Trusted

การอัพเกรด Gray Glacier บนเครือข่าย Ethereum ที่คุณต้องรู้

1 min
อัพเดทโดย Passanai Jiraruekmongkol

Ethereum ได้เปิดตัวการอัพเกรดเครือข่ายหลักใหม่ที่เรียกว่า Gray Glacier ซึ่งจะผลัก “Difficulty Bomb” กลับไปอีก 100 วัน บทความนี้คือทุกสิ่งที่คุณควรจะรู้เกี่ยวกับการอัพเกรด Gray Glacier บนเครือข่าย Ethereum ในครั้งนี้

การอัพเกรดเครือข่าย Ethereum

การอัพเกรดเครือข่ายเป็นการเปลี่ยนแปลงโปรโตคอล Ethereum พื้นฐาน กฎใหม่นี้มีไว้เพื่อปรับปรุงระบบที่มาพร้อมกับการอัพเกรดบล็อกเชนเดิม

เนื่องจากการอัพเกรดเครือข่ายมีความซับซ้อนมากขึ้นเนื่องจากลักษณะการกระจายอำนาจของระบบบล็อกเชน ดังนั้น ชุมชนทั้งหมดจึงจะต้องมีส่วนร่วม เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างราบรื่น การอัพเกรดเครือข่ายในเครือข่ายบล็อกเชนจำเป็นจะต้องมีการสื่อสารและความร่วมมือกับชุมชนตลอดไปจนถึงผู้พัฒนาเช่นกัน

ในปีที่ผ่านมา ผู้พัฒนาของ Ethereum ได้จัดทำข้อเสนอการปรับปรุง Ethereum (EIPs) หลายฉบับเพื่อค้นหาโซลูชันที่สามารถปรับขนาดได้สำหรับเครือข่าย EIP ที่มีข้อถกเถียงกันมากที่สุดก็คือ EIP-4488 และ EIP-4844

Gray Glacier คืออะไร?

Gray Glacier

การอัพเกรด Gray Glacier บนเครือข่าย Ethereum เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2022 ที่ความสูงของบล็อก 15,050,000 การอัพเกรดนี้แสดงถึงขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงสำคัญที่นำไปสู่ Proof-of-Stake (PoS) Ethereum 2.0 (ETH 2.0)

การอัพเกรด Gray Glacier มีความหมายกับเครือข่ายอย่างไร? มันเกี่ยวข้องกับการหน่วงเวลา”Difficulty Bomb” (Difficulty Bomb: การเพิ่มระดับความยากในการขุดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ) ออกไป 700,000 บล็อก ซึ่งน่าจะใช้เวลาประมาณ 100 วัน ระเบิดจะไม่ระเบิดจนถึงประมาณเดือนตุลาคม 2022 การอัพเกรดครั้งนี้รวมไปถึง EIP-5133

Gray Glacier เป็นการอัพเกรดฮาร์ดฟอร์ก Ethereum (Hard Fork: การแตกบล็อกเชนให้จากบล็อกเชนเดิมเพื่อปรับปรุงระบบต่างๆ) มันจะสร้างกฎใหม่เพื่อปรับปรุงเครือข่ายและต้องการให้ผู้ดำเนินการโหนดและนักขุดดาวน์โหลดเวอร์ชันล่าสุดของไคลเอนต์ Ethereum

จากรายงานของ Ethereum Foundation นักขุดและผู้ดำเนินการโหนดทั้งหมดต้องอัพเกรดเป็นไคลเอนต์เวอร์ชันล่าสุดด้วยตนเองเพื่อเข้าร่วมในเครือข่ายใหม่ หากพวกเขาล้มเหลว “ไคลเอนต์ของพวกเขาจะซิงค์กับ pre-fork บล็อกเชนเมื่อมีการอัพเกรดเกิดขึ้น”

ไคลเอนต์ที่ล้มเหลวในการอัพเกรดจะติดอยู่กับเชนที่เข้ากันไม่ได้ตามกฎเก่า พวกเขาจะไม่สามารถส่ง Ether หรือดำเนินการบนเครือข่าย Ethereum หลังการอัพเกรดได้

อย่างไรก็ตาม นักขุดและผู้ดำเนินการโหนดนั้นไม่ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำทั้งหมด ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ Gray Glacier เปิดใช้งาน ส่วนสำคัญของไคลเอนต์ Ethereum นั้นยังไม่ได้อัพเกรดเวอร์ชั่นไคลเอนต์ของพวกเขา ข้อมูล Ethernodes แสดงให้เห็นว่ามีไคลเอนต์เพียง 74.8% เท่านั้นที่พร้อมสำหรับการอัพเกรด Gray Glacier หลังจากที่การอัพเกรดเปิดใช้งานในวันที่ 30 มิถุนายน

Gray Glacier
ข้อมูลไคลเอนต์ที่พร้อมในการอัพเกรด Gray Glacier จาก Ethernodes

Difficulty Bomb คืออะไร?

Difficulty Bomb จะเพิ่มความยากในการขุดอย่างทวีคูณสำหรับเครือข่าย Ethereum แบบ Proof-of-Work (PoW) จนกระทั่งถึงช่วงยุคน้ำแข็ง ในช่วงยุคน้ำแข็ง เครือข่ายจะหยุดผลิตบล็อก นักขุดจะหยุดการขุดบล็อกใหม่เมื่อความยากในการขุดเพิ่มขึ้น

Ethereum Difficulty Bomb เป็นกลไกที่เพิ่มระดับความยากของปริศนาในอัลกอริธึมการขุด PoW สำหรับจำนวนบล็อกที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ส่งผลให้เวลาบล็อกนานขึ้นและรางวัล ETH น้อยลงสำหรับนักขุด

การที่เครือข่ายเปลี่ยนจาก PoW เป้าหมายคือให้นักขุดหยุดการขุด Ethereum 1.0 PoW เชนไปทีละน้อย

เหตุใดจึงต้องมี Difficulty Bomb?

เหตุผลที่เห็นได้ชัดก็คือ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงลงเอยด้วยการอัพเกรด Gray Glacier

Difficulty Bomb นั้นถูกเข้ารหัสในโปรโตคอลตั้งแต่เริ่มต้น มันถูกสร้างขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าผู้พัฒนาหลักของ Ethereum 1.0 จะถูกบังคับให้ทำการฮาร์ดฟอร์กเพื่ออัพเกรดเครือข่าย (หากเพียงเพื่อชะลอผลกระทบของระเบิด) เพื่อให้นวัตกรรมไม่หยุดนิ่ง ในเวลาเดียวกัน Difficulty Bomb นั้นมีไว้เพื่อใช้เป็นตัวยับยั้งในกรณีที่นักขุดต้องการทำการขุดต่อไปเมื่อ PoS เริ่มทำงาน

กล่าวอีกนัยหนึ่ง การระเบิดของ Difficulty Bomb จะหมายถึงการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง (เรียกว่า The Merge) ที่กำลังจะเกิดขึ้น การรวมเข้ากับ Beacon Chain ครั้งนี้ผ่านการผสานรวมของ Testnet มาหลายครั้งแล้ว Vitalik Buterin และผู้พัฒนาคนอื่นๆ กล่าวว่า “หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน” การเปลี่ยนแปลงอาจจะเกิดขึ้นทันทีในเดือนสิงหาคมของปีนี้

Difficulty Bomb นั้นล่าช้าเนื่องจากยังไม่มีการวางแผนการประสานงานของการใช้งานเครือข่ายหลักของการผสานระหว่าง PoW และ PoS หากระเบิดไม่ล่าช้า Ethereum 1.0 อาจจะไม่สามารถขุดได้ก่อนที่ ETH2.0 จะพร้อม ความล่าช้าหลายต่อหลายครั้ง รวมทั้งการอัพเกรดเครือข่าย 5 ครั้ง ได้ผลัก Difficulty Bomb กลับไป การอัพเกรดเหล่านี้คือ Byzantium และ Constantinople, Muir Glacier, London และล่าสุดคือการอัพเกรด Arrow Glacier ในเดือนธันวาคม 2021

ฉันควรทำอย่างไรหลังจากอัพเกรด Gray Glacier ของ Ethereum

ผู้ใช้งาน Ethereum ไม่จำเป็นต้องดำเนินการใดๆ อย่างไรก็ตาม หากผู้ให้บริการกระดานเทรดหรือกระเป๋าเงินร้องขอการเปลี่ยนแปลง พวกเขาจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านั้น กระดานเทรดสกุลเงินดิจิทัลจำนวนมากได้แสดงการสนับสนุนในการอัพเกรดเครือข่าย Ethereum และได้ระงับการถอนและฝากในระหว่างการอัพเกรด Gray Glacier

อย่างไรก็ตาม ผู้ดำเนินการโหนดต้องอัพเดตเวอร์ชันไคลเอนต์ของตนเพื่อให้เข้ากันได้กับการอัพเกรดของ Gray Glacier ผู้ดำเนินการโหนดและนักขุดที่ไม่ทำการอัพเกรดจะยังคงอยู่ในเชนที่เข้ากันไม่ได้ซึ่งเป็นไปตามกฎเกณฑ์เก่า ดังนั้น พวกเขาจะไม่สามารถส่ง Ether หรือดำเนินการบนเครือข่าย Ethereum หลังการอัพเกรดใหม่ได้

PoS จะมาถึงเมื่อไหร่?

มันใกล้จะมาถึงแล้ว Tim Beiko ฝ่ายสนับสนุนโปรโตคอล Ethereum กล่าวว่า “หวังว่า” Gray Glacier จะเป็นส่วนขยายสุดท้ายของ Difficulty Bomb ซึ่งหมายความว่า Ethereum 2.0 หรือที่เรียกว่า Proof-of-Stake (PoS) Ethereum นั้นอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่เดือน

หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Ethereum และการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น เข้าร่วมกลุ่ม BeInCrypto Telegram เพื่อนๆ ที่เป็นมิตรมากมายในกลุ่มจะอธิบายทุกอย่างให้คุณฟังเอง

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤศจิกายน 2024
แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤศจิกายน 2024
แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤศจิกายน 2024

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์

Akhradet-Mornthong-Morn.jpg
Akradet Mornthong
อัครเดช หมอนทอง เป็น นักแปล/นักเขียนคอนเทนต์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน NFT Games, Metaverse, AI, Crypto และเทคโนโลยีใหม่ๆ เขาจบการศึกษาในสาขาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล และมีประสบการณ์ในการทำงานในวงการเกมมากกว่า 10 ปี เมื่อ NFT Games ได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาก็ไม่พลาดที่จะก้าวเข้ามาในวงการนี้เพื่อศึกษาข้อมูลในเชิงลึกต่างๆ ของวงการ NFT รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain และ Crypto อีกด้วย
READ FULL BIO
ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน