Core Scientific บริษัทเหมืองขุด Bitcoin ยักษ์ใหญ่ได้ยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (SEC) เพื่อแจ้งให้ทราบว่าพวกเขาจะขอพักการชำระหนี้ทั้งหมด
ผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานบล็อคเชน – Core Scientific กล่าวในการยื่นเรื่องต่อสำนักงาน ก.ล.ต. หรือ SEC ว่าคณะกรรมการบริหารได้ตัดสินใจว่าบริษัทจะไม่ชำระหนี้ที่ครบกำหนดชำระในปลายเดือนตุลาคมและต้นเดือนพฤศจิกายน
สาเหตุดังกล่าวเกิดจากประสิทธิภาพในการดำเนินงานและสภาพคล่องของ Core Scientific ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากราคา Bitcoin ที่ลดลงเป็นเวลานาน, ค่าไฟที่เพิ่มสูงขึ้น, Hashrate ของเครือข่าย Bitcoin ทั่วโลกที่เพิ่มสูงขึ้น, และคดีความกับ Celsius Networks LLC
Core Scientific คาดการณ์ว่ากระแสเงินสดของพวกเขาอาจจะหมดลงภายในสิ้นปี 2022 หรือเร็วกว่านั้น ณ วันที่ 26 ตุลาคม บริษัทมีการถือ Bitcoin อยู่ 24 BTC และเงินสดอีกประมาณ 26.6 ล้านดอลลาร์ ก่อนหน้านี้ในวันที่ 30 กันยายน พวกเขาเคยถืออยู่มากกว่า 1,051 BTC พร้อมด้วยเงินสดอีกประมาณ 29.5 ล้านดอลลาร์ — ราคาเปิดของ CORZ ลดลงเกือบ 70% ในวันนี้
นักขุด Bitcoin มากมายยอมยกธงขาวเหมือน Core Scientific?
จากข้อมูลของ Glassnode พบว่า Bitcoin Hashrate อยู่ที่ระดับสูงสุดตลอดกาล การเพิ่มขึ้นของ Hashrate ของ Bitcoin บ่งบอกว่ามีการแข่งขันกันมากขึ้นในหมู่นักขุด ความยากในการขุด Bitcoin เพิ่มสูงขึ้น ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ราคา Bitcoin นั้นลดลงเกือบ 70% จากระดับสูงสุดตลาดกาลนเดือนพฤศจิกายน ทำให้ความสามารถในการทำกำไรของนักขุดนั้นลดลง
ปัจจุบัน ต้นทุนการผลิตของ Bitcoin อยู่ที่ประมาณ 17,000 ดอลลาร์ มันเป็นต้นทุนที่นักขุดจะต้องรับผิดชอบเพื่อที่จะผลิต Bitcoin ใหม่ Charles Edwards นักวิเคราะห์ตลาด Crypto และผู้ก่อตั้ง Capriole Investments กล่าวว่าต้นทุนการผลิตกำลังเพิ่มขึ้น
มันมีสาเหตุมาจาก Hashrate เพิ่มสูงขึ้น, การใช้พลังงานที่เพิ่มมากขึ้น และยิ่งไปกว่านั้น ค่าไฟก็เพิ่มขึ้นด้วย
Core Scientific — ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นบริษัทเหมืองขุดสาธารณะรายใหญ่ที่สุด — กำลังที่จะยอมยกธงขาวแล้ว ชุมชนเชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงที่เรื่องนี้มันจะเกิดขึ้นกับอีกหลายราย
ปัญหาทางด้านกฏหมายกับ Celsius Network ที่ล้มละลาย
Core Scientific ตกลงกับ Celsius Network ที่ล้มละลายในการจัดหาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับบริการโฮสติ้ง ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว เครื่องจักรนั้นจะเป็นของ Celsius และ Celsius จะได้รับประโยชน์ใดๆ จากการขุด Crypto
Core Scientific อ้างว่า Celsius เป็นหนี้ค่าไฟ 2 ล้านดอลลาร์ Celsius ปฏิเสธเรื่องดังกล่าวโดยให้เหตุผลว่า Core Scientific ไม่ได้ระบุในข้อตกลงว่าพวกเขาจะดำเนินการต่อช่วงที่ค่าไฟเพิ่มสูงขึ้น เมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา Core Scientific ได้ขอให้ศาลล้มละลายบังคับให้ Celsius จ่ายค่าไฟที่คงค้างไว้ทั้งหมด พวกเขายังพยายามที่จะยุติข้อตกลงระหว่างทั้ง 2 บริษัทอีกด้วย
ปัญหาทางกฎหมายกับ Celsius Network นั้นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานและสภาพคล่องของบริษัท
หากคุณต้องการที่จะพูดคุยเกี่ยวกับเรื่อง Core Scientific หรือเรื่องอื่นๆ เขียนมาหาเราหรือเข้ามาสนทนากันในแชแนล Telegram ของเราสิ! และคุณยังสามารถติดตามเราได้ที่ Facebook หรือ Blockdit ด้วยนะ!
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ