินความคุ้มครองประกัน 250,000 ดอลลาร์ที่ FDIC เสนอให้ ทำให้ธนาคารดังกล่าวมีความเสี่ยงต่อการ bank run สูงเนื่องจากผู้ฝากเงินที่ตื่นตระหนกจะรีบแห่กันถอนเงินจากข่าวลือต่างๆ
เงินช่วยเหลือและความพยายามที่ล้มเหลว
ในช่วงกลางเดือนมีนาคม ธนาคารขนาดใหญ่กลุ่มหนึ่งให้เงินทุนช่วยเหลือ 3 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อช่วยให้ FRB มีเสถียรภาพมากขึ้น หลังจากการล่มสลายของ Silicon Valley Bank
ในการกู้สถานการณ์ ธนาคารวางแผนที่จะขายสินทรัพย์ที่ขาดทุนอยู่ เช่น สัญญาการจำนองดอกเบี้ยต่ำที่ให้แก่ลูกค้ารายได้สูง นอกจากนี้ยังประกาศแผนการเลิกจ้างพนักงานมากถึง 1 ใน 4 จากพนักงานทั้งหมดประมาณ 7,200 คน
ผู้คนแห่ถอนเงินและเทขายหุ้น
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้นักลงทุน กังวลใจและแห่กันถอนเงิน ดังนั้นเมื่อทางธนาคารเปิดเผยงบอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายนว่า ลูกค้าแห่กันถอนเงินไปกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ในรายงานสรุปงบเดือนมีนาคม ทาง FDIC จึงเตรียมแผนเข้าควบคุมกิจการทันทีหลังจากนั้นเพียงสัปดาห์เดียว เพราะมันเป็นสัญญาณของ Bank run ที่จะเกิดขึ้น และดำเนินการเข้าควบคุมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
รายงานงบไตรมาสที่ย่ำแย่ ทำให้ผู้ถือหุ้นต่างหวั่นกลัว ทำให้หุ้นของทางธนาคารร่วงลงกว่า 75% ในสัปดาห์ที่แล้ว เหลือเพียง 3.51 ดอลลาร์ หลังปิดสัปดาห์ เมื่อวันศุกร์ ซึ่งการล่มสลายครั้งนี้มีมูลค่ามากกว่า Silicon Valley Bank
JPMorgan Chase เข้าซื้อ First Republic Bank
JPMorgan Chase ซึ่งเป็นหนึ่งในธนาคารที่บริจาคส่วนหนึ่งของเงิน 3 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมีนาคม ได้ประกาศเข้าซื้อกิจการและสินทรัพย์จำนวนมากของธนาคารจาก FDIC ในวันเดียวกันกับที่ธนาคารถูกหน่วยงานควบคุม
มูลค่าทั้งหมดที่ทางกิจการจะต้องจ่ายเพื่อซื้อคือ 9.2 หมื่นล้านดอลลาร์ในเงินฝากที่มีประกันและไม่มีประกัน เงินกู้ 1.73 แสนล้านดอลลาร์ และหลักทรัพย์ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ตามรายงานของ Benjamin Salisbury at Height Securities
ในการเข้าซื้อครั้งนี้ FDIC และ JP จะแบ่งปันผลขาดทุนจากสินเชื่อที่อยู่อาศัยครอบครัวเดี่ยวและสินเชื่อเพื่อการพาณิชย์ด้วยกัน
Jaret Seiberg นักวิเคราะห์ของ Cowen กล่าวว่า “นี่เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ธรรมดา” เพราะหน่วยงานกำกับดูแลกำลัง “อนุญาตให้ธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของประเทศยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีก” การเข้าครอบครองกิจการครั้งนี้อาจทำให้ JP เป็นรายใหญ่รายเดียวที่สามารถครอบครองตลาดการธนาคารได้ทั้งหมด
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ