ยอดขายโทเค็นที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้ (NFT) ลดลงอย่างมากในไตรมาสที่สามทั้งในด้านปริมาณและรายได้ เนื่องจากตลาดเงินดิจิทัลยังคงซบเซาในช่วง “ฤดูใบไม้ร่วง”
ในช่วงไตรมาสที่สามของปี 2022 ยอดขายรวมของ NFT มีมูลค่า 3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐตามข้อมูลจาก DappRadar ซึ่งเป็นแทรกเกอร์เหล่าแอปพลิเคชันการเงินแบบกระจายอํานาจ
ผลเช่นนี้แสดงถึงยอดขายที่ลดลงมากกว่าครึ่งจาก 8.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสก่อนหน้า และเกือบสองในสามจากจุดสูงสุดในไตรมาสแรกที่ 1.25 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐจากยอดขายรวม
ตั้งแต่กลางเดือนมกราคม 2022 ยอดขายโทเค็นขึ้นสู่จุดสูงสุด ซึ่งมากกว่า 900,000 รายการ ทั้งนี้ จํานวนยอดขายรายสัปดาห์ของ NFT ก็ลดลงครึ่งหนึ่งเช่นกัน ตามข้อมูลจาก NonFungible.com แม้ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา จํานวนยอดขายลดลงกว่า 50% เหลือเพียง 23,000 รายการต่อวัน
อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นทำลายความต้องการ NFT
ความนิยม NFT ปะทุขึ้นเมื่อปีที่แล้ว โดยได้รับแรงกระตุ้นจากความกระตือรือร้นที่มาพร้อมกับเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดรวมสูงถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ ราคาจุดสูงสุดในเดือนพฤศจิกายน 2021
การใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน NFT กลายเป็นช่องทางยอดนิยมสําหรับการเผยแพร่สื่อ รวมถึงงานวิจิตรศิลป์ ซึ่งถูกประมูลในแพลตฟอร์มการประมูลที่ดีที่สุดในโลก
อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกบีบคั้นด้วยอัตราเงินเฟ้อที่สูงและอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น นักลงทุนจึงละทิ้งสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น รวมถึงสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งส่งผลต่อความต้องการ NFT ในเวลาต่อมา
ในขณะที่ยอดขาย NFT ที่แพลตฟอร์มประมูล เช่น Christie’s, Sotheby’s, Phillips และ Bonhams มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 144 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงรุ่งเรืองของปีที่แล้ว ตัวเลขดังกล่าวแทบจะไม่สามารถไปถึง 9.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีจนถึงปัจจุบันตามข้อมูลจาก Art Market Research
ตลาด NFT ยังดำเนินต่อไปแม้ว่าจะเกิด “ระยะมั่นคง”
ในขณะเดียวกัน OpenSea ซึ่งเป็นตลาด NFT ที่ใหญ่ที่สุดก็พบว่าปริมาณการขายยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ห้าติดต่อกัน
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Devin Finzer เน้นย้ำว่าภาวะเศรษฐกิจต่ำในปัจจุบันแตกต่างจากช่วงเวลาที่ผ่านมาอย่างไรบ้าง เนื่องจากได้ประสบกับจุดตัดกับ “ภาวะเศรษฐกิจต่ำระดับมหภาค” ดังนั้น เขาจึงเชื่อว่าปฏิสัมพันธ์ครั้งใหม่นี้อาจส่งผลให้เกิดความไม่มั่นคงที่ยาวนานขึ้นกว่าเดิม
ในส่วนของเขา ผู้บริหารระดับสูงรายนี้กล่าวว่าบริษัทของเขาอยู่ใน “จุดที่ดีทางการเงิน” และอธิบายช่วงเวลาปัจจุบันว่าเป็น “ระยะตั้งตัว”
ผู้นําคนอื่น ๆ ทั่ววงการคริปโตได้แสดงความรู้สึกที่คล้ายกันว่าด้วยการชะลอตัวในปัจจุบัน โดยกล่าวว่าเป็น “ระยะมั่นคง”
Irina Haivas หุ้นส่วนของ Atomico ซึ่งเป็รบริษัทร่วมทุนแห่งหนึ่งกล่าวว่าเหตุการณ์เช่นนี้ได้กําจัด “บริษัทมือสมัครเล่น” ออกไป เหลือเพียงบริษัทที่แข็งแกร่งกว่าเท่านั้น
Mike Novogratz ผู้ก่อตั้ง Galaxy Digital กล่าวว่าตลาดคริปโตมีความยืดหยุ่นมากขึ้นหลังจากที่ผู้ที่ได้รับแรงกดดันจากสภาวะเศรษฐกิจให้ขายสินทรัพย์ของตนเองได้ออกจากภาคส่วนนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ