Bitcoin กับการเอาตัวรอดจาก Recession หากเราอยากจะเทียบกับ Gold เราคงอาจจะต้องรอซักประมาณ 40-60 ปีกว่าเราจะพูดได้ว่ามันเริ่มมั่นคงปลอดภัยจริง, ตอนนี้มันดูเหมือนจะเป็นแผนรองรับฉุกเฉินอยู่ ลองมาดูการเปรียบเทียบกัน
สถานการณ์จำลอง
ลองมาคิดดูว่าเราถูกขับอยู่ในชั้น 5 ของตึกที่กำลังไฟไหม้อยู่ มีทางหนีไฟปกติแต่มันถูกกันด้วยควันและไฟอยู่ ห้องที่เราอยู่กันไฟเริ่มลุกไหม้ไปเรื่อยๆ เราไม่รู้ว่าใครตอนนี้ที่รู้ว่าตึกกำลังไฟไหม้อยู่บ้าง เราจะทำอย่างไรดี?
เราอาจจะนั่งอยู่ตรงนี้และหวังว่าจะมีนักดับเพลิงเข้ามาช่วยได้ทัน (ความเป็นไปได้ต่ำ) เราอาจจะวิ่งทะลุไฟออกไปหาประตู (โอกาสตายสูง) หรือเราจะกระโดดออกหน้าต่างที่อาจจะหมายถึงตายเช่นกัน
- ถ้าเรานั่งอยู่เฉยๆและหวังว่าจะมีคนมาช่วยกัน เราอาจจะเตรียมกระโดดออกจากหน้าต่างในตอนท้าย
- ถ้าเราเลือกที่จะวิ่งฝ่าไฟออกไปแต่เราไม่มีอุปกรณ์ที่ป้องกันได้เลย เราอาจจะกระโดดออกหน้าต่างอยู่ดี
- แต่ถ้าเราเลือกกระโดดออกจากหน้าต่าง? เราอาจจะตายจากความรุนแรงของตึก 5 ชั้น
คำถามคือเราจะทำยังไงดี? คำตอบที่ผมแนะนำก็คือเราคงต้องมองไปที่กระจก แล้วรอคอยบางคนช่วยเหลือทางนั้น
แต่เราไม่ได้เป็นต้นเหตุในการก่อไฟ
หากเราย้อนกลับไปที่ปี 2007-2008 เราจะเห็นว่ามันไม่ใช่ Recession แต่มันเป็นความผิดพลาดที่ร้ายแรงของนักการเงินที่ปั่นอนุพันธ์
มันอาจจะเป็นวิกฤตทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกาครั้งที่ 13, ทุกอย่างมันพังลงภายใน 1-2 สัปดาห์
Ben Bernanke
ตึกนั้นกำลังไหม้อยู่ คนกำลังเข้ามาช่วย แต่สิ่งของต่างๆในตึกนั้นไหม้ไปหมดแล้ว ทุกคนพยายามเอาตัวรอด ทิ้งทรัพย์สินของตัวเองหมด ไฟกำลังจะเผาไหม้ทุกอย่าง
แต่ Bitcoin อาจจะเป็นเหมือน Helicopter ที่จะโรยเชือกมาช่วยคุณออกจากตึกนี้ ซึ่งเป็นวิธีทางที่มีคนขึ้นไปได้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น
ในกว่า 13 ครั้งที่ตึกไฟไหม้มา ไม่มีครั้งไหนที่สหรัฐจะช่วยเราได้ทัน มีตัวตัวเราเองที่ช่วยเราได้ กว่า Jorome Powell จะรู้ว่าไฟไหม้ ไฟก็ลามท่วมตึกไปหมดแล้ว
ในเวลา 100 ปี ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไหร่ ราคาของ Bitcoin ก็จะยิ่งสูงมากขึ้น มูลค่าของ US Dollar ก็จะยิ่งน้อยลง คนรุ่นใหม่ที่ฉลาดมากพอจะตุน Bitcoin เอาไว้ให้มากพอที่จะเอาตัวรอดได้ในวันที่วิกฤตที่ไม่คาดคิดมาถึง
Bitcoin มันจึงมีคุณสมบัติของการรอด และจำไว้ว่าตอนนี้เราอยู่ในยุค Recession
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ