จากการที่ราคาของ Bitcoin (BTC) ลดลงถึง 72% จากราคาสูงสุดตลอดกาลของมันเอง ตลาด Crypto ทั่วโลกก็ดูเหมือนจะความโกลาหลตลอดช่วงไตรมาสที่ 3
เมื่อไตรมาสที่ 3 ของปี 2022 ใกล้จะจบลง การวิเคราะห์ On-Chain สำหรับ Cryptocurrency ในอันดับต้นๆ ตามมูลค่าตลาดนั้นได้นำเสนอภาพรวมที่น่าผิดหวัง ราคาของ Bitcoin มักจะพุ่งสูงขึ้นในพื้นที่ที่มีการผันผวนซึ่งต้องขอบคุณเรื่องเล่าในการกักเก็บมูลค่าและการเป็นตัวป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อของมัน
การเพิ่มขึ้นเกือบ 50% ของ BTC ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2021 ได้ดึงดูดนักลงทุนและนักเทรดให้เข้าสู่เครือข่ายเหมือนผึ้งต้องการน้ำหวาน อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ เราคงไม่สามารถพูดเช่นเดียวกันได้
รายงานล่าสุดจาก Messari เน้นย้ำว่าการล่มสลายของตลาดครั้งล่าสุดคือ “สิ่งที่แยกเรื่องเล่าและความเป็นจริง” สำหรับ Bitcoin
คำพูดที่ว่า “Bitcoin ใช้ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ” ได้ตายไปแล้ว?
ในขณะที่เขียนบทความ ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ของ Bitcoin เทียบกับ USD ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ -10% ในขณะที่ ROI ต่อปีเทียบกับ USD อยู่ที่ 53.38% ROI ระยะสั้นและระยะยาวที่ต่ำแสดงให้เห็นว่าทั้ง BTC HODLers ระยะสั้นและระยะยาวกำลังประสบปัญหาขาดทุน
BTC HODL Wave และกราฟราคาแสดงให้เห็นว่าผู้ถือระยะสั้น (ต่ำกว่า 6 เดือน) อยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบหลายปีและครอบครองเพียง 23% ของอุปทาน Bitcoin ณ วันที่ 31 สิงหาคม
การเพิ่มขึ้นของผู้ถือครองระยะสั้นมักจะถือเป็นสัญญาณตลาดกระทิงระดับมหภาค และมักจะเกิดขึ้นในช่วงที่ราคาขึ้น อย่างไรก็ตาม มันเป็นที่น่าสังเกตว่า ATH ของ BTC ในเดือนพฤศจิกายน 2021 ไม่ได้ดึงดูดนักลงทุนหน้าใหม่มากนัก เนื่องจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมในระดับมหภาค
นอกจากนี้ ผลตอบแทนในเชิงลบและแรงเหวี่ยงกลับของราคาที่มีขอบเขตต่ำกว่าระดับ 30,000 ดอลลาร์ของ BTC ตั้งแต่เดือนมิถุนายนได้ลบล้างคำพูดที่ว่ามันเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและการกักเก็บมูลค่าไปแล้ว
สำหรับหลายๆ คนในตลาด ผลตอบแทนติดลบของ BTC นั้นหมายความว่าเรื่องเล่าของการเป็นการป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อนั้นได้ตายไปแล้ว ในขณะที่สำหรับคนอื่นๆ เช่น Michael Saylor แห่ง MicroStrategy ราคาที่ต่ำของ BTC นั้นเป็นเพียงโอกาสในการ Buy The Dip (กลยุทธ์การทำกำไรในช่วงตลาดขาลง)
เครือข่ายสูญเสียความมีชีวิตชีวา
หลังจากทำระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 69,000 ดอลลาร์ ราคาของ BTC กลับมีการตีกลับกว่า 70% ท่ามกลางสภาพแวดล้อมแบบมหภาคในช่วงที่มีความเสี่ยงสูง
การเปรียบเทียบ BTC และ Nasdaq 100 เผยให้เห็นว่าราคาของ BTC นั้นใกล้เคียงกับราคาหุ้นสามัญของบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ที่มีความผันผวนสูง ดังนั้น มันจึงเป็นการลบล้างคำกล้าวอ้างในเรื่องการกักเก็บมูลค่า
ในช่วงไตรมาสนี้ ความสัมพันธ์โดยเฉลี่ยระหว่าง BTC และ Nasdaq 100 อยู่ที่ 0.6 เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้มีอิทธิพลต่อคำกล่าวอ้าง ในขณะที่ BTC มีความสัมพันธ์กับหนี้สินน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจคือ ทองคำดิจิทัล (BTC) และทองคำจริงมีความสัมพันธ์กันน้อยกว่าด้วยค่าเฉลี่ย 0.2
นอกจากนี้ Address ที่มีและที่ยังใช้งาน BTC อยู่ยังมีการเติบโตที่ค่อนข้างช้าตลอดไตรมาสที่ 3 Address ที่มีเงินทุนอยู่เติบโตเพียง 1.1% เมื่อเทียบกับ 2.5% ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2022 ในขณะที่ Address ที่ยังใช้งานรายวันโดยเฉลี่ยลดลง 4% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2022
มีความหวังรออยู่ข้างหน้าบ้างหรือไม่?
ถึงแม้ว่าจะมีผลตอบแทนติดลบและ BTC ก็เกือบที่จะสูญเสียคำกล่าวอ้างที่ว่ามันเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ แต่ความผันผวนของมันก็มีแนวโน้มที่จะลดลงเนื่องจากราคาของมันค่อยๆ ฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในไตรมาสที่ 3 ความผันผวนที่ลดลงสำหรับสินทรัพย์ชั้นนำส่งผลให้มีการชำระบัญชีที่ลดลงสำหรับตลาด Crypto ที่ใหญ่ขึ้น
ความผันผวนเฉลี่ย 30 วันในเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 60% เมื่อเทียบกับมากกว่า 80% ในเดือนมิถุนายน ในทางตรงกันข้าม การชำระบัญชีสถานะ Long ทั้งหมดในเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของการชำระบัญชีในเดือนมิถุนายน ในขณะที่การชำระบัญชีสถานะ Short ก็ลดลงเช่นกัน
โดยรวมแล้วในขณะที่ความผันผวนนั้นต่ำสำหรับ BTC ตลอดไตรมาสที่ 3 สินทรัพย์ยังไม่ “เติบโตเต็มที่” จนถึงช่วงความเสี่ยงที่ต่ำกว่า ดังนั้น คำกล่าวเรื่องขาขึ้นที่อ่อนตัวลงของ BTC ได้ส่งผลกระทบต่อตลาด Crypto ที่ใหญ่ขึ้น พร้อมกับความเชื่อมั่นที่เอนเอียงมากขึ้นไปทางตลาดหมีสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล
ข้อจำกัดความรับผิด
หมายเหตุบรรณาธิการ: เนื้อหาต่อไปนี้ไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองหรือความคิเห็นของ BeInCrypto มันจัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้นและไม่ควรถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำทางการเงิน กรุณาทำการวิจัยของคุณเองก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุนใดๆ