“บัญชีเทรดคริปโตระดับมืออาชีพ” ที่ดีที่สุดควรจะมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำ, มีสภาพคล่องที่สูง, มีตัวเลือกในการเทรดที่หลากหลาย, รวมถึงมีการรักษาความปลอดภัยในระดับสูง และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ต้องเลือกบัญชีที่มีคุณสมบัติที่ตรงกับสไตล์การเทรดของคุณ
ไม่ว่าคุณจะต้องการเทรดฟิวเจอร์ส มาร์จิ้น หรือกำลังมองหาแนวทางการเทรดคริปโตในรูปแบบอื่นๆ ที่เฉพาะเจาะจง ใบบทความนี้ เราได้ลิสต์รายชื่อของ “แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุด” ที่จะช่วยให้คุณทำการซื้อขายคริปโตได้ในแบบมืออาชีพอย่างราบรื่น!
- บัญชีเทรดคริปโตระดับมืออาชีพคืออะไร?
- บัญชีเทรดคริปโตระดับมืออาชีพที่ดีที่สุดในตลาด
- FXGT.com
- Kraken Pro
- eToro
- Coinbase Advanced
- AvaTrade
- Gate.io
- Robinhood
- วิธีการเลือก “บัญชีเทรดคริปโต” ที่เหมาะสมกับคุณ
- ความเสี่ยงในการทำการซื้อขายคริปโตในระดับมืออาชีพคืออะไร?
- “บัญชีเทรดคริปโตระดับมืออาชีพ” จะมีสภาพคล่องที่ดีกว่าหรือไม่?
- “บัญชีเทรดคริปโตระดับมืออาชีพ” ที่ดีที่สุดเป็นอย่างไร?
- คำถามที่พบบ่อย
บัญชีเทรดคริปโตระดับมืออาชีพคืออะไร?
“บัญชีเทรดคริปโตระดับมืออาชีพ” ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของเหล่านักเทรดคริปโตมืออาชีพ บัญชีประเภทนี้จะมีคุณสมบัติขั้นสูงมากมายที่เหนือกว่าบัญชีที่มีให้บริการบนแพลตฟอร์มเทรดทั่วไป
บัญชีเหล่านี้มักจะมีให้บริการบน “กระดานเทรดคริปโตชั้นนำ” สำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์ ซึ่งจะถูกสร้างขึ้นด้วยโครงสร้างพื้นฐานของการซื้อขายคริปโตขั้นสูง หนึ่งในคุณสมบัติหลักของบัญชีเทรดคริปโตระดับมืออาชีพนี้คือ การให้บริการสภาพคล่องในการซื้อขายสกุลเงินคริปโตในระดับสูง ช่วยให้นักเทรดสามารถทำการซื้อขายในปริมาณมากได้โดยไม่ก่อให้เกิดความผันผวนของราคาในตลาดอย่างมีนัยสำคัญ
จากข้อมูลของ Statista ในปี 2023 ปริมาณการซื้อขายสกุลเงินคริปโตในช่วงระยะเวลา 24 ชั่วโมงเพิ่มสูงขึ้น โดยมีปริมาณการซื้อขายสูงถึง 1.117 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนกันยายน 2023 ซึ่งหมายความว่า ตลาดสกุลเงินคริปโตนั้นมีสภาพคล่องที่สูงมาก
เมื่อพูดถึงฟีเจอร์สำหรับการเทรด บัญชีเทรดคริปโตระดับมืออาชีพ จะมีเครื่องมือพิเศษที่ถูกปรับแต่งมาเพื่อการใช้งานกลยุทธ์การเทรดขั้นสูงให้บริการด้วย โดยทั่วไปแล้ว มันจะมีตัวเลือกสำหรับ “การเทรดมาร์จิ้นและฟิวเจอร์ส” รวมอยู่ด้วย ซึ่งจะช่วยให้นักเทรดสามารถใช้เลเวอเรจเพื่อรับผลกำไร(หรือการขาดทุน)ที่มากยิ่งขึ้นได้ “High Frequency Trading” หรือ HFT (รูปแบบของการซื้อขายที่จะมีความเร็วในการส่งคำสั่งซื้อขายที่สูง) ก็คืออีกฟีเจอร์หนึ่งที่บัญชีเหล่านี้มักจะมีอยู่ โดยจะช่วยให้นักเทรดสามารถทำการซื้อขายจำนวนมากๆ ได้อย่างรวดเร็ว (ภายในไม่กี่วินาที) “ฟีดข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์” ก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในบัญชีแบบมืออาชีพ เพราะมันจะช่วยให้นักเทรดสามารถตัดสินใจทำการซื้อขายได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ในเรื่องของค่าธรรมเนียม บัญชีแบบมืออาชีพ มักจะมีค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่ต่ำกว่าสำหรับปริมาณการซื้อขายที่สูงขึ้น ซึ่งทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับเหล่านักเทรดที่มีประสบการณ์และทำการเทรดปริมาณมากๆ อยู่เป็นประจำ
บัญชีเหล่านี้ยังมักจะมาพร้อมกับมาตรการรักษาความปลอดภัยในการเทรดคริปโตที่แข็งแกร่ง ซึ่งก็รวมไปถึง การเข้ารหัสขั้นสูง และระบบการยืนยันตัวตนแบบ 2 ปัจจัย เพื่อป้องกันการเข้าถึงบัญชีโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการแฮก
นอกจากนี้ กระดานเทรดคริปโตชั้นนำที่ให้บริการบัญชีเทรดระดับพรีเมี่ยมเหล่านี้ ก็มักจะมีเครื่องมือช่วยในการเทรดคริปโตให้บริการมากมาย เช่น บอทเทรด ซึ่งจะช่วยให้สามารถทำการเทรดได้โดยอัตโนมัติ หรือเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้เพื่อช่วยในการวิเคราะห์เทรนด์ของตลาด เป็นต้น
บัญชีเทรดคริปโตระดับมืออาชีพที่ดีที่สุดในตลาด
FXGT.com
FXGT.com จะมอบประสบการณ์การซื้อขายที่ยอดเยี่ยมซึ่งได้รับการปรับแต่งมาเพื่อเหล่านักเทรดคริปโตมืออาชีพโดยเฉพาะ FXGT.com นำเสนอบัญชีแบบ PRO และ ECN ซึ่งจะมีเครื่องมือช่วยในการซื้อขาย 12 รายการที่พิเศษไม่ซ้ำใครให้บริการทั้งบน MT5 และ MT4 หนึ่งในฟีเจอร์ที่ได้รับการตอบรับมากที่สุดก็คือ ความสามารถในการเปิด/ปิดการซื้อขายหลายรายการพร้อมกันได้ด้วยคลิกเดียว
ผู้ใช้งานที่เลือกใช้บัญชี PRO จะได้รับสิทธิ์ฟรีค่าคอมมิชชั่นและค่าธรรมเนียมการสวอปสินทรัพย์ทั้งหมดในช่วง 6 วันแรกที่สมัครใช้งาน ยิ่งไปกว่านั้น บัญชี PRO ยังเสนอค่าสเปรดขั้นต่ำเริ่มต้นที่ 0.5 pip หรือ 5 ดอลลาร์ต่อ Round Turn Lot (ค่าธรรมเนียมรวมทั้ง 2 ล็อต ทั้งการเปิดการซื้อขายและการปิดการซื้อขาย) นอกจากนี้ บัญชี ECN ยังช่วยให้นักเทรดสามารถเข้าถึง Raw Spread (ค่าสเปรดคงที่และต่ำเป็นพิเศษ) สำหรับสินทรัพย์ทุกประเภท (ซึ่งโดยทั่วไปจะเข้าถึงได้เฉพาะธนาคารหรือสถาบันการเงินเท่านั้น) โดยจะมีค่าคอมมิชนั่น 6 ดอลลาร์ต่อ Round Turn Lot โดยเฉพาะสำหรับประเภทสินทรัพย์ FX
ฟีเจอร์พิเศษที่มีให้บริการเฉพาะของ FXGT.com คือ GTi12 Index ซึ่งเป็นดัชนีที่ประกอบไปด้วยสกุลเงินคริปโตหลัก 12 สกุล ในทุกๆ ไตรมาส GTi12 Index จะประเมินคุณสมบัติของสกุลเงินคริปโตที่จะนำมารวมไว้ในดัชนีนี้ด้วยเกณฑ์ต่างๆ ซึ่งเกณฑ์เหล่านี้จะรวมไปถึง มูลค่าตลาด และ สภาพคล่องของสินทรัพย์เหล่านั้น
ในเรื่องของความปลอดภัย แพลตฟอร์มนี้ก็ถือว่าอยู่ในอันดับต้นๆ เช่นกัน FXGT.com เป็นโบรกเกอร์ชั้นนำในญี่ปุ่นที่ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวดเพื่อรับรองความปลอดภัยของเงินทุนของผู้ใช้งานทุกคน อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นในเรื่องการถอนเงิน ซึ่งคุณสามารถถอนเงินได้ตลอดเวลาตามที่คุณต้องการ พวกเขายังได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานทางการเงินที่มีชื่อเสียงต่างๆ เช่น FSA, FSCA และ VFSC เป็นต้น นอกจากนี้ พวกเขายังมีใบอนุญาต CySEC (ซึ่งออกให้สำหรับนักเทรดสถาบันเท่านั้น) อีกด้วย
พูดง่ายๆ ก็คือ FXGT.com คือแพลตฟอร์มที่เพียบพร้อม ปลอดภัย และเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน เป็นแพลตฟอร์มที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเทรดสกุลเงินคริปโต และเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักเทรดมืออาชีพ
- มีบัญชีให้เลือกใช้งานหลากหลายประเภท รวมไปถึง บัญชี ECN เป็นต้น
- มีเครื่องมือช่วยในการซื้อขาย 12 รายการที่พิเศษไม่ซ้ำใคร ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งบน MT5 และ MT4
- มี GTi12 Index ที่ไม่มีให้บริการที่อื่น
- รองรับสกุลเงินคริปโตมากมาย
- สามารถรับคริปโตฟรีได้ผ่านโปรแกรมการเรียนรู้
- มีแหล่งความรู้ทางการศึกษาที่ครอบคลุม
- แอปมือถือที่ได้รับการเรตจากผู้ใช้งานในระดับที่สูง
- มีค่าธรรมเนียมการไม่ใช้งาน 10 ดอลลาร์ (หรือเทียบเท่า) ต่อเดือน หากไม่มีกิจกรรมใดๆ บนแพลตฟอร์มเป็นระยะเวลารวม 90 วัน จนกว่าจะมีการทำกิจกรรมใดๆ หรือ ยอดเงินในบัญชีลดลงจนเหลือศูนย์
- มีตัวเลือกที่จำกัดในการรับดอกเบี้ยและการ Staking คริปโต
- ไม่รองรับลูกค้าจากทางฝั่งยุโรปและสหรัฐอเมริกา
Kraken Pro
Kraken Pro คือตัวเลือกที่ดีที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้หลายข้อ หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นของแพลตฟอร์มนี้ก็คือความปลอดภัย นี่คือกระดานเทรดที่เปิดให้บริการในสหรัฐฯ มาตั้งแต่ปี 2011 โดยไม่เคยประสบกับปัญหาเรื่องความปลอดภัยใดๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือในระดับสูง
Kraken Pro ยังเป็นแพลตฟอร์มที่มีความยืดหยุ่นอีกด้วย พวกเขาให้การส่งเสริมแนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัย โดยการเพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัยขึ้นมาอีกชั้นนึง
Kraken Pro เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มเทรดคริปโตขั้นสูงที่มีฟีเจอร์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของทั้งนักเทรดหน้าใหม่และมืออาชีพได้ ซึ่งรวมไปถึงการเทรดมาร์จิ้นด้วยเลเวอเรจสูงถึง 5 เท่า, ฟังก์ชั่น Stop Oder, หรือแม้แต่ ‘Dark Pool’ สำหรับการซื้อขายแบบไม่เปิดเผยตัวตนที่มีปริมาณสูง
ค่าธรรมเนียมของ Kraken นั้นค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้น หากคุณสนใจในการใช้คริปโตทำงานให้กับคุณ Kraken ก็มีตัวเลือกในการ Staking ที่ดีเช่นกัน ผู้ใช้งานสามารถ Staking ได้ด้วยเหรียญคริปโตที่แตกต่างกันกว่า 15 รายการ และรับผลตอบแทนตั้งแต่ 0.25% ถึงมากกว่า 20% ซึ่งนี่ทำให้มันเป็นแพลตฟอร์มที่ยอดเยี่ยมสำหรับการสร้าง Passive Income เช่นกัน
- มาตรการรักษาความปลอดภัยชั้นยอด
- รองรับสกุลเงินคริปโตมากมายสำหรับการเทรด
- มีเครื่องมือช่วยในการเทรดขั้นสูงให้บริการ เช่น การเทรดมาร์จิ้น หรือ ฟังก์ชั่น Stop Orders
- ค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่สมเหตุสมผลและเทียบเคียงกับคู่แข่งได้
- เสนอตัวเลือกในการ Staking เพื่อสร้าง Passive Income
- บัญชี Starter มีฟีเจอร์และความสามารถที่จำกัด
- การฝากเงินเข้าบัญชีของคุณอาจจะใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้
- ไม่มีเครื่องมือหรือการสนับสนุนที่ช่วยในเรื่องการรายงานภาษี
eToro
eToro คือแพลตฟอร์มชื่อดังในโลกของการซื้อขาย พวกเขามีฐานผู้ใช้งานอยู่หลายล้านคนในกว่า 140 ประเทศ โดยเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2007 หนึ่งในฟีเจอร์พิเศษของแพลตฟอร์มก็คือ CopyTrader ซึ่งช่วยให้คุณสามารถคัดลอกแนวทางการซื้อขายของนักลงทุนที่มีประสบการณ์ได้โดยอัตโนมัติ
การซื้อขายขั้นต่ำที่คุณสามารถทำได้คือ 10 ดอลลาร์ และ eToro จะคิดค่าธรรมเนียมเพียง 1% สำหรับการซื้อขายสกุลเงินคริปโต หากคุณยังไม่คุ้นชินกับการซื้อขาย คุณยังสามารถฝึกฝนการซื้อขายได้ด้วยการใช้บัญชีเสมือนพร้อมเงินจำลองที่มีให้ใช้งานถึง 100,000 ดอลลาร์ นอกจากนี้ พวกเขายังมี แอปมือถือที่ใช้งานได้ง่าย และกระเป๋าเงินคริปโตที่จะช่วยปกป้องสินทรัพย์ของคุณอย่างปลอดภัย พร้อมให้บริการอีกด้วย
หากคุณชื่นชอบในสกุลเงินคริปโต หรือรวมไปถึง หุ้น หรือ EFTs แพลตฟอร์ม eToro ก็มีให้บริการอีกด้วย โดยมีตัวเลือกที่หลากหลายพร้อมฟีเจอร์เด็ดๆ มากมายที่จะช่วยให้การซื้อขายของคุณง่ายมากยิ่งขึ้น
- คุณสามารถคัดลอกเลียนสิ่งที่นักเทรดที่ประสบความสำเร็จกำลังทำอยู่ได้
- ไม่เพียงแต่เป็นแอปที่ใช้งานได้ง่าย แต่มันยังมีฟีเจอร์ขั้นสูงมากมายเพื่อช่วยให้สามารถทำการซื้อขายระหว่างเดินทางได้อีกด้วย
- หากคุณอาศัยอยู่ในบางรัฐในประเทศสหรัฐอเมริกา คุณจะไม่สามารถใช้บริการการเทรดคริปโตของ eToro ได้
- คุณไม่สามารถเทรดสกุลเงินคริปโตเป็นอีกสกุลหนึ่งได้โดยตรงบนแพลตฟอร์มนี้
Coinbase Advanced
การใช้ Coinbase เพื่อการเทรดคริปโตเป็นตัวเลือกที่ดีด้วยเหตุผลหลายประการ ประการแรก แพลตฟอร์มนี้ให้รองรับสกุลเงินคริปโตที่หลากหลาย ประการที่ 2 แพลตฟอร์มนี้มีเครื่องมือที่ช่วยในการซื้อขายทั้งแบบเรียบง่ายและขั้นสูง หากคุณเป็นมือใหม่ในเรื่องการซื้อขาย อินเตอร์เฟสที่ใช้งานได้ง่ายก็เหมาะกับคุณเป็นอย่างมาก สำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์มากขึ้น ฟีเจอร์ขั้นสูงจะช่วยให้คุณทำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกได้
Coinbase ยังทำให้การเรียนรู้เกี่ยวกับคริปโตเป็นเรื่องที่สนุก อีกทั้งยังมีรางวัลให้ผ่านโปรแกรม Coinbase Earn ของพวกเขาอีกด้วย คุณจะได้รับคริปโตฟรีเมื่อจบหลักสูตรการศึกษาระยะสั้นเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลต่างๆ
คุณมีโอกาสที่จะได้รับดอกเบี้ยจากสกุลเงินคริปโตบางสกุล — เช่น USD Coin และ Ethereum — โดยตรงผ่านบัญชี Coinbase ของคุณ ยิ่งไปกว่านั้น Coinbase ยังบริการบัตรเดบิตที่ช่วยให้คุณสามารถใช้จ่ายสกุลเงินคริปโตของคุณได้อย่างสะดวก ซึ่งมาพร้อมกับการรับเงินคืนเป็นคริปโตสูงสุดถึง 4%
อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่คุณจะต้องระมัดระวังคือโครงสร้างค่าธรรมเนียม การซื้อขายทั่วไปมาพร้อมกับค่าธรรมเนียมที่สูง หรือแม้กระทั่งบริการ Staking ของพวกเขาก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงอีกด้วย นอกจากนี้ ผลตอบแทนยังคงจำกัดอยู่เฉพาะสกุลเงินคริปโตบางสกุลเท่านั้น ดังนั้น ถึงแม้ว่านี่จะเป็นแพลตฟอร์มที่ดี แต่ก็อย่าลืมคำนึงถึงต้นทุนของคุณด้วย
- รองรับสกุลเงินคริปโตมากมาย
- ตัวเลือกของการเทรดที่หลากหลาย เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และผู้เชี่ยวชาญ
- รับคริปโตฟรีเมื่อจบหลักสูตรการศึกษา
- มีแหล่งความรู้ทางการศึกษาที่ครอบคลุม
- แอปมือถือที่ได้รับการเรตจากผู้ใช้งานในระดับที่สูง
- รับดอกเบี้ยเป็นสกุลเงินคริปโตที่คุณเลือก
- มีบัตรเดบิต Coinbase ให้บริการ
- มีโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่สับสน
- มีค่าธรรมเนียมที่แพงสำหรับการเทรดบางประเภท
- มีตัวเลือกที่จำกัดในการรับดอกเบี้ยและการ Staking คริปโต
AvaTrade
คุณควรเลือก AvaTrade เพื่อใช้งานในการเทรดคริปโตด้วยเหตุผลหลายประการ อย่างแรก AvaTrade เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก และดำเนินการอยู่ภายใต้กฎระเบียบของหน่วยงานระหว่างประเทศหลายแห่ง ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ว่าการซื้อขายของคุณจะมีความปลอดภัย นอกจากนี้ AvaTrade ยังมีอินเทอร์เฟสที่ใช้งานง่ายที่ใช้ได้กับแพลตฟอร์มอย่าง MetaTrader 4 และ AvaTradeGO ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับทั้งนักเทรดมือใหม่และนักเทรดที่มีประสบการณ์
แพลตฟอร์มนี้ยังมีค่าสเปรดที่ต่ำ มีตัวเลือกสินทรัพย์ที่หลากหลาย และมีแหล่งความรู้มากมายเพื่อช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ในการซื้อขายของคุณ พวกเขายังเป็นที่รู้จักในเรื่องกระบวนการฝากและถอนเงินที่รวดเร็วและฟรี รวมถึงเครื่องมือการจัดการความเสี่ยงที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น AvaProtect ฟีเจอร์ที่จะปกป้องการซื้อขายของคุณจากความผันผวนของตลาดด้วยการจ่ายค่าธรรมเนียมเพียงเล็กน้อย ช่วยให้คุณได้รับความมั่นคงทางการเงินอีกชั้นหนึ่ง นอกจากนี้ แพลตฟอร์มยังไม่มีการคิดค่าคอมมิชชั่นสำหรับการซื้อขายคริปโตอีกด้วย ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่มีความคุ้มค่าเป็นอย่างมาก
- มีการกำกับดูแลอย่างเข้มงวดในหลายๆ เขตอำนาจศาล
- มีตัวเลือกแพลตฟอร์มการซื้อขายที่หลากหลายให้บริการ เช่น MetaTrader, AvaTrade WebTrader, และ AvaTradeGO
- ฟีเจอร์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เช่น AvaProtect สำหรับช่วยจัดการความเสี่ยง
- ตราสารทางการเงินที่กว้างขวาง (CFD กว่า 1200 รายการ และไม่ได้มีแค่เพียงสกุลเงินคริปโตเท่านั้น)
- ฟีเจอร์การคัดลอกการเทรดที่ยอดเยี่ยม เช่น AvaSocial, ZuluTrade, และ DupliTrade
- ค่าธรรมเนียมของบัญชีผู้ใช้งานรายย่อยอยู่ในขั้นกลางๆ ไม่ต่ำเหมือนกับคู่แข่งรายอื่นๆ
- แพลตฟอร์มเดสก์ท็อป AvaOptions ทำงานได้ช้าและมีดีไซน์ที่ล้าสมัย
- สินทรัพย์ที่สามารถใช้งานได้มีจำกัด โดยกว่า 351 ตัวถูกระงับไว้บนแพลตฟอร์มต่างๆ
Gate.io
Gate.io คือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับทำการซื้อขายสกุลเงินคริปโต โดยมีสินทรัพย์คริปโตรองรับมากกว่า 1,700 รายการ ทั้งสกุลเงินชื่อดัง ไปจนถึง สกุลเงินที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก
ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนในโลก Gate.io ก็รองรับสกุลเงินทั่วไปกว่า 50 สกุล ไม่ว่าจะเป็น ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ปอนด์สเตอร์ลิง ทำให้มันสามารถใช้งานได้ง่ายมาก
นอกจากนี้ แพลตฟอร์มนี้ยังมีตัวเลือกการเทรดขั้นสูงมากมาย ทั้งการเทรดแบบ Spot, Futures หรือการใช้เลเวอเรจ เป็นต้น หากคุณสนใจใน NFT พวกเขาก็มีตลาดซื้อขายให้บริการเช่นเดียวกัน ค่าธรรมเนียมสำหรับการเทรดสูงสุดคือ 0.2% และมีอยู่หลายวิธีที่จะทำให้ค่าธรรมเนียมถูกลง เช่น การใช้โทเค็นของ Gate.io เอง เป็นต้น
ถึงแม้ว่าค่าธรรมเนียมการซื้อขายจะสมเหตุสมผล แต่ค่าธรรมเนียมการถอนก็อาจจะสูงไปบ้าง และคุณไม่สามารถถอนเงินเป็นสกุลเงินทั่วไปจากแพลตฟอร์มได้โดยตรง
- รองรับสกุลเงินคริปโตมากมาย
- ฟีเจอร์การซื้อขายขั้นสูงมากมาย
- ค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่สมเหตุสมผล
- มีสถานะที่ไม่ชัดเจนในประเทศสหรัฐอเมริกา
- ไม่ค่อยเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน
- ถอนเป็นสกุลเงินทั่วไปไม่ได้
Robinhood
Robinhood เป็นแอปที่ใช้งานได้ง่ายที่จะช่วยให้คุณสามารถซื้อและขายหุ้นและสกุลเงินคริปโตได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียมการซื้อขายใดๆ นอกจากนี้ พวกเขายังได้รับการกำกับดูแลโดยหน่วยงานทางการเงินของสหรัฐอเมริกา ดังนั้น นี่จึงเป็นแพลตฟอร์มที่คุณจะทำการลงทุนได้อย่างปลอดภัย ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือไม่ก็ตาม คุณสามารถใช้งานแพลตฟอร์มได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ดาวน์โหลดแอป ลงทะเบียน จากนั้น ภายในไม่กี่นาที คุณก็สามารถเริ่มทำการซื้อขายได้เลย
ถึงแม้ว่าจะมีข้อจำกัดในการโอนคริปโตเข้าหรือออกจาก Robinhood แต่คุณก็สามารถซื้อหรือขาย Bitcoin, Ether หรือสกุลเงินคริปโตยอดนิยมอื่นๆ ได้ นอกจากนี้ Robinhood ยังมีฟีเจอร์บัตรเดบิตที่ช่วยให้คุณใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบาย
ดังนั้น หากคุณกำลังมองหาตัวเลือกในการซื้อขายคริปโตที่ใช้งานได้ง่าย และมีค่าธรรมเนียมที่ไม่แพง Robinhood เป็นตัวเลือกที่ดีที่คุณควรจะลองพิจารณา
- มีแอปที่ใช้งานได้ง่ายทั้งในมือถือและคอมพิวเตอร์
- ไม่มีค่าธรรมเนียมในการซื้อขายสกุลเงินคริปโต
- มีบริการบัตรเดบิตให้ใช้งานเพื่อการใช้งานอย่างสะดวกสบาย
- ซื้อขายได้ทั้งหุ้นและสกุลเงินคริปโต
- เคยตกเป็นข่าวอื้อฉาวเรื่องการขายข้อมูลของผู้ใช้งาน
- ใช้งานได้เฉพาะสำหรับผู้ที่อยู่อาศัยในประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น
- แต่ไม่สามารถใช้บริการได้ใน 4 รัฐในประเทศสหรัฐอเมริกา
- มีสกุลเงินคริปโตที่ซื้อขายได้จำกัด
- เคยประสบปัญหาด้านความปลอดภัยมาก่อน
วิธีการเลือก “บัญชีเทรดคริปโต” ที่เหมาะสมกับคุณ
พิจารณาสไตล์การซื้อขายของคุณ
การเลือกแพลตฟอร์มสำหรับการเทรดคริปโตที่เหมาะสมที่สุดนั้น จะขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดและความชื่นชอบของแต่ละบุคคล สิ่งที่สำคัญคือคุณจะต้องคำนึงถึงความยากง่ายในการเข้าใช้บริการหรือข้อเสนอใดๆ อันเนื่องมาจากความแตกต่างด้านกฏระเบียบในภูมิภาคต่างๆ นอกจากนี้ หากคุณเป็นนักเทรดรายวันที่ต้องทำการซื้อขายอย่างรวดเร็ว คุณอาจจะต้องมองหาแพลตฟอร์มที่ให้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ และมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำสำหรับการทำธุรกรรมบ่อยครั้ง
บางแพลตฟอร์มมีอินเทอร์เฟสที่เรียบง่ายที่เหมาะสำหรับมือใหม่ ในขณะที่บางแพลตฟอร์มก็มีเครื่องมือสร้างกราฟขั้นสูงสำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์สูงกว่า ดังนั้น การเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับความต้องการและสไตล์การซื้อขายของคุณจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
ประเมินเรื่องค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือการพิจารณาเรื่องค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย เพราะเรื่องนี้อาจจะทำให้ผลกำไรของคุณลดลงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณทำการซื้อขายบ่อยๆ บางแพลตฟอร์มก็มีการเก็บค่าธรรมเนียมซื้อขายทั่วไปที่ค่อนข้างสูง ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับมือใหม่ที่ยังไม่คุ้นเคยกับตัวเลือกการซื้อขายขั้นสูง
อย่าลืมตรวจสอบโครงสร้างค่าธรรมเนียมและเปรียบเทียบกับสไตล์การซื้อขายของคุณ หากคุณเป็นนักเทรดรายวันที่ต้องทำการซื้อขายมากมายในระหว่างวัน การให้ความสำคัญกับค่าธรรมเนียมที่ต่ำอาจจะเป็นเรื่องที่คุณต้องให้ความสำคัญก่อนเรื่องอื่นๆ
ในทางกลับกัน หากคุณวางแผนที่จะลงทุนเป็นระยะเวลานาน คุณอาจจะให้ความสำคัญกับฟีเจอร์อื่นๆ เช่น สกุลเงินคริปโตที่มีให้เลือกเทรดมากมาย หรือ โอกาสที่จะได้รับดอกเบี้ยเป็นผลตอบแทน เนื่องจากค่าธรรมเนียมที่คุณต้องจ่ายสำหรับการซื้อขายนั้นอาจจะไม่มีความสำคัญมาก โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่า ค่าธรรมเนียมของแพลตฟอร์มสอดคล้องกับสไตล์การซื้อขายของคุณเพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุด
ตรวจสอบเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัย
การรักษาความปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ในการเลือกแพลตฟอร์ม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแพลตฟอร์มดังกล่าวมีคุณสมบัติความปลอดภัยที่แข็งแกร่งเพื่อที่จะสามารถปกป้องเงินลงทุนของคุณได้ ลองมองหาคุณสมบัติพิเศษอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น การยืนยันตัวตนแบบ 2 ปัจจัย การเข้ารหัสข้อมูล หรือ การเก็บรักษาเงินทุนในที่จัดเก็บแบบออฟไลน์ มันเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะทำความเข้าใจว่าแพลตฟอร์มจัดเก็บหรือใช้งานสินทรัพย์คริปโตอย่างไร เพื่อที่คุณจะสามารถหลีกเลี่ยงได้ในกรณีที่กระดานเทรดประสบปัญหา เช่น การล่มสลายของ FTX ในปี 2022
ตรวจสอบให้ดีว่า แพลตฟอร์มเคยมีปัญหาด้านความปลอดภัยใดๆ ในอดีตหรือไม่ และพวกเขามีวิธีการแก้ไขปัญหาอย่างไร เพราะคุณควรที่จะมีความอุ่นใจในขณะที่ทำการซื้อขาย แทนที่จะต้องมานั่งกังวลเรื่องความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม
ตรวจสอบเครื่องมือและฟีเจอร์ที่ช่วยสำหรับการเทรด
ในการเลือก บัญชีเทรดคริปโตระดับมืออาชีพ คุณจะต้องพิจารณาเครื่องมือและฟีเจอร์ที่ช่วยสำหรับการเทรดได้ บางแพลตฟอร์มก็จะมีทั้งเครื่องมือขั้นพื้นฐานและขั้นสูงให้เลือกใช้งาน
ให้ลองมองหาคุณสมบัติต่างๆ เหล่านี้ เช่น Technical Indicators, Live Order Books, หรือ Limit Orders เป็นต้น เครื่องมือหรือฟีเจอร์หล่านี้จะสามารถช่วยให้คุณทำการตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ให้ตรวจสอบว่าแพลตฟอร์มดังกล่าวมีแหล่งข้อมูลทางการศึกษาหรือการวิเคราะห์ตลาดเพื่อช่วยในการพัฒนาทักษะการซื้อขายของคุณหรือไม่
โดยพื้นฐานแล้ว ยิ่งแพลตฟอร์มมีเครื่องมือและฟีเจอร์ให้เลือกใช้งานเท่าไหร่ คุณก็จะมีความยืดหยุ่นในการทำการซื้อขายของคุณมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะใช้เวลาในการศึกษา ค้นคว้า และเปรียบเทียบข้อมูลเหล่านี้ก่อนที่จะทำการตัดสินใจเลือกใช้งาน
ความเสี่ยงในการทำการซื้อขายคริปโตในระดับมืออาชีพคืออะไร?
ประการแรกเลยก็คือ สกุลเงินคริปโตมีความผันผวนสูง นั่นหมายความว่า ราคาอาจจะเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วและไม่คาดคิด ลองนึกถึงภาพที่คุณตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าเงินที่คุณได้ลงทุนไปมีมูลค่าหายไปครึ่งนึงดูสิ!
ประการที่ 2 สกุลเงินคริปโตไม่ได้มีการกำกับดูแลจากรัฐบาลใดๆ เลย หากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น เช่น แพลตฟอร์มถูกแฮก หรือ มีปัญหาทางเทคนิค ความรับผิดชอบก็จะตกอยู่ที่ตัวคุณเอง (ซึ่งเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียของการกระจายอำนาจ) นอกจากนี้ บางครั้ง เทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังสกุลเงินคริปโตหรือบล็อกเชน ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงได้อย่างกะทันหัน (เช่น การฮาร์ดฟอร์ก) เหตุการณ์เหล่านี้ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อตลาดได้อย่างมีนัยสำคัญ
เมื่อพูดถึงการใช้บัญชีซื้อขายสกุลเงินคริปโตแบบพิเศษ เช่น การเดิมพันสเปรด หรือ CFDs ความเสี่ยงจะสูงขึ้น โดยพื้นฐานแล้ว มันก็เหมือนการเดิมพันแบบขยายความเสี่ยง ซึ่งอาจจะทำกำไรหรือขาดทุนได้อย่างมหาศาล ถึงแม้ว่าคุณจะลงทุนเพียงเล็กน้อยก็ตาม นอกจากนี้ จากการที่ราคาสามารถเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้เป็นอย่างมาก มาตรการด้านความปลอดภัย เช่น “Stop-Loss” ก็อาจจะไม่สามารถทำงานได้อย่างที่คิด ซึ่งจะส่งผลให้คุณมีการขาดทุนมากขึ้น
วิธีการซื้อขายนี้ไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน มันอาจจะเหมาะสมกับคนที่มีประสบการณ์และยินดีรับความเสี่ยงสูงเช่นนี้ได้
“บัญชีเทรดคริปโตระดับมืออาชีพ” จะมีสภาพคล่องที่ดีกว่าหรือไม่?
การใช้งานบัญชีเทรดในระดับมืออาชีพ ไม่ได้เป็นการรับประกันว่าคุณจะมีสภาพคล่องในการซื้อขายที่ดี “สภาพคล่อง” นั้นหมายถึง ความยากง่ายในการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ของคุณให้เป็นเงินสด ในตลาดแบบดั้งเดิม โบรกเกอร์จะช่วยให้คุณได้รับราคาที่ดีที่สุดด้วยการรวมแหล่งสภาพคล่องต่างๆ เอาไว้ด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ในตลาดคริปโต มันไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างนั้น
กระดานเทรดคริปโตแต่ละแห่ง ซึ่งรวมไปถึง กระดานเทรดแบบกระจายอำนาจ มักจะมีแหล่งสภาพคล่องเป็นของตัวเอง ซึ่งจะกระจัดกระจายไปตามกระดานเทรดต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่นำไปสู่การที่สินทรัพย์ตัวเดียวกันแต่กลับมีราคาที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะทำการซื้อขายที่ไหน
ดังนั้น ถึงแม้ว่าคุณจะใช้งาน บัญชีในระดับมืออาชีพ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า คุณจะมีสภาพคล่องที่ดี หรือ มีสภาพคล่องมากขึ้น เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากแหล่งสภาพคล่องทั้งหมด คุณควรจะต้องมีเงินทุนมากเพียงพอในกระดานเทรดหลายๆ แห่ง
“บัญชีเทรดคริปโตระดับมืออาชีพ” ที่ดีที่สุดเป็นอย่างไร?
หากคุณให้ความสำคัญกับค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่ต่ำ และสภาพคล่องที่สูงสำหรับการซื้อขายสกุลเงินคริปโต กระดานเทรดบางแห่งก็อาจจะดีกว่าที่อื่นๆ สำหรับนักเทรดที่ให้ความสำคัญกับการเทรดฟิวเจอร์สและมาร์จิ้น หรือแม้กระทั่ง การเทรดด้วยคำสั่งการซื้อขายที่มีความรวดเร็วสูง (HFT) กระดานเทรดบางแห่งก็จะมีบริการเหล่านี้ให้ซึ่งมักจะมาพร้อมกับความปลอดภัยในการซื้อขายสกุลเงินคริปโตระดับสถาบัน เมื่อพูดถึงกลยุทธ์ในการเทรดคริปโต บัญชีเทรดคริปโตแบบพรีเมี่ยมก็มักจะนำเสนอบริการขั้นสูงต่างๆ เช่น บอทเทรด หรือ ข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์ ซึ่งอาจจะมีความสำคัญมากสำหรับนักเทรดคริปโตระดับมืออาชีพ
สุดท้ายนี้ ในการซื้อขายสกุลเงินคริปโตแบบมืออาชีพ การเลือกใช้งานบัญชีเทรดที่เหมาะสมก็จะเป็นสิ่งที่ช่วยเหลือนักเทรดได้เป็นอย่างมาก บัญชีเทรดระดับมืออาชีพมักจะมีฟีเจอร์และเครื่องมือขั้นสูงต่างๆ มากมายที่สามารถช่วยให้นักเทรดทำการวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงลึกเพื่อทำการซื้อขายเพื่อสร้างผลกำไรได้อย่างมหาศาล
คำถามที่พบบ่อย
เราจะสมัครบัญชีเทรดในระดับมืออาชีพได้อย่างไร?
Kraken Pro มีค่าใช้จ่ายเท่าไร?
แพลตฟอร์มใดดีกว่ากันระหว่าง Binance กับ Kraken?
ค่าธรรมเนียมของ Kraken สูงหรือไม่?
Kraken เปิดให้บริการในประเทศสหรัฐฯ หรือไม่?
แพลตฟอร์มคริปโตแพลตฟอร์มใดที่มีค่าธรรมเนียมที่ต่ำที่สุด?
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์