อัปเดตล่าสุด! 9Near Hacktivist คือ ทหารบก ยศ สิบเอก แฮกข้อมูลจากหมอพร้อม อ้างได้รหัสมาจากภรรยา ล่าสุด ตร.แจ้งยังจับไม่ได้ ปิดโทรศัพท์หนี
สัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มแฮกเกอร์ทางการเมือง 9Near Hacktivist สร้างความหวาดหวั่นให้แก่ชาวไทยเป็นอย่างมาก โดยอ้างว่าจะเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของชาวไทย 55 ล้านคน เราจะมาสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและอัพเดทล่าสุด
อย่างที่ทราบกันดี ในโลกดิจิตอลปัจจุบันที่ข้อมูลความเป็นส่วนตัวต่างๆ ถูกเก็บไว้ตามฐานข้อมูลออนไลน์ต่างๆ โดยเฉพาะกับการรวมศูนย์ของหน่วยงานรัฐ การแฮกข้อมูลของคนทั้งประเทศ ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เมื่อข้อมูลทั้งหมดถูกเก็บไว้อยู่ในที่ที่เดียว และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอุทาหรณ์เมื่อหน่วยงานที่รวมศูนย์ถูกโจมตี
สรุปไทม์ไลน์เหตุการณ์ 9 Near Hacktivist
16 มีนาคม 2566
มีแฮกเกอร์ชื่อ 9near ประกาศขายข้อมูลของคนไทยลงในเว็บไซต์ BreachForums อ้างมี 55 ล้านรายชื่อ ที่ระบุถึง ชื่อ วันเกิด เบอร์ ที่อยู่ เลขบัตรประชาชน
17 มีนาคม 2566
อ.ปริญญา หอมเอนก ผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ ว่า “ไม่เชื่อว่ามีข้อมูลจริง”
30 มีนาคม 2566
ด้านแฮกเกอร์มีการส่งข้อความ SMS หาคนดัง เพื่อยืนยันว่ามีข้อมูลจริง และ ประกาศขีดเส้นตาย ถึงวันที่ 5 เมษายน ถ้าไม่จ่ายค่าไถ่จะเอาข้อมูลมาเปิดเผยทั้งหมด
31 มีนาคม 2566
กระทรวงดีอีเอส ปิดกั้นการเข้าถึง เว็บ 9near.org เฉพาะในไทยได้
1 เมษายน 2566
9Near ประกาศยกเลิกภารกิจปล่อยข้อมูล เนื่องจากผู้ที่มาขอซื้อข้อมูลจะนำเอาข้อมูลไปทำอะไรร้ายแรง ซึ่งไม่ตรงกับอุดมการณ์ของเขา
2 เมษายน 2566
ทางแฮกเกอร์แจ้งว่า เขาเข้ารหัสข้อมูลไว้ มีโปรแกรมที่ตั้งเวลาไว้ทุกๆ 7 วันในเวลา 10 ปีต่อจากนี้ ถ้าถูกจับได้ จะเริ่มให้โปรแกรมนี้ทำงาน โดยที่ไม่มีใครสามารถหยุดโปรแกรมนี้ได้
3 เมษายน 2566
ทางกระทรวง DES แจ้งว่าได้ข้อมูลมาพอสมควร และรู้ตัวคนร้ายแล้ว แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าข้อมูลหลุดมาจากหน่วยงานไหน
7 เมษายน 2566
ตำรวจไซเบอร์สามารถจับกุม แฮกเกอร์ 9 near ได้แล้ว พบว่าเป็นทหารยศสิบเอก อาศัยอยู่ใน จ.นนทบุรี อ้างว่าทำไปเพราะความคึกคะนอง
9Near ประกาศขายข้อมูลคนไทย
จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 มีนาคม บนเว็ปไซต์ BreachForums ของต่างประเทศ พวกเขาประกาศขายข้อมูลของคนไทยกว่า 55 ล้านราย ที่แฮกมาได้จากหน่วยงานไทยแห่งหนึ่ง ข้อมูลที่ขายระบุถึง ชื่อ วันเกิด เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ และ หมายเลขบัตรประชาชน ซึ่งคาดการณ์เป็นจากแอปหมอพร้อม
ข้อมูลเหล่านี้อาจสร้างความเสียหายได้มาก หากพวกมิจฉาชีพอย่างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ข้อมูลไป อย่างไรก็ตามมันสะท้อนถึงความอ่อนแอของระบบความปลอดภัยของหน่วยงานรัฐด้วยเช่นกัน
หลังจากเกิดประเด็นขึ้น มีสำนักข่าว Spring news เชิญผู้เชี่ยวชาญอย่าง อ.ปริญญา หอมเอนก ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อการแฮกครั้งนี้ เขากล่าวว่า ชาวไทยไม่ควรตื่นตระหนก เพราะยังไม่ทราบแน่ชัดว่าข้อมูลรั่วไหลจริงหรือไม่ ทว่า ในวันที่ 30 มีนาคม ทางกลุ่มแฮกเกอร์ได้เปิดเผยข้อมูลตัวอย่าง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีข้อมูลของ อ.ปริญญา เสียด้วย
ทาง 9Near มีการข่มขู่หน่วยงานรัฐ
ทางกลุ่มแฮกเกอร์เผยอีกว่า “หากพวกเขายังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จากหน่วยงานหรือองค์กรไหน ที่คิดว่าข้อมูลภายในเกิดการรั่วไหล ภายในวันที่ 5 เมษายน พวกเขาจะเผยแพร่ข้อมูลทั้งหมดและจำระบุด้วยว่าหลุดมาจากหน่วยงานไหนบ้าง”
นอกจากนี้พวกเขายังเชือดไก่ให้ลิงดูอีกครั้ง โดยส่ง SMS ไปยังนักข่าวชื่อดังกว่า 20 คน ว่าจะเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของพวกเขา เช่น สรยุทธ สุทัศนะจินดา, บรรจง ชีวมงคลกานต์, และ หนุ่ม กรรชัย
การขู่ครั้งนี้ทำให้วันที่ 31 มีนาคม นาย ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมหรือ DES สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ต่างๆ ออกมารับทราบปัญหาที่เกิดขึ้น
ทว่า ประชาชนดูจะไม่พอใจนัก เพราะการประกาศขายข้อมูลเกิดขึ้นมากว่า 2-3 สัปดาห์แล้ว แต่ทางหน่วยงานรัฐกลับไม่ยอมดำเนินการใดๆ จนกระทั่งทีมแฮกเกอร์เริ่มเชือดไก่ให้ลิงดู
Hacktivist ประกาศเป้าหมายทางการเมืองและการแถลงยุติปฎิบัติการ
วันที่ 2 เมษายน ทางกลุ่มแฮกเกอร์ประกาศผ่านเว็ปไซต์ว่าจะยุติปฏิบัติการนี้แล้ว โดยระบุว่า พวกเขาไม่ต้องการให้ประชาชนต้องลำบาก แต่เราไม่เห็นด้วยกับการเมืองที่สกปรก นอกจากนี้ พวกเขายังขัดแย้งกับกลุ่มคนที่เสนอซื้อข้อมูลหรือสปอนเซอร์กับการนำข้อมูลนี้ไปใช้ในทางที่พวกเขาไม่เห็นด้วย
พวกเขาประกาศชัดเจนว่า พวกเขาเป็น Hacktivist “ข้อมูลที่พวกเขามี มีไว้สำหรับการเคลื่อนไหว ไม่ใช่เพื่อเงิน” และสิ่งที่สะท้อนออกมาจากเหตุการณ์นี้เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่า หน่วยงานรัฐไม่มีประสิทธิภาพพอ และนี่คือสิ่งที่พวกเขาต้องการจากการแฮกข้อมูลครั้งนี้
อัปเดตล่าสุด! บช.สอท. เผย ทราบตัวแฮกเกอร์แล้ว
วันที่ 6 เมษายน พนักงานสอบสวนกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ออกมาเผยว่าทางหน่วยงานทราบแล้วว่าใครเป็นแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลักเหตุการณ์นี้ โดยอ้างว่า ผู้ก่อการเป็นทหารชั้นประทวนยศสิบเอก และทางต้นสังกัดมีการส่งมอบตัวให้แก่ทางหน่วยงานแล้ว
จากการสอบปากคำเบื้องต้น ทางหน่วยงานเผยว่า ผู้ก่อการกระทำไปเพราะความคึกคะนอง แต่จะมีการสอบปากคำภรรยาของผู้ก่อการเพิ่มเติม ซึ่งทำงานเป็นพยาบาลอยู่ ณ รพ.แห่งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) หรือ ตำรวจกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดใดๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับการจับกุมครั้งนี้
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ