Trusted

กระเป๋าเงิน WAX 5 ตัวที่ดีที่สุดในปี 2023

4 mins
อัพเดทโดย Nonthachai Sukkankosol

Worldwide Asset eXchange หรือ WAX เป็นชื่อของระบบนิเวศและโปรโตคอลเหรียญ Web3 ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำให้การทำธุรกรรมอีคอมเมิร์ซรวดเร็ว ง่าย และสะดวกยิ่งขึ้น โปรเจกต์นี้ถูกสร้างขึ้นโดย QPSkins ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายผลิตภัณฑ์ดิจิทัลส่วนกลาง และได้มีการเปิดตัวรอบการขายประมูลไปในเดือนพฤศจิกายน 2017 ตัวเครือข่ายนั้นเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและได้กลายมาเป็นหนึ่งในเครือข่ายบล็อกเชนที่หลากหลายที่สุดในอุตสาหกรรม หากคุณต้องการซื้อหรือเก็บ WAX เอาไว้ คุณจะต้องมีกระเป๋าเงินที่รองรับ WAX เสียก่อน ดังนั้น เราจึงได้รวบรวมรายชื่อ “กระเป๋าเงิน WAX ชั้นนำ 5 ตัว” ที่มีอยู่ในตลาด ณ ขณะนี้ โดยจะอ้างอิงจากความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ และความอเนกประสงค์ของมัน

💡 ต้องการรับทราบรีวิวต่างๆ เกี่ยวกับกระดานเทรดและกระเป๋าเงิน Crypto ยอดนิยมหรือไม่? มาเข้าร่วม BeInCrypto Trading Community บน Telegram สิ: อ่านรีวิวใหม่ๆ พูดคุยกันเรื่องคริปโต และสอบถามเรื่องการวิเคราะห์ทางเทคนิคต่างๆ จากเหล่านักเทรดมืออาชีพ! เข้าร่วมเลยเดี๋ยวนี้

กระเป๋าเงิน WAX คืออะไร?

กระเป๋าเงิน WAX นั้นเป็นเหมือนประตูที่จะช่วยให้เข้าถึงระบบนิเวศบล็อกเชนของ WAX ได้อย่างราบรื่น และยังใช้สำหรับการจัดเก็บ, ส่ง, และรับสินทรัพย์ของคุณ อีกทั้ง ผู้ใช้งานสามารถใช้กระเป๋าเงิน WAX เพื่อจัดการกับคอลเล็กชั่น NFT, เข้าถึง DApps และ ETH Bridge ได้อย่างง่ายดาย และสุดท้ายนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถ Stake และรับผลตอบแทนด้วยกระเป๋าเงิน WAX ได้อีกด้วย

กระเป๋าเงิน WAX ประเภทต่างๆ

มีกระเป๋าเงินอยู่มากมายหลายประเภทที่มีฟีเจอร์โดดเด่นแตกต่างกันไปซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานใช้จัดเก็บเหรียญ WAX ของพวกเขาได้ กระเป๋าเงินเหล่านี้จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่ แบบ Non-Custodial และแบบ Custodial ซึ่งประเภทหนึ่งนั้นก็จะมีความยืดหยุ่นและเหมาะสำหรับในการใช้ในชีวิตประจำวัน อีกประเภทนั้นก็จะเน้นไปในเรื่องความปลอดภัยและบริการต่างๆ ที่หลากหลาย แต่โดยหลักการแล้ว กระเป๋าเงินแบบ Custodial นั้นจะควบคุมจัดการ Private Keys ของคุณ ในขณะที่ กระเป๋าเงินแบบ Non-Custodial นั้นมอบความสามารถในการควบคุมสินทรัพย์ให้กับผู้ใช้งานอย่างสมบูรณ์

กระเป๋าเงินแบบ Custodial

กระเป๋าเงินแบบ Custodial นั้นจะเป็นกระเป๋าเงิน WAX ประเภทหนึ่งซึ่งบุคคลที่สาม (3rd Party) จะเป็นผู้จัดการ Private Keys ของผู้ใช้งาน ตัวอย่างที่ช่วยให้สามารถเข้าใจได้อย่างชัดเจนหรือแพลตฟอร์มกระดานเทรด Crypto แบบรวมศูนย์ เช่น WAX Cloud Wallet, Coinbase, OKX, and Crypto.com กระเป๋าเงินประเภทนี้นั้นจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำธุรกรรมได้อย่างราบรื่นโดยไม่ต้องกังวลว่าจะเเผลอวาง Private Keys ไว้ผิดที่ผิดทาง เช่นเดียวกับธนาคารทั่วไป กระเป๋าเงินแบบ Custodial จะดูแล Private Keys ของคุณและช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับเหรียญของคุณ

กระเป๋าเงินแบบ Custodial นั้นสะดวกในการใช้งานแต่ก็ยังมีความปลอดภัย แต่อย่างไรก็ตาม หากแฟลตฟอร์มถูกโจมตี เหล่าแฮ็กเกอร์นั้นอาจจะเข้าถึง Private Keys ของผู้ใช้งานและทำให้สูญเสียเงินของพวกเขาไปได้

กระเป๋าเงินแบบ Non-Custodial

กระเป๋าเงินแบบ Non-Custodial นั้นตรงกันข้ามกับกระเป๋าเงินแบบ Custodial แทนที่จะปล่อยให้บุคคลที่สามจัดการสินทรัพย์ของคุณ มันจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมและจัดการ Private Keys ของพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์ และถึงแม้ว่ากระเป๋าเงินประเภทนี้จะมีความซับซ้อนกว่ากระเป๋าเงินแบบ Custodial แต่โดยทั่วไปแล้ว มันจะมีความปลอดภัยและโปร่งใสมากกว่า

กระเป๋าเงินแบบ Non-Custodial นั้นอยู่ในรูปแบบที่แตกต่างกันไป บางตัวก็เป็นกระเป๋าเงินแบบซอฟต์แวร์ที่ทำงานบนเบราเซอร์ บางตัวนั้นก็เป็นกระเป๋าเงินแบบฮาร์ดแวร์ กระเป๋าเงินในรูปแบบซอฟต์แวร์นั้นจะจัดเก็บ Private Keys ของพวกเขาไว้บนที่จัดเก็บข้อมูลบนคอมพิวเตอร์ ในขณะที่กระเป๋าเงินที่เป็นฮาร์ดแวร์นั้นจะจัดเก็บ Private Keys ไว้ใน USB แบบออฟไลน์ ธุรกรรมภายในอุปกรณ์นั้นจะดำเนินการไปแบบออฟไลน์และจะทำการตรวจสอบเมื่อมีการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์เคลื่อนที่

กระเป๋าเงินแบบ Non-Custodial — โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระเป๋าเงินที่เป็นแบบฮาร์ดแวร์นั้น — เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุดในการใช้เก็บสินทรัพย์ WAX ของคุณ ที่เป็นพวกมันมอบความสามารถในการควบคุมสินทรัพย์อย่างสมบูรณ์ให้กับผู้ใช้งาน ตัวอย่างของกระเป๋าเงินประเภทนี้ ได้แก่ Scatter Wallet และ Ledger Nano X

กระเป๋าเงิน WAX ชั้นนำ 5 ตัวในปี 2023

1. WAX Cloud Wallet (กระเป๋าเงินแบบซอฟต์แวร์)

WAX Cloud Wallet เป็นกระเป๋าเงิน WAX ตัวหนึ่งที่ใช้งานได้ง่ายและช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงและโต้ตอบกับ WAX Blockchain และ DApps ได้อย่างง่ายดาย WAX Cloud Wallet ทำให้การจัดเก็บและรวบรวม NFTs, เหรียญ WAX 3 ประเภท — WAXE, WAXP, WAXG และโทเค็น Ethereum อื่นๆ ที่รองรับ — เป็นเรื่องง่าย

นอกจากนี้ WAX Cloud Wallet ยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใช้งานได้ด้วยแพลตฟอร์มโซเชี่ยลมีเดียยอดนิยมอย่าง Google, Facebook, Reddit, Twitter, และอื่นๆ อีกมากมาย และเนื่องจากมันเป็นกระเป๋าเงินแบบ Custodial มันจะจัดการ Private Keys ให้กับผู้ใช้งานและสามารถใช้งานได้บน Windows, macOS, Android, และ iOS

WAX Cloud wallet สร้างขึ้นโดยทีมงานที่อยู่เบื้องหลัง WAX Blockchain ซึ่งประกอบไปด้วยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมหลายคนจากชุมชน EOS Amsterdam และ Ethereum พวกเขามีความมุ่งมั่นที่จะนำเสนออินเตอร์เฟสการใช้งานที่เรียบง่ายเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบกับ WAX Blockchain ได้อย่างราบรื่น

ฟีเจอร์หลัก

  • ซื้อ, ขาย, และรวบรวม NFTs หรือโต้ตอบกับ DApps ที่สร้างขึ้นบนบล็อกเชนนี้ได้
  • NFT Inventory ช่วยให้คุณจัดการและจัดระเบียบคอลเล็กชั่น NFT ทั้งหมดของคุณได้ด้วยแดชบอร์ดเดียว
  • DApps: ด้วยฟีเจอร์เมนู DApps ผู้ใช้งานจะสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่นกระจายอำนาจ (DApps) ต่างๆ ได้
  • การ Staking: ผู้ใช้งานสามารถ Stake และรับรางวัลใน WAX และ Ethereum Blockchain ได้
  • ETH Bridge: ผู้ใช้งานสามารถทำธุรกรรมข้ามระหว่าง Ethereum และ WAX Blockchain ได้
  • WAXNews: ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ WAX Blockchain ได้อย่างง่ายดาย

ข้อดีและข้อเสีย

ข้อดี

  • ใช้งานได้ฟรี
  • สร้างบัญชีใหม่ได้ง่าย
  • มี UI ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน

ข้อเสีย

  • บางครั้งทำงานช้าเนื่องจากข้อมูลถูกจัดเก็บอยู่บนคลาวด์
  • ไม่สามารถเข้าถึง Private Keys ได้ ผู้ใช้งานจะไม่สามารถนำเข้า (Import) กระเป๋าเงิน WAX ที่มีอยู่แล้วในกระเป๋าเงินอื่นๆ ได้

2. Scatter (กระเป๋าเงินแบบซอฟต์แวร์)

Scatter Wallet เป็นกระเป๋าเงินแบบ Non-Custodial ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานจัดเก็บ WAX และสินทรัพย์อื่นๆ ที่รองรับได้ มันยังเป็นโซลูชั่นลายเซ็น, ข้อมูลประจำตัว, ข้อมูลส่วนตัว และการตรวจสอบสิทธิ์แบบกระจายอำนาจที่ทำงานบนอุปกรณ์ของผู้ใช้งาน หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ผู้ใช้งานจะใช้ Scatter Wallet ในการจัดการ Private Keys และตรวจสอบการทำธุรกรรมของพวกเขา

กระเป๋าเงินนี้ได้รับการสนับสนุนจากแอปพลิเคชั่นและเครื่องมือ WAX ที่หลากหลายและใช้งานได้ค่อนข้างง่าย แพลตฟอรืมที่รองรับได้แก่ Windows, Mac, Linux, iOS และ Android Scatter Wallet ถูกสร้างขึ้นในปี 2018 โดยทีมผู้พัฒนาที่มีนามว่า GetScatter

ฟีเจอร์หลัก

  • รองรับบล็อกเชนที่มีพื้นฐานเป็น EOSIO ทั้งหมด
  • รองรับการทำงานแบบข้ามแพลตฟอร์ม: Windows, macOS, Linux, iOS และ Android
  • ทำธุรกรรมได้ฟรี

ข้อดีและข้อเสีย

ข้อดี

  • เปิดตัวในปี 2018
  • มีอินเตอร์เฟสที่เรียบง่ายทำให้ง่ายต่อการผสานรวม
  • เป็นประตูสู่ WAX DApps มากมาย
  • รองรับกระเป๋าเงินแบบฮาร์ดแวร์, ส่วนขยายเบราเซอร์, และแอปมือถือ

ข้อเสีย

  • มีตัวเลือกในการซื้อ Crypto ที่จำกัด
  • เคยพบเจอกับปัญหาต่างๆ มากมายในอดีต เช่น การถูกแฮ็ก หรือ การถูกโจมตีแบบฟิชชิ่ง

3. Anchor (กระเป๋าเงินแบบซอฟต์แวร์)

Anchor เป็นกระเป๋าเงินดิจิทัลแบบ Custodial ที่มุ่งเน้นในเรื่องความปลอดภัยสำหรับเหรียญ WAX และเครือข่ายที่มีพื้นฐานเป็น EOSIO ทั้งหมด พวกเขารับประกันความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวในระดับสูงสุดด้วยการใช้วิธีการเข้ารหัสที่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ นอกเหนือไปจากเครือข่าย WAX และ EOS แล้ว Anchor Wallet ยังรองรับเชน EOSIO เช่น เชน Proton อีกด้วย

Anchor Wallet นั้นถูกพัฒนาโดย Greymass ซึ่งพร้อมใช้งานบนระบบปฏิบัติการต่างๆ ซึ่งรวมไปถึง Windows, Linux, macOS เป็นต้น การลงชื่อเข้าใช้งานแอปพลิเคชั่นที่มีพื้นฐานเป็น EOSIO ได้ง่ายๆ เพียงแค่คลิกที่ลิ้งค์หรือสแกน QR Code

ฟีเจอร์หลัก

  • มีอินเทอร์เฟสที่เรียบง่ายและครอบคลุมซึ่งรองรับฟังก์ชั่น EOSIO พื้นฐาน รวมไปถึงการโอน Crypto, การจัดการทรัพยากร, การกำกับดูแล ฯลฯ
  • รองรับหลายเชน — บล็อกเชนที่มีพื้นฐานเป็น EOSIO (EOS, Telos, WAX, ฯลฯ)
  • ความปลอดภัย: จัดเก็บคีย์ที่เข้ารหัสด้วย AES-256 — Private Keys จะไม่มีวันหายออกจากกระเป๋าเงินของคุณ
  • ทำงานร่วมกับ Ledger (กระเป๋าเงินแบบฮาร์ดแวร์) เพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
  • การผสานรวมอย่างราบรื่นกับแอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่สร้างขึ้นบน EOSIO Blockchain
  • ผสานรวมเข้ากับ Greymass Fuel โดยตรง นำเสนอ CPU/NET ฟรีแบบจำกัดสำหรับทุกบัญชีบนเครือข่ายที่รองรับ

ข้อดีและข้อเสีย

ข้อดี

  • รองรับบล็อกเชนที่มีพื้นฐานเป็น EOSIO ทั้งหมด
  • รองรับการทำงานแบบข้ามแพลตฟอร์ม: Windows, macOS, Linux, iOS และ Android
  • ทำธุรกรรมได้ฟรี: บัญชี Anchor ทั้งหมดสามารถทำธุรกรรมได้ฟรี (เป็นจำนวนจำกัด)
  • สามารถผสานรวมเข้ากับ Ledger (กระเป๋าเงินแบบฮาร์ดแวร์) ได้

ข้อเสีย

  • มี UI ที่ซับซ้อน

4. Ledger Nano X  (กระเป๋าเงินแบบฮาร์ดแวร์)

WAX

หนึ่งในกระเป๋าเงินแบบฮาร์ดแวร์ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือ Ledger Nano X กระเป๋าเงินแบบฮาร์ดแวร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อ, จัดเก็บ และจัดการ WAX และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ ที่รองรับหลายพันรายการ ด้วยการจัดเก็บแบบออฟไลน์และการเชื่อมต่อแบบบลูทูธทำให้มันเป็นช่องทางที่ปลอดภัยสำหรับการจัดการสินทรัพย์ Crypto

Ledger Nano X เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่สร้างขึ้นโดยบริษัท Ledger บริษัทกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ชั้นนำที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 มันได้รับการออกแบบให้มี UI ที่ใช้งานได้ง่าย และช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบและยืนยันธุรกรรมได้ Ledger Nano X รองรับแอปพลิเคชั่นและเครื่องมือ WAX ส่วนใหญ่ได้ ผู้ใช้งานนั้นยังสามารถเข้าถึง Ledger Nano X ได้ผ่านแอป Ledger Live บนโทรศัพท์มือถือ

ฟีเจอร์หลัก

  • Ledger Nano X มีความสามารถในการเชื่อมต่อบลูทูธที่ปลอดภัยซึ่งทำให้ใช้งานง่ายยิ่งขึ้น
  • ความปลอดภัย: เงินของผู้ใช้งานจะถูกเก็บไว้แบบออฟไลน์ ซึ่งป้องกันไม่ให้มันถูกโจมตีทางโลกออนไลน์
  • ความจุขนาดใหญ่ที่สามารถติดตั้งได้มากกว่า 100 แอปพลิเคชั่น
  • การสนับสนุน: Ledger มีหน้าเพจสนับสนุนลูกค้าที่เต็มไปด้วยข้อมูลที่เกี่ยวข้องในหัวข้อต่างๆ

ข้อดีและข้อเสีย

ข้อดี

  • รองรับสินทรัพย์ Crypto และโทเค็นกว่า 1,300 รายการ
  • เชื่อมต่อแบบบลูทูธได้
  • รองรับระบบปฏิบัติการ PC และมือถือส่วนใหญ่
  • Private Keys จะถูกเก็บไว้แบบออฟไลน์ — ภายในชิปของกระเป๋า

ข้อเสีย

  • ค่อนข้างแพง
  • WAX ไม่สามารถซื้อได้โดยตรงผ่าน Ledger Nano X

5. TREZOR Model T (กระเป๋าเงินแบบฮาร์ดแวร์)

WAX

Trezor Model T เป็นอีกหนึ่งในกระเป๋าเงิน Crypto แบบฮาร์ดแวร์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับใช้จัดเก็บ WAX รวมถึงเหรียญและโทเค็นอื่นๆ ที่รองรับอีกหลายพันรายการ ผู้ใช้งานสามารถซื้อ, ขาย, และจัดการสินทรัพย์ของตนเองได้โดยตรงผ่านแอปพลิเคชั่น Trezor Wallet และยังสามารถแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ภายในแอปได้อีกด้วย

Trezor Model T เป็นกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ตัวล่าสุดจาก SatoshiLabs ซึ่งเปิดตัวในปี 2018 มันมาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่และระบบยืนยันตัวตนแบบ 2FA ซึ่งสามารถยืนยันตัวตนได้ผ่านหน้าจอสัมผัสและการใช้ PIN

ฟีเจอร์หลัก

  • ความปลอดภัย: สามารถใช้วิธียืนยันตัวตนแบบ U2F และ FIDO2
  • ทำงานได้กับ Windows, macOS และ Linux และยังรองรับเบราว์เซอร์ Firefox และ Chrome
  • รองรับเหรียญและโทเค็นมากกว่า 1,400 รายการ รวมถึงบล็อกเชนต่างๆ มากมาย เช่น EOS, Bitcoin, Litecoin, และ Ethereum

ข้อดีและข้อเสีย

ข้อดี

  • หน้าจอสัมผัสสีขนาดใหญ่
  • ใช้งานได้ง่าย
  • Private Keys ถูกจัดเก็บแบบออฟไลน์ใน Trezor Model T พร้อมการป้องกันด้วย PIN และ Passphrase
  • รองรับเว็บเบราเซอร์, ระบบปฏิบัติการบน PC และ Android
  • ผู้ใช้งานสามารถซื้อ Crypto ได้ด้วยสกุลเงินเฟียต และแลกเปลี่ยนมันได้ภายในกระเป๋าเงินโดยตรง

ข้อเสีย

  • ไม่สามารถใช้งานได้กับระบบ iOS
  • ค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับกระเป๋าเงินแบบฮาร์ดแวร์ตัวอื่นๆ

ข้อมูลต่างๆ ของกระเป๋าเงิน WAX โดยสรุป

1. WAX Cloud Wallet

  • ประเภทกระเป๋าเงิน: ซอฟต์แวร์/ออนไลน์
  • สินทรัพย์ที่รองรับ: เหรียญ WAX
  • ราคา: ฟรี
  • แพลตฟอร์มที่รองรับ: Windows, macOS, Android และ iOS

2. Scatter Wallet

  • ประเภทกระเป๋าเงิน: ซอฟต์แวร์/ออนไลน์
  • สินทรัพย์ที่รองรับ: WAX และสินทรัพย์ Crypto ที่มีพื้นฐานเป็น EOSIO
  • ราคา: ฟรี
  • แพลตฟอร์มที่รองรับ: Windows, Mac, and Linux, iOS และ Android

3. Anchor Wallet

  • ประเภทกระเป๋าเงิน: ซอฟต์แวร์/ออนไลน์
  • สินทรัพย์ที่รองรับ: สินทรัพย์บนบล็อกเชนที่มีพื้นฐานเป็น EOSIO (EOS, Telos, WAX, Proton ฯลฯ)
  • ราคา: ฟรี
  • แพลตฟอร์มที่รองรับ: Windows, macOS, Linux, iOS, และ Android

4. Ledger Nano X

  • ประเภทกระเป๋าเงิน: ฮาร์ดแวร์/ออฟไลน์
  • สินทรัพย์ที่รองรับ: WAX และ Crypto อื่นๆ อีกกว่า 1,000+ รายการ
  • ราคา: 149 ดอลลาร์
  • แพลตฟอร์มที่รองรับ: Windows, MacOS, Linux

5. Trezor Model T

  • ประเภทกระเป๋าเงิน: ฮาร์ดแวร์/ออฟไลน์
  • สินทรัพย์ที่รองรับ: WAX และ Crypto อื่นๆ อีกกว่า 1,400+ รายการ
  • ราคา: 219 ดอลลาร์
  • แพลตฟอร์มที่รองรับ: Windows, macOS, Linux, และยังรองรับเบราว์เซอร์ Firefox และ Chrome

กระเป๋าเงิน WAX ตัวไหนที่คุณควรเลือกใช้งาน?

เราได้นำเสนอภาพรวมของกระเป๋าเงิน WAX ในประเภทต่างๆ ไปแล้ว แต่กระเป๋าเงิน WAX “ที่ดีที่สุด” นั้นเป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับตัวบุคคล ทั้งความชื่นชอบส่วนตัว, ความสะดวกสบาย, เงินทุน, ความเสี่ยง, การใช้งาน, และอื่นๆ อีกมากมาย สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดว่ากระเป๋าเงินแบบใดที่จะดีที่สุดสำหรับคุณ โดยทั่วไปแล้ว กระเป๋าเงินแบบฮาร์ดแวร์นั้นจะปลอดภัยกว่าแต่ไม่ค่อยสะดวกและยืดหยุ่น ในขณะที่กระเป๋าเงินแบบซอฟต์แวร์นั้นจะสะดวกกว่าสำหรับการใช้ในชีวิตประจำวัน

คำศัพท์ทางเทคนิคในบทความ

  • Non-Custodial Wallet: กระเป๋าเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลที่ผู้ให้บริการเป็นเพียงผู้พัฒนาโปรแกรมหรือ แอปพลิเคชั่นและไม่ได้ทำหน้าที่เก็บรักษา Private Key ให้แก่ผู้ใช้งาน การใช้งาน Wallet ลักษณะนี้มีข้อดีคือ ผู้ใช้งานจะเป็นผู้เก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลเอง จึงไม่ต้องกังวลเรื่องความน่าเชื่อถือหรือระบบในการเก็บรักษา
  • Custodial Wallet: ตรงกันข้ามกับกระเป๋าเงินแบบ Non-Custodial ผู้ให้บริการกระเป๋าเงินประเภทนี้จะทำการจัดเก็บและดูแลรักษา Private Key ของผู้ใช้งาน ข้อดีของ Wallet ลักษณะนี้ก็คือมีความปลอดภัยสูง
  • DApps (Decentralized Application): แอปพลิเคชั่นที่มีการนำบล็อกเชนมาสร้างขึ้นเป็นแอปพลิเคชั่นใหม่ๆ ขึ้นมาโดยดึงข้อเด่นของ Blockchain และ Smart Contract ในเรื่องของการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายบนเครือข่ายและความปลอดภัยมาใช้

คำถามที่พบบ่อย

Coinbase เป็นกระเป๋าเงิน WAX หรือไม่?

คุณสามารถขาย NFTs ในกระเป๋าเงิน WAX ได้หรือไม่?

กระเป๋าเงินไหนที่ใช้สำหรับเก็บ WAX?

เราสามารถส่ง WAX ไปยัง Coinbase ได้หรือไม่?

🎄แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | ธันวาคม 2024
🎄แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | ธันวาคม 2024
🎄แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | ธันวาคม 2024

ข้อจำกัดความรับผิด

ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์

Akhradet-Mornthong-Morn.jpg
Akradet Mornthong
อัครเดช หมอนทอง เป็น นักแปล/นักเขียนคอนเทนต์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน NFT Games, Metaverse, AI, Crypto และเทคโนโลยีใหม่ๆ เขาจบการศึกษาในสาขาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสากล และมีประสบการณ์ในการทำงานในวงการเกมมากกว่า 10 ปี เมื่อ NFT Games ได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาก็ไม่พลาดที่จะก้าวเข้ามาในวงการนี้เพื่อศึกษาข้อมูลในเชิงลึกต่างๆ ของวงการ NFT รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Blockchain และ Crypto อีกด้วย
READ FULL BIO
ได้รับการสนับสนุน
ได้รับการสนับสนุน