7 สุดยอด Metaverse Game ที่คุณต้องเล่นในปี 2022!

ความตื่นเต้นที่เกิดขึ้นรอบๆ Metaverse — โดยเฉพาะใน Metaverse Game — นั้นแสดงให้เห็นถึงการไม่มีสัญญาณในการชะลอตัวใดๆ และอย่างที่เรารู้ มันจะเป็นกระแสต่อไปจนกว่าที่มันจะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งที่ไม่อาจจะแยกออกจากชีวิตของเราได้ อย่างที่อินเตอร์เน็ตเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้

รายงานล่าสุดจากบริษัทที่ปรึกษาระดับโลก McKinsey สะท้อนให้เห็นความเป็นไปได้นั้นด้วยตัวเลขที่น่าสนใจ รายงานระบุว่าอุตสาหกรรม Metaverse อาจจะมีมูลค่าสูงถึง 5 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 และระบุว่า งานถ่ายทอดสดมากกว่า 50% นั้นอาจจะจัดขึ้นใน Metaverse ภายในปี 2030 และ “มากกว่า 80% ของการค้าอาจจะได้รับผลกระทบจากบางสิ่งที่ผู้บริโภคทำที่นั่น” คุณสามารถดาวน์โหลดรายงาน McKinsey ฉบับเต็มได้ที่นี่

ประเด็นสำคัญเรื่องหนึ่งที่น่าสังเกตก็คือการเติบโตของสิ่งล่อใจของเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่นี้นั้นมาจากการที่ Metaverse Game เป็นหัวหอก จากเกม Play-to-Earn ที่จะให้รางวัลแก่ผู้เล่นสำหรับการทำกิจกรรมภายในเกมไปจนถึงโลกเสมือนจริงที่น่าตื่นเต้น — มันเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าเราจะได้เห็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมวิดีโอเกมในวงกว้าง

หากคุณรู้สึกทึ่งเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ และต้องการที่จะสัมผัสประสบการณ์ดังกล่าวด้วยตนเองโดยตรง เราได้รวบรวมรายชื่อ Metaverse Game 7 เกมที่ดีที่สุดที่คุณอาจจะต้องการลองเล่นในปี 2022

Metaverse คืออะไร?

ระดับของความคาดหวัง ความตื่นเต้น และความสับสนรอบๆ Metaverse เกือบจะเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่ออินเทอร์เน็ตยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และให้คำสัญญาว่าจะปฏิวัติการแลกเปลี่ยนข้อมูลและการสื่อสาร

Metaverse ถูกมองว่าเป็นขั้นตอนต่อไปในวิวัฒนาการของอินเทอร์เน็ต อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่คู่แข่งและถูกสร้างขึ้นบนอินเทอร์เน็ต

โปรดทราบว่า คำว่า “Metaverse” ก็ไม่ใช่คำที่ใหม่แต่อย่างใด มันถูกพูดถึงเป็นครั้งแรกในปี 1992 โดยผู้เขียน Neal Stephenson ในนวนิยายไซไฟของเขาเรื่อง “Snow Crash” ในนวนิยาย Stephenson อธิบายว่า Metaverse เป็นโลกเสมือนจริงที่ครอบคลุมทุกอย่างซึ่งจะคู่ขนานไปกับโลกในชีวิตจริง อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่า Metaverse ในชีวิตจริงนี้จะมีความคล้ายคลึงกับที่ Stephenson จินตนาการไว้ในนวนิยายของเขาหรือไม่

ในวันนี้ Metaverse ส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วย Metaverse Game แต่มันสัญญาว่าจะเป็นมากกว่าแค่โลกแห่งเกม

คำจำกัดความของ Metaverse

ในฐานะที่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาใหม่ Metaverse นั้นยังไม่มีคำจำกัดความที่เป็นมาตรฐาน แต่มันมักจะมีความหมายที่หลากหลายขึ้นอยู่กับว่าอะไรที่พวกเขาต้องการจะบรรลุ

ตัวอย่างเช่น Meta ของ Facebook มีเป้าหมายที่จะปฏิวัติเครือข่ายโซเชียลโดยผสานรวมองค์ประกอบของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และความเป็นจริงเสมือน (VR) เป้าหมายของแพลตฟอร์มคือการ “ให้คุณเข้าสังคม เรียนรู้ ร่วมมือ และเล่นในแบบที่เกินกว่าที่จะจินตนาการได้” ในขณะเดียวกัน Mesh ของ Microsoft ก็มุ่งหวังที่จะกลายเป็น Metaverse สำหรับการทำงานโดยผสานรวมการประมวลผลแบบคลาวด์, AI และ การผสานรวมความเป็นจริง (AR) เข้ากับแพลตฟอร์ม

พูดอย่างกว้างๆ Metaverse สามารถถูกกำหนดให้เป็นโลกเสมือนกับสถานการณ์จำลองที่ผู้ใช้งานสามารถแบ่งปันประสบการณ์ของพวกเขาและโต้ตอบกันได้ในแบบเรียลไทม์ อีกความหมายหนึ่ง คำว่า “Metaverse” หมายถึงทั้งแพลตฟอร์มดิจิทัลแบบผสานรวมทั้งในปัจจุบันและอนาคตที่ใช้ VR และ AR เพื่อทำให้ประสบการณ์ดิจิทัลของผู้ใช้งานเหมือนจริงและโต้ตอบได้มากขึ้น

ตามทฤษฎีแล้ว มันไม่ใช่พื้นที่ดิจิทัลเดี่ยว แต่เป็นการผสมผสานระหว่างพื้นที่ดิจิทัลหลายพื้นที่ แต่ละพื้นที่ใน Metaverse ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ดิจิทัลที่สมจริงและกลมกลืนมากขึ้น

ดังนั้น เหมือนที่คุณจินตนาการไว้ เทคโนโลยีนี้ทำให้เกิดความเป็นไปได้มากมาย — จากประสบการณ์การเล่นเกมและโซเชียลมีเดียที่เหนือกว่า ไปจนถึงการทำงานร่วมกันในที่ทำงาน กิจกรรมเสมือนจริงที่ขับเคลื่อนด้วย VR/AR และอื่นๆ อีกมากมาย

7 สุดยอด Metaverse Game

เราได้รวบรวมลิสต์ Metaverse Game ที่ดีที่สุดในแง่ของความนิยมและศักยภาพที่มันมีอยู่ แน่นอนว่ามันไม่ใช่ลิสต์ที่ละเอียดถี่ถ้วนนัก แต่จะให้ภาพรวมของสิ่งที่กำลังปรับปรุงอยู่ในอุตสาหกรรมที่พึ่งเกิดขึ้นใหม่นี่

1. Axie Infinity — Metaverse Game ที่มีผู้เล่นมากที่สุด

เรามาเริ่มต้นลิสต์ด้วยเกมที่เรียกได้ว่าเป็น Metaverse Game ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน Axie Infinity เปิดตัวในปี 2018 เป็นเจ้าใหญ่ในสังเวียนเกม NFT ที่มีผู้คนหนาแน่นมากขึ้น

เกมเพลย์ในเกมนี้ค่อนข้างคล้ายกับโปเกมอนและต้องการให้ผู้เล่นสะสม ผสมพันธุ์ เลี้ยงดู ต่อสู้ และแลกเปลี่ยน “Axies” Axies เป็นสัตว์น้อยน่ารักที่เป็น NFT อีกด้วย ซึ่งหมายความว่า Axie แต่ละตัวจะไม่สามารถแยกออกได้และมีเอกลักษณ์ ด้วยเอกลักษณ์ของพวกมัน Axie แต่ละตัวสามารถเติบโตเพื่อให้มีมูลค่าที่สูงขึ้นและกลายเป็นการลงทุนระยะยาวที่ประสบความสำเร็จได้

ผู้เล่นจะได้รับรางวัลในรูปแบบของ NFT หรือคุณอาจจะได้รับรางวัลเป็น Axie Infinity Shards (AXS) และ Sooth Love Potion (SLP) ซึ่งเป็นโทเค็นดั้งเดิมทั้ง 2 ตัวบนแพลตฟอร์ม คุณสามารถซื้อขายสินทรัพย์เหล่านี้ได้ในกระดานเทรด Crypto เป็นสกุลเงิน Fiat

คุณสามารถรับรางวัลในเกมได้โดยการ:

• แข่งขันกันในการต่อสู้ระหว่างผู้เล่นกับผู้เล่น (PVP) เพื่อชิงรางวัลลีดเดอร์บอร์ด
• สำรวจจักรวาล Axie Infinity ด้วยการเล่นโหมด PVE Adventure
• ผสมพันธ์ Axies ของคุณเองและขายมัน
• สะสม Axies หายาก (เช่น Mystics และ Origins)
• ฟาร์ม Love Potions และขายมันในกระดานเทรดเช่น Binance และ Uniswap เป็นต้น

โทเค็น SLP มีบทบาทที่เฉพาะเจาะจงมากใน Axie Infinity และเกมไม่ได้ให้สภาพคล่องแก่มัน และไม่ขายโทเค็น SLP ให้กับผู้เล่นโดยตรง วิธีที่ดีที่สุดในการรับโทเค็น SLP คือการเล่นโหมด PVE Adventure (หรือซื้อจากกระดานเทรด)

ในขณะเดียวกัน AXS ก็เป็นโทเค็นการกำกับดูแล ERC-20 ที่คุณสามารถเดิมพันและรับรางวัลตอบแทนได้ ในขณะที่เขียนบทความ มันมีมูลค่าตลาดประมาณ 1.19 พันล้านดอลลาร์และมีราคาซื้อขายเหนือ 14 ดอลลาร์ต่อโทเค็น (ซึ่งน้อยกว่า 1 ใน 10 ของระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 158 ดอลลาร์)

2. The Sandbox — หนึ่งใน Metaverse Game ที่ดีที่สุดสำหรับเหล่าครีเอทีฟ

ต้นกำเนิดของ The Sandbox ในฐานะเกมนั้นเกี่ยวกับการสร้างโลกเสมือนจริงย้อนกลับไปในช่วงต้นทศวรรษ 2000 มันเปิดตัวเป็นเกมมือถือในปี 2010 ด้วยเกมเพลย์แบบโต้ตอบที่ผู้เล่นสามารถสร้างโลกของตัวเองและเพิ่มมันด้วยตัวละครและวัตถุเสมือนจริง

เกมนี้ถูกซื้อไปโดย Animoca Brands ในปี 2018 ซึ่งเป็นช่วงที่พวกเขาโฟกัสในการเปลี่ยนมันให้กลายเป็นเกม Play-to-Earn ที่ขับเคลื่อนด้วยบล็อกเชน ในช่วงเวลาดังกล่าว มันยังได้รับเงินลงทุนจาก Snoop Dogg, Republic Realm, HSBC, Gucci และอื่นๆ

ใน Sandbox คุณสามารถซื้อและขายอสังหาริมทรัพย์เสมือนจริง จัดกิจกรรม และแลกเปลี่ยน NFT กับสินค้าอื่นๆ ภายในเกมได้ คุณยังสามารถใช้ Sandbox Game Maker เพื่อสร้างเกมของคุณเองได้ นอกจากนี้ แพลตฟอร์มยังมี VoxEdit ซึ่งเป็น NFT Creator ควบคู่ไปกับโปรแกรมแก้ไขโมเดล 3D เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างเนื้อหาของตนเองได้ ผู้ใช้งานสามารถสร้างรายได้จากเนื้อหาที่สร้างโดยการขายมันลงในตลาดกลาง

หัวใจของ Metaverse ของ Sandbox คือโทเค็น SAND ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดั้งเดิมบนแพลตฟอร์ม มันจะถูกใช้ในการทำธุรกรรมระหว่างผู้ใช้งานบน Metaverse SAND เป็นโทเค็น ERC-20 ที่มี 2 บทบาทในการเป็นโทเค็นยูทิลิตี้และโทเค็นการกำกับดูแล

SAND เป็นสิ่งที่จำเป็นที่ต้องใช้ในการทำธุรกรรมในเกมทั้งหมด รวมถึงการเล่นเกม การปรับเปลี่ยนอวาตาร์ การซื้อ LAND หรือการซื้อขาย ASSETS สำหรับผู้ที่ไม่ทราบ LAND เป็นโทเค็นที่ให้สิทธิ์แก่เจ้าของในที่ดินเสมือนจริงขนาด 96 × 96 เมตร ในขณะเดียวกัน ASSETS นั้นก็หมายถึง NFT ที่สร้างโดยผู้ใช้งาน The Sandbox

นอกจากนี้ ผู้ถือ SAND ยังสามารถเสนอการเปลี่ยนแปลงแพลตฟอร์มและโหวตข้อเสนอเหล่านี้ผ่าน DAO ได้

คุณยังสามารถ Stake SAND เพื่อรับส่วนหนึ่งของรายได้จากการโฆษณาและค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมของแพลตฟอร์มได้ สำหรับข้อมูลเชิงลึก โปรดดูบทความที่เต็มไปด้วยรายละเอียดของ BeInCrypto ที่จะอธิบายทุกแง่มุมของ Metaverse ของ The Sandbox

3. Decentraland — หนึ่งใน Metaverse Game ที่เปิดกว้างที่สุด

Decentraland ค่อนข้างคล้ายกับ The Sandbox ที่ทั้งสองเป็น Play-to-Earn Metaverse Game ที่เกี่ยวข้องกับโลกเสมือนจริงที่คุณสามารถซื้อและขายที่ดินเสมือนจริงได้

ใน Decentraland คุณสามารถซื้อสิ่งของในเกมได้มากมาย รวมถึงที่ดินเสมือนจริงที่เรียกว่า “LAND” เมื่อคุณซื้อที่ดินเสมือนจริง คุณจะได้รับ LAND ซึ่งเป็น NFT (โทเค็น ERC-721) ในปริมาณที่สอดคล้องกัน ลักษณะที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ของ LAND ทำให้มั่นใจได้ว่าเมื่อคุณได้รับมันมาแล้ว จะไม่มีใครที่จะสามารถทำสำเนามันได้ แม้แต่ผู้สร้างเกมก็ไม่สามารถทำได้ ทำให้คุณมีสิทธิ์ในการควบคุม LAND ที่คุณซื้อได้แต่เพียงผู้เดียว

มันมีอยู่หลายวิธีในการเล่นและทำรายได้ใน Decentraland ตัวอย่างเช่น คุณสามารถซื้อพื้นที่แล้วเรียกเก็บเงินจากธุรกิจต่างๆ ที่ต้องการลงโฆษณาในพื้นที่ของคุณ คุณยังสามารถสร้างสนามกีฬาสำหรับจัดคอนเสิร์ตหรืองานกิจกรรมอื่นๆ ได้อีกด้วย หรือคุณสามารถถือครองพื้นที่เหล่านี้ (LAND) เป็นการลงทุนระยะยาว พูดให้เข้าใจง่ายก็คือ ความเป็นไปได้นั้นไม่มีที่สิ้นสุด

คุณต้องทราบก่อนว่า Decentraland นั้นมีพื้นที่ LAND ที่ใช้ขายเป็นจำนวนจำกัดที่ 90,000 ผืน และคุณต้องมี MANA สินทรัพย์ดั้งเดิมของเกมเพื่อซื้อมัน ทุกครั้งที่คุณซื้อ LAND ในเกม ค่า MANA ที่เท่ากันกับมูลค่าของ LAND จะถูกเผาไป โดยพื้นฐานแล้ว สิ่งนี้ทำให้ MANA เป็นสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดภาวะเงินฝืดของระบบนิเวศ

MANA มีบทบาทหลัก 2 ประการใน Decentraland Metaverse ได้แก่:

• คุณสามารถใช้ MANA เพื่อซื้อ LAND และไอเทมในเกมอื่นๆ
• MANA ยังใช้เป็นโทเค็นการกำกับดูแล ซึ่งหมายความว่าผู้ถือ MANA สามารถมีส่วนร่วมในการตัดสินใจด้านการกำกับดูแลของแพลตฟอร์มผ่าน DAO ได้

ที่จุดสูงสุดในเดือนพฤศจิกายน 2021 MANA มีการซื้อขายที่ราคาไม่ถึง 5 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ตลาดหมีที่เกิดขึ้นก็ได้ส่งผลกระทบต่อราคา MANA เช่นกัน และในปัจจุบัน มันซื้อขายอยู่ที่ราคา 0.8 ดอลลาร์ต่อโทเค็น (โดยประมาณ) โดยมีมูลค่าตลาดเกือบ 1.5 พันล้านดอลลาร์

4. Somnium Space — Hybrid Metaverse

Somnium Space บรรยายตัวเองว่าเป็น “โลกที่เปิดกว้าง สังคมเสมือนจริง” ด้วยเศรษฐกิจและสกุลเงินของตัวเอง เกมดังกล่าวยังมาพร้อมกับตลาด โซเชียลเน็ตเวิร์ก และโอกาสในการเป็นเจ้าของที่ดินเสมือนจริง

มันเปิดตัวในปี 2017 Somnium Space Metaverse มักถูกขนานนามว่าเป็น Second Life รุ่นปรับปรุง มันเป็นแพลตฟอร์มผู้สร้างโลกในรูปแบบ VR ที่สนับสนุนการเป็นเจ้าของและการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์เสมือนจริงแบบอิสระ

ผู้เล่นสามารถซื้อและสร้างประสบการณ์ที่กำหนดเองในขณะที่ใช้ตัวละครของพวกเขาเพื่อสำรวจดินแดนของผู้ใช้งานรายอื่น เช่นเดียวกับใน Decentraland ดินแดนใน Somnium มีประโยชน์ในการใช้งานมากมาย ซึ่งรวมถึง การเล่นเกม การพบปะทางสังคม อีคอมเมิร์ซ การจัดกิจกรรม และอื่นๆ

ผู้พัฒนาเกมแนะนำให้ใช้ชุดหูฟัง VR เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการเล่นเกม อย่างไรก็ตาม มันไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ชุดหูฟัง VR และคุณสามารถเริ่มเล่นเกมได้โดยตรงจากเว็บเบราว์เซอร์ของคุณโดยใช้โหมด 3rd-Person

CUBE เป็นโทเค็นยูทิลิตี้ดั้งเดิมบนแพลตฟอร์มที่คุณสามารถใช้ทำธุรกรรมภายในเกมได้ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเช่าที่ดินจากผู้เล่นคนอื่นโดยใช้ CUBE ได้ คุณยังสามารถใช้เพื่อซื้อตั๋วคอนเสิร์ตดนตรีเสมือนจริงที่จัดขึ้นที่ Somnium ได้อีกด้วย

นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้โทเค็น CUBE เพื่อสร้างอวาตาร์ที่ไม่ซ้ำใครและขายมันให้กับผู้เล่นคนอื่นๆ ในรูปแบบ NFT

ปัจจุบัน CUBE ซื้อขายที่ราคา 1.57 ดอลลาร์ต่อโทเค็น โดยมีมูลค่าตลาดมากกว่า 23 ล้านดอลลาร์

5. My Neighbor Alice — เกมที่เหมาะสำหรับมือใหม่

My Neighbor Alice มีความโดดเด่นในการที่มันอนุญาตให้แม้แต่ผู้เล่นที่ไม่ได้เป็นเจ้าของ Crypto สามารถทำงานร่วมกันเพื่อสร้าง ประดิษฐ์ และเล่นเกมได้ มันเป็นเรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเกมเมอร์ที่ไม่ค่อยจะมีความรู้เรื่องบล็อกเชน คริปโต หรือ NFT มาก่อนหรือแทบไม่มีเลย

Metaverse ใน My Neighbor Alice นี้ตั้งอยู่ในหมู่เกาะ Lummelunda ซึ่งเป็นเกาะในจินตนาการที่มนุษย์และสัตว์ต่างอยู่ในอาณาเขตเดียวกันอย่างสันติ ใครก็ตามที่สนใจเพลิดเพลินกับความเงียบสงบบนเกาะสามารถเข้าร่วมชุมชนโดยการซื้อที่ดินเสมือนจริง ควบคู่ไปกับการช่วยเหลือชุมชนด้วยการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ตกปลา เลี้ยงผึ้ง จับแมลง และอื่นๆ

Alice ตัวละครหลักในเกมนี้ อาศัยอยู่บนเกาะนี้ร่วมกับเพื่อนที่กลายมาเป็นเพื่อนบ้านของเธอ — Beekeeper Bob, Björn the Bear, Shipwright José และ Ivan the Merchant

ผู้เล่นสามารถโต้ตอบกับตัวละครรองเหล่านี้ได้ ในขณะที่ช่วย Alice ทำภารกิจประจำวันของเธอ พวกเขาจะได้รับรางวัลจากกิจกรรมและเวลาที่ใช้ไปในการเล่นเกม ผู้เล่นยังสามารถออกแบบ ตกแต่ง และปรับแต่งคุณสมบัติได้โดยใช้ NFT ในเกม ซึ่งมาในรูปแบบของสิ่งปลูกสร้าง สัตว์ พืชพรรณ และอื่นๆ

โทเค็น ALICE เป็นสกุลเงินดิจิทัลดั้งเดิมใน Metaverse ของ My Neighbor Alice เป็นโทเค็น ERC-20 ที่คุณสามารถใช้ซื้อไอเท็มในเกม รับรางวัลการ Staking หรือเข้าร่วมในระบบการกำกับดูแลของเกม

ราคาของมันอยู่ที่ 2.14 ดอลลาร์ต่อโทเค็น ปัจจุบัน ALICE มีมูลค่าตลาดมากกว่า 65 ล้านดอลลาร์

6. Alien Worlds — NFT Metaverse ในธีมอวกาศ

Alien World เป็น Metaverse Game แบบ P2E ที่เล่นได้ฟรี โดยมีแฟนๆ คอยติดตามมากมาย แม้ว่ามันจะเล่นได้ฟรี แต่คุณจะต้องซื้อสกุลเงินดิจิทัลดั้งเดิมของเกม นั่นคือโทเค็น Trillium (TLM) เล็กน้อย เพื่อใช้ทำภารกิจให้สำเร็จและรับ NFT

เกมเพลย์จะเป็นการที่คุณกำลังเดินทางไปยังโลกมนุษย์ต่างดาวที่ห่างไกล และทำเหมือง TLM หรือ NFT ที่คุณพบระหว่างทาง เมื่อคุณเล่นเกมไปเรื่อยๆ และสินค้าในคลังของคุณจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คุณจะมีทรัพยากรมากขึ้นในการค้นหา NFT อย่างรวดเร็ว

มันมี NFT ที่แตกต่างกันอยู่มากกว่า 300 รายการให้คุณสะสม โดยแต่ละ NFT จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในแง่ของมูลค่าและความหายาก วัตถุประสงค์ในการเล่นเกมของคุณคือ:

• เพื่อขุดหรือรับ NFT มากกว่า 300 รายการ
• เข้าร่วมกิจกรรมระดับอวกาศ
• เช่ายานอวกาศเพื่อเดินทางไปยังดาวเคราะห์ที่ห่างไกล
• แข่งขันกับผู้เล่นคนอื่นและเอาชนะให้ได้
• Stake $TLM เพื่อรับรางวัล
• มีส่วนร่วมในระบบการปกครองของ Alien Worlds

มูลค่าตลาดของ TLM ในปัจจุบันอยู่ที่ 65 ล้านดอลลาร์ และโทเค็นนั้นมีการซื้อขายในราคาที่ประมาณ 0.02495 ดอลลาร์

7. Blocktopia — เป็นมากกว่า Metaverse Game

Blocktopia เป็น Metaverse ที่กระจายอำนาจที่อยู่บน Polygon ซึ่งให้คำสัญญาว่าจะรวมประสบการณ์ VR ที่ไม่เหมือนใครกับโมเดล Play-to-Earn คุณสามารถมองได้ว่ามันคือตึกระฟ้าที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของประสบการณ์ Crypto ทั้งหมดของคุณ

Metaverse ของ Blocktopia จะช่วยให้คุณสร้างรายได้จากการเล่นเกม โฆษณา การซื้อและขายอสังหาริมทรัพย์เสมือนจริง และอื่นๆ อีกมากมาย! รูปแบบการเล่นจะหมุนรอบตัวคุณ (ในมุมมองบุคคลที่หนึ่ง) และมุมมองของคุณเกี่ยวกับโลกเสมือนจริงโดยรอบ

ผู้พัฒนาโปรเจกต์รับรองว่า Blocktopia จะเป็นมากกว่า Metaverse Game ที่ไม่ธรรมดา แพลตฟอร์มนี้เป็นโลกเสมือนจริงซึ่งคุณสามารถสัมผัสได้แบบเรียลไทม์

โปรเจกต์ยังค่อนข้างใหม่และเราอาจจะต้องรอจนถึงปลายปีนี้ก่อนที่ Blocktopia Metaverse เต็มรูปแบบจะเปิดตัว พวกเขาสัญญาว่าจะมีแหล่งรายได้หลายทางให้ผู้เล่นได้ทำเงิน ซึ่งรวมถึง Passive Income จากการ Staking และการโฆษณา

โทเค็น Blocktopia ($BLOK) เป็นสินทรัพย์ดั้งเดิมในแพลตฟอร์ม มูลค่าตลาดของโทเค็นในขณะที่เขียนบทความนี้ มีมูลค่ามากกว่า 58 ล้านดอลลาร์ โดยแต่ละโทเค็นจะซื้อขายที่ราคา 0.00335 ดอลลาร์

โดยการใช้ $BLOK คุณสามารถใช้มันเพื่อซื้อภายในเกมได้ เช่น อสังหาริมทรัพย์และ NFT และเข้าถึงกิจกรรมสุดพิเศษ การขายล่วงหน้า โอกาสในการ Staking และอื่นๆ

Metaverse Game อีกมากมายที่กำลังจะมา

Metaverse นั้นพึ่งจะเริ่มต้น ด้วยเทคโนโลยีและแนวคิดที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้นจะทำให้มันน่าสนใจมากยิ่งขึ้น บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกกำลังดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้น เราจึงสามารถคาดหวังได้ว่าจะมีเกมเพิ่มมากขึ้นและมีการโต้ตอบที่กว้างขวางมากขึ้น

ดังนั้น ผู้ที่ต้องการเข้าสู่ Metaverse อาจจะรู้สึกดีหากรู้ว่าสิ่งที่เราได้เห็นอยู่นี้เป็นเพียงยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น ในทศวรรษหน้า Metaverse อาจจะกลายเป็นรูปแบบความบันเทิงที่โดดเด่นก็ได้

คำถามที่พบบ่อย

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | เมษายน 2024

YouHodler สำรวจเลย →

BYDFi สำรวจเลย →

CoinEx สำรวจเลย →

BingX สำรวจเลย →

Coinrule สำรวจเลย →

Bybit สำรวจเลย →

ดูเพิ่มเติม