20 รูปแบบ แท่งเทียนกลับตัว ขาขึ้นและขาลง ใช้ได้จริงในปี 2023

รูปแบบ แท่งเทียนกลับตัว คือ ลักษณะของแท่งเทียนที่ใช้ช่วยทำให้เราคาดการณ์ราคากราฟในอนาคตว่าจะเกิดการกลับตัวจากขาขึ้นเป็นขาลง หรือ ขาลงเป็นขาขึ้นหรือไม่ โดยรูปแบบแท่งเทียนเหล่านี้เกิดจากการเก็บสถิติกันมา

ถ้าคุณ คือ นักเทรดที่ต้องการจะทำความเข้าใจการซื้อขาย ไม่ว่าจะเป็น หุ้น Forex หรือ คริปโตก็ตาม หากเป็นเช่นนั้น คุณอาจจะต้องการเรียนรู้พื้นฐานของการวิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่งก็คือเทคนิคการอ่านกราฟราคา แต่การเริ่มต้นนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อน เพราะมีเรื่องที่คุณต้องทำความเข้าใจมากมาย

ทั้งเรื่องกรอบเวลา, รูปแบบกราฟ, ตัวชี้วัด, เส้นแนวรับและแนวต้าน, และอื่นๆ อีกมากมาย อย่างไรก็ตาม มีอยู่สิ่งหนึ่งที่หากคุณเชี่ยวชาญแล้ว มันจะทำให้คุณได้เปรียบนักเทรดรายอื่นๆ เป็นอย่างมาก ซึ่งก็คือ รูปแบบของแท่งเทียน (รวมไปถึง รูปแบบของแท่งเทียนกลับตัว เช่นเดียวกัน)

แท่งเทียนนั้นเป็นแหล่งข้อมูลที่สำคัญสำหรับการอ่านกราฟ ทั้งตัวแท่งเทียน, ไส้เทียน, สี, และตำแหน่งของมันสามารถช่วยให้เราเรียนรู้เกี่ยวกับสถานะของสินทรัพย์ใดๆ ได้อย่างง่ายดาย และถึงแม้ว่าแท่งเทียนเดี่ยวๆ นั้นก็เต็มไปด้วยข้อมูลเชิงลึกต่างๆ ของสินทรัพย์ในเรื่องของราคาเปิด, ราคาปิด, ราคาสูงสุด, ราคาต่ำสุด และข้อมูลเชิงลึกอื่นๆ ในช่วงเวลาที่เฉพาะเจาะจงที่เราต้องการรู้

แต่ข้อมูลจากรูปแบบของแท่งเทียนนั้นก็ยิ่งเยี่ยมยอดขึ้นไปอีก มันจะช่วยให้เราสามารถยืนยันแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นต่อไป การกลับตัวของแนวโน้ม การชะลอตัว การทะลุแนวโน้มขึ้นไป และอื่นๆ อีกมากมาย

แท่งเทียนกลับตัว คืออะไร? แล้วมันทำงานอย่างไร?

รูปแบบแท่งเทียนกลับตัว คือประเภทของกลุ่มหรือตำแหน่งของแท่งเทียนที่จะช่วยบอกเราว่าราคาในปัจจุบันอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นไร รูปแบบแท่งเทียนกลับตัวนั้นไม่แตกต่างกันในเชิงโครงสร้างโดยมาตรฐาน สิ่งที่แตกต่างก็คือการจัดกลุ่มและการก่อตัวของรูปแบบของแท่งเทียน และก็ดั่งเช่นชื่อของมัน “รูปแบบแท่งเทียนกลับตัว” สามารถแสดงให้เห็นได้ทั้งการกลับตัวทั้งขาขึ้นหรือแม้แต่ขาลงเองก็ตาม

แท่งเทียนนั้นเป็นส่วนประกอบสำคัญของกราฟราคา ภาพทางด้านล่างอาจจะช่วยให้เราทำความเข้าใจได้มากยิ่งขึ้นเมื่อทำการเจาะลึกถึงเรื่องคอนเซปต์ของรูปแบบของแท่งเทียน

ส่วนประกอบของกราฟแท่งเทียน

แท่งเทียนขาขึ้น (สีเขียว)

ขอบล่างสุดของตัวแท่งเทียนนั้นคือราคาเปิด และขอบบนสุดคือราคาปิด ไส้เทียนต่ำสุด (ถ้ามี) ก็คือราคาที่ต่ำที่สุด (ของช่วงเวลานั้นๆ) ในขณะที่ไส้เทียนบนสุด (ถ้ามี) ก็คือราคาสูงสุด (ของช่วงเวลานั้นๆ)

แท่งเทียนขาลง (สีแดง)

ขอบบนสุดของตัวแท่งเทียนคือราคาเปิด และขอบบนสุดนั้นก็คือราคาปิด ส่วนไส้เทียนบนสุด (ถ้ามี) นั้นก็คือราคาสูงสุด (ของช่วงเวลานั้นๆ) และไส้เทียนต่ำสุด (ถ้ามี) ก็คือราคาที่ต่ำที่สุด (ของช่วงเวลานั้นๆ)

ย้อนกลับไปที่คำนิยามของเรา “รูปแบบของแท่งเทียนกลับตัว” นั้นจะใช้ข้อมูลเชิงลึกที่เฉพาะเจาะจงของแท่งเทียน (ที่ได้กล่าวถึงไปข้างต้น) ซึ่งจะช่วยให้นักเทรดสามารถทำความเข้าใจสถานะของการกลับตัวของแนวโน้มที่สำคัญของกราฟราคา แท่งเทียนกลับตัวนั้นมีอยู่หลายรูปแบบ แต่จะสามารถแยกประเภทออกได้กว้างๆ ว่ามันเป็นรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาขึ้นหรือขาลง

รูปแบบขาขึ้นนั้นมักจะเกิดขึ้นในช่วงของแนวโน้มขาลง ซึ่งจะบอกใบ้ถึงการเพิ่มขึ้นของมูลค่าที่อาจจะเกิดขึ้นกับสินทรัพย์ ในทำนองเดียวกัน รูปแบบขาลงนั้นจะเกิดขึ้นเมื่อสินทรัพย์ (ในตลาด) อยู่ในช่วงขาขึ้น ซึ่งจะเป็นการบอกใบ้ถึงการชะลอตัวหรือการปรับฐานของราคา

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างรูปแบบของแท่งเทียนกลับตัวที่เป็นขาขึ้นและขาลง

รูปแบบหนึ่งจะบอกใบ้ถึงความเป็นไปได้ที่ราคาจะพุ่งสูงขึ้นหลังจากเกิดราคาได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่อีกรูปแบบหนึ่งจะบอกใบ้ถึงความเป็นไปได้ที่ราคาอาจจะลดลงหลังจากที่ราคาได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

และนี่คือความแตกต่างที่สำคัญบางส่วน:

วิธีการระบุรูปแบบของแท่งเทียนกลับตัว

ต่อไปนี้คือวิธีการที่จะสามารถระบุรูปแบบของแท่งเทียนกลับตัวได้อย่างรวดเร็วบางส่วน

ตรวจสอบแนวโน้มที่อ่อนตัวลง

ถึงตอนนี้ เราทราบแล้วว่ารูปแบบแท่งเทียนกลับตัวนั้นอาจจะกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม วิธีการที่ดีในการเข้าใจหรือทำนายรูปแบบของมันก็คือดูว่าสินทรัพย์นั้นอยู่ในแนวโน้มขาลงหรือขาขึ้น เพื่อเป็นการยืนยันเรื่องดังกล่าว คุณอาจจะต้องมองหาจุดต่ำสุดที่ต่ำลง (ในแนวโน้มขาลง) และจุดสูงสุดที่สูงขึ้น (ในแนวโน้มขาขึ้น)

ตอนนี้ เมื่อคุณรู้ถึงแนวโน้มแล้ว ให้คุณสังเกตดูว่าปริมาณการซื้อขายนั้นลดลงหรือไม่ หากคุณเห็นว่าปริมาณการซื้อขายลดลงในช่วงแนวโน้มขาขึ้น/ขาลง คุณอาจจะต้องมองหารูปแบบแท่งเทียนกลับตัวเพื่อทำการตั้งสมมุติฐานถึงความเคลื่อนไหวของราคาที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงไป

นี่คือตัวอย่างบางส่วน:

โปรดสังเกตว่าราคาของ BTC เริ่มมีปริมาณการซื้อขายลดลงที่ 31,000 ดอลลาร์ จุดที่เราวงกลมไว้คือรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาลงหรือรูปแบบแท่งเทียน Evening Doji Star ซึ่งหลังจากนี้ ราคาได้ลดลงเป็นอย่างมาก

จับตามองแท่งเทียนที่ยาวเอาไว้ให้ดี

รูปแบบของแท่งเทียนส่วนใหญ่นั้นจะสร้างตัวแท่งที่ยาวพร้อมกับไส้ของมัน ซึ่งจะบ่งบอกถึงการยื้อแย่งกันอย่างต่อเนื่องระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย รูปแบบแท่งเทียนกลับตัวนั้นมักจะปรากฏขึ้นเมื่อเกิดแท่งเทียนยาวตามแนวโน้ม

มองหารูปแบบ Doji และ Spinning Top

แท่งเทียน Doji นั้นจะหมายถึงแท่งเทียนที่ราคาเปิดและปิดของสินทรัพย์ไม่มีความต่างกันมากนัก ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นแท่งเทียนที่มีตัวแท่งเทียนที่สั้นมากหรือแทบไม่มีเลยและมักจะปรากฏขึ้นเมื่อกำลังจะเกิดรูปแบบของการกลับตัว เนื่องจากแท่งเทียน Doji เป็นการบ่งบอกถึงความไม่แน่นอนของตลาด มันจึงมักจะปรากฏที่จุดสูงสุดหรือต่ำสุดของแนวโน้มและขับเคลื่อนให้เกิดรูปแบบของแท่งเทียนกลับตัวรูปแบบใหม่

นอกจาก Doji แล้ว รูปแบบ Spinning Top ที่จุดสูงสุด, ต่ำสุด, หรือตามหลังรูปแบบใดๆ ก็สามารถบ่งบอกถึงการกลับตัวได้

ตรวจสอบแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ

รูปแบบของแท่งเทียนกลับตัวส่วนใหญ่มักจะปรากฏใกล้กับระดับแนวรับหรือแนวต้าน เราจึงแนะนำให้ทำเครื่องหมายต่อแท่งเทียนเหล่านั้นล่วงหน้า หากคุณต้องการที่จะระบุแท่งเทียนกลับตัวได้อย่างชัดเจน

ใช้ตัวชี้วัดโมเมนตัม (Momentum Indicator) เพื่อช่วยตรวจสอบ

ตัวชี้วัดโมเมนตัมอย่าง Relative Strength Index (RSI) และ Moving Average Convergence/Divergence (MACD) เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับใช้ตรวจสอบความแข็งแกร่งของแนวโน้มที่อ่อนตัวลง เมื่อแนวโน้มเริ่มอ่อนตัวลง คุณสามารถรอดูรูปแบบของแท่งเทียนกลับตัวเพื่อยืนยันข้อมูลได้

นี่คือกราฟของ BTC จากจุดสูงสุดของเดือนพฤศจิกายน 2021 คุณจะสังเกตเห็นได้ว่า RSI Bearish Divergence ได้บอกใบ้ถึงการลดลงของราคา เมื่อ RSI ยืนยันถึงแนวโน้มที่อ่อนแอแล้ว รูปแบบแท่งเทียน Evening Star (ที่วงกลมไว้) ก็ปรากฏขึ้น และหลังจากนั้น เราทุกคนก็รู้แล้วว่าราคานั้นเคลื่อนไหวไปในทิศทางใด — ลดลงเป็นอย่างมาก!

ใช้รูปแบบกราฟราคาเพื่อยืนยัน

ถึงแม้ว่าคุณจะระบุรูปแบบของแท่งเทียนได้แล้ว คุณอาจจะต้องใช้การทะลุออกจากเส้นแนวโน้มหรือรูปแบบเพื่อเป็นการยืนยันในเรื่องดังกล่าว

นี่คือกราฟราคาของ GBP/USD ที่เราวงกลมไว้คือรูปแบบแท่งเทียนขาขึ้น (Three Inside Up) ที่ปรากฏอยู่ ณ จุดดังกล่าว อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ช่วยยืนยันได้ดีก็คือการที่ราคาของ GBP ทะลุออกจากรูปแบบลิ่มขาลง ซึ่งช่วยยืนยันความแข็งแกร่งของรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาขึ้นดังกล่าว

และนั่นคือวิธีการระบุรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวโดยสรุปทั้งหมด ต่อไป เราจะไปต่อกันที่รูปแบบของแท่งเทียนที่เฉพาะเจาะจงกัน

รูปแบบ แท่งเทียนกลับตัว ขาขึ้น ที่เป็นที่นิยมในปี 2023

ถึงเวลาแล้วที่เราจะมาดูรูปแบบยอดนิยมของแท่งเทียนกลับตัวขาขึ้นกัน และนี่คือรูปแบบยอดนิยมที่เราเลือกมาเพื่ออธิบาย:

Three White (Green) Soldiers

นิยาม

รูปแบบการกลับตัวขาขึ้นนี้มักจะปรากฏขึ้นที่จุดต่ำสุดของแนวโน้มขาลง มันเป็นรูปแบบของ “แท่งเทียน 3 แท่ง” รูปแบบ Three White Soldiers อาจจะถูกเรียกว่า Three Green Soldiers ได้ ขึ้นอยู่กับรูปแบบของกราฟที่คุณใช้

รูปแบบ

แท่งเทียนทั้งหมดในรูปแบบ Three White Soldiers นั้นจะต้องเป็นสีเดียวกัน แท่งแรกจะเป็นแท่งเทียนขาขึ้นแท่งยาว ในขณะที่แท่งที่ 2 จะคล้ายกันแต่เปิดที่ราคาสูงกว่าราคาปิดของแท่งเทียนแท่งก่อนหน้า และแท่งเทียนแท่งที่ 3 ก็ควรจะยาวและมีราคาเปิดที่สูงกว่าราคาปิดของแท่งเทียนแท่งก่อนหน้าเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม คุณจะได้รับสัญญาณที่น่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นหากแท่งเทียนแท่งที่ 3 ปิดใกล้กับหรือเหนือกว่าจุดสูงสุดของแท่งเทียนแท่งที่ 2

ตัวอย่าง

กราฟราคา CRV-USDT ตรงส่วนที่เราได้วงกลมไว้จะแสดงให้เห็นถึงรูปแบบ “Three White Soldiers” โปรดสังเกตว่าในโซนนี้ยังดึงดูดให้เกิดปริมาณการซื้อขายจำนวนมาก ซึงอาจจะช่วยผลักดันราคาของ Curve Finance (CRV) ให้สูงขึ้นได้

คุณภาพของรูปแบบ

Three White Soldiers นั้นเป็นรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาขึ้นที่แข็งแกร่งและมีความน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อคุณพบมันในช่วงขาลงที่ชัดเจนหรือการชะลอตัวเป็นอย่างมาก

กรอบเวลาที่แนะนำ

ถึงแม้ว่ารูปแบบ Three White Soldiers จะใช้งานได้ในทุกๆ กรอบเวลา กราฟราคาที่มีแท่งเทียนยาวขึ้น (เช่นรายสัปดาห์หรือรายวัน) นั้นจะให้ข้อมูลที่สมจริงมากขึ้นกับนักเทรด

สุดท้าย เราขอแนะนำให้คุณตรวจสอบรูปแบบขาขึ้นนี้ด้วยตัวชี้วัด RSI และ OBV อีกครั้ง รวมไปถึง ระดับแนวรับและแนวต้าน และการทะลุออกจากรูปแบบราคา (ถ้ามี) เช่นกัน

Three Line Strike

นิยาม

รูปแบบ Three Line Strike นั้นเกิดขึ้นจากแนวความคิดที่ว่าแท่งเทียนขนาดใหญ่แท่งหนึ่งสามารถขจัดความเชื่อมั่นของผู้ขายส่วนใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของราคา มันเป็นรูปแบบของแท่งเทียน 4 แท่งที่มีแท่งเทียนสีเดียวกัน 3 แท่งซึ่งถูกแท่งเทียนสีตรงกันข้าม 1 แท่งเอาชนะไปได้ในที่สุด แนวคิดของรูปแบบนี้คือการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและรุนแรงในความเชื่อมั่นของตลาด

รูปแบบ

รูปแบบนี้สามารถเป็นได้ทั้งขาขึ้นและขาลง ซึ่งจะประกอบไปด้วยแท่งเทียนสีเดียวกัน 3 แท่งที่ปิดราคาต่ำลงหรือสูงขึ้น (แล้วแต่ว่าเป็นขาขึ้นหรือขาลง) กว่าแท่งเทียนล่าสุด และตามมาด้วยแท่งเทียนแท่งสุดท้าย (แท่งที่ 4) ที่ยาวและเป็นอีกสี (เขียวหรือแดง แล้วแต่ว่าเป็นขาขึ้นหรือขาลง) ที่เปิดราคาใกล้กับจุดต่ำสุด/สูงสุดของแท่งเทียนแท่งที่ 3

หมายเหตุ: โปรดอย่าสับสนเนื่องจากจุดเปิดและปิดของราคาของแท่งเทียนขาขึ้นและขาลงนั้นอยู่ตรงข้ามกัน

ตัวอย่าง

กราฟราคาของ GOLD-USD ที่วงกลมไว้แสดงให้เห็นถึงรูปแบบแท่งเทียน Three Line Strike ขาลง ซึ่งนำไปสู่การลดลงของราคาอย่างรวดเร็ว ราคาปิดของแท่งเทียนสุดท้าย (ขาลง) ไม่ได้ต่ำกว่าราคาเปิดของแท่งเทียนสุดท้ายอย่างชัดเจน แต่ก็ใกล้เคียง

คุณภาพของรูปแบบ

โปรดจำไว้ว่ารูปแบบ Three Line Strike สามารถเป็นรูปแบบขาลงได้หากแท่งเทียน 3 แท่งแรกเป็นขาขึ้น และแท่งเทียนสุดท้ายที่ยาวที่สุดนั้นเป็นขาลง จากการที่มันสามารถปรากฏได้ไม่ว่าแนวโน้มใดๆ ก็ตามทำให้ Three Line Strike เป็นหนึ่งในรูปแบบของแท่งเทียนที่เชื่อถือได้มากที่สุด

กรอบเวลาที่แนะนำ

รูปแบบนี้ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมแม้ในกรอบเวลาที่เล็กลง เช่น กรอบเวลาของกราฟราย 4 ชั่วโมงหรือรายชั่วโมง อย่างไรก็ตาม เราสามารถมั่นใจได้มากยิ่งขึ้นหากพบมันในกราฟรายวันหรือรายสัปดาห์

Morning Star

นิยาม

แนวคิดเบื้องหลังรูปแบบแท่งเทียน Morning Star คือความเคลื่อนไหวของราคาที่ทำให้เกิดช่องว่างด้านล่าง (Gap-Down) ในแนวโน้มขาลงซึ่งอาจจะส่งผลดีอย่างมากต่อราคา นี่คือหนึ่งในรูปแบบแท่งเทียน “3 แท่ง” อีกทั้ง แนวคิดโดยรวมของรูปแบบ Morning Star ก็คือแรงขายหรือแรงกดดันขาลงที่ลดลงนั่นเอง

รูปแบบ

แท่งเทียนแท่งแรกนั้นควรจะเป็นแท่งเทียนขาลงทั่วไปที่มีตัวแท่งเทียนที่ยาว แท่งเทียนที่ 2 ควรจะมีช่องว่างด้านล่างจากแท่งเทียนก่อนหน้า หรือให้พูดง่ายๆ แท่งเทียนแท่งที่ 2 ควรจะอยู่ต่ำกว่าจุดต่ำสุดของแท่งเทียนขาลงแท่งแรก

แท่งเทียนแท่งที่ 2 นั้นสามารถเป็นได้ทั้งสีแดงหรือสีเขียว (ขาลงหรือขาขึ้น) ไม่สำคัญว่าจะเป็นสีอะไร แต่แท่งเทียนแท่งที่ 3 นั้นจะต้องเป็นขาขึ้น (สีเขียว) และอาจจะเปิดใกล้ๆ กับจุดสูงสุดของแท่งเทียนแท่งที่ 2 จุดปิดของแท่งเทียนแท่งที่ 2 นั้นควรจะสูงกว่า 50% ของตัวแท่งเทียนขาลงแท่งแรก หากมันปิดราคาได้สูงกว่าจุดกึ่งกลางของตัวแท่งเทียนขาลงแท่งแรกมากเท่าใด รูปแบบก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นมากเท่านั้น

ตัวอย่าง

นี่คือกราฟราคา FTM-USD ที่แสดงให้เห็นถึงรูปแบบที่ใกล้เคียงกับรูปแบบ Morning Star (ที่เราวงกลมไว้) โดยมีแท่งเทียนขาลงขนาดเล็กเป็นแท่งเทียนที่ 2 ซึ่งคุณจะสังเกตเห็นได้ว่าราคาพุ่งสูงขึ้นหลังจากเกิดรูปแบบนี้

คุณภาพของรูปแบบ

รูปแบบ Morning Star นั้นเชื่อถือได้ ซึ่งความยาวของแท่งเทียนขาขึ้นแท่งสุดท้ายนั้นจะเป็นสิ่งที่กำหนดความแข็งแกร่งของมัน

กรอบเวลาที่แนะนำ

นักเทรดส่วนใหญ่นั้นชอบใช้รูปแบบ Morning Star กับ RSI และตัวชี้วัดเรื่องปริมาณการซื้อขายโดยเฉพาะบนกราฟราคารายวัน

Morning Doji Star

นิยาม

รูปแบบนี้จะประกอบด้วยแท่งเทียน 3 แท่งซึ่งมีแท่งเทียน Doji อยู่ระหว่างกลาง ซึ่งหมายความว่าสินทรัพย์ที่ปรากฏรูปแบบ Morning Doji Star นั้นกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการกลับตัวขาขึ้น (กลับตัวจากขาลง) อย่างไรก็ตาม หาก Doji ไส้ยาวปรากฏขึ้นแทน Doji มาตรฐาน ความน่าเชื่อถือของรูปแบบนี้อาจจะลดลง

รูปแบบ

สำหรับรูปแบบนี้ แท่งเทียนแท่งแรกควรจะเป็นแท่งเทียนยาวขาลง (สีแดง) จากนั้นก็ตามมาด้วยแท่งเทียนที่มีช่องว่างเป็น Doji ซึ่งเป็นเหมือนสัญญาณของการกลับตัว แท่งเทียนสุดท้ายนั้นควรที่จะยาวและปิดที่เหนือจุดกึ่งกลางของแท่งเทียนสีแดงแท่งแรก (มากกว่า 50% ของแท่งเทียน ไม่ใช่ไส้เทียน)

ตัวอย่าง

คุณจะสามารถเห็นรูปแบบของ Morning Doji Star ได้ในกราฟราคาของ BTC-USD ในเดือนมิถุนายน 2021 โปรดสังเกตในบริเวณที่เราวงกลมไว้ว่า Doji ที่เป็นแท่งเทียนแท่งที่ 2 เกิดขึ้นตามมาหลังจากแท่งเทียนสีแดงแท่งแรก และแท่งเทียนแท่งที่ 3 นั้นไม่เพียงข้ามจุดกึ่งกลางไป แต่ก่อตัวเป็นรูปแบบ Bullish Engulfing (รูปแบบที่ความยาวของแท่งเทียนมีแรงซื้อเข้ามาเหนือกว่าแรงขายเป็นอย่างมาก ทำให้แท่งเทียนพุ่งขึ้นเป็นอย่างมากจนมีความยาวแท่งกว่าแท่งเทียนขาลงก่อนหน้า) อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม โปรดสังเกตว่ารูปแบบนี้ไม่ได้ทำให้เกิดการพุ่งขึ้นเป็นอย่างมากเนื่องจาก Doji นั้นมีไส้ที่ค่อนข้างยาว

คุณภาพของรูปแบบ

ถึงแม้ว่านี่อาจจะไม่ใช่รูปแบบแท่งเทียนที่แข็งแกร่งที่สุด แต่มันก็ค่อนข้างน่าเชื่อถือ ขนาดของตัวแท่งเทียนสีเขียวและรูปแบบของ Doji จะเป็นปัจจัยที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับรูปแบบ

กรอบเวลาที่แนะนำ

เราขอแนะนำให้ใช้รูปแบบนี้ในการคาดการณ์ราคาในกรอบเวลารายวันหรือรายสัปดาห์เท่านั้น

Engulfing

นิยาม

ดั่งเช่นชื่อของมัน รูปแบบ Bullish Engulfing จะเกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนสีเขียวขาขึ้น “กลืนกิน” แท่งเทียน (ขาลง) ก่อนหน้านี้ รูปแบบ Engulfing ที่ชัดเจนมักจะทำให้เกิดการกลับตัวเป็นอย่างมาก ที่น่าสนใจก็คือรูปแบบ Engulfing นั้นปรากฏขึ้นได้แม้ในขณะที่ราคาเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบราคาเล็กๆ และรูปแบบแท่งเทียน “2 แท่ง” นี้สามารถพบเห็นได้ทั่วไป

รูปแบบ

สำหรับรูปแบบ Engulfing นั้น มันควรจะมีแท่งเทียนยาวขาลง แล้วตามมาด้วยแท่งเทียนยาวขาขึ้น ราคาเปิดแท่งเทียนแท่งที่ 2 ควรจะต่ำกว่า (หรือเท่ากัน) ราคาปิดของแท่งเทียนก่อนหน้า และ ราคาปิดของเทียนแท่งที่ 2 ควรจะสูงกว่าราคาเปิดของแท่งเทียนก่อนหน้า

ตัวอย่าง

นี่คือกราฟราคา BTC-USD ในเดือนกรกฎาคม 2021 เมื่อรูปแบบ Bullish Engulfing นำไปสู่การเกิด Relief Rally (การปรับตัวขึ้นในขณะที่แนวโน้มของกราฟโดยรวมเป็นขาลง)

คุณภาพของรูปแบบ

Bullish Engulfing นั้นเป็นรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวที่น่าเชื่อถือที่สุดที่ควรจะนำมาพิจารณาในการคาดการณ์ราคา

กรอบเวลาที่แนะนำ

เราแนะนำให้ใช้รูปแบบแท่งเทียนนี้ในการวิเคราะห์กราฟราคารายวันจะดีที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น หากต้องการตรวจสอบความแข็งแกร่งของการกลับตัว คุณอาจจะใช้มันคู่กับตัวชี้วัด RSI และปริมาณการซื้อขายได้

Three Outside Up

นิยาม

หากคุณจับตามองอย่างใกล้ชิด คุณจะเห็นได้ว่า “Three Outside Up” นั้นจะดูเหมือนเป็นเหมือนส่วนขยายของรูปแบบ Bullish Engulfing มากกว่า โดยจะมีแท่งเทียนอยู่ 3 แท่ง และการคาดการณ์ถึงการกลับตัวจะแม่นยำกว่ามาก นอกจากนี้ รูปแบบนี้จะแสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดมากกว่าในช่วงขาลงที่ยาวนาน

รูปแบบ

แท่งเทียนแท่งแรกควรจะเป็นแท่งเทียนยาวขาลง แล้วตามมาด้วยแท่งเทียนขาขึ้นที่ยาวขึ้นไปมากกว่าแท่งเทียนแท่งแรก จากนั้น แท่งเทียนแท่งที่ 3 ก็ควรจะเป็นแท่งเทียนขาขึ้นและปิดราคาเหนือจุดสูงสุดของแท่งเทียนก่อนหน้า

ตัวอย่าง

ถึงแม้ว่าตัวอย่างอาจจะดูไม่แม่นยำนัก แต่กราฟราคา EUR-USD ได้แสดงให้เห็นถึงรูปแบบ Three Outside Up ในวันที่ 14 ธันวาคม 2022 ซึ่งหลังจากที่แท่งเทียนขาขึ้น (สีเขียว) แท่งที่ 2 ได้ “Engulfing” แท่งเทียนขาลง (สีแดง) แท่งแรกอย่างสมบูรณ์ แท่งเทียนแท่งที่ 3 ก็จบลงด้วยการปิดราคาเหนือราคาปิดของแท่งเทียนแท่งแรก และราคาก็พุ่งสูงขึ้นหลังจากนั้น

คุณภาพของรูปแบบ

Three Outside Up เป็นหนึ่งในรูปแบบที่แข็งแกร่งที่สุดที่สามารถใช้คาดการณ์การกลับตัวของแท่งเทียนได้ การเพิ่มแท่งเทียนขาขึ้นเข้าไปอีกแท่งเพื่อยืนยันการวิ่งขึ้นของราคานั้นช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับรูปแบบ Bullish Engulfing ได้มากยิ่งขึ้น

กรอบเวลาที่แนะนำ

เนื่องจากมันมีความแม่นยำที่มากยิ่งขึ้น คุณสามารถใช้มันในกรอบเวลารายวันหรือราย 4 ชั่วโมงได้ อย่างไรก็ตาม การมองหาการทะลุออกจากรูปแบบราคาอาจจะเป็นแนวทางที่ดีกว่าการใช้รูปแบบนี้

Abandoned Baby (รูปแบบที่หาได้ยาก)

นิยาม

รูแบบนี้จะคล้ายกับรูปแบบ Morning Doji Star แต่จะมีการหักมุม ตัวแท่งของแท่งเทียนนั้นควรจะแยกออกจากกัน แม้แต่เงาหรือไส้เทียนก็ไม่ควรซ้อนทับกัน ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ทำให้รูปแบบ Abandoned Baby แม่นยำมากยิ่งขึ้น

รูปแบบ

รูปแบบ Abandoned Baby นั้นประกอบด้วยแท่งเทียน 3 แท่ง แท่งแรกควรจะเป็นแท่งเทียนยาวขาลง แท่งที่ 2 ควรจะมีช่องว่างเป็น Doji โดยไม่มีการทับซ้อนกับแท่งแรก แท่งเทียนแท่งที่ 3 ควรเป็นแท่งเทียนสีเขียวที่มีช่องว่างด้านบน (Gap-Up) ที่ไม่ซ้อนทับกับ Doji เช่นกัน

อาจจะมีรูปแบบที่แตกต่างเกิดขึ้นได้ ซึ่งอาจจะเป็นการที่ Doji ไม่ได้มีช่องว่างด้านล่างอย่างสมบูรณ์หรือเงา/ไส้เทียนบางส่วนอาจจะซ้อนทับกับแท่งเทียนขาขึ้นแท่งที่ 3

ตัวอย่าง

นี่คือกราฟราคา ETH-USD ที่มีรูปแบบ Abandoned Baby บางส่วนที่ปรากฏขึ้นในช่วงปลายเดือนกันยายน 2021 โปรดสังเกตว่ามันจะมีแท่งเทียนยาวขาลง ตามมาด้วย Doji (ที่ไม่มี Gap-Down) และตามด้วยแท่งเทียนยาวขาขึ้น (ซึ่งยังคงซ้อนทับกับ Doji) เนื่องจากมันไม่ใช่รูปแบบ Abandoned Baby ที่ชัดเจน จึงคาดว่าการเพิ่มขึ้นของราคานั้นอาจจะต้องใช้เวลาซักพัก

คุณภาพของรูปแบบ

รูปแบบ Bullish Abandoned Baby นั้นเป็นรูปแบบของการกลับตัวที่แข็งแกร่งและเชื่อถือได้ เหตุผลก็คือความชัดเจนของรูปแบบที่โฟกัสในเรื่องการไม่มีการซ้อนทับ

กรอบเวลาที่แนะนำ

รูปแบบแท่งเทียนนี้สามารถทำงานได้ดีที่สุดในกรอบเวลาใดๆ ก็ได้เนื่องจากความแข็งแกร่งและความน่าเชื่อถือของมัน คุณยังสามารถใช้มันร่วมกับตัวชี้วัดการทะลุออกจากรูปแบบราคา หรือ ตัวชี้วัดโมเมนตัมอย่าง RSI ได้อีกด้วย

Hammer

นิยาม

แตกต่างจากรูปแบบแท่งเทียนหลายแท่งรูปแบบอื่นๆ ที่เราได้กล่าวถึงไปก่อนหน้า Bullish Hammer เป็นรูปแบบแท่งเทียนเดี่ยว ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากมันพึ่งพาแท่งเทียนแท่งเดียว ความน่าเชื่อถือของมันจึงยังต้องตรวจสอบก่อน

รูปแบบ

แท่งเทียนนี้จะอยู่ที่ด้านล่างของแนวโน้มขาลงหรือช่วงระยะชะลอตัว แท่งเทียนรูปค้อน (Hammer) สีเขียวที่มาพร้อมกับตัวแท่งขนาดเล็ก (ซึ่งมีราคาเปิดและปิดไม่ห่างกันมาก) และไส้เทียนที่ยาว (ซึ่งราคาลงไปต่ำแต่ปิดแท่งด้วยราคาที่สูงขึ้นมาก) มันไม่ควรมีเงา/ไส้ที่ด้านบน หมายความว่าราคาปิดนั้นควรจะเป็นจุดสูงสุดของแท่งเทียน

ในขณะที่รูปแบบ Hammer นั้นอาจจะปรากฏที่ใดก็ได้ระหว่างช่วงขาลงหรือการชะลอตัว มันมักจะปรากฏหลังจากเกิด Doji

ตัวอย่าง

นี่คือกราฟราคา ETH-USD ที่มีรูปแบบ Hammer ปรากฏขึ้นเมื่อช่วงใกล้กับวันที่ 13 กรกฎาคม 2022 โปรดสังเกตการพุ่งขึ้นของราคาหลังจากรูปแบบการกลับตัวดังกล่าว

คุณภาพของรูปแบบ

รูปแบบ Bullish Hammer นั้นมีความน่าเชื่อถือปานกลาง อย่างไรก็ตาม มันมีแนวโน้มที่จะผิดพลาดอยู่ ดังนั้น คุณอาจจะต้องใช้ข้อมูลนี้อย่างระมัดระวัง

กรอบเวลาที่แนะนำ

แม้ว่าเราจะไม่ติดที่จะมองหารูปแบบ Hammer นี้ในกรอบเวลาใดๆ ก็ได้ แต่มันจะให้ผลลัพท์ดีที่สุดเมื่อใช้มองหามันในกรอบเวลารายสัปดาห์

Bullish Harami

นิยาม

นี่คือรูปแบบแท่งเทียนแบบ 2 แท่ง ซึ่งมีการกลับตัวที่ช้า นอกจากนี้ คุณจะสามารถพบรูปแบบ Bullish Harami ได้ใกล้กับแนวโน้มขาลงและไม่ใช่ระหว่างช่วงชะลอตัว

รูปแบบ

แท่งเทียนแท่งแรกควรเป็นแท่งเทียนยาวขาลง ตามมาด้วยแท่งเทียนสีเขียว (ขาขึ้น) อย่างไรก็ตาม แท่งเทียนแท่งแรกควรจะมีตัวแท่งเทียนที่ยาวกว่าแท่งที่ 2 ซึ่งจะเป็นการแสดงให้เห็นว่า ถึงแม้จะอยู่ในช่วงขาลง แต่ผู้ซื้อก็ค่อยๆ ย่อมันลงมาและพยายามที่จะผลักดันให้ราคาสูงยิ่งขึ้น

ตัวอย่าง

นี่คือกราฟราคา GBP-JPY ที่แสดงให้เห็นถึงรูปแบบ Bullish Harami ที่ปรากฏขึ้นเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2023 ซึ่งตามมาด้วยการพุ่งขึ้นของราคาเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ

คุณภาพของรูปแบบ

รูปแบบ Bullish Harami นั้นมีความแข็งแกร่งปานกลาง และจากการที่แท่งเทียนขาลงนั้นควรจะเป็นแท่งเทียนที่ยาวกว่า การบ่งชี้ที่ผิดพลาดอาจจะเกิดขึ้นได้ในตลาดที่มีการควบคุมดูแลได้ (ตัวอย่างเช่น ตราสารทุน) รูปแบบ Bullish Harami นั้นอาจจะตกเป็นเหยื่อของการยักย้ายถ่ายเทในพื้นที่ตราสารทุนได้

กรอบเวลาที่แนะนำ

ผลลัพท์ที่ดีที่สุดในการใช้รูปแบบนี้จะอยู่ในช่วงกรอบเวลารายวันและรายสัปดาห์ นอกจากนี้ สิ่งที่สำคัญก็คือจะต้องพิจารณาเรื่องปริมาณการซื้อขายในขณะที่วิเคราะห์ในเรื่องดังกล่าว

Piercing Line

นิยาม

รูปแบบ Piercing Line นั้นเป็นเหมือนรูปแบบครึ่งทางของ Bullish Engulfing และจะทำงานได้ดีที่สุดเมื่อมันปรากฏขึ้นในจุดต่ำสุดของแนวโน้มขาลง

รูปแบบ

มันเป็นรูปแบบแท่งเทียน 2 แท่ง แท่งเทียนแท่งแรกเป็นแท่งเทียนยาวขาลง (สีแดง) แท่งเทียนแท่งที่ 2 จะเป็นแท่งเทียนแท่งเล็กที่เปิดต่ำกว่าราคาต่ำสุดของแท่งเทียนแท่งแรก จากนั้น มันจะขยับสูงขึ้นมาเพื่อจบที่เหนือจุดกึ่งกลางของแท่งเทียนสีแดง ซึ่งหากมีแรงผลักดันขาขึ้นมากพอ มันอาจจะกลายเป็นรูปแบบ Bullish Engulfing ได้

ตัวอย่าง

นี่คือกราฟราคา EUR-USD ที่มีการเปิดแท่งเทียนสีเขียวใต้แท่งเทียนสีแดง สุดท้ายมันก็ขยับขึ้นไปมากกว่า 50% ของแท่งเทียนก่อนหน้า ความเคลื่อนไหวของราคาหลังจากนั้นก็ได้พุ่งขึ้นเป็นอย่างมาก

คุณภาพของรูปแบบ

นักเทรดจะถือว่ามันเป็นรูปแบบการกลับตัวที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม เพื่อคาดการณ์ถึงการเพิ่มขึ้นของราคา รูปแบบ Piercing Line หรือรูปแบบการกลับตัวขาขึ้นใดๆ นั้นต้องใช้การยืนยันจากรูปแบบแท่งเทียนอื่นๆ ด้วยเช่นกัน

กรอบเวลาที่แนะนำ

รูปแบบนี้ใช้งานได้ดีที่สุดเมื่อคุณใช้มันกับกราฟรายวันหรือราย 4 ชั่วโมง นอกจากนี้ ให้จับคู่มันกับรูปแบบราคาและเส้นค่าเฉลี่ยเพื่อทำนายจุดเข้า(ซื้อ)และออก(ขาย)

รูปแบบของแท่งเทียนกลับตัว: รูปแบบการกลับตัวขาลงยอดนิยม

ต่อไปนี้คือรูปแบบยอดนิยมของแท่งเทียนกลับตัวขาลงที่น่าเชื่อถือและระบุได้ง่ายที่สุด:

Three Black Crows

นิยาม

Three Black Crows เป็นหนึ่งในรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวขาลงที่มีความน่าเชื่อถือ มันสามารถปรากฏขึ้นได้ที่จุดสูงสุดของแนวโน้มขาขึ้นหรือแม้แต่การเปลี่ยนแปลงจากการ Relief Rally กลับสู่แนวโน้มขาลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ มันยังเป็นรูปแบบแท่งเทียน 3 แท่งตามชื่อของมัน

รูปแบบ

รูปแบบนี้จะปรากฏขึ้นเมื่อคุณเห็นแท่งเทียนสีแดง (ดำ) หรือแท่งเทียนขาลง 3 แท่งติดต่อกัน แท่งเทียนแต่ละแท่งไปจนถึงแท่งสุดท้ายนั้จะปิดต่ำกว่าแท่งเทียนก่อนหน้า นอกจากนี้ ราคาเปิดของแท่งเทียนแต่ละแท่งจะอยู่ที่ใดก็ได้ระหว่างตัวแท่งเทียนของแท่งเทียนก่อนหน้า ยกเว้นแท่งแรก

ตัวอย่าง

กราฟราคา EUR-USD ปัจจุบันแสดงให้เห็นถึงรูปแบบแท่งเทียน Three Black Crows ในช่วงประมาณวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2023 ซึ่งทำให้แนวโน้มราคา EUR-USD ในอนาคตหม่นหมองลง

คุณภาพของรูปแบบ

ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ นี่เป็นหนึ่งในรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวที่แข็งแกร่งและน่าเชื่อถือที่สุด แต่ถึงแม้ว่ามันจะแข็งแกร่งมากพอแล้ว แท่งเทียนขาลงที่ตามมาก็อาจจะเป็นการช่วยยืนยันเพิ่มเติมได้

กรอบเวลาที่แนะนำ

คุณควรจะมองหารูปแบบการกลับตัวนี้ในกราฟรายวันและรายสัปดาห์ และมันยังทำงานได้อย่างอัศจรรย์เมื่อจับคู่กับสัญญาณต่างๆ เช่น Death Cross (การที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นตัดลงมาต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะยาว ซึ่งเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนจากแนวโน้มขาขึ้นเป็นขาลง) และ RSI Bearish Divergences (สัญญาณของราคาสินทรัพย์ที่เพิ่มสูงขึ้นและทำจุดสูงสุดใหม่ ในขณะที่ตัวชี้วัดทางเทคนิคได้ปรับตัวลดลงขัดแย้งกับราคา)

Identical Three Crows

นิยาม

การตีความของรูปแบบนี้นั้นแทบจะเหมือนกับรูปแบบ Three Black Crows และมันยังเป็นรูปแบบแท่งเทียน 3 แท่งที่พบได้บ่อยที่สุดที่จุดสูงสุดของแนวโน้มขาขึ้นอีกด้วย

รูปแบบ

รูปแบบนี้จะประกอบด้วยแท่งเทียนสีแดง 3 แท่ง ซึ่งแต่ละแท่งนั้นจะเปิดอยู่ในช่วงระยะของตัวแท่งก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม การปิดของราคานั้นไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นระดับต่ำสุดของแท่งก่อนหน้าเสมอไป แต่อาจจะเท่ากับหรือสูงกว่าระดับเดียวกันเล็กน้อยได้

คำแนะนำ: คุณสามารถแยกรูปแบบ Three Black Crows ออกจาก Identical Three Crows ได้ โดยตัวหลังนั้นจะแม่นยำมากกว่าและไม่ได้มีไส้เทียน/เงาเสมอไป

ตัวอย่าง

กราฟราคาของ Tesla (TSLA) จากปี 2020 ได้แสดงให้เห็นถึงรูปแบบ Identical Three Crows จะสังเกตได้ว่าราคาจะมีการปรับฐานในช่วงเวลาสั้นๆ รูปแบบนี้ยังสามารถพบได้ในช่วง Relief Rally ที่ไม่ใช่ขาขึ้นอีกด้วย

คุณภาพของรูปแบบ

รูปแบบนี้ช่วยในการคาดการณ์การกลับตัวของแนวโน้มได้แม่นยำกว่ารูปแบบ Three Black Crows อย่างไรก็ตาม การจับคู่มันกับตัวชี้วัดปริมาณการซื้อขายหรือ RSI นั้นจะช่วยให้ได้ผลลัพท์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น

กรอบเวลาที่แนะนำ

รูปแบบนี้ใช้งานได้ดีที่สุดเราใช้มันในกราฟรายวัน

Evening Star

นิยาม

รูปแบบ Evening Star นั้นก็คือรูปแบบในทางตรงกันข้ามของรูปแบบ Morning Star มันจะแสดงให้เห็นถึงโอกาสของการกลับตัวจากจุดสูงสุด และมันเป็นรูปแบบแท่งเทียน 3 แท่ง

รูปแบบ

แท่งเทียนแท่งแรกนั้นควรจะเป็นแท่งเทียนยาวสีเขียวหรือแท่งเทียนขาขึ้น แท่งเทียนแท่งถัดไปจะเป็นแท่งเทียนที่มีตัวแท่งขนาดเล็ก (สีเขียวหรือสีแดง) ซึ่งทำให้เกิดช่องว่าง และมีราคาเปิดสูงกว่าราคาปิดของแท่งก่อนหน้า สุดท้าย แท่งเทียนสีแดง (ขาลง) แท่งสุดท้ายจะยาวและครอบคลุมตัวแท่งของแท่งเทียนแรก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแรงขายอย่างรุนแรง

ตัวอย่าง

นี่คือกราฟของ AAPL ที่ปรากฏรูปแบบ Evening Star ที่เราเลือกมาให้คุณได้ดูกัน โปรดสังเกตการที่แท่งเทียนสีแดงหรือแท่งเทียนขาลงร่วงลงเพื่อเป็นการยืนยันรูปแบบขาลงต่อไป

คุณภาพของรูปแบบ

รูปแบบ Evening Star นั้นมีความน่าเชื่อถืออย่างมาก แต่มันจะดีกว่าเสมอหากมีแท่งเทียนขาลงอีก 2-3 แท่งเพื่อเป็นการยืนยันเรื่องแนวโน้วขาลง

กรอบเวลาที่แนะนำ

รูปแบบ Evening Star นั้นจะยิ่งทำงานได้ดีกับกรอบเวลาที่ยาวยิ่งขึ้น และมันยิ่งทำงานได้ดียิ่งขึ้นหากจับคู่มันกับตัวชี้วัดโมเมนตัมและการทะลุออกจากรูปแบบราคา

Evening Doji Star

นิยาม

รูปแบบนี้คล้ายกับรูปแบบ Evening Star แต่เนื่องจากมันมี Doji อยู่ด้วย ความแม่นยำจึงอยู่ในระดับที่สูงกว่า

รูปแบบ

แท่งเทียนแท่งแรกนั้นยังคงเป็นแท่งยาวสีเขียว แท่งที่ 2 ควรเป็น Doji ที่มีช่องว่างด้านบน (Gap-Up) สุดท้าย แท่งเทียนแท่งที่ 3 ควรจะเป็นแท่งเทียนสีแดง และลดลงมาปิดอยู่ในช่วงระยะของตัวแท่งของแท่งเทียนสีเขียว และมันไม่มีปัญหาอะไรหากแท่งเทียนสีแดงนั้นจะปิดต่ำกว่าราคาเปิดของแท่งเทียนสีเขียว

ตัวอย่าง

นี่คือตัวอย่างของกราฟราคา XLM-USD ที่มีรูปแบบของ Evening Doji Star อยู่ Stellar (XLM) เริ่มที่จะมีการปรับฐานหลังจากการวิ่งขึ้นก่อนหน้า (ที่วงกลมไว้) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงรูปแบบ Evening Doji Star อย่างชัดเจน

คุณภาพของรูปแบบ

นี่คือหนึ่งในรูปแบบของแท่งเทียนกลับตัวที่น่าเชื่อถือได้มากที่สุดจนถึงปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม มันจะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเมื่อมัปรากฏขึ้นที่จุดสูงสุดของแนวโน้มขาขึ้น ซึ่งจะช่วยให้นักขายชอร์ตเปิดสถานะได้

กรอบเวลาที่แนะนำ

รูปแบบนี้ใช้งานได้ดีที่สุดในกรอบเวลารายสัปดาห์หรือรายวัน

Shooting Star

นิยาม

รูปแบบนี้พบเห็นได้ทั่วไปในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ รวมถึง ฟอเร็กซ์, หุ้น, สินค้าโภคภัณฑ์, และคริปโต ซึ่งมันเป็นแท่งเทียนแบบเดี่ยวที่มีรูปแบบคล้ายกับรูปแบบ Bullish Hammer เพียงแต่อยู่ในทิศทางที่กลับกัน

รูปแบบ

ตัวแท่งเทียนสีเขียวหรือแดงนั้นอาจจะก่อตัวขึ้นโดยมีเงาหรือไส้ด้านบนที่ยาวมาก ซึ่งหมายความว่าผู้ขายนั้นพยายามที่จะผลักดันให้ราคาสูงขึ้น ช่วยให้สินทรัพย์ไปถึงจุดสูงสุดใหม่ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ขายคือผู้ที่ได้รับชัยชนะและผลักดันราคาไปที่ราคาเปิดได้

คำแนะนำ: นักเทรดบางคนเชื่อมว่า เพื่อให้รูปแบบ Shooting Star ประสบความสำเร็จ ไส้ทเียนด้านบนควรจะยาวเป็น 2 เท่า (เป็นอย่างน้อย) ของตัวแท่งเทียน

ตัวอย่าง

นี่คือกราฟราคา BTC-USD ที่มีรูปแบบ Shooting Star อยู่ด้วย โปรดสังเกตว่ากราฟดังกล่าวมีแท่งเทียนสีแดงมากมายหลังจากนั้นที่ช่วยยืนยันรูปแบบ Shooting Star นี้

คุณภาพของรูปแบบ

รูปแบบ Shooting Star นั้นเป็นรูปแบบที่เชื่อถือได้ปานกลาง อย่างไรก็ตาม นักเทรดผู้มีประสบการณ์ส่วนใหญ่ใช้มันเพื่อตรวจหาล่วงหน้าหรือเป็นสัญยาณเตือนของการลดลงของราคาในอนาคต

กรอบเวลาที่แนะนำ

คุณสามารถใช้มันในกรอบราคาใดๆ ก็ได้ แต่คุณจะได้รับประโยชน์สูงสุดหากใช้มันในกรอบเวลารายสัปดาห์

Dark Cloud Cover

นิยาม

รูปแบบ Dark Cloud Cover นั้นเป็นรูปแบบการกลับตัวของแนวโน้มที่ทรงพลังซึ่งคล้ายกับรูปแบบ Bearish Engulfing เพื่อที่จะใช้งานรูปแบบนี้ คุณจะต้องมองหาแท่งเทียนขาลงอีก 2-3 แท่งเพื่อเป็นการยืนยันสัญญาณ

รูปแบบ

การก่อตัวของรูปแบบนี้นั้นค่อนข้างตรงไปตรงมา อันดับแรกควรจะเป็นแท่งเทียนยาวขาขึ้น ตามมาด้วยแท่งเทียนขาลงที่มีขนาดเล็กกว่า มันควรจะเปิดราคาในจุดที่สูงกว่าจุดสูงสุดของแท่งเทียนก่อนหน้าและปิดลงที่ใดก็ได้ที่เลยจุดกึ่งกลางของแท่งเทียนก่อนหน้าไป

หมายเหตุ: แม้ว่าแท่งเทียนสีแดงควรจะเปิดเหนือจุดสูงสุดของแท่งเทียนสีเขียวก่อนหน้า การเปิดเหนือจุดปิดของแท่งเทียนก่อนหน้าก็ใช้ได้เช่นกัน

ตัวอย่าง

เมื่อดูที่กราฟราคา AAPL คุณจะเห็นรูปแบบ Dark Cloud Cover เกิดขึ้นในวันที่ 7 และ 8 กันยายน 2021 ซึ่งก่อให้เกิดการลดลงของราคาตามมาหลังจากนั้น

คุณภาพของรูปแบบ

สัญญาณของการขายที่เกิดขึ้นจากรูปแบบ Dark Cloud Cover นั้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หากคุณต้องการใช้มันเพื่อเช็คสถานะคริปโต คุณอาจจะต้องตรวจสอบตลาดในภาพกว้างขึ้นเพื่อวัดขอบเขตของการกลับตัวของแนวโน้ม

กรอบเวลาที่แนะนำ

รูปแบบ Dark Cloud Cover นั้นเป็นหนึ่งในรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวที่ใช้ได้ดีในกราฟรายวัน อย่างไรก็ตาม การใช้มันกับกราฟรายสัปดาห์นั้นก็สมเหตุสมผลเช่นกัน

Hanging Man

นิยาม

ลองมองหา Hanging Man หากคุณกำลังมองหารูปแบบแท่งเทียนเดี่ยวเพื่อช่วยให้ทำความเข้าใจตลาดได้ดียิ่งขึ้น สีของแท่งเทียนนั้นสามารถเป็นสีแดงหรือสีเขียวก็ได้ แต่สีแดงนั้นจะให้ความรู้สึกที่เหมาะสมและเป็นขาลงมากกว่า

รูปแบบ

รูปแบบ Hanging Man นั้นก็เหมือนกับรูปค้อนคว่ำ ตัวแท่งเทียนมีขนาดเล็ก มีไส้เทียนด้านล่างที่ยาว และมีไส้เทียนด้านบนที่สั้น (หรือแทบไม่มีเลย)

ตัวอย่าง

นี่คือกราฟรายวันของ MATIC-USD ซึ่งจะสังเกตเห็นได้ว่ามีรูปแบบ Hanging Man ที่ชัดเจนปรากฏขึ้นในวันที่ 4 เมษายน 2022 และหลังจากนั้นก็มีแท่งเทียนที่ช่วยยืนยันรูปแบบดังกล่าวปรากฏตามขึ้นมา ซึ่งปิดต่ำกว่าจุดต่ำสุดของแท่งเทียนก่อนหน้า (รูปแบบ Hanging Man)

คุณภาพของรูปแบบ

รูปแบบ Hanging Man นั้นเป็นรูปแบบที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือ หากมันปรากฏขึ้นในจุดสูงสุดของแนวโน้มขาขึ้น หากมันปรากฏขึ้นในช่วง Relief Rally คุณอาจจะต้องตรวจสอบแท่งเทียนหลายๆ แท่ง, ตัวชี้วัด และรูปแบบราคาเสียก่อน

กรอบเวลาที่แนะนำ

เราชอบที่จะใช้รูปแบบ Hanging Man นี้บนกราฟรายวันหรือรายสัปดาห์มากกว่า ซึ่งจะช่วยให้เราได้รับการยืนยันด้วยจุดข้อมูลหลายๆ จุด

Upside Gap Three Methods

นิยาม

หากคุณสนใจในรูปแบบต่อเนื่องที่มีความน่าเชื่อถือที่สามารถทำงานเป็นรูปแบบแท่งเทียนกลับตัวได้ Upside Gap Three Methods นั้นเป็นหนึ่งในรูปแบบที่คุณควรพิจารณา อย่างไรก็ตาม มันเป็นรูปแบบที่มักจะบอกใบ้ถึงการชะลอตัวในระยะสั้นมากกว่าจะเป็นการกลับตัวของแนวโน้ม

รูปแบบ

รูปแบบแท่งเทียน 3 แท่งนี้จะเริ่มต้นด้วยแท่งเทียนยาวสีเขียว (ขาขึ้น) จากนั้นก็ตามมาด้วยแท่งเทียนสีเขียวที่มี Gap-Up อีกแท่ง จากนั้นก็จะเป็นแท่งเทียนขาลงที่ลดลงมามากกว่า 50 เมื่อเทียบกับตัวแท่งของแท่งเทียนตัวแรก

ตัวอย่าง

นี่คือกราฟราคา AAPL ระหว่างวันที่ 3 ถึง 5 พฤษภาคม 2022 โปรดสังเกตว่ามีแท่งเทียนสีเขียว 2 แท่งก่อตัวขึ้น โดยแท่งเทียนแท่งที่ 2 นั้นมีช่องว่างจากแท่งแรก แท่งเทียนสีแดงหรือแท่งเทียนขาลงนั้นเปิดขึ้นภายในระยะตัวแท่งของแท่งเทียนแท่งที่ 2 และปิดลงต่ำกว่าราคาเปิดของแท่งเทียนแท่งแรก ซึ่งแสดงถึงแนวโน้มขาลงและอิทธิพลของผู้ขายที่ชัดเจน

คุณภาพของรูปแบบ

รูปแบบ Upside Gap Three Methods นั้นค่อนข้างแข็งแกร่ง ความรุนแรงของการลดลงหรือการกลับตัวนั้นจะขึ้นอยู่กับความลึกของแท่งเทียนแท่งที่ 3 ที่ร่วงลงไปในระยะของตัวแท่งเทียนแท่งแรก

กรอบเวลาที่แนะนำ

นี่เป็นหนึ่งในรูปแบบแท่งเทียนไม่กี่รูปแบบที่ทำงานได้ดีที่สุดกับกรอบเวลารายวันและรายสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม การใช้งานในกรอบเวลา 4 ชั่วโมงนั้นยังค่อนข้างแม่นยำและสมเหตุสมผลอยู่

Abandoned Baby (หายาก)

นิยาม

คุณจำรูปแบบแท่งเทียน Abandoned Baby ที่เป็นขาขึ้นได้หรือไม่? นี่คือรูปแบบแท่งเทียน 3 แท่งในแบบเดียวกันแต่เป็นมุมกลับ ซึ่งส่วนใหญ่จะพบเห็นได้ที่จุดสูงสุดของแนวโน้มขาขึ้น

รูปแบบ

แท่งเทียนแท่งแรกเป็นแท่งเทียนมาตรฐานและสีเขียว (ควรจะยาว) แท่งเทียนแท่งที่ 2 นั้นควรจะเป็น Doji และ Gap-Up จากราคาปิดของแท่งเทียนแท่งแรก แท่งเทียนแท่งที่ 3 ควรจะเป็นแท่งเทียนยาวสีแดง (ขาลง) โดยควรจะมี Gap-Down ลงมาจาก Doji

ตัวอย่าง

บริเวณที่วงกลมไว้บนกราฟรายวันของ Apple แสดงให้เห็นถึงรูปแบบ Abandoned Baby ที่หาดูได้ยาก โปรดสังเกตว่า Doji ได้ก่อตัวขึ้นเหนือจุดปิดของแท่งเทียนสีเขียวแท่งแรก และแท่งเทียนสีแดงแท่งที่ 3 ยังเปิดราคาโดยมีช่องว่างลงมาจาก Doji หลังรูปแบบดังกล่าวเกิดขึ้น ก็เกิดการลดลงของราคาเป็นอย่างมาก

คุณภาพของรูปแบบ

เนื่องจากรูปแบบ Abandoned Baby นั้นหาได้ยาก ดังนั้น มันจึงทรงพลังมาก อย่างไรก็ตาม คุณยังต้องตรวจสอบแท่งเทียนขาลงเพิ่มเติม รวมไปถึงปริมาณการซื้อขายด้วย เพื่อที่จะช่วยในการเปิดการซื้อหรือขาย

กรอบเวลาที่แนะนำ

รูปแบบนี้จะใช้ได้ดีที่สุดในกราฟรายวันและราย 4 ชั่วโมง อีกทั้ง คุณไม่น่าจะพบกับรูปแบบนี้ในกราฟรายสัปดาห์เนื่องจากมันเป็นรูปแบบที่หาดูได้ยาก

Belt Hold

นิยาม

รูปแบบนี้จะเกิดขึ้นหลังจากการซื้อขายขาขึ้นหลายครั้งและจะส่งสัญญาณการกลับตัวหรือการชะลอตัวในที่สุด

รูปแบบ

มันเป็นรูปแบบแท่งเทียนเดี่ยวที่แท่งเทียนยาวสีแดงปรากฏขึ้นพร้อมราคาเปิดที่สูงกว่าราคาปิดของแท่งเทียนสีเขียวก่อนหน้า ตัวแท่งเทียนของแท่งเทียนขาลง (สีแดง) ควรจะอยู่ในระยะของแท่งเทียนก่อนหน้า แท่งเทียนมักจะมีเงาด้านล่างขนาดเล็กและไม่มีเงาด้านบน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ขายสามารถกดราคาให้ต่ำลงได้มากกว่า

ตัวอย่าง

นี่คือกราฟของ T-Mobile หรือ TMUS ในวันที่ 29 กันยายน 2019 ราคาของ TMUS แสดงให้เห็นถึงแท่งเทียนขาลงยาวซึ่งเป็นรูปแบบของ Belt Hold สิ่งนี้ได้นำไปสู่การปรับฐานราคา

คุณภาพของรูปแบบ

รูปแบบแท่งเทียน Belt Hold นั้นไม่ค่อยน่าเชื่อถือและต้องใช้แท่งเทียนยืนยันหลายแท่งเพื่อที่จะให้มันมีความสมเหตุสมผล

กรอบเวลาที่แนะนำ

รูปแบบ Belt Hold นั้นทำได้ดีที่สุดในกรอบเวลารายวัน อย่างไรก็ตาม คุณยังสามารถใช้มันเพื่อทำการคาดการณ์รายสัปดาห์อย่างแม่นยำได้ ด้วยการจับคู่มันกับ RSI และข้อมูลปริมาณการซื้อขายที่เฉพาะเจาะจง

รูปแบบของแท่งเทียนกลับตัวทั้งหมดนั้นสามารถเชื่อถือได้หรือไม่?

โดยรวมๆ แล้ว “รูปแบบของแท่งเทียนกลับตัว” มีความน่าเชื่อถือโดยจะขึ้นอยู่กับประเภทของการซื้อขายที่คุณต้องการเริ่มต้น ตัวอย่างก็คือ รูปแบบเช่น Three White Soldiers, Abandoned Baby และ Three Crows นั้นได้หายากมากกว่า ซึ่งต้องใช้การยืนยันแท่งเทียนที่มากกว่า แต่ก็ค่อนข้างแม่นยำหากอ่านได้อย่างถูกต้อง

ในทำนองเดียวกัน รูปแบบของแท่งเทียนเดี่ยว เช่น Hanging Man, Hammer และอื่นๆ อีกมากมาย นั้นควรจะจับคู่มันกับ RSI Divergence, ปริมาณการซื้อขาย, หรือรูปแบบของกราฟราคาเพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ความน่าเชื่อถือของรูปแบบแท่งเทียนนั้นจะขึ้นอยู่กับบุคคล หรือกระทั่งตำแหน่งที่พวกมันปรากฏบนกราฟอีกด้วย

รูปแบบแท่งเทียนและตัวชี้วัดเป็นการผสมผสานที่ลงตัว

รูปแบบของแท่งเทียนนั้นเป็นข้อมูลที่ยอดเยี่ยม แต่เรายังมีวิธีที่จะทำให้มันดียิ่งขึ้นไปอีก ด้วยการระบุรูปแบบแท่งเทียนอย่างถูกต้อง ยืนยันมันกับรูปแบบกราฟราคา เช่น รูปแบบสามเหลี่ยม, รูปลิ่ม หรือใดๆ ก็ตาม จากนั้นก็ทำการใช้งานตัวชี้วัดอย่าง RSI, MACD, OBV, หรือตัวชี้วัดใดๆ ก็ตามที่คุณต้องการ วิธีการเหล่านี้จะช่วยให้คุณได้ผลลัพท์การซื้อขายดีที่สุดอย่างที่คุณต้องการ

คำถามที่พบบ่อย

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | เมษายน 2024

YouHodler สำรวจเลย →

BYDFi สำรวจเลย →

CoinEx สำรวจเลย →

BingX สำรวจเลย →

Coinrule สำรวจเลย →

Bybit สำรวจเลย →

ดูเพิ่มเติม