“คุณได้ซื้อ DOGE ก่อนที่ราคามันจะขึ้นมา 100 เท่าหรือเปล่า?” นักลงทุนหลายคนกลัวต่อคำถามเหล่านี้ และอาจตัดสินใจลงทุนเพราะกลัวตกรถ นั่นคืออาการ Fear of Missing Out หรือ FOMO การวิจัยพบว่า อาการนี้พบมากในหมู่นักลงทุนคริปโตอายุ 18 ถึง 35 ปี
ผู้เชี่ยวชาญได้พิสูจน์แล้วว่า FOMO ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของมนุษย์ นำไปสู่ความวิตกกังวล สูญเสียเงิน ปัญหาครอบครัว และภาวะซึมเศร้า และมันเกิดขึ้นในหมู่นักลงทุนการลงทุนสกุลเงินดิจิทัลหรือ Cryptocurrencies อย่างรุนแรง นำไปสู่การลงทุนที่ไร้การควบคุมความเสี่ยง ไม่สมเหตุสมผล และขาดการการศึกษาเกี่ยวกับสินทรัพย์ที่ตนเองลงทุน
Fear of Missing Out (FOMO) ในการลงทุนคริปโต
FOMO ในโลกของ crypto เกิดขึ้นเมื่อนักลงทุนตัดสินใจอย่างไม่สมเหตุสมผลในการซื้อขายหรือลงทุนในสินทรัพย์ตามข้อมูลบางส่วนที่ได้รับโดยไม่ตรวจสอบแหล่งที่มาและความถูกต้องของข้อมูลดังกล่าวอย่างเหมาะสม
การตัดสินใจเหล่านี้ทำให้ผู้คนซื้อสินทรัพย์ในราคาสูงสุด หรือแม้แต่ขายสินทรัพย์ที่ราคาต่ำที่สุด แทนที่จะปฏิบัติในทางกลับกัน ซึ่งจะเป็นคำแนะนำที่ดีกว่า บางครั้ง ผลที่ตามมาของ อาการดังกล่าวอาจเลวร้ายและลึกซึ้งกว่าการสูญเสียเงินลงทุน และนำไปสู่สถานการณ์ที่สร้างความเสียหายในด้านอื่นๆ เช่น อาการเก็บตัวตัดขาดจากครอบครัว ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า
อาการกลัวตกรถส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างร้ายแรง
เมื่อนักลงทุนทำการลงทุนที่ผิดพลาด และสูญเสียเงินต้นจำนวนมากอาจส่งผลกระทบต่อจิตใจของพวกเขาเป็นอย่างมาก สิ่งที่เกิดขึ้นอาจส่งผลกระทบในด้านอื่นๆ ของชีวิต เช่น ความสัมพันธ์กับครอบครัวและเพื่อนฝูง และอื่นๆ บุคคลนั้นเริ่มอาจมีแนวโน้มที่จะแปลกแยกออกจากสังคมมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นความผิดปกติหากไม่ได้รับการดูแลเป็นพิเศษ
ในการศึกษากว่า 80 ปีของนักศึกษา Harvard ชายเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้ชีวิตพวกเขาดีขึ้น Robert Waldinger ผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษาคนที่สี่กล่าวว่า “การค้นพบที่น่าประหลาดใจก็คือความสัมพันธ์ของเราและความสุขในความสัมพันธ์ของเรามีอิทธิพลอย่างมากต่อ สุขภาพของเรา”
ผลวิจัยจาก Waldinger สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการลงทุนด้านคริปโตได้เช่นกัน เพราะอาการ FOMO ไมได้ส่งผลกระทบต่อพอร์ทการลงทุนของเราเท่านั้น แต่มันส่งผลต่อภาวะจิตใจ สุขภาพ และคุณภาพชีวิตของนักลงทุนด้วย
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ