ธุรกิจร่วมลงทุน (Venture capital: VC) ในโลกคริปโตอาจร่วงลงครึ่งหนึ่งในปี 2022

ธุรกิจร่วมลงทุน (Venture capital: VC) หลั่งไหลเข้าสู่โลกคริปโต และบริษัทสตาร์ทอัพ Web3 ในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนหน้านี้ แต่ธนาคารแห่งหนึ่งใน Wall Street คาดการณ์ว่ากระแสเหล่านี้อาจจะเหือดแห้งลงในปีนี้

Morgan Stanley รายงานว่า บริษัทสตาร์ทอัพคริปโต จากกิจการร่วมลงทุนต่าง ๆ เพิ่มมูลค่าสูงถึง 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2021 และยังคงมีการลงทุนสูงอยู่

อย่างไรก็ตาม รายงานยังคงคาดการณ์ว่า ธุรกิจร่วมลงทุนเพื่อการลงทุนจะชะลอตัวในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งสะท้อนถึงกระแสการร่วมลงทุนอื่น ๆ นักยุทธศาสตร์ของ Morgan Stanley ที่นำโดย Sheena Shah กล่าวว่ายุคของ “เงินที่ได้มาง่าย ๆ จบลงแล้ว” ตามรายงานต่าง ๆ นอกจากนี้ Morgan Stanley ยังได้ลงทุนในบริษัทบล็อกเชนสตาร์ทอัพและนำทีมวิจัยด้านคริปโต มาใช้ในปี 2021

แต่ผ่านไปเพียงไม่ถึงสัปดาห์ก็มีข่าวเกี่ยวกับการระดมทุนครั้งใหญ่สำหรับบริษัทสตาร์ทอัพ Web3 ซึ่งมักนำโดย Andreessen Horowitz (a16z) ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินของธนาคารกล่าวว่า กิจกรรมการลงทุนอาจลดลง 50% ภายในสิ้นปีนี้

ลงทุน Blue Chip ในตลาดที่เติบโตไม่คงที่

การคาดการณ์ในแง่ร้ายตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่าตลาดคริปโต กำลังเข้าสู่ตลาดที่เติบโตไม่คงที่ (ตลาดขาลง) ที่ยาวนานซึ่งอาจคงอยู่จนถึงปี 2023 หรือนานกว่านั้น

รายงานระบุว่า กิจกรรมในตลาด VC Bellwether ที่สำคัญที่สุด 8 แห่งได้ลดลง 50% จากระดับสูงสุดในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และยังเสริมว่า “ผลการดำเนินงานที่แย่ลงของนักลงทุนด้านเทคโนโลยีและ Cryptocurrency  รายใหญ่ที่สุดบางรายซึ่งให้ความสำคัญกับการคงอยู่ของกิจการ” มากกว่าการลงทุนใหม่จะสามารถเร่งการลดลงได้ดังนี้

ความแตกต่างที่สำคัญจากสภาพตลาดที่เติบโตไม่คงที่เมื่อครั้งก่อนคือ การระดมทุนด้วย Cryptocurrency อยู่ที่เพียง 20% ของที่เป็นอยู่ในปัจจุบันในปี 2018/19 แม้หลังจากที่ดิ่งลงต่ำถึง 60% ในปัจจุบันจากจุดสูงสุดในปี 2021

ตลาดขาขึ้นในปี 2021 เมื่อรวมกับสภาพคล่องในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เพียงพอ ได้จุดชนวนให้เกิดธุรกิจร่วมลงทุนเพื่อการลงทุนที่สูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งสูงสุดในเดือนธันวาคม ยักษ์ใหญ่ของธุรกิจร่วมลงทุนพร้อมที่จะทำการใหญ่ต่อแล้ว ซึ่งในขณะนั้นคือ บริการทางการเงินแบบไม่รวมศูนย์ (Decentralize Finance: DeFi) ต่อมาเมื่อก้าวเข้าสู่ปี 2022 ทุกสิ่งเปลี่ยนไปเป็นเรื่องของ Web3 ซึ่งเป็นแนวคิดที่คล้ายคลึงกัน นั่นคืออินเทอร์เน็ตแบบไม่รวมศูนย์และแบบโทเค็นไนซ์

ภาคส่วนอื่น ๆ กำลังถดถอย

นักยุทธศาสตร์คาดการณ์จากสิ่งที่เกิดขึ้นกับภาคส่วนอื่น ๆ ตลาด Nasdaq ร่วงลง 25% ตั้งแต่ต้นปี และการซื้อขายของบริษัทซอฟต์แวร์ อินเทอร์เน็ต และฟินเทคก็ร่วงลงมากกว่า 60% ซึ่งต่ำกว่าระดับที่เป็นอยู่ก่อนการระบาด จึงสรุปได้ว่า สถานการณ์นี้คือ “หลักฐานที่แสดงว่าการเติบโตในทุกกรณีจะไม่ได้รับผลตอบแทนอีกต่อไป”

แต่ตลาดมีการดำเนินเป็นแบบวัฏจักรและตลาดกระทิงจะกลับมาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ธุรกิจร่วมลงทุนเพื่อการลงทุนหลักใน DeFi และ Web3 อาจใช้เวลานานเล็กน้อยกว่าจะได้กำไรกลับคืนมา