ชาวอาร์เจนตินา หันมาใช้ Bitcoin เพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในเดือนเมษายน อัตราเงินเฟ้อแตะ 58% เป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 30 ปี
ความกลัวเรื่องเงินเฟ้อนั้นรุนแรงมากจนธนาคารต้องยอมจำนนต่อความต้องการของสาธารณะในการใช้งาน Crypto ธนาคารรายใหญ่ 2 แห่งในอาร์เจนตินาเตรียมเปิดให้ใช้บริการ Crypto ร่วมกับ Lirium อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางของประเทศได้สั่งห้ามหน่วยงานทางการเงินที่มีการควบคุมจากกฏระเบียบในการเสนอสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณที่ขัดแย้งออกมา

ปริมาณ LocalBitcoins รายสัปดาห์ในอาร์เจนตินาอยู่ที่ 18.6 ล้านดอลลาร์ ยังไม่ใกล้เคียงกับระดับสูงสุด แต่ยังคงเป็นสัญญาณของสิ่งที่จะเกิดขึ้น ปริมาณการซื้อขาย P2P ในประเทศมีแนวโน้มที่จะผันผวนมาก ดังนั้น อาจจะมีที่เก็บไว้อยู่อีกมากในแพลตฟอร์มเหล่านี้
การประมาณการชี้ให้เห็นว่าการยอมรับ Crypto ในอาร์เจนตินาสามารถเติบโตได้ถึง 235% ในอีก 12 เดือนข้างหน้า

เจ้าหน้าที่นั้นเริ่มที่จะจัดเก็บภาษีจาก Crypto แล้วในขณะนี้ ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่ากรอบการกำกับดูแลอาจจะกำลังมีการดำเนินการอยู่
Bitcoin สามารถทำหน้าที่เป็นตัวป้องกันเงินเฟ้อได้หรือไม่?
ในขณะที่อาร์เจนตินาเป็นประเทศที่เกิดอัตราเงินเฟ้อที่เลวร้ายที่สุดประเทศหนึ่ง เกือบทุกประเทศต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นเช่นเดียวกัน สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรต่างกำลังเผชิญกับปัญหาดังกล่าว สงครามในยูเครนนั้นไม่ได้ช่วยในเรื่องต้นทุนพลังงานและอาหารทั่วโลกเลย และสิ่งต่างๆ อาจจะเลวร้ายลง
ในสถานการณ์เช่นนี้ นักลงทุน Bitcoin มักจะได้รับผลประโยชน์จาก Bitcoin เพิ่มเป็นสองเท่า ข้อถกเถียงก็คือ Bitcoin ได้รับการปกป้องจากผลกระทบของตลาดโลก โดยทำหน้าที่อย่างอิสระ ด้วยเหตุนี้ หลายคนจึงลงทุนใน Bitcoin เพื่อป้องกันภาวะเงินเฟ้อ
อย่างไรก็ตาม นิยามที่ว่า Bitcoin และตลาด Crypto ทำงานอย่างอิสระนั้นดูเหมือนจะไม่ค่อยถูกต้องนัก ความสัมพันธ์ของ Crypto กับตลาดอื่นๆ แข็งแกร่งขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดังนั้น นักลงทุนควรจะต้องระมัดระวังให้ดี