Trusted

Aleph Zero: มาทำความรู้จักบล็อกเชนที่จะมาแก้ปัญหา “Blockchain Trilemma” กันดีกว่า!

3 mins
อัพเดทโดย Passanai Jiraruekmongkol

การค้นหาแง่มุมสำคัญที่นิยามด้วย Blockchain Trilemma — ความปลอดภัย, การกระจายอำนาจ, และความสามารถในการปรับขนาด — เป็นเรื่องยากที่จะทำได้ในเชนเดียว การแข่งขันเพื่อสร้าง Blockchain ที่สามารถทำตามแง่มุมทั้ง 3 ได้นั้นอยู่ในระหว่างดำเนินการ วิศวกร Web3 หลายคนทำงานอย่างหนักเพื่อหาวิธีสร้างเครือข่ายที่สมบูรณ์แบบขึ้นมา ทีมงานที่อยู่เบื้องหลัง Aleph Zero (AZERO) อาจจะเป็นผู้ที่ทำมันได้หรือไม่?

ในบทความนี้ เราจะมาตรวจสอบข้อมูลของโปรเจกต์บล็อกเชนระดับองค์กรที่เป็นนวัตกรรมใหม่และปรับปรุงความเป็นส่วนตัวและ AZERO เหรียญดั้งเดิมของมัน เมื่อมองแวบแรก นวัตกรรมของ AZERO ทำให้ Altchain ตัวนี้อาจจะกลายเป็นผู้แข่งขันรายสำคัญสำหรับคู่แข่งเลเยอร์ 1 ของพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว

💡 ต้องการรับทราบข่าวสารที่ร้อนแรงทั้งหมดเกี่ยวกับบล็อกเชนยอดนิยมหรือไม่? มาเข้าร่วม BeInCrypto Trading Community บน Telegram สิ: อ่านข่าวใหม่ๆ พูดคุยกันเรื่องคริปโต และสอบถามการวิเคราะห์ทางเทคนิคต่างๆ และรับคำตอบจากเหล่านักเทรดมืออาชีพ! เข้าร่วมเลยเดี๋ยวนี้

Aleph Zero คืออะไร?

Aleph Zero (AZERO) คือบล็อกเชน Proof-of-Stake (PoS) สาธารณะเลเยอร์ 1 ที่พร้อมใช้งานสำหรับองค์กรและเน้นเรื่องความเป็นส่วนตัว สร้างขึ้นด้วย Substrate Stack ซึ่งเป็นชุดเทคโนโลยีโอเพ่นซอร์สที่ช่วยให้โปรเจกต์การพัฒนาบล็อกเชนแบบกำหนดเองเกิดขึ้นได้ Parity Technologies บริษัทโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลัง Substrate นี้

Aleph Zero พยายามที่จะแก้ปัญหาเรื่องความเร็ว, ความสามารถในการปรับขนาด ,เวลาที่ใช้ในการตรวจสอบ และปัญหาด้านความปลอดภัยที่บล็อกเชนในปัจจุบันต้องเผชิญอยู่ บล็อกเชนนี้ยังใช้โปรโตคอลฉันทามติ Directed Acyclic Graph (DAG) ที่ได้รับการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ AZERO เป็นสกุลเงินดิจิทัลดั้งเดิม

Aleph Zero Foundation เปิดตัว Mainnet เวอร์ชั่นแรกเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2021 ก่อนหน้านี้ ทีมผู้ก่อตั้งได้เริ่มต้นเปิดโปรเจกต์ในช่วงต้นปี 2018 พวกเขาสรุปรอบ Seed ในปี 2020 และ Public Sale ในช่วงต้นปี 2021

ผู้ร่วมก่อตั้ง Aleph Zero คือ Adam Gągol, Michał Świętek, Antoni Żółciak และ Matthew Niemerg ทีมงานที่ทำงานในโปรเจกต์มีจำนวน 40 กว่าคนในขณะที่เขียนบทความนี้

ขณะนี้โปรเจกต์ Aleph Zero กำลังทำงานในงานกลุ่มของเฟสต่างๆ จากความคืบหน้าของแผนงานของพวกเขา โปรเจกต์นี้อยู่ในเฟสที่ 4 และ 5 ของการพัฒนา เฟสที่ 3 เป็นการเปิดใช้งานการถ่ายโอนโทเค็นดั้งเดิมระหว่างบัญชี, ร่วมมือกับ polkadot.js, และการใช้งานเครือข่าย Rust ในเฟสที่ 4 ประกอบด้วยแผนการในการเพิ่มความสามารถของสัญญาอัจฉริยะ, กลไกการอัพเดตโหนด, และการกำหนดตัวตรวจสอบใหม่

Aleph Zero ทำงานอย่างไร?

ส่วนประกอบหลัก 2 อย่างของ Aleph Zero คือกลไกฉันทามติ Proof-of-Stake ของ AlephBFT และโครงสร้างเสริม Directed Auxiliary Graph (DAG) เราลองมาดูวิธีการทำงานของพวกมันกัน

Proof-of-Stake (PoS)

Aleph Zero ผสานรวม PoS และ DAG เข้าด้วยกัน ในกลไกฉันทามติของ PoS คณะกรรมการตรวจสอบความถูกต้องมีหน้าที่รับผิดชอบในการตรวจสอบธุรกรรมและรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย เช่นเดียวกับบล็อกเชน PoS อื่นๆ ผู้ตรวจสอบความถูกต้องของ Aleph Zero จะต้อง Stake AZERO เพื่อโอกาสในการตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมและเพิ่มมันลงในบล็อกเชน

Aleph Zero ใช้คณะกรรมการตรวจสอบความถูกต้องแบบหมุนเวียน ทำให้ผู้คนจำนวนมากขึ้นมีโอกาสที่จะมีส่วนร่วมในกระบวนการตรวจสอบความถูกต้อง การเลือกตั้งทำให้กลไกนี้หมุนเวียนได้ เพราะฉะนั้น ตัวตรวจสอบความถูกต้องจึงจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่จำนวนจะยังคงเหมือนเดิม ผู้ตรวจสอบความถูกต้องที่ไม่ได้เป็นคณะกรรมการจะได้รับรางวัลสำหรับการสนับสนุนและการทำงานของพวกเขา

กระบวนการเลือกตั้งสนับสนุนให้ผู้ตรวจสอบความถูกต้องยังคงต้องมีส่วนร่วมอยู่เรื่อยๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับการโหวตให้เป็นคณะกรรมการในการเลือกตั้งครั้งละหนึ่งรอบ ในทางกลับกัน กฎที่ไม่สร้างแรงจูงใจจะทำให้ผู้ตรวจสอบไม่มีความจำเป็นต้องกระทำสิ่งที่มุ่งร้ายต่อเครือข่าย สิ่งนี้ช่วยรับประกันความปลอดภัยของเครือข่าย Aleph Zero ได้นำ Slashing Mechanism แบบที่ต้องเปิดใช้งานเองมาใช้จนกระทั่งระบบการกำกับดูแลแบบกระจายอำนาจเริ่มทำงาน

Aleph Zero เลือกคณะกรรมการตรวจสอบทุกๆ 15 นาที นั่นหมายความว่า คณะกรรมการ 96 รายจะถูกเลือกทุกๆ 24 ชั่วโมง (หนึ่งยุค) เครือข่ายจะให้รางวัลแก่ผู้เข้าร่วมสำหรับผลงานของพวกเขา พวกเขาสามารถเรียกร้องการจ่ายเงินได้หลังจากสิ้นสุดหนึ่งยุคเต็ม 90% ของรางวัลตกเป็นของผู้ตรวจสอบและผู้เสนอชื่อ (ผู้ที่ Stake โทเค็นผ่านผู้ตรวจสอบความถูกต้องที่พวกเขาเลือก) เครือข่ายจะจัดสรร 10% ที่เหลือให้กับคลังและกองทุนระบบนิเวศ

รางวัลของการ Staking สำหรับผู้ตรวจสอบและผู้เสนอชื่อจะเป็นสัดส่วนกับจำนวนเงินที่ Stake อย่างไรก็ตาม ผู้เสนอชื่อจะได้รับรางวัลโดยหักค่าคอมมิชชั่นของผู้ตรวจสอบความถูกต้อง Stakers (ผู้ที่ทำการ Stake) — หรือที่เรียกว่าผู้เสนอชื่อ — จะสามารถเข้าถึงสินทรัพย์ที่ Stake ไว้ได้หลังจากผ่านไป 14 ยุค ปัจจุบัน Aleph Zero มีผู้ตรวจสอบทั้งหมด 104 คนและผู้เสนอชื่อมากกว่า 8,000 คน

Directed Acyclic Graph (DAG)

DAG ใน Aleph Zero เป็นโครงสร้างเสริมที่รวบรวมข้อมูลการทำธุรกรรม มันทำหน้าที่เป็นโครงสร้างข้อมูลตัวกลางในการเข้าถึงฉันทามติและในการสร้างบล็อกเชน

โดยทั่วไปแล้ว DAG จะใช้ในวิทยาการคอมพิวเตอร์ แต่ตอนนี้มันได้เข้ามาสู่พื้นที่ Blockchain แล้ว เครือข่ายบล็อกเชนกำลังใช้เครือข่ายเหล่านี้เพื่อเพิ่มปริมาณงานในการทำธุรกรรมและลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม

โปรโตคอลที่สอดคล้องกันของ Aleph สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม Asynchronous Byzantine Fault Tolerance (aBFT) ด้วยวิธีนี้ โปรเจกต์จึงมั่นใจได้ว่าการสื่อสารระหว่างโหนดยังคงมีประสิทธิภาพในระดับหนึ่ง แม้ว่าจะมีโหนดที่เป็นอันตรายปรากฏอยู่ก็ตาม

สิ่งใดที่ทำให้ Aleph Zero มีเอกลักษณ์

Aleph Zero มุ่งมั่นที่จะส่งมอบเทคโนโลยีบล็อกเชนให้ได้ตามคำสัญญา ซึ่งรวมไปถึงความปลอดภัย, การกระจายอำนาจ, ปริมาณธุรกรรมสูง, และค่าธรรมเนียมที่ต่ำ ข้างล่างนี้คือคุณสมบัติที่ทำให้บล็อกเชนนี้มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร:

  • โปรโตคอลฉันทามติแบบไฮบริด: Aleph Zero ผสานรวม PoS และโครงสร้างข้อมูลตัวกลาง DAG เข้าด้วยกัน นอกจากนี้ มันยังใช้สถาปัตยกรรม aBFT ในโปรโตคอลที่สอดคล้องกันนี้ โปรเจกต์เรียกโปรโตคอลที่ได้รับการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญนี้ว่าโปรโตคอลฉันทามติแบบไฮบริด AlephBFT ทีมงานนำเสนอมันในการประชุมปี 2019 ที่เมืองซูริค หัวข้อ Advances in Financial Technologies (AFT)
  • ความสามารถของสัญญาอัจฉริยะ: Aleph Zero รองรับสัญญาอัจฉริยะส่วนตัว บล็อกเชนนี้ใช้ WebAssembly (WASM) แทน Ethereum Virtual Machine (EVM) และภาษาสัญญาอัจฉริยะ Ink!
  • Liminal: Liminal เป็นเลเยอร์ความเป็นส่วนตัวแบบมัลติเชน สามารถใช้กับเครือข่ายบล็อกเชนทั้งหมดที่เชื่อมต่อกับ Aleph Zero ได้ Liminal อยู่ระหว่างการพัฒนาในระหว่างที่เขียนบทความและใช้งาน Zero-Knowledge Proofs (ZKPs) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ใครบางคนพิสูจน์เนื้อหาของข้อมูลได้โดยที่ไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง Liminal ยังมีโซลูชั่นที่เกี่ยวข้องกับความเป็นส่วนตัวอีกตัวหนึ่งที่เรียกว่า Secure Multi-party Computation (sMPC)
  • พื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์: Aleph Zero ใช้ประโยชน์จากระบบจัดเก็บไฟล์แบบกระจายอำนาจที่สนับสนุนโดย InterPlanetary File System (IPFS)
  • ผสานรวม Substrate: บล็อกเชนผสานรวมกับ Substrate Stack ของ Parity เพื่ออำนวยความสะดวกในการนำไปใช้งานอย่างแพร่หลาย ทีมงานยังได้รวมเอาโปรแกรม Substrate Builder ของ Parity เข้ามาด้วย
  • Common: ระบบนิเวศของ Aleph Zero ยังมี Common ซึ่งเป็นกระดานเทรดแบบกระจายอำนาจ (DEX) ที่สร้างขึ้นบนบล็อกเชน
  • การปรับค่าธรรมเนียมแบบไดนามิก: โซลูชั่นนี้ทำงานเป็นเครื่องมือขององค์กรในช่วงที่มีการรับส่งข้อมูลเครือข่ายสูงสุด นอกจากนี้ มันยังให้ค่าธรรมเนียมอย่างเท่าเทียมตามการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งาน ตัวเลือกการให้ทิปยังสามารถช่วยให้ผู้ใช้งานจัดลำดับความสำคัญของธุรกรรมในช่วงที่เครือข่ายแออัดได้
  • Oracle: บริดจ์นี้อนุญาตให้นำข้อมูลในโลกแห่งความเป็นจริงที่อยู่ภายนอกบล็อกเชนมาไว้บนเชนและเข้าสู่ระบบนิเวศ Aleph Zero ได้ โปรเจกต์กำลังพยายามที่จะผสานรวมเข้ากับผู้ให้บริการ Oracle ส่วนใหญ่ในตลาดเพื่อให้นักพัฒนามีทางเลือกมากขึ้น

ประโยชน์ของ Aleph Zero คืออะไร?

Aleph Zero เป็นบล็อกเชนแห่งนวัตกรรมที่นำเสนอฟีเจอร์ที่มีประโยชน์ต่อทั้งบุคคลและองค์กร นี่คือข้อดีที่พวกมันมอบให้:

  • ค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมต่ำ: โดยเฉลี่ยแล้ว การทำธุรกรรมบนเครือข่าย Aleph Zero จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 0.0003 ดอลลาร์
  • มีการกระจายอำนาจสูง: Aleph Zero อ้างว่าจะเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ DAG แบบกระจายอำนาจเป็นครั้งแรก พวกเขากำลังเพิ่มระดับการกระจายอำนาจผ่านกลไกการหมุนเวียนคณะกรรมการตรวจสอบความถูกต้อง
  • ความเร็วในการทำธุรกรรมที่รวดเร็ว: AlephBFT ของ Aleph Zero ประมวลผลได้ 89,600 ธุรกรรมต่อวินาทีในการทดสอบในห้องปฏิบัติการ มันใช้เวลาในการตรวจสอบความถูกต้อง 416 มิลลิวินาที แต่ยังไม่ได้มีการกำหนดว่าเครือข่ายจะมีประสิทธิภาพเป็นอย่างไรในโลกแห่งความเป็นจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภายใต้การรับส่งข้อมูลของผู้ใช้งานจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ข้อมูลการทดสอบในห้องปฏิบัติการนี้ถือเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ ความเร็วในการทำธุรกรรมที่อาจจะเป็นไปได้ทำให้ Aleph Zero เป็นคู่แข่งด้านบล็อกเชนที่เหมาะสมสำหรับองค์กรต่างๆ
  • ความเป็นส่วนตัวสำหรับองค์กร: Aleph Zero ช่วยให้องค์กรทำให้การทำธุรกรรมและการประมวลผลสัญญาอัจฉริยะเป็นส่วนตัวในขณะที่สามารถเพลิดเพลินไปกับความเร็วและความปลอดภัยของบล็อกเชนสาธารณะ
  • ทีมนักพัฒนาขนาดใหญ่: Aleph Zero มีทีมนักพัฒนาขนาดใหญ่ประมาณ 25 คนที่ทำงานอยู่กับโปรเจกต์ นี่เป็นสัญญาณว่าเครือข่ายนี้จะมีพัฒนาการและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะดึงดูดผู้ใช้งานได้มากขึ้น

เหรียญ Aleph Zero (AZERO)

AZERO เป็นเหรียญดั้งเดิมของ Aleph Zero Blockchain มันมีอุปทานทั้งหมด 300 ล้านเหรียญและอัตราเงินเฟ้อ 30 ล้านเหรียญต่อปี เครือข่ายจะเพิ่ม 2.5 ล้านเหรียญลงไปในอุปทานผ่านระบบรางวัล 10% ของจำนวนดังกล่าวจะถูกส่งไปที่กองทุนระบบนิเวศ เครือข่ายจะแจกจ่ายส่วนที่เหลือให้กับผู้ตรวจสอบความถูกต้องและผู้เสนอชื่อ

การแจกจ่าย

Aleph Zero Foundation ได้รับเหรียญ 23% ในขณะที่ทีมงานได้รับ 10% ทั้งนี้ 80% ของเหรียญที่จ่ายให้กับทีมงานมีระยะเวลาล็อกเหรียญไว้ 1 ปีและจากนั้นจะทยอยแจกจ่ายเหรียญให้ต่อเนื่องตลอด 4 ปี

การระดมรอบ Pre-Seed ผู้มีส่วนร่วมในปี 2018 ได้รับ 16.667% ของเหรียญ โปรเจกต์จะได้รับ 50% ของเหรียญเหล่านี้ในช่วงเวลา 15 เดือน ในรอบการระดมทุนนี้ ราคา AZERO อยู่ที่ 0.04 ดอลลาร์ ในรอบ Seed โปรเจกต์จ่ายเหรียญอีก 16.667% โดย 28.57% ของเหรียญจะถูกทยอยจ่ายเป็นช่วงเวลา 6 เดือน ราคาอยู่ที่ 0.057 ดอลลาร์ต่อเหรียญ

รอบ Special Early Community ทีมได้รับการจัดสรรอีก 5% ของเหรียญ เหรียญ AZERO ทั้งหมดจะถูกทยอยจ่ายระหว่าง 14 ถึง 64 วันหลังจากเปิดตัว Mainnet ราคาของมันอยู่ที่ 0.07 ดอลลาร์ ต่อมา ทีมงานได้แจกจ่าย 18.33% ของอุปทานโทเค็นทั้งหมดในช่วง Public Pre-Sale โดยมีระยะเวลาการทยอยแจกจ่าย 12 เดือน

ราคาขายสาธารณะในปี 2021 อยู่ที่ 0.1 ดอลลาร์ และเหรียญที่จัดสรรทั้งหมดจะถูกปลดล็อกเมื่อเปิดตัว Mainnet ในขณะที่เขียน AZERO ซื้อขายอยู่ที่ 1.043 ดอลลาร์โดยมีมูลค่าตลาด 213.5 ล้านดอลลาร์

กระเป๋าเงิน & การ Staking

ผู้ใช้งานสามารถเก็บเหรียญ AZERO ได้โดยสร้างกระเป๋าเงินบน azero.dev เหรียญยังสามารถเก็บไว้ในกระเป๋าเงิน 3rd Party ได้ เช่น Vulture, Talisman, SubWallet และ Nova

ใครก็ตามที่ต้องการ Staking ในเครือข่าย Aleph Zero จะต้องใช้ AZERO จำนวนขั้นต่ำที่ใช้ในการ Stake สำหรับผู้ตรวจสอบคือ 25,000 เหรียญและ 10 เหรียญสำหรับผู้เสนอชื่อ การ Staking สามารถทำได้บนเว็บไซต์ผู้พัฒนาของ Aleph Zero หรือ Nova และ SubWallet นอกจากนี้ AZERO อาจจะกลายเป็นโทเค็นการกำกับดูแลได้ในอนาคต ซึ่งช่วยให้ผู้ถือมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจของเครือข่ายได้

วิธีการซื้อเหรียญ AZERO

AZERO ได้รับการลิสต์บนกระดานเทรดหลายแห่ง รวมถึง KuCoin, Gate.io, Huobi, MEXC Global, Bitrue และ Uphold ต่อไปนี้เป็นวิธีการซื้อ AZERO จากกระดานเทรด Crypto แบบรวมศูนย์เหล่านี้:

  • ขั้นแรก สร้างกระเป๋าเงิน AZERO โดยสร้างมันได้บนเว็บไซต์ผู้พัฒนาของโปรเจกต์หรือใช้ตัวเลือกอื่นๆ ที่กล่าวมาข้างต้น
  • เมื่อคุณมีกระเป๋าเงินแล้ว ให้สร้างบัญชีด้วยกระดานเทรดที่คุณเลือก ตรวจสอบเพื่อดูว่ามันสนับสนุนการซื้อขายและแลกเปลี่ยนในประเทศของคุณหรือไม่
  • ทำตามขั้นตอนการยืนยันตัวตนให้เสร็จสิ้น
  • ฝากสกุลเงิน Fiat หรือ Cryptocurrency เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการซื้อของคุณ
  • ไปที่ฟีเจอร์ซื้อและกรอกจำนวนเหรียญ AZERO ที่คุณต้องการ
  • เสร็จสิ้นการซื้อและรอให้กระดานเทรดส่งสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณมาให้ มันควรจะปรากฏอยู่ในกระเป๋าเงินของกระดานเทรด AZERO ของคุณ
  • เมื่อได้รับเหรียญแล้ว ให้ถอนออกโดยใส่ Address ของกระเป๋าเงินที่คุณสร้างขึ้น การดำเนินการนี้จะย้ายเหรียญของคุณจากกระดานเทรดไปยังกระเป๋าเงิน AZERO ของคุณ ตอนนี้คุณสามารถ Staking หรือ HODL ได้แล้ว

Aleph Zero อาจจะตอบโจทย์ Blockchain Trilemma

Aleph Zero เป็นบล็อกเชนที่มีแนวโน้มที่ดีว่าจะทำให้บล็อกเชนเลเยอร์ 1 ทำงานได้อย่างคุ้มค่ายิ่งขึ้น ความสามารถของพวกมันในการส่งมอบปริมาณงานธุรกรรมที่สูงอาจจะทำให้มันกลายเป็นบล็อกเชนระดับองค์กรในอุดมคติที่สามารถรองรับธุรกรรมส่วนตัวและสัญญาอัจฉริยะได้ แน่นอนว่า Aleph Zero ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนาเท่านั้น สำหรับตอนนี้ มันคงเป็นเพียงแค่โปรเจกต์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ แต่ก็ยังเป็นการเก็งกำไรที่น่าจับตามอง

คำศัพท์ทางเทคนิคในบทความ

  • Blockchain Trilemma: แนวคิดของ Vitalik Buterin ผู้สร้าง Ethereum ซึ่งระบุไว้ว่า การที่เครือข่ายบล็อกเชนจะได้รับการยอมรับในวงกว้างได้นั้น มันจะต้องมีคุณสมบัติหลักๆ 3 ประการ ได้แก่ ความปลอดภัย, การกระจายอำนาจ, และความสามารถในการปรับขนาด
  • Altcoin (Alternative Coin): เหรียญทางเลือก หรือก็คือ สกุลเงินดิจิทัลหรือ Cryptocurrency สกุลอื่นๆ ที่ไม่ใช่ Bitcoin
  • Proof of Stake (PoS): เป็นเครื่อข่ายที่มีการนำสินทรัพย์ไปค้ำประกันไว้กับระบบเพื่อรับสิทธิในการตรวจสอบและยืนยันธุรกรรม ซึ่งจะได้รับผลตอบแทนจากการ Staking อีกด้วย
  • Mainnet (เมนเน็ต): เครือข่ายบล็อกเชนโปรโตคอลหลัก ธุรกรรมที่เกิดขึ้นบน Mainnet นั้นจะเกิดจากการใช้งานจริงของผู้ใช้งาน มันได้รับการออกแบบมาให้ทุกธุรกรรมสามารถตรวจสอบได้
  • Slashing Mechanism: กลไกที่สร้างขึ้นในโปรโตคอล Blockchain เพื่อกีดกันพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของผู้ตรวจสอบความถูกต้อง

คำถามที่พบบ่อย

AZERO คืออะไร?

ใครเป็นคนสร้าง Aleph Zero?

Aleph Zero อยู่บน Ethereum หรือไม่?

ฉันสามารถ Stake AZERO ได้หรือไม่?

Aleph Zero ทำอะไรได้?

Aleph Zero เป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่?

🎄แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | ธันวาคม 2024
🎄แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | ธันวาคม 2024
🎄แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | ธันวาคม 2024

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์

Akhradet-Mornthong-Morn.jpg
Akradet Mornthong
อัครเดช หมอนทอง เป็น นักแปล/นักเขียนคอนเทนต์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน NFT Games, Metaverse, AI, Crypto และเทคโนโลยีใหม่ๆ เขาจบการศึกษาในสาขาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล และมีประสบการณ์ในการทำงานในวงการเกมมากกว่า 10 ปี เมื่อ NFT Games ได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาก็ไม่พลาดที่จะก้าวเข้ามาในวงการนี้เพื่อศึกษาข้อมูลในเชิงลึกต่างๆ ของวงการ NFT รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain และ Crypto อีกด้วย
READ FULL BIO
ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน