Aztec Layer 2 ของ Ethereum ที่ใครๆก็ต้องการ

Aztec Layer 2 ของ Ethereum ที่ใครๆก็ต้องการ โดยปกติแล้ว Layer2 จะเป็นเหรียญเล็กที่กาวหรือมันเร็วเกินไปที่จะเกิดขึ้นในตอนนี้ แต่ใน Ethereum ตอนนี้มี Feature นึงที่ผมเชื่อว่าใครๆก็คงต้องการแน่นอน

ความเป็นส่วนตัวคือสิ่งนึงที่ปฎิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นข้อจำกัดสำหรับ Mass adoption ของวงการ Crypto, การที่ Blockchain นั้นเป็นอะไรที่ทุกคนสามารถตรวจตอบได้ว่า Transaction เกิดขึ้นยังไงบ้างและน่าจะเป็นของใคร มันทำให้นักลงทุนบางครั้งก็รู้สึก ‘โดนเสือก’ มากเกินไปเหมือนกัน

ในบางครั้งถ้าคุณเป็นวาฬ เมื่อคุณทำธุรกรรมใดๆที่มีคนจับเกมคุณได้และพยายามที่จะ ‘สวน’ คุณให้หงายหลัง หรือคุณโดนใช้ผลประโยชน์ในทางใดก็ทางนึง มันเป็นอุปสรรคอย่างยิ่งในวงการคริปโต คุณไม่สามารถที่จะเก็บ Address ของคุณให้เป็นความลับได้ บางทีคุณอาจจะอยากแค่ใช้มันให้เป็นส่วนตัว ไม่ให้ใครเห็น

แต่อุตสาหกรรม Blockchain นั้นไม่สามารถที่จะให้ใครก็ตามปกป้องตัวเองจาก Privacy ได้ แม้ว่าจะมี Tornado Cash ก็ตามที แต่มันก็มีมลทิณและมี Asset pool ของตัวเอง ความปลอดภัยมันจึงยังต่ำอยู่ และเป็นช่องทางหากินของ Hacker ที่ฉลาด

Aztec Network Solution

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Aztec ได้เปิดตัวบนเครือข่าย Ethereum. Aztec Network เป็นเครือข่ายเลเยอร์ 2 ที่ใช้เทคโนโลยี ZKrollup พวกเขาเลือกที่จะทำบน Ethereum โดยใช้ประโยชน์จากข้อเท็จจริงที่ว่า Ethereum เป็น L1 ที่แข็งแกร่งที่สุดและมีการกระจายอำนาจมากที่สุด ผู้ใช้ยังได้รับประโยชน์จากค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมราคาถูกอีกด้วย โดยที่ Aztec ยังมีอีกชื่อเรียกตัวเองว่า “Cheap Privacy”

นี่คือสิ่งที่ฉันชอบโดยทั่วไปเกี่ยวกับ L2s ราคาถูก ปลอดภัย แต่ในการดำเนินการ L2s ที่มีอยู่ — เช่น Arbitrum, Optimism มักจะล้มเหลว บางทีคราวนี้ Aztac อาจคุ้มค่ากับการให้ความสนใจ – หรืออาจไม่คุ้มเลย ต่างจากเลเยอร์ 2 วัตถุประสงค์ทั่วไป Aztec ทำงานเหมือนมิดเดิลแวร์ที่สร้างขึ้นเฉพาะ ไม่มีการซ้ำซ้อนของวัตถุประสงค์กับ mainnet แอปที่ผสานรวมกับ Aztec จะไม่เกิดการกระจายตัวของสภาพคล่อง นอกเหนือจากการใช้งานที่ง่ายดาย

Zero Knowledge Proof: อธิบายโดยง่าย

เครือข่าย Aztec ช่วยให้มั่นใจถึงความเป็นส่วนตัวสำหรับผู้ใช้ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถตรวจสอบได้ เพื่อให้เข้าใจสิ่งนี้ คุณต้องเข้าใจว่า Zero Knowledge Proof (ZKP) ทำงานอย่างไร

นึกภาพเพื่อนสองคน อลิซและบ็อบ อลิซต้องการให้แน่ใจว่าบ็อบมีเงินในกระเป๋าของเขา (บางทีพวกเขาต้องการทำการค้าในภายหลัง) แต่บ็อบไม่ต้องการให้ใครแอบมองเข้าไปในกระเป๋าของเขา ดังนั้นพวกเขาจึงใช้กลไก ZKP มีบางอย่างถูกส่งไปยังกระเป๋าของ Bob ลองจินตนาการถึงหุ่นยนต์ หุ่นยนต์จุ่มนิ้วลงในกระเป๋าและยืนยันว่ามีเงินอยู่ที่นั่น ในทางปฏิบัติ ‘หุ่นยนต์’ นั้นซับซ้อนกว่ามาก ไม่เพียงแต่จะยืนยันการมีอยู่ของเงินเท่านั้น แต่ยังสามารถตรวจสอบจำนวนเงินได้อีกด้วย (บ็อบต้องไม่เพียงแต่มีเงินเท่านั้น แต่ยังต้องมีจำนวนเงินที่จำเป็นสำหรับการค้าขายกับอลิซด้วย) การตรวจสอบจะทำผ่านคณิตศาสตร์ และการเข้ารหัส (Cryptography/Encryption)

ปกป้องทรัพย์สินของคุณ

Smart contract ที่ทำงานบน Aztec ปกป้องทรัพย์สินของคุณจากบุคคลภายนอก พวกเขาทำตัวเหมือนโล่ เมื่อคุณปรับใช้สินทรัพย์บนสัญญาอัจฉริยะของ Aztec สิ่งที่คุณทำกับทรัพย์สินของคุณจะไม่ใช่ธุรกิจของใครนอกจากของคุณ

โปรโตคอลที่ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ที่เรียกว่า zk.money ซึ่งทำงานบน Aztec นั้นพร้อมใช้งานแล้ว คุณสามารถฝากเงินที่นั่นแล้วถอนออกไปยังที่อยู่อื่น โดยทั่วไป เช่นเดียวกับเมื่อคุณใช้เงินสดทอร์นาโด

พวกเขามีคู่มือการย้ายข้อมูล รวมถึงแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดเพื่อปกปิดเส้นทางธุรกรรมของคุณเพิ่มเติม

ข้างในทำอะไรได้มากมาย

นี่เป็น Feature ที่ผมชอบมากที่สุด ด้วยเครือข่าย Aztec ไม่ใช่แค่การโอนเงินแบบส่วนตัวเท่านั้น ผู้ใช้สามารถทำกิจกรรม DeFi ได้จริงในขณะที่เงินทุนได้รับการปกป้อง เช่น การทำฟาร์มให้ผลผลิต การปักหลัก และการแลกเปลี่ยนโทเค็น

ด้านล่างนี้คือสิ่งที่มีให้ใช้งาน เพิ่มเติมที่จะมาในอนาคต

เราสามารถหวังว่าจะมีการรวมเข้าด้วยกันโดยชื่อที่มีชื่อเสียงและรายการโปรดของ DeFi ทีมงาน Aztec ให้คำมั่นว่า “โค้ดเพียง 200 บรรทัด” ที่จำเป็นสำหรับ Integration

จำนวนเงินขั้นต่ำและสูงสุดที่ใช้ได้

เช่นเดียวกับ L2s อื่นๆ ในตอนนี้ เรามาพูดถึงข้อจำกัดบางประการกัน หนึ่งในนั้นเกี่ยวกับจำนวนเงินที่คุณสามารถทำธุรกรรมกับ zk.money

แม้ว่าคุณจะสามารถฝากขั้นต่ำได้ประมาณ $10 (หรือ 0.01ETH) แต่จำนวนเงินสูงสุดที่คุณสามารถฝากได้นั้นจำกัดไว้ที่ $10,000 อันนี้ตามคำถามที่พบบ่อยของพวกเขาเป็นการย้ายชั่วคราว บางทีอาจเป็นการกีดกันแฮ็กเกอร์ให้ฟอกเงินหลายล้านในคราวเดียว พวกเขาไม่ต้องการได้รับความอื้อฉาวเหมือนที่ Tornado Cash ทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา

การกระจายอำนาจบน Training Wheel

ข้อเสียเปรียบอีกอย่างหนึ่งคือสถานะการกระจายอำนาจของ Aztec เอง ซึ่งเป็นปัญหาที่คุ้นเคยในเลเยอร์ 2 โรลอัพสามารถถูกมองว่าเป็น sidechain ที่มีผู้ผลิตบล็อค/ซีเควนเซอร์/ผู้ให้บริการโรลอัพของตัวเอง (ผู้ที่จะรวบรวมธุรกรรมเป็นแบทช์ก่อนที่จะส่งไปยังเมนเน็ตเพื่อเพิ่มลงในบัญชีแยกประเภท Ethereum blockchain ในที่สุด) ผู้ให้บริการเหล่านี้มีความสำคัญสำหรับการกระจายอำนาจ . ตามหลักการแล้วยิ่งดีกว่า แต่ปัจจุบันแอซเท็กเป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวในขณะที่เสนอฝ่ายต่างๆ ให้มากขึ้นเพื่อเป็นผู้ให้บริการภาพรวมด้วย

ฟังดูไม่ค่อยดีนัก แต่นี่เป็นเรื่องปกติสำหรับโครงการ L2 ‘A Training Wheel’ พวกเขาจะเถียง ท้ายที่สุดพวกเขายังใหม่อยู่ การทำให้ผู้คนใช้งานโหนดและเป็นผู้ให้บริการต้องใช้เวลา ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดที่ Aztec ไม่สามารถทำหน้าที่เป็นผู้ให้บริการได้ เช่น เครือข่าย Aztec ออฟไลน์ คุณสามารถอ้างสิทธิ์ในทรัพย์สินของคุณกลับไปที่ mainnet โดยใช้สิ่งที่เรียกว่า Emergency Withdraw ฉันเดาว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่เรายอมรับได้

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤศจิกายน 2024

CoinEx สำรวจเลย

Margex สำรวจเลย

BYDFi สำรวจเลย

BingX สำรวจเลย

Coinrule สำรวจเลย

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤศจิกายน 2024

CoinEx สำรวจเลย

Margex สำรวจเลย

BYDFi สำรวจเลย

BingX สำรวจเลย

Coinrule สำรวจเลย

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤศจิกายน 2024

CoinEx

Margex

BYDFi

BingX

Coinrule