หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของ ‘ไต้หวัน’ ได้ออกข้อกำหนดใหม่ให้กับธนาคารและบริษัทบัตรเครดิตเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาอนุญาตให้ใช้บัตรเครดิตเป็นวิธีการชำระเงินสำหรับบริการสินทรัพย์เสมือน
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา คณะกรรมการกำกับดูแลด้านการเงินของ ‘ไต้หวัน’ ได้ออกจดหมายถึงสมาคมอุตสาหกรรมการธนาคารของประเทศ โดยห้ามหน่วยงานบัตรเครดิตจากการลงนามให้ผู้ให้บริการสินทรัพย์เสมือนเป็นพ่อค้า
แถลงการณ์ระบุว่า “ในมุมมองของสินทรัพย์เสมือนที่มีการเก็งกำไรสูงและมีความเสี่ยงสูง บัตรเครดิตไม่ควรใช้เป็นเครื่องมือในการชำระเงินสำหรับธุรกรรมสินทรัพย์เสมือนเหล่านั้น”
ทางการอธิบายว่า บัตรเครดิตควรเป็นเครื่องมือในการชำระเงินเพื่อการบริโภค มากกว่าเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับการลงทุนทางการเงินและการซื้อขายเก็งกำไร
แม้ว่ากรณีนี้จะเป็นเหมือนดั่งที่มันได้อธิบายไว้ว่า “ธุรกรรมที่มีการเก็งกำไรสูง มีความเสี่ยงสูง และมีเลเวอเรจทางการเงินสูง” ของ Cryptocurrency แต่ FSC ยังห้ามการใช้บัตรเครดิตเป็นเครื่องมือในการชำระเงินสำหรับการพนันออนไลน์ หุ้น ฟิวเจอร์ส ออปชั่น และ ธุรกรรมอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกันอีกด้วย
บริษัทต่างๆ มีเวลา 3 เดือนในการปรับเปลี่ยนต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดใหม่
ไต้หวันยืนยันการใช้งาน CBDC
ในขณะเดียวกัน ไต้หวัน ได้ยืนยันถึงความตั้งใจที่จะเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) แผนการนำร่องคาดว่าจะเกิดขึ้นในไม่ช้า หลังจากเสร็จสิ้นการทดลองใช้ CBDC สำหรับร้านค้าปลีกต้นแบบในการจำลองทางเทคนิคเมื่อเดือนที่แล้ว
ในขณะที่ CBDC อยู่ระหว่างการพัฒนา Yang Chin-long ผู้ว่าการธนาคารกลางกล่าวว่า ช่วงเวลาที่แน่นอนในการเปิดตัวสู่สาธารณะนั้นยังไม่ชัดเจน Yang เชื่อว่าหน่วยงานกำกับดูแลด้านการธนาคารต้องเอาชนะอุปสรรคบางอย่างก่อนที่จะเปิดตัวการชำระเงินดังกล่าวในวงกว้าง
ธนาคารกลางแห่งไต้หวันได้ทำการศึกษาการใช้งานของ CBDC ทั้งค้าปลีกและค้าส่งเป็นเวลาประมาณ 2 ปี จากรายงานของ Atlantic Council Research พวกเขามีเป้าหมายที่จะสรุปผลการทดสอบทางเทคนิคของต้นแบบของ CBDC ภายในวันที่ 1 กันยายน
ในขณะที่ไต้หวันกำลังพิจารณาศักยภาพของการชำระเงินดิจิทัลในอนาคต ธนาคารกลางแห่งไต้หวันได้ทำการสรุปผลการศึกษาความเป็นไปได้ของพวกเขาที่ทำขึ้นในเดือนมิถุนายน 2020 ตามข้อมูลจากรายงาน
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ