การแฮกคริปโตโดย เกาหลีเหนือ เริ่มจะควบคุมไม่อยู่ กลุ่มโจรกรรมเหล่านี้ถูกสนับสนุนโดยรัฐบาลและมีบริษัทคริปโตต่างๆ เป็นเป้าหมาย ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์เริ่มกังวลมากขึ้น
Nick Carlsen นักวิเคราะห์บล็อคเชนที่ TRM Labs และอดีตนักวิเคราะห์ของ FBI เตือนว่าการโจรกรรมทางไซเบอร์ “จะเลวร้ายยิ่งขึ้น” ในระหว่างการอภิปรายเกี่ยวกับอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่ศูนย์ความมั่นคงแห่งอเมริกา (CNAS) เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม
Carlsen กล่าวว่า
“การโจรกรรมกำลังเลวร้ายมากขึ้น เพราะคริปโตกำลังจะถูกยอมรับนำการเป็นสื่อกลางการชำระเงินที่มากขึ้น และอาจตกเป็นเป้าโจมตี”
ทางสหรัฐอเมริกาไม่ได้นิ่งนอนใจ และเริ่มมีการประสานงานวางกลยุทธ์กับประเทศเกาหลีใต้แล้ว โดยเน้นไปที่การป้องกันอาชญากรรมทางไซเบอร์เกี่ยวกับคริปโตและเทคโนโลยีบล็อกเชนโดยเฉพาะ เพื่อป้องกันการโจมตี
การร่วมมือระหว่างสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้
ตั้งแต่ปี 2021 สหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้มุ่งมั่นที่จะเสริมความแข็งแกร่งร่วมกันทางไซเบอร์โดยเน้นที่อาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ตและการสร้างกลยุทธ์ในการต่อสู้กับแรนซัมแวร์ พวกเขาตกลงกันว่าจะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลของแฮกเกอร์กลุ่มนี้ กล่าวโดย So Jeong Kim นักวิจัยอาวุโสจาก Institute for National Security of South Korea
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พวกเขายืนยันการร่วมมือกันอีกครั้งในงาน US-ROK Summit ระหว่างประธานาธิบดี Joe Biden และ นายกรัฐมนตรี Yoon Suk-yeol จากเกาหลีใต้ อย่างไรก็ตามเรายังไม่เห็นความคืบหน้านักหลังจากการร่วมมือ และยังไม่มีการประกาศความสำเร็จใดๆ

การกู้สินทรัพย์ทคืนจากแฮกเกอร์ เกาหลีเหนือ
สินทรัพย์ที่ถูกขโมยไปจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือนี้ นาย Carlsen กล่าวว่า สถานการณ์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ในปัจจุบัน จำเป็นต้องเรียกร้องให้มีการดำเนินการร่วมกันเพื่อกู้คืนทรัพย์สินที่ถูกขโมยโดยตรงจากแฮกเกอร์กลุ่มนี้ โดยเสริมว่าพวกเขาอาจเคยชินกับการเป็นนักล่า ไม่ใช่ผู้ถูกล่า ซึ่งทำให้แนวทางตรงที่สุดเป็นกลยุทธ์ที่ฉลาดที่สุด
“หากคุณนำความรู้และสติปัญญาของทั้ง 2 ประเทศมาทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ มันย่อมสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้และเห็นผลลัพธ์อย่างแท้จริง ก่อนที่มันจะลุกลามไปยังระบบการเงินในอนาคต”
หลังการโจรกรรมจากเกาหลีเหนือเริ่มขยายโต พวกเขากลายเป็นอันดับ 1 ในการโจรกรรมบนโลกคริปโตด้วยมูลค่ากว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การลุกขึ้นพูดของผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้จึงไม่ได้เป็นแค่การแน่นำ แต่มันคือการตั้งคำถามต่อ “ความปลอดภัยด้านไซเบอร์ในระดับโลก”
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ
