ทำไมการซื้อ Bitcoin วันนี้จึงเหมือนกับการซื้อบ้านในปี 2010, วันนี้อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ที่คุณอาจจะสามารถได้รับอิสระภาพทางการเงินได้ หากคุณจะลงทุนในคริปโตในวันนี้ ตามมาได้เลย
ผมได้ซื้อบ้านมาในปี 2010 เมื่อนับจวบจนถึงวันนี้มันเป็นเวลา 12 ปีแล้ว ราคาของบ้านมันได้ลดลงไปแล้ว 50% เมื่อเทียบกับ 5 ปีหลังจากที่ซื้อมา ซึ่งนี้ถือว่าเป็นการตัดสินใจยากที่สุดในชีวิต แต่มันก็ยังดีที่ดอกเบี่้ยนั้นยังไม่แย่ไปขนาดนั้น (5% ภายใน 30 ปี) ที่ซึ่งผมได้จ่ายเงินดาวน์ไปเพียง 20% แม้ว่าผมจะเลือกบ้านที่หรูหรามากในตอนนั้น แต่วันนี้ผมไม่คิดว่าผมจะสามารถซื้อมันได้ในมูลค่าเท่านี้อีกแล้ว
ผมยังมีเซ้นต์ที่ยังบอกอีกว่าในอีก 12 ปีถัดไป ผู้คนจะบอกว่า เฮ้! ฉันดีใจที่ฉันได้ซื้อ BTC ไปในปี 2022 หรือบอกว่า โอ้มายก็อต คุณซื้อตอนราคานั้นได้ด้วยหรอ? มันคงจะเท่อมากที่ใครๆได้ยินว่าคุณซื้อ BTC ในตอนที่ทุกคนไม่ได้ซื้อมัน
ผมถือ BTC อยู่และซื้อมันในทุกๆวัน ผมมีความเชื่อมั่นในการลงทุนใน BTC และจากทฤษฎีที่ว่าด้วย Bitcoin จะเป็น Internet money เมื่อใดก็ตามที่อะไรมันอยู่บนโลกของอินเทอร์เน็ต มันจะวิ่งไปเร็วมาก ผู้ใช้จะเข้ามาใช้เยอะมาก เพราะอินเทอร์นเ็ตนั้นเท่ากับข้อมูลและเทคโนโลยี Uber นั้นกลายมาเป็นแท็คซี่ + เทคโนโลยี, Text messaging นั้นมาจากข้อมูล + เทคโนโลยี และยังมีอะไรอีกมากมายที่รอเราอยู่ไม่รู้จบ หลักฐานนั้นชัดเจน แต่ในที่นี้เรากำลังจะคุ้ยไปดูมากขึ้นว่า Bitcoin นั้นจะมีผลกระทบอย่างไรต่ออนาคต
เหตุผล #1: ตอนนี้คุณกำลังซื้อ Bitcoin ที่ถูกยึดไว้อยู่!
คุณกำลังคิดว่าทุกวันนี้คนขาย Bitcoin ทิ้งเนื่องจากพวกเขาไม่อยากจะถือเพื่อรอไว้คืนทุนหรือกำไรอีก 3 เท่าหลังจาก 4 ปีอย่างงนั้หรือ? คำตอบคือไม่ พวกเขาถูกบังคับขายเนื่องจาก Forced Sale ไม่ว่าจะเป็น Liquidation, Leverage ก็ตาม. มันน่าสงสาร แต่ในขณะเดียวกับ Celsius ก็เป็นวาฬที่ขายคริปโตในราคาถูกอย่างยิ่ง ในฐานะที่ผมเป็นลูกค้า Celsius ผมไม่สามารถจะถอน Crypto ที่ Stake เอาไว้ได้ แต่พวกเขายอมขาย Crypto ทิ้งเนื่องจากถูก Margin call
เราเห็นในตัวอย่างเดียวกันนี้จาด Three Arrow Capital แม้ว่าพวกเขาจะมีเงินจาก VC มากกว่า Celsius แต่บริษัทที่มีเงินเยอะกว่าก็ไม่ได้หมายความว่าเขาควรที่จะรับความเสี่ยงในตอนนี้ ตอนนี้พวกเขาถูกบังคับขายเนื่องจากเขาถือ Position Long ไว้มาก เขาขายเนื่องจากพวกเขาจำเป็นที่จะต้องขาย
มากไปกว่านั้น เหล่า Miner ก็ต่างถูก Forced sell เพื่อที่จะยังคงรักษาเครื่องขุดของพวกเขาให้มีค่าไฟใช้อยู่ ถึงแม้ว่า BTC จะมีราคาที่ลดลงก็ตาม Celsius ถูกบังคับ Liquidate จาก Future นั้นทำให้พวกเขาจำเป็นที่จะต้องเขาหลังจากที่ถูกบังคับขายเช่นเดียวกัน ไม่ต่างจากคนที่เอาบ้านไปค้ำประกันไว้เพื่อกู้เงินมาซื้อหุ้นในปี 2008 พวกเขาไม่ได้อยากจะขายบ้านทิ้ง แต่เขาไม่มีทางเลือกเนื่องจากเขากู้บ้านมาลง เขาใช้ Leverage มากเกินไป
ซึ่งนี้เป็นจุดแตกต่างระหว่างเหล่าคนที่ซื้อสินทรัพย์และเหล่าคนที่ถูกบังคับขายไปในช่วงที่หนีไฟ เมื่อใดที่ค่านิยมเปลี่ยน หายนะของการถูกบังคับขายนั้นจะมาเยือน และเมื่อใดที่ Bitcoin นั้นเติบโตมากขึ้น ด้วยวิกฤติครั้งนี้ Bitcoin ยังมีโอกาจที่จะหวนคืนสู่ $69,000 อีกครั้ง เมื่อเปรียบเทียบกับการถือ Condo เอาไว้ 7 ปี ตอนนี้ผมสามารถขายมันในราคาเดียวกันกับที่ผมซื้อมันได้แล้ว ซึ่งนี้อาจจะเป็นโอกาสที่คุณอาจจะไม่ต้องรอถึง 7 ปีในการทำให้ Bitcoin ของคุณนั้นเท่าทุน
เหตุผล #2: การกระทำสำคัญกว่าคำพูด
ในทุก ๆ สื่อแต่ละช่องทางต่าง Quote คำพูดของมหาเศรษฐีไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านตลาด หรือนักวิเคราะห์ที่อธิบายว่าทำไม Bitcoin และคริปโตถึงเป็นการฉ้อโกง การหลอกลวง และมีเหตุผลที่จะลงไปอีกมาก สื่อกระแสหลักชอบที่จะเน้นว่า Microstrategy, Tesla และ Square ลงทุนน้อยลงใน Bitcoin มากน้อยเพียงใด พวกเขากล่าวว่า Microstrategy สูญเสียมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์จากการลงทุน Bitcoin มูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ จะไปเดาทำไม? ถึงแม้ว่าพวกเขาลงทุนใน Netflix หรือ Facebook/Meta และพอร์ตของเขาจะลดลงมากกว่าพันล้านดอลลาร์ ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้เป็นพวกเดียวกับที่ยังพูดถึงหุ้น FAANG อย่างไม่หยุดหย่อนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาอยู่ดี
ในขณะเดียวกัน ไม่มีการขาย Bitcoin จาก Microstrategy, Square หรือ Tesla นี้หมายความว่าไง? พวกเขาไม่ได้ถูกบังคับให้ขายและเข้าใจว่าพวกเขากำลังถือสินทรัพย์ซึ่งปัจจุบันถูกคนมองว่าเป็นถ่านหิน แต่จะถูกมองว่าเป็นเพชรในไม่ช้า อันดับแรก มาดูจำนวน Bitcoin ที่อยู่ในการแลกเปลี่ยนกลางกัน
ในภาพนี้ เส้นสีเหลืองแสดงมูลค่าของ Bitcoin ในปีที่ผ่านมา เส้นสีเขียวแสดงถึงจำนวน Bitcoins ที่อยู่ในการแลกเปลี่ยนที่สำคัญ ราคาถูกกำหนดโดยอุปสงค์และอุปทาน แล้วถ้าอุปทานลดลง แสดงว่าอุปสงค์เพิ่มขึ้นไม่ใช่หรือ? หนึ่งปีที่ผ่านมา มีการแลกเปลี่ยน Bitcoin มากกว่า 2.5 ล้านครั้ง โดยที่ Bitcoin ตัวหนึ่งมีราคาอยู่ที่ประมาณ 33,000 ดอลลาร์ ปัจจุบันมีการแลกเปลี่ยน Bitcoin ประมาณ 2.2 ล้าน Bitcoin และ Bitcoin ตัวเดียวมีมูลค่าเพียง 19,000 ดอลลาร์
โปรดจำไว้ว่าอุปทานของ Bitcoin นั้นมีจำกัด พวกเราสามารถขุด Bitcoin ได้อีกเพียงสองล้านเหรียญเท่านั้น อุปทานในการแลกเปลี่ยนลดลงในขณะที่ราคากำลังลดลง ใครเป็นคนขุด Bitcoin ราคาถูกนี้? มันควรจะเป็นคุณรึป่าว?
เหตุผล #3: มันคุ้มที่จะเป็นคนสวนกระแส
คุณเคยสังเกตไหมว่าเสื้อโค้ทกันหนาวนั้นจะลดราคาลงหลังจากอากาศอุ่นขึ้น? หรือชุดว่ายน้ำจะถูกกว่าหลังฤดูร้อนมันเป็นยังไง? ในทางกลับกัน อัตราค่ารถลิมูซีนจะสูงขึ้นในช่วงเทศกาล และตั๋วเครื่องบินมีราคาสูงขึ้นในช่วงวันหยุด ในกรณีเหล่านี้ การมีคติสวนกับฝูงชนจะสามารถเซฟเงินได้มาก โปรดจำไว้ว่าเมื่อ Bitcoin อยู่ในช่วง 60,000 ดอลลาร์ และทุกคนต่างก็คาดเดาว่าเมื่อไรจะถึง 100,000 ดอลลาร์ เมื่อมองย้อนกลับไป นั่นตอน 60,000 นั้นก็อาจจะไม่ใช่เวลาที่ดีที่สุดในการซื้อ
วันนี้เราให้ทุกคนเดาราคา Bitcoin: $0, ต่ำกว่า $10,000, $12,000, $15,000, $20,000 การเดาของทุกคนดีพอๆ กับของคุณ! ไม่มีใครรู้ว่าจุดต่ำสุดจะเป็นอย่างไร และเมื่อใดที่เราจะถึงจุดต่ำสุด อย่างไรก็ตาม หากคุณถามคนกลุ่มเดียวกันนี้ว่า Bitcoin จะมีมูลค่าเท่าใดในปี 2025 (อีก 3 ปีจากนี้) ฉันคิดว่าหลายๆ คนจะกล้าเสี่ยงเพื่อให้ได้ราคาที่สูงขึ้น แน่นอนว่ามันยังมีตลาดหมีอยู่เสมอ แต่พวกเขาคิดผิดตราบใดที่ยังมี Bitcoin
ตอนที่ฉันซื้อบ้านในปี 2010 หลายคนคิดว่าฉันบ้าไปแล้ว ฉันได้รับคำแนะนำที่ไม่พึงประสงค์ทุกประเภทและไม่ได้สนใจเลย โดยไม่สนใจฝูงชน กราฟ สื่อ และผู้คนที่ฉันรู้จัก ผมสามารถลงทุนอย่างชาญฉลาดซึ่งพอผมมองย้อนกลับไปว่าเป็นการลงทุนทางการเงินที่ดีที่สุดในชีวิตของฉผม
เหตุผล #4: ความเสี่ยงในการขาดทุนของรายเล็กในวันนี้นั้นน้อยกว่าช่วงเวลาใดๆ ในปีที่ผ่านมาอย่างมาก
หนึ่งปีที่แล้ว คุณต้องใช้เงินประมาณ 32,000 เหรียญสหรัฐเพื่อเป็นผู้ผลิตทั้งเหรียญ 7 เดือนที่แล้ว คุณต้องใช้เงิน $69,000 เพื่อที่จะเป็นนักถือ Crypto วันนี้ คุณต้องการเพียง $19,000 เท่านั้นในการเป็นนักถือ ซึ่งหมายความว่าจำนวนเงินที่เสียได้มากที่สุดคือ $19,000 หากราคาของ Bitcoin ไปที่ 0 ในทางกลับกัน หาก Bitcoin กลับสู่ระดับสูงสุดตลอดกาล คุณก็จะได้กำไรมากกว่า 300% หากถึงหกหลัก จะได้รับมากกว่า 500%
เราต้องวิเคราะห์ความเสี่ยงและผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนของเราอย่างต่อเนื่อง ถามตัวเอง: “ฉันคิดว่า Bitcoin cab จะแตะ 100,000 ดอลลาร์ในอีกห้าปีข้างหน้าหรือไม่” หากคุณคิดว่ามีโอกาสเกิดขึ้นน้อยกว่า 20% คุณอาจไม่ควรซื้อ Bitcoin แต่ถ้าคุณคิดว่าอัตราต่อรองมากกว่า 20% การลงทุนอื่นใดที่เสนอข้อดีที่เป็นไปได้นี้ให้คุณ?
เหตุผล #5: สถานการณ์ทางการเงินในปัจจุบันคือเหตุผลที่ดีในการซื้อ Bitcoin
อัตราเงินเฟ้อ ธนาคารกลางที่สามารถหยุดเศรษฐกิจ การทุจริตทางการเงิน การกระจายความมั่งคั่งที่ไม่เท่ากัน และไม่มีความสามารถในการดูแลความมั่งคั่งของคุณ…นี่คือเหตุผลบางประการที่ผู้คนต้องการเป็นเจ้าของ Bitcoin ทุกคนพยายามอธิบายหรือหาอัตราเงินเฟ้อ เรามีระบบการเงินที่กฎเกณฑ์ถูกเขียนขึ้นเมื่อเราเล่นเกม สิ่งนี้ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างใหญ่หลวงต่อบางกลุ่มและบางประเทศ และส่งผลเสียอย่างใหญ่หลวงต่อกลุ่มอื่นๆ
คงจะดีไม่น้อยหากคุณเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่มีกฎเกณฑ์? วันนี้ มีผู้คนเพียงสองสามร้อยล้านคนเท่านั้นที่เห็นมูลค่าในทรัพย์สิน และมีมูลค่าถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว ลองนึกภาพว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อผู้คนหนึ่งพันล้านคนตระหนักถึงความสำคัญของมัน? ใช่ราคาจะขึ้น แต่ยิ่งไปกว่านั้น ความผันผวนจะลดลง
หากคุณเชื่อในระบบคำสั่งทั้งหมด ปล่อยให้เงินของคุณเป็นเงินออม แต่เมื่อราคาน้ำมัน อาหาร รถยนต์ บ้าน สถานบันเทิง และอื่นๆ ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (เช่นเคย) ให้ถามตัวเองว่าผลตอบแทนจากบัญชีออมทรัพย์ของคุณจะทันกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นหรือไม่
ประเด็นที่สำคัญเพิ่มเติม
ดัชนีความกลัวและความโลภสำหรับ crypto เพิ่งมีค่าต่ำสุดในปัจจุบัน
ภาพจาก https://alternative.me/crypto/fear-and-greed-index/ การกลัวขาดทุน การกลัวถูก Liquidate นั้นฝังอยู่ในใจของทุกคน แต่ก็เหมือนกับเด็กๆ ในการทดลองที่รอที่จะกินมาร์ชเมลโลว์ไม่ไหว สมองของจิ้งจกทำให้เราทำสิ่งที่โง่เขลาเหมือนกับเด็กๆ ในการทดลอง
ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่จะถอยกลับ ใช่ ตลาดสามารถ (และอาจจะ) ลงไปได้อีก แต่ลองคิดดู: คุณเคยซื้ออะไรที่จุดต่ำสุดเมื่อไหร่? อัตราดอกเบี้ยจะลดลงในอนาคตหรือไม่? จะพิมพ์เงินเพิ่มเพื่อแก้ปัญหาภาวะถดถอยที่เราอยู่หรือกำลังจะเข้าสู่ภาวะถดถอยหรือไม่? ผู้คนจำนวนมากขึ้นจะไล่ตามทรัพย์สินที่หายากนี้ซึ่งมีเพียง 21 ล้านคนเท่านั้นที่สามารถเป็นเจ้าของได้เต็มรูปแบบหรือไม่?
ผมไม่พอใจกับสถานะปัจจุบันของตลาด Port ของผมลดลงอย่างมา ผมยังไม่ได้กำไรตามที่ควรจะเป็น แต่ผมยังมองว่านี่เป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ในการรักษาความปลอดภัย Bitcoin ทั้งหมด และอาจได้รับ Bitcoin หนึ่งอันสำหรับลูกๆ ของผมเพื่อทำให้อนาคตทางการเงินของเราสดใสขึ้น
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์