นักวิเคราะห์เตือน ตลาด Crypto ยังเผชิญความเสียหายจนกว่าเข้าสู่ ‘การยอมจำนน’

นักวิเคราะห์เตือน ตลาด Crypto ยังไม่ถึงจุดต่ำสุด เนื่องจากยังมีความหวาดกลัวไม่มากพอ ซึ่งขาลงของตลาด Crypto อาจยืดเยื้อนานขึ้น

นักวิเคราะห์เตือน ตลาด Crypto ยังไม่เข้าสู่การยอมจำนน

ความเสียหายของตลาด Crypto เริ่มยาวนานและหนักหน่วงมากขึ้นในเดือนมิถุนายน โดยเฉพาะเหรียญใหญ่ที่สุดอย่าง Bitcoin ที่เพิ่งทำสถิติมูลค่าย่ำแย่ที่สุดต่อเดือน ซึ่งครั้งสุดท้ายต้องย้อนหลังไปถึงปี 2013 ที่มูลค่า BTC ลดลง 40% ในหนึ่งเดือน

Tom Loverro ซึ่งเป็นหุ้นส่วน IVP และอดีต Board Observer ของ Coinbase แสดงความคิดเห็นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าตลาดหมีจะยืดระยะเวลาออกไปสำหรับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล เนื่องจากความหวาดกลัวยังไม่แย่พอที่ทำให้นักลงทุนยอมแพ้

เขามองว่าตลาดหมีอาจดำเนินต่อไปกระทั่งปี 2023 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ราคาเหรียญต่าง ๆ เคลื่อนไหวอยู่ในแนวราบจนถึงระดับต่ำ จนนักลงทุนเริ่มความสิ้นหวังและเดินออกไปจากตลาด ซึ่งการจะเป็นเช่นนั้นต้องใช้ระยะหลายเดือน

“…after indifference sets in, crypto is no longer making headlines, and the tourists have left. That process will take many months,”

Tom Loverro

Ark Invest บริษัทการลงทุนของ Cathie Wood กล่าวในรายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาที่เจาะจงไปที่ Bitcoin และชี้สาเหตุที่กำลังลุกลามจากปัญหาที่บริษัทการลงทุน Crypto เช่น Celsius, Three Arrows Capital, Babel และอื่น ๆ ที่กำลังเกิดขึ้น ตัวกระตุ้นที่จะฉุด Bitcoin ไปสู่ ​​”การยอมจำนน” 

อย่างไรก็ตาม ภาพที่เลวร้ายที่สุดคือ ถึงแม้ว่า Crypto กำลังเริ่มเข้าสู่สภาวะการยอมจำนนแล้ว แต่ปัญหาด้านเศรษฐกิจมหาภาคยังคงคาดการณ์แนวโน้มที่ชัดเจนยังไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นสงครามที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น อัตราเงินเฟ้อที่ยังไม่ลดลงจนทำให้อัตราดอกเบี้ยเพิ่มมากขึ้น เหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อตลาด

การยอมจำนนของตลาด

การยอมจำนนในด้านการเงินคือสถานการณ์ที่เกิดความกดดันจากการขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในตลาดขาลง นักลงทุนเลิกหวังการทำกำไรเนื่องจากราคาที่ลดลงอย่างมาก ซึ่งลดลงต่ำที่สุดเท่าที่จะต่ำได้ จนนักลงทุนหวาดกลัวและไม่มีใครกล้าเข้ามาเจอความเสี่ยง

การยอมจำนนมักเกิดขึ้นหลังจากราคาตกต่ำลงอย่างมาก ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้แม้ว่านักลงทุนจำนวนมากจะยังคงอยู่ในสภาวะขาขึ้น ในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำรุนแรงมากขึ้น มันถึงจุดที่การขายโดยนักลงทุนไม่เต็มใจที่จะประสบกับการสูญเสียต่อไป ซึ่งนำไปสู่ช่วงที่ราคาดิ่งลงอย่างมาก