ดูเพิ่มเติม

9 บริการ Cloud Gaming ที่ดีที่สุดในปี 2023

5 mins
อัพเดทโดย Apinat Phosuwan

เมื่อพูดถึง Cloud Gaming ในปัจจุบันอัตราการเติบโตในอุตสาหกรรม Cloud Hosting เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นและสนุกสนานมากยิ่งขึ้น Instagram, Spotify และ Netflix เป็นตัวอย่างของข้อมูลที่อยู่บน Cloud และเราสามารถเข้าถึงได้ทันที

อุตสาหกรรมวิดีโอเกมก็กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นเช่นกัน Cloud Gaming เกี่ยวกับการโฮสต์และประมวลผลวิดีโอเกม บนเซิร์ฟเวอร์อินเทอร์เน็ต Microsoft, Nvidia, Sony และบริษัทอื่นๆ ก็ได้มีการยื่นข้อเสนอในการเข้าถึงการสตรีมเกมและเล่นเกมบนอุปกรณ์ของคุณได้อย่างง่ายดาย

ในบทความนี้ เราจะแนะนำ “9 บริการ Cloud Gaming ที่ดีที่สุด” ให้คุณไม่พลาดข่าวสารในแวดวงคริปโต อัพเดทก่อนใครที่ BeInCrypto

Cloud Gaming คืออะไร?

9 Cloud Gaming ในไทยอัพเดตปี 2023

Cloud Gaming (การเล่นเกมบนระบบคลาวด์) เป็นบริการเกมออนไลน์ ที่คุณสามารถเล่นเกมผ่าน Remote Server (เซิร์ฟเวอร์ระยะไกล) ได้ การใช้บริการ Cloud Gaming หมายความว่าเราไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดเกมจริงๆ ลงบนอุปกรณ์ให้เปลืองพื้นที่ แต่มันจะสตรีมโดยตรงไปยังอุปกรณ์ของเรา และเราสามารถเล่นเกมจาก Cloud Server ได้ โดยไม่จำเป็นต้องซื้อคอมพิวเตอร์ที่มีสเปคสูง ๆ อีกต่อไป บางคนอาจจะเรียกว่า Game On-Demand หรือ Game-as-a-Service ก็ได้

นอกจากนี้ Cloud Gaming ทำให้เราสามารถเข้าถึงเกมและข้อมูลที่เก็บไว้ได้ โดยไม่ต้องคำนึงว่า อยู่ที่ไหน เพราะข้อมูลทั้งหมดจะถูกบันทึกไว้ในระบบ Cloud ตราบใดที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตที่เสถียรมากพอ ก็จะสามารถเข้าถึงเกมโปรด ได้ด้วยอุปกรณ์แทบทุกชนิด เช่น แล็ปท็อป สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต

Cloud Gaming VS Game Servers

สองคำนี้เหมือนจะใช้แทนกันได้ เราจะมาอธิบายให้ชัดเจนขึ้น ว่าจริง ๆ แล้ว คอนเซปต์เบื้องหลังของ Game Servers นั้นแตกต่างจากบริการ Cloud Gaming อย่างไร

Game Servers จะถูกใช้เพื่อโฮสต์วิดีโอเกมแบบผู้เล่นหลายคนบนออนไลน์ และมีการเชื่อมต่อที่เชื่อถือได้ เสถียร และรวดเร็ว ข้อได้เปรียบสูงสุดของ Game Servers คือการโฮสต์เกมด้วยประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้และดียิ่งขึ้น

ส่วน Cloud Gaming จะทำให้เราไม่จำเป็นต้องใช้คอนโซลหรือ PC ของคุณ เช่นเดียวกับที่เราไม่ต้องดาวน์โหลดหนังหรือรายการทีวีผ่าน Netflix ดังนั้น เกมบน Cloud ก็ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดไฟล์ แต่จะเชื่อมต่อโดยตรงกับ Remote Server ซึ่งส่งผลให้เกมจะสามารถสตรีมเนื้อหาที่มีประสิทธิภาพได้อย่างดีเยี่ยม เป็นการนำแนวคิดแบบ On-Demand มาสู่การเล่นเกม ซึ่งช่วยลดพื้นที่ความจำในไดรฟ์ ในเครื่องของเรา อีกทางหนึ่ง เราจะสามารถเข้าถึงเกมที่หลากหลาย บนอุปกรณ์มือถือได้อย่างราบรื่น

9 บริการ Cloud Gaming ที่ดีที่สุด

Game Servers ต่างจาก Cloud Gaming

ปัจจุบันโลกของ Cloud Gaming กำลังขยายตัวอย่างมาก สังเกตได้จากการที่มีหลายบริษัทเสนอการให้บริการเหล่านี้ ในปี 2020 Amazon เปิดตัว Luna บริการเกม Cloud Gaming เช่นเดียวกัน Microsoft ก็มีบริการ Xbox Cloud Gaming

สุดท้ายแล้ว บริการเหล่านี้จะช่วยลดเวลาในการโหลดและลดการใช้อุปกรณ์สตรีมมิ่งไม่สะดวก เผื่อตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้มากขึ้น เรามาสำรวจ 9 บริการ Cloud Gaming และฟีเจอร์ของแต่ละบริการกัน

1. Google Stadia

Google Stadia Cloud Gaming

Google Stadia เป็นบริการ Cloud Gaming ที่เราสามารถเล่นเกมที่ชื่นชอบบนอุปกรณ์ได้โดยไม่จำเป็นต้องซื้อเกมคอนโซลหรือคอมพิวเตอร์ที่สเปคสูง เนื่องจาก การเรนเดอร์เกิดขึ้นบนเซิร์ฟเวอร์ของ Google ก่อนที่จะสตรีมไปยังอุปกรณ์ เราจึงสามารถเล่นเกมคุณภาพสูงได้

Google Stadia มีมากกว่า 200 เกม รวมถึงเกมดังอย่าง Darksiders Genesis, Time on Frog Island, Borderlands 3, Dragon Ball Xenoverse 2, The Great War, Shadow Of The Tomb Raider, Cyberpunk 2077 และอื่นๆ อีกมากมาย ปัจจุบัน ให้บริการใน 22 ประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และประเทศอื่นๆ ในยุโรปอีกมากมาย

เมื่อพูดถึงราคาของบริการ Google Stadia มีอยู่ 2 ระดับ Free และ Pro โดยที่ระดับ Free นั้นจะข้ามขั้นตอนการสมัครที่ยาวนาน และเข้าถึงเกมเต็มเป็นเวลา 60 นาทีได้ทันทีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่อย่างไรก็ตาม ในแพ็คเกจฟรีนี้ จะสามารถเล่นได้เพียงไม่กี่เกมเท่านั้น เช่น Infinite, Recharged, Shades of Horror Playable, Calico เป็นต้น

แพ็คเกจ Stadia Pro มีค่าสมัครบริการ 9.99 ดอลลาร์/เดือน หลังจากการทดลองใช้งาน Stadia Pro ครั้งแรก แพ็คเกจ Pro มีฟีเจอร์เพิ่มเติม ซึ่งรวมไปถึง ความละเอียด 4K, 60fps, HDR และรองรับ 5.1 เซอร์ราวด์ด้วยการเชื่อมต่อ 35Mbps ขึ้นไป เช่นเดียวกับ Netflix และ Stadia Pro ให้เราเพิ่มเกมที่ชื่นชอบลงในคอลเล็กชั่นได้ฟรีๆ หากยังอยู่ในระหว่างการเป็นสมาชิก แพลตฟอร์มนี้ยังอนุญาตให้เราซื้อเกมของบุคคลที่สามที่ไม่ได้ระบุไว้ในแพ็คเกจในราคาลดพิเศษอีกด้วย

โดยรวมแล้ว ในแง่ของ Latency ความเร็วอินเทอร์เน็ตจะเป็นตัวกำหนดคุณภาพของสตรีม Google แนะนำอย่างน้อย 10Mbps เพื่อให้ได้ความละเอียด 720p ที่ 60fps และเสียงสเตอริโอ หากต้องการรับวิดีโอ 1080p, 60fps และ HDR คุณต้องมีความเร็วอย่างน้อย 20Mbps ส่วนในความละเอียด 4K จะต้องใช้ความเร็วประมาณ 35Mbps

2. NVIDIA GeForce Now

NVIDIA GeForce Now เป็นอีกหนึ่งบริการ Cloud Gaming ที่สามารถเล่นเกมที่โฮสต์อยู่บน Remote Server ได้อย่างราบรื่น เราสามารถเข้าถึง GeForce Now ได้ผ่าน iOS Safari โดยใช้ iPhone หรือ iPad และบนอุปกรณ์ Android ที่มี RAM มากกว่า 2 GB ซึ่งค่อนข้างคล้ายกับ Google Stadia, Shadow และ PlayStation Now

สิ่งที่แตกต่างจากบริการ Cloud Gaming อื่นๆ (Xbox Game Pass Ultimate หรือ Sony PlayStation) GeForce Now ไม่มีคอลเล็กชั่นเกม หมายความว่า เราไม่สามารถซื้อเกมได้ (Google Stadia หรือ Amazon Luna) แต่จะให้บริการ Cloud Gaming เต็มรูปแบบเหมือน Shadow และให้เชื่อมต่อกับบัญชีออนไลน์ของ Epic Games Store, Steam หรือ Uplay เพื่อเล่นหรือซื้อเกมโปรดของเรา ผ่านร้านค้าออนไลน์เหล่านั้น

สิ่งสำคัญ คือ แพลตฟอร์มนี้รองรับเกมหลายพันเกม รวมถึงเกมยอดนิยมอย่าง Destiny 2, Apex Legends, Fortnite, Dauntless, Warframe และ World of Tanks เราสามารถเชื่อมต่อเกือบทุกเกมได้จากแพลตฟอร์ม DRM ที่รองรับ

NVIDIA GeForce Now มีโครงสร้างสมาชิก 3 แบบ ได้แก่ Free, Priority, และ RTX 3080 ระดับ Free นั้นให้การเข้าถึงในระดับมาตรฐานสำหรับเกมที่รองรับทั้งหมดโดยสามารถเล่นได้ 60 นาทีต่อเซสชั่น นอกจากนี้ เนื่องจากสมาชิกที่ชำระเงินจะได้รับการจัดลำดับความสำคัญก่อน การใช้งานในระดับ Free นี้หมายความว่าคุณอาจจะต้องเข้าคิวเพื่อรอเล่น โดยจะขึ้นอยู่กับปริมาณการเข้าใช้งาน สมาชิกระดับ Priority สามารถเล่นได้มากถึง 6 ชั่วโมงต่อเซสชั่น และสมาชิก RTX 3080 จะเล่นได้ 8 ชั่วโมงต่อเซสชั่นด้วยความละเอียดของกราฟิกที่สูงขึ้น

GeForce Now แนะนำให้มีความเร็วการเชื่อมต่ออย่างน้อย 15Mbps สำหรับความละเอียด 720p ที่ 60fps, ความเร็วการเชื่อมต่อประมาณ 25Mbps สำหรับความละเอียด 1080p ที่ 60fps และความเร็วการเชื่อมต่อ 35Mbps สำหรับความละเอียด 1440p ที่ 120fps สำหรับแผน RTX 3080 นอกจากนี้ บริการยังแนะนำให้มี Latency น้อยกว่า 40 มิลลิวินาที

3. Shadow

Shadow เป็น Windows PC ในระบบ Cloud ที่สามารถเข้าถึงได้จากระยะไกล แพลตฟอร์มนี้รองรับ Windows, Android, Android TV, iOS, macOS, tvOS และ Linux Shadow เป็นหนึ่งในบริการ Cloud Gaming ที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ด้วยสโลแกน “เกมประสิทธิภาพสูงที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้”

ต่างจาก GeForce — ที่เชื่อมต่อกับบริการแบบดิจิทัล — การใช้ Shadow หมายถึงการที่คุณเลือกใช้งาน PC ระดับไฮเอนด์ที่คุณสามารถเข้าถึงได้จากระยะไกล ด้วยเหตุนี้ มันจึงสามารถรองรับเกมใดๆ ที่สามารถรันบนคอมพิวเตอร์ที่ใช้งาน Windows 10 ได้ ดังนั้น เราสามารถดาวน์โหลดและเล่นเกมใดก็ได้ตามต้องการ

ในแง่ของราคา Shadow นั้นค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับบริการอื่นๆ เนื่องจากจะไม่มีระดับสมาชิกแยกออกมา Shadow จึงมีสิ่งที่เรียกว่า Power Upgrade ให้เติมเงินเพื่อสมัครเพิ่มได้ โดยจะจ่ายเพิ่ม 14.99 ดอลลาร์ต่อเดือน จะได้รับประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ความละเอียด 4K และ Ray Tracing ที่เร่งด้วยฮาร์ดแวร์ สำหรับพื้นที่จัดเก็บที่ใหญ่ขึ้น จะต้องจ่ายเพิ่ม 2.99 ดอลลาร์เพื่อรับพื้นที่เพิ่ม 256 GB

แพลตฟอร์มแนะนำความเร็วอย่างน้อย 15 Mbps สำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตทุกประเภท รวมถึงสายเคเบิล DSL ไฟเบอร์ และแม้แต่ 4G LTE บนมือถือ เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุด สามารถเลือกใช้อีเทอร์เน็ตหรือเครือข่าย Wi-Fi 5GHz ก็ได้

4. Sony PlayStation Now

cloud gaming ในโลกคริปโต

PlayStation Now เป็นบริการ Cloud Gaming ของ Sony ที่สามารถเข้าถึงเกม PS4 และ PS3 หลายร้อยเกมเพื่อเล่นออนไลน์ด้วย PlayStation 5, PlayStation 4, PS4 Pro และ PC สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่า PlayStation Now และ PlayStation Plus ถูกรวมเข้าด้วยกันและไม่มีให้บริการในฐานะสมาชิกแบบสแตนด์อโลนอีกต่อไป

PlayStation Now มีการสมัครสมาชิก 3 แบบ: Premium, Essentials และ Extras โดยทั่วไปแล้ว แพ็คเกจเหล่านี้จะแตกต่างกันในแง่ของเกมประจำเดือน การเล่นออนไลน์ แชร์การเล่น พื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ การเลือกแผนใดๆ เหล่านี้หมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องติดตั้งเกมไว้ในคอนโซลของคุณ

วันนี้ PlayStation Now มีเกมมากกว่า 700 เกม ซึ่งเป็นเกม PS3 หลายเกมและเกม PlayStation 4 แบบ Triple-A รวมถึง God of War, Grand Theft Auto 5, Uncharted 4: A Thief’s End และเกมล่าสุดอย่าง Assassin’s Creed Valhalla และอื่นๆ อีกมากมาย

PlayStation Now แนะนำความเร็วขั้นต่ำ 5Mbps Sony ยังแนะนำว่าควรเชื่อมต่อแบบใช้สายมากกว่าแบบไร้สายเพื่อความลื่นไหล

5. Amazon Luna

Luna เป็นบริการ Cloud Gaming ของ Amazon ที่เราสามารถเข้าถึงการเล่นเกมบนอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดาย อุปกรณ์ที่ใช้ ได้แก่ Windows PC, Mac, Fire TV, Tablet Fire, Chromebook, iPhone, iPad, โทรศัพท์ Android และ Samsung Smart TV บางรุ่น ด้วย Luna Controller โดยสามารถเชื่อมต่อกับระบบ Cloud ได้โดยตรง Luna ยังมีผลิตภัณฑ์เสริมอื่นๆ อีก เช่น Xbox One, PlayStation 4, เมาส์ และคีย์บอร์ด

คล้ายกับ PlayStation Now Luna มีฟีเจอร์หลายอย่าง รวมถึง Luna Couch ที่สามารถเล่นเกมแบบผู้เล่นหลายคนกับเพื่อนๆ หากต้องการใช้งานฟีเจอร์นี้ คุณต้องมีบัญชี Amazon และอาศัยอยู่ในภูมิภาคที่รองรับ Luna

นอกจากนี้ Luna ยังร่วม Twitch ซึ่งช่วยให้เราสามารถโต้ตอบกับเพื่อนๆ และแชร์การเล่นเกมกับเพื่อนได้

เมื่อพูดถึงราคา การสมัครสมาชิกจะบ่งบอกคุณภาพของการเล่นเกม ณ ปัจจุบัน เราสามารถสมัครสมาชิกได้หลายรูปแบบ ได้แก่ Luna+, Family Channel, Retro Channel, Prime Gaming, Ubisoft+ และ Jackbox Games Prime Gaming นั้นฟรี โดยมีเกมที่หมุนเวียนไปเรื่อยๆ ให้กับสมาชิก Luna+ มาในราคา 9.99 ดอลลาร์ หลังจากการทดลองใช้งานฟรี 7 วัน พร้อมกับการเข้าถึงเกมได้มากกว่า 100 เกม

ช่องทางอื่นๆ เช่น Family Channel มีค่าบริการรายเดือนราคา 5.99 ดอลลาร์, Retro Channel ซึ่งเป็นเกมสำหรับครอบครัวและเกมสไตล์ย้อนยุคคลาสสิก ราคา 4.99 ดอลลาร์ และ Ubisoft+ มาในราคา 17.99 ดอลลาร์ต่อเดือน โดยสามารถเข้าถึงเกมทั้งหมดจาก Ubisoft ได้

Luna รองรับความสมดุลของเกมประเภทต่างๆ กับเกมยอดนิยม เช่น Control, Resident Evil 7, Dirt 5, Far Cry 4, Sonic Mania Plus และ Devil May Cry 5 เพื่อสนุกกับเกมเหล่านี้ Amazon แนะนำความเร็วในการเชื่อมต่อขั้นต่ำที่ 10 Mbps หรือเครือข่ายไร้สายหรือแบบใช้สายในความเร็ว 5Ghz

6. Xbox Game Pass Ultimate (Xbox Cloud Gaming)

Xbox Cloud Gaming (Beta)

Microsoft Xbox Game Pass Ultimate เป็นการรวม Xbox Game Pass และ Xbox Game Pass บน PC เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงคอลเล็กชั่นเกมคุณภาพสูงกว่า 100 เกม ที่ผู้ใช้งานสามารถเล่นกับผู้เล่นคอนโซล Xbox หลายล้านคนผ่านอุปกรณ์ส่วนตัวได้

เราสามารถติดตั้งเกมบน Xbox One, Xbox Series X, Xbox Series S และ PC เช่น Doom Eternal, Forza Horizon 5 และ Gears 5 ซึ่งสามารถเล่นได้ผ่านคอนโซล Xbox ของคุณ ราคาเริ่มต้นที่ 1 ดอลลาร์สำหรับ Xbox Game Pass Ultimate และ 9.99 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับ Xbox Live Gold

และยังมีเกมที่เล่นฟรีได้ อย่างเช่น Warframe และเกมอื่นๆ รวมถึงการเป็นสมาชิก Discord Nitro และ Spotify

ในแง่ของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต 5G จะช่วยให้เรามีประสบการณ์การเล่นที่ดีขึ้น ไม่ดีเลย์ อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มแนะนำความเร็วอินเทอร์เน็ตอย่างน้อย 10mbps

7. Playkey

Playkey เป็นบริการ Cloud Hosting ที่มีเกมมากกว่า 200 เกม พร้อมกราฟิกที่ทันสมัย Playkey มักจะถูกมองว่าเป็นบริการที่มีแค็ตตาล็อกที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาเกมในบริการ Cloud Gaming

Playkey แตกต่างจากคู่แข่งโดยสิ้นเชิงเป็น Cloud Gaming แบบ Decentralized บนบล็อกเชน ซึ่งผู้ใช้งานสามารถปล่อยเช่าฮาร์ดแวร์ให้กับผู้เล่นอื่น ซึ่งจะช่วยปรับปรุงคุณภาพประสิทธิภาพของเกม นอกจากนี้ ยังดึงดูดผู้ที่ชื่นชอบ Crypto จำนวนมากได้อีกด้วย

ด้วยความสัมพันธ์กับบริษัทใหญ่ๆ เช่น Ubisoft, Bethesda และ WarGaming ผู้ใช้งานสามารถสตรีมเกมได้หลายร้อยเกม นอกจากนี้ เนื่องจากบริการเกมนี้รองรับบล็อกเชน จึงเสนอให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ฟาร์มของพวกเขาได้ด้วย Playkey Token ซึ่งเป็นโทเค็นดั้งเดิม ดังนั้น หากคุณเป็นพวกคลั่งไคล้ Crypto เช่นเดียวกับเกมเมอร์ คุณอาจจะต้องจับตามอง Playkey

แพลตฟอร์มนี้รองรับเกมระดับ AAA หลายเกม เช่น Grand Theft Auto: V, The Witcher 3, Mafia III, Deus Ex: Mankind Divided, Bioshock: Infinite และ The Elder Scrolls V: Skyrim โดยรายชื่อเกมจะอัพเดตทุกเดือน

ในเรื่องของ Latency ด้วยความเร็ว 10 Mbps คุณจะได้ 30 FPS, HD (1280х720), ความเร็ว 15 Mbps จะได้ 30 FPS, Full HD (1920х1080), ความเร็ว 20 Mbps จะได้ 60 FPS, Full HD (1920х1080) ในขณะที่ความเร็ว 25 Mbps จะได้ 120 FPS, Full HD (1920×1080)

เราสามารถเริ่มต้นได้โดยสมัครใช้งาน จ่าย 49 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือเลือกช่วงเวลา ซึ่งสามารถดูได้ที่เว็บไซต์

8. Paperspace

Paperspace เป็นบริการ Cloud Computing ที่นำเสนอเกมที่มีกราฟิกสุดอลังการ พร้อมด้วยกลยุทธ์มากมายที่ผู้ใช้งานสามารถใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเกมและสร้าง Cloud Computing ได้ตามความต้องการ

ด้วยอุปกรณ์เล่นเกมระยะไกลเสมือนจริง ผู้ใช้งาน Paperspace สามารถติดตั้งและเล่นเกมจากที่ใดก็ได้ เช่นเดียวกับ Paykey ค่าใช้จ่ายในการเล่นเกมจะมาพร้อมกับแผนรายชั่วโมงและรายเดือน Paperspace ทำงานได้บน Android, iOS, Mac และ PC ซึ่งมี Latency ต่ำกว่า 17ms

9. Boosteroid

Boosteroid เป็นอีกหนึ่งบริการ Cloud Gaming ที่ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดและอัพเดตเกม เราสามารถเล่นเกมได้ในเบราว์เซอร์บน Windows, Android, macOS, iOS, Linux หรือด้วยแอพ Boosteriod ฟีเจอร์ที่น่าสนใจที่สุดเกี่ยวกับ Boosteroid คือการเชื่อมต่อที่เสถียร แม้ว่าอินเทอร์เน็ตจะไม่เสถียร ผู้ใช้งานยังสามารถเล่นเกมได้โดยไม่กระตุก

เช่นเดียวกับแพลตฟอร์มอื่นๆ Boosteriod สามารถเล่นเกมแบบ 1080p และ 60fps บริการนี้มีให้บริการในประเทศแถบยุโรปเป็นหลัก เช่น สหราชอาณาจักร สโลวาเกีย ฝรั่งเศส สเปน สวีเดน เซอร์เบีย โรมาเนีย อิตาลี และยูเครน

เนื่องจากให้บริการในยุโรปเป็นหลัก ราคาของ Boosteriod จึงเป็นสกุลเงินยูโร และคุณสามารถเริ่มต้นได้ด้วยเงิน 7.49 ยูโร แต่แพลตฟอร์มนี้ไม่มีให้ทดลองใช้งานฟรี ดังนั้น หากคุณกำลังมองหาแพลตฟอร์มที่จะสามารถทดสอบก่อนเข้าใช้งานได้ Boosteriod อาจจะไม่ใช่บริการที่เหมาะสมเท่าไหร่

Boosteriod มีเกมให้เลือกมากมาย รวมถึง World of Tanks, Fortnite, Death Standing, The Witcher และอื่นๆ อีกมากมาย อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มนี้ไม่ได้มีการเข้าถึงการเล่นเกมที่รวดเร็วอย่าง GeForce เราจะต้องลงทะเบียนก่อนจึงจะเข้าถึงคลังเกมได้

เราควรเลือกใช้บริการ Cloud Gaming ใด

Cloud Gaming มีหลากหลายบริการให้เราสามารถเลือกได้ แต่ละผู้ให้บริการก็มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน ดังนั้น เราควรตรวจสอบรายละเอียดต่างๆ ไว้เพื่อประกอบการตัดสินใจ แต่อย่าลืมว่าทุกครั้งจะต้องมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ดี บริการ Cloud Gaming ที่ดีที่สุดทุกรายต้องการการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ดี จึงจะได้รับประสบการณ์ที่ดีเลิศ

Cloud Gaming จะโตขึ้นอีกในอนาคต อุตสาหกรรมวิดีโอเกมกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก และ Cloud Gaming จะทำให้ความบันเทิงและเกม เข้าถึงได้ง่ายขึ้น และมากขึ้น

คำถามที่พบบ่อย

บริการ Cloud Gaming ใดมี Latency ต่ำที่สุด?

การเล่นเกมบน Cloud คุ้มค่าหรือไม่?

บริการใดคือบริการ Cloud Gaming ที่ดีที่สุด?

บริการ Cloud Gaming ใดที่ฟรี?

Cloud Gaming คืออะไร?

Xbox มีบริการ Cloud Gaming หรือไม่?

บริการ Cloud Gaming ของ Xbox ฟรีหรือไม่?

บริการ Cloud Gaming บน Xbox ดีหรือไม่?

Xbox Cloud Gaming ทำอะไรได้บ้าง?

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | เมษายน 2024

Trusted

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์

bic_photo_6.jpg
Akradet Mornthong
อัครเดช หมอนทอง เป็น นักแปล/นักเขียนคอนเทนต์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน NFT Games, Metaverse, AI, Crypto และเทคโนโลยีใหม่ๆ เขาจบการศึกษาในสาขาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล และมีประสบการณ์ในการทำงานในวงการเกมมากกว่า 10 ปี เมื่อ NFT Games ได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาก็ไม่พลาดที่จะก้าวเข้ามาในวงการนี้เพื่อศึกษาข้อมูลในเชิงลึกต่างๆ ของวงการ NFT รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain และ Crypto อีกด้วย
READ FULL BIO
ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน