Web3 Wallet คืออะไร? ก่อนที่เราจะมาหาคำตอบในเรื่องนี้ เราจะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับความเป็นมาเป็นไปของ Web3 กันเสียก่อน
Web3 นั้นถูกมองว่าเป็น “ยุคใหม่ของอินเตอร์เน็ต” ซึ่งพร้อมที่จะพลิกโฉมอุตสาหกรรมต่างๆ ในแบบที่ Web2 เคยทำต่อ Web1 หรือเหมือนที่ Netflix เข้ามาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมภาพยนตร์ระดับ Blockbuster คลื่นลูกใหม่ของเทคโนโลยีนี้มีรากฐานมาจากแอปพลิเคชั่นแบบกระจายศูนย์ (DApps) ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์จากความสามารถของบล็อกเชน เช่นเดียวกับ Machine Learning และ Artificial Intelligence (AI) เพื่อช่วยทำให้แอปพลิเคชั่นมีความชาญฉลาดและปรับเปลี่ยนได้มากยิ่งขึ้น
ดังนั้น เมื่อ Web3 ได้รับความนิยมมากขึ้น DApps, DeFi, Wallets และนวัตกรรมอื่นๆ อีกมากมายจึงได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้สามารถเข้าร่วม Web3 ได้สะดวกยิ่งขึ้น Web3 Wallets ทำหน้าที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของ Web3 ซึ่งช่วยให้ผู้คนหรือบริษัทต่างๆ สามารถจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลของพวกเขาได้อย่างสะดวกและง่ายดาย ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำ “Web3 Wallets ที่ดีที่สุด 15 อันดับแรก” ที่คุณสามารถใช้เพื่อจัดการทรัพย์สินของคุณและก้าวเข้าสู่พื้นที่ Web3 ได้
Web3 Wallet คืออะไร?
พูดง่ายๆ ก็คือ Web3 Wallet เป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ช่วยให้เราเข้าถึงพื้นที่ Web3 ได้ มันคล้ายๆ กับ Crypto Wallets ทั่วไปที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดเก็บ, ส่ง, และรับสกุลเงินคริปโตได้ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ใช้งานยังสามารถโต้ตอบกับสัญญาอัจฉริยะ, ทำธุรกรรม NFT, พัฒนาแพลตฟอร์มบล็อกเชน, และเชื่อมต่อกับคอมมูนิตี้ผ่านกระเป๋าเงินเหล่านี้ได้ และมักจะมีเบราว์เซอร์ฝังอยู่ในตัว ซึ่งช่วยให้เราใช้งานแอปพลิเคชั่นรูปแบบใหม่ๆ นอกเหนือจากที่กระเป๋าเงินดิจิทัลทั่วไปสามารถทำได้
โดยทั่วไป กระเป๋าเงินเหล่านี้จะเป็นแบบ Non-Custodial Wallets (กระเป๋าเงินแบบที่ผู้ใช้งานจะเป็นผู้เก็บรักษา Private Key ด้วยตนเอง) นั่นหมายความว่า คุณสามารถทำธุรกรรมได้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยที่ไม่ต้องมากังวลกับพ่อค้าคนกลาง (เช่น ธนาคาร) นอกจากนี้ คุณสามารถควบคุมเงินทุนของคุณได้อย่างสมบูรณ์ และคุณยังไม่จำเป็นต้องผ่าน KYC/AML เพื่อสมัครใช้งานอีกด้วย
ต่อไปนี้คือคำศัพท์ที่สำคัญบางคำที่เกี่ยวข้องกับ Web3 Wallets:
- Public Key: ชุดตัวอักษรและตัวเลขที่จะช่วยให้คุณฝากและรับธุรกรรมคริปโตได้
- Private Key: ทำงานคล้ายกับรหัสผ่าน เป็นตัวเลขที่ใช้ยืนยันธุรกรรมจำนวนมาก ใครๆ ก็มีสิทธิ์เข้าถึง Public Key ของ Web3 Wallets ได้ แต่ Private Key จะช่วยให้คุณอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของเพื่อเข้าถึงเงินทุนคุณได้
- Seed Phrase: เป็นรายการคำแบบสุ่ม 12–24 คำที่ใช้ในการกู้คืนกระเป๋าเงินคริปโต
คุณสามารถใช้ Web3 Wallets ได้จากทั่วทุกมุมโลก ต่อไป เรามาดูประโยชน์หลักๆ ของมันกัน
ประโยชน์ของการใช้งาน Web3 Wallet
Web3 Wallets จะช่วยให้เราสามารถควบคุมและจัดการธุรกรรมได้อย่างยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น และนี่คือข้อดีบางประการของการใช้งานกระเป๋าเงินเหล่านี้:
เป็นมิตรกับผู้ใช้งาน
Web3 Wallets ส่วนใหญ่จะใช้งานได้ง่ายและสามารถจัดการสินทรัพย์ของคุณได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ กระเป๋าเงินประเภทนี้มักจะสมัครใช้งานได้ง่าย ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งานที่ยังใหม่ต่อพื้นที่ Crypto
ขั้นตอนการสมัครนั้นจะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที เมื่อคุณสมัครเสร็จแล้ว คุณก็สามารถเริ่มทำธุรกรรมหรือใช้งานผลิตภัณฑ์ Web3 ต่างๆ ได้เลย กระเป๋าเงินเหล่านี้ใช้งานได้ง่ายกว่ามาก หากเทียบกับกระเป๋าเงินดิจิทัลแบบเดิมๆ
ความเป็นส่วนตัวและการไม่เปิดเผยตัวตน
การปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ Web3 Wallets เมื่อใช้งานกระเป๋าเงินเหล่านี้ ข้อมูลส่วนตัวของคุณจะได้รับการคุ้มครองและปลอดภัย ซึ่งหมายความว่า ในขณะที่คุณทำธุรกรรมกับ Address อื่นๆ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรู้ข้อมูลของผู้รับได้
ความปลอดภัยที่เพิ่มมากขึ้น
ความปลอดภัยของสินทรัพย์ของคุณคือสิ่งที่คุณจะได้รับจากการใช้ Web3 Wallets กระเป๋าเงินเหล่านี้ช่วยให้คุณแน่ใจได้ว่า การลงทุนของคุณจะปลอดภัยในระหว่างการทำธุรกรรม นอกจากนี้ ข้อมูลต่างๆ, ตัวตน, และการเข้าถึงเงินทุนของคุณก็ยังจะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยอีกด้วย กระเป๋าเงินส่วนใหญ่จะทำการเข้ารหัสข้อมูลในขั้นตอนการลงทะเบียน/ลงชื่อเข้าใช้ — ที่คุณต้องใส่รายละเอียดของคุณลงไป — เอาไว้ เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีช่องโหว่หรือบุคคลใดๆ ที่สามารถเข้าถึงกระเป๋าเงินของคุณได้
ต่อไป เรามาดู Web3 Wallets ที่ดีที่สุด 15 อันดับแรกที่เป็นที่นิยมในพื้นที่ Crypto กันดีกว่า
Web3 Wallet ที่ดีที่สุด 15 อันดับแรก
นี่คือรายชื่อของ Web3 Wallets ที่ได้รับความนิยมและมีความน่าเชื่อถือที่สุดที่เรานำมาให้คุณได้เลือกใช้งานกัน
1. OKX
OKX Wallet คือ กระเป๋าเงินคริปโตที่ถูกพัฒนาขึ้นมาโดย OKX บริษัทกระดานเทรดชั้นนำ กระเป๋าเงินได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเก็บ, จัดการ, และแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโตต่างๆ ได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย
กระเป๋าเงินนี้เต็มไปด้วยคุณสมบัติพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การรองรับสกุลเงินที่หลากหลาย, ความสามารถในการซื้อขายในตัว, และสามารถทำการ Staking เพื่อรับรางวัลได้ เป็นต้น OKX Wallet สามารถใช้งานได้ทั้งบนมือถือและเว็บเบราว์เซอร์ ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงสินทรัพย์คริปโต และจัดการกับพอร์ตการลงทุนของคุณได้ทุกที่ที่คุณต้องการ
นอกจากนี้ กระเป๋าเงินนี้ยังมีฟีเจอร์ในการกู้คืนสินทรัพย์อีกด้วย โดยการใช้ เทคโนโลยี MPC เพื่อแยก Private Key ของผู้ใช้งานออกเป็น 3 ส่วน ช่วยให้คุณไม่ต้องใช้งาน Key หรือ Seed Phrases ในแบบเดิมๆ ไปลองใช้งานได้ที่นี่
2. ZenGo
ZenGo เป็นบริษัทสัญชาติอิสราเอลที่ทำให้การใช้งานสกุลเงินคริปโตกลายเป็นเรื่องง่าย ปัจจุบัน ZenGo รองรับสกุลเงินคริปโตมากกว่า 70 สกุล และจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แพลตฟอร์มนี้รองรับโทเค็นชั้นนำส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Bitcoin, Ethereum, Tether, Dogecoin และอื่นๆ อีกมากมาย
พวกเขาแทนที่การใช้งาน Private Key ด้วยการแชร์ข้อมูลลับ 2 รายการที่สร้างขึ้นผ่านสูตรทางคณิตศาสตร์ ข้อมูลตัวหนึ่งจะถูกเก็บไว้บนมือถือของคุณ ในขณะที่อีกตัวหนึ่งจะถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ ZenGo ซึ่งจะคล้ายกับการทำงานของ Custodial Wallets ที่กระดานเทรดจะเก็บ Private Keys ไว้บนเซิร์ฟเวอร์ของพวกเขาเอง
นอกจากนี้ กระเป๋าเงินนี้ยังใช้การสแกนใบหน้าของคุณแบบไบโอเมตริกซ์ 3 มิติเพื่อเข้ารหัสทุกอย่าง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับสินทรัพย์ของผู้ใช้งาน อีกทั้ง ผู้ใช้งานยังสามารถรับดอกเบี้ยจากเหรียญหรือโทเค็นที่เลือก, สวอป, และจัดเก็บสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณได้ แอปมือถือเปิดให้บริการแบบ Global อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์บางอย่างเช่น ผู้ให้บริการชำระเงินบุคคลที่สาม จะเปิดให้บริการในบางภูมิภาคเท่านั้น
การใช้งาน ZenGo จะมีการเก็บค่าธรรมเนียมบางอย่าง ซึ่งแบ่งแยกย่อยไปตามกิจกรรมดังต่อไปนี้;
- ค่าธรรมเนียมแลกเปลี่ยน Cryto-to-Crypto อยู่ที่ 0.5% บวกค่าธรรมเนียมเครือข่าย
- ค่าธรรมเนียมแลกเปลี่ยน Fiat-to-Crypto อยู่ที่ 5.99% (บัตรเดบิต/เครดิต), 1.99% (โอนเงินผ่านธนาคารในสหภาพยุโรปและอังกฤษ) หรือ 0.1% สำหรับ Stablecoins ในบางภูมิภาค
- ค่าธรรมเนียมแลกเปลี่ยน Crypto-to-Fiat อยู่ที่ 1.99%
ลองใช้กระเป๋าเงิน ZenGo เพื่อเข้าถึงโลกแห่ง Web3 ได้แล้ววันนี้ ลองใช้ คลิกเลย!
3. Coinbase Wallet
นี่เป็น Self-Custody Wallet ที่ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงโทเค็นและ DApps นับพัน และสามารถจัดเก็บ NFT (โทเค็น ERC-721) ทั้งหมดไว้ในที่เดียวได้
กระเป๋าเงินนี้จะช่วยให้คุณเข้าถึงระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) ได้อย่างราบรื่น และยังสามารถเชื่อมต่อโทเค็น Ethereum ของคุณกับโปรเจกต์ DeFi มากมายได้ นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถรับสิทธิ์ในการรับ Airdrops ออนไลน์ได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้งานได้รับเหรียญคริปโตไปเลยฟรีๆ
คุณยังสามารถใช้งานกลุ่มสภาพคล่อง DeFi เพื่อให้กู้/ยืม หรือแลกเปลี่ยนสินทรัพย์บนกระดานเทรดแบบกระจายศูนย์ (DEXs) ต่างๆ ได้ นอกจากนี้ กระเป๋าเงินนี้ยังรองรับ ICO ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสำรวจเหรียญใหม่ๆ ในราคาที่ดีที่สุดได้ อีกทั้ง คุณยังสามารถใช้เว็บกระจายศูนย์บนโทรศัพท์ หรือ เบราว์เซอร์ของคุณเพื่อค้นหาร้านค้าที่ให้บริการคริปโตได้
ด้วย Coinbase Wallet คุณสามารถเป็นสมาชิก DAO และเข้าร่วมในโปรเจกต์ Web3 ยักษ์ใหญ่ได้
กระเป๋าเงินจะเก็บรักษาข้อมูลของคุณให้ปลอดภัยโดยการจัดเก็บ Private Keys บนอุปกรณ์ของคุณ และใช้ 2FA (การตรวจสอบสิทธิ์แบบสองปัจจัย) เพื่อควบคุมการเข้าถึง นอกจากนี้ คุณยังสามารถตั้งค่า PIN สี่หลักเพื่อปลดล็อคกระเป๋าเงินและยืนยันการทำธุรกรรมได้
รอช้าจะไม่ทันคนอื่น มาสมัคร Coinbase Web3 Wallet กันเลยดีกว่า!
4. Wirex
Wirex คือ แพลตฟอร์มการชำระเงินที่มีความหลากหลาย ซึ่งช่วยให้คุณสามารถซื้อขาย, จัดเก็บ, แลกเปลี่ยน หรือใช้งานได้ทั้งสกุลเงินคริปโตและสกุลเงินเฟียตทั่วไป
Wirex เปิดตัวแพลตฟอร์มนี้ในปี 2014 โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองลอนดอน, ประเทศอังกฤษ พวกเขาให้บริการบัตรพิเศษที่ทำงานคล้ายกับบัตรเดบิต ด้วย Wirex Debit Card นี้ คุณสามารถซื้อสินค้าได้ทุกที่ที่รับบัตร Visa
นอกจากบัตรดังกล่าวแล้ว Wirex ยังให้บริการกระเป๋าเงินที่รองรับการใช้งานกับ NFT และ DeFi กระเป๋าเงินของพวกเขาได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานได้โดยไม่ต้องใช้ Seed Phrase ซึ่งทำให้มันมีความปลอดภัยและใช้งานได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ กระเป๋าเงินยังสามารถใช้งานกับเครือข่ายบล็อกเชนยอดนิยมต่างๆ เช่น Bitcoin และ Avalanche รวมถึงเครือข่ายอื่นๆ ที่ทำงานกับ Ethereum ได้อีกด้วย นั่นหมายความว่า คุณสามารถจัดการกับสกุลเงินคริปโตต่างๆ มากมายได้ด้วยการใช้เพียงแค่กระเป๋าเงินของ Wirex เท่านั้น
5. YouHodler
YouHodler คือ แพลตฟอร์มคริปโตที่มีทุกสิ่งที่คุณต้องการ โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กระเป๋าเงินที่มาพร้อมกับฟีเจอร์พิเศษมากมายที่สามารถใช้งานได้ทั้งบนเดสก์ท็อปและมือถือ ก็คือหนึ่งในบริการที่พวกเขานำเสนอ
แพลตฟอร์มนี้มุ่งมั่นที่จะกลายมาเป็นโซลูชั่นที่สมบูรณ์แบบสำหรับการจัดเก็บสกุลเงินคริปโตของคุณ พร้อมบริการเสริมหลากหลายที่ทำงานร่วมกับกระเป๋าเงินคริปโตของพวกเขาได้อย่างราบรื่น
ที่ YouHodler คุณสามารถเข้าถึงสินทรัพย์ได้มากกว่า 50 รายการ รวมถึงสินทรัพย์ชั้นนำทั้งหมดด้วย เปิดกระเป๋าเงินได้อย่างง่ายดายผ่านเว็บเบราว์เซอร์บนคอมพิวเตอร์ หรือ บนอุปกรณ์มือถือที่ใช้ระบบ Android หรือ iOS
ยิ่งไปกว่านั้น กระเป๋าเงินนี้ยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจพร้อมให้คุณเลือกใช้งาน อย่างเช่น รับ APR สูงสุดถึง 10.7% จากคริปโตที่คุณถือครองไว้, บริการสินเชื่อที่มาพร้อม LTV สูงสุดถึง 90%, และความสามารถในการใช้กลยุทธ์เพื่อสร้างผลตอบแทนที่จะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น
6. Guarda Wallet
Guarda Wallet เป็นกระเป๋าเงินคริปโตแบบ Multiplatform ที่ช่วยให้คุณควบคุมและจัดการสินทรัพย์ได้ด้วยตนเอง คุณสามารถซื้อขายโทเค็นมากกว่า 400 รายการ อีกทั้ง ยังรองรับบล็อกเชนอีกมากกว่า 50 เครือข่าย กระเป๋าเงินนี้สามารถใช้งานได้บนเว็บ, เดสก์ท็อป, (Linux, Windows และ macOS), มือถือ (iOS, Android) และยังอยู่ในรูปแบบส่วนขยายของ Google Chrome อีกด้วย
7. Bitget Wallet
หลังจากความร่วมมือกับ Bitget Exchange กระเป๋าเงิน BitKeep ได้ทำการรีแบรนด์และเปลี่ยนชื่อมาเป็น Bitget Wallet กระเป๋าเงิน Web3 ตัวนี้มีฟีเจอร์ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น การซื้อขายแบบผสานรวม (เช่น DeFi Limit Order), รองรับ Multichain, เบราว์เซอร์ DApp ในตัว, ตลาด NFT, PoS Staking, และเทคนิคการเข้ารหัสที่ดียิ่งขึ้นเพื่อปกป้องเงินทุนของคุณจากผู้ไม่ประสงค์ดี
ด้วยกลไกการเข้ารหัสระดับเรือธงอย่าง Double Encryption Storage Mechanism (DESM) ทำให้ Bitget Wallet เป็นกระเป๋าเงินที่มีความปลอดภัยมาก นอกจากนี้ ยังมีโหมดดูอย่างเดียวเพื่อการป้องกันเพิ่มเติมอีกด้วย หากคุณยังรู้สึกไม่สบายใจ พวกเขายังมีกองทุนคุ้มครองมูลค่ากว่า 400 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะช่วยให้คุณคลายความกังวลได้อย่างแน่นอน
Bitget Wallet รองรับมากกว่า 90 เครือข่าย และ สกุลเงินคริปโตกว่า 250,000 รายการ ซึ่งรวมถึง โทเค็น BRC-20 ด้วย เพื่อลดความซับซ้อนในโลกของ Web3 ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้งาน GASU ได้
GASU คือโทเค็นอย่างเป็นทางการของ GASUtopia ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานแก๊สแบบข้ามเครือข่าย ที่ช่วยให้การเคลื่อนย้ายสิ่งต่างๆ ระหว่างบล็อกเชนทำได้ง่ายยิ่งขึ้น และเมื่อใช้งาน Bitget Wallet ผู้ใช้งานจะสามารถได้รับค่าแก๊สคืนได้สบายๆ
8. MetaMask
MetaMask เป็น Non-Custodial Wallet ที่ช่วยให้คุณสามารถซื้อ, จัดเก็บ, ส่ง, และแลกเปลี่ยนโทเค็นได้ มีให้ใช้งานเป็นส่วนขยายเบราว์เซอร์บน Chrome และเว็บเบราว์เซอร์ยอดนิยมอื่นๆ รวมถึงยังสามารถใช้ได้ทั้งบน Android และ iOS อีกด้วย
MetaMask ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับ Ethereum Blockchain โดยเฉพาะ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถใช้เก็บเหรียญ ETH และโทเค็น ERC-20 อื่นๆ ได้ นอกจากนี้ มันยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบและใช้งาน DApps ที่มีอยู่มากมายได้อย่างปลอดภัย
สำหรับผู้ใช้งานขั้นสูง MetaMask จะช่วยให้คุณโต้ตอบกับ DApp ได้ในแบบ Permissionless (ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้โดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ) ซึ่งหมายความว่า คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อ Private Key กับ DApps ดังนั้น กระบวนการทั้งหมดจึงปลอดภัยกว่ามาก
แม้ว่า MetaMask จะถูกใช้งานสำหรับ Ethereum Blockchain เสียส่วนใหญ่ แต่มันก็สามารถเข้าถึงเครือข่ายอื่นๆ ที่รองรับ EVM ได้อย่างราบรื่น ซึ่งรวมไปถึง Binance Smart Chain, Polygon, HECO และอื่นๆ อีกมากมาย คุณสามารถสร้างกระเป๋าเงินคริปโตมากมายได้ด้วยการใช้แอปนี้เพียงแอปเดียวเท่านั้น
ด้วย MetaMask คุณสามารถควบคุมการทำธุรกรรมของคุณได้อย่างสมบูรณ์ คุณสามารถเลือกได้ว่าจะให้แสดงข้อมูลใด และจะเก็บข้อมูลไหนไว้เป็นการส่วนตัว มันจะช่วปกป้องข้อมูลการเข้าสู่ระบบของคุณ และ Private Key ก็จะได้รับการเข้ารหัสด้วย คุณเพียงแค่ต้องเก็บรักษา Seed Phrase เอาไว้ให้ปลอดภัย เพื่อที่จะไม่สูญเสียความสามารถในการเข้าถึงบัญชีของคุณไป
9. Rainbow
จากที่ระบุไว้บนเว็บไซต์ของพวกเขา Rainbow เป็น Non-Custodial Wallets ที่สนุก, ใช้งานได้ง่าย, และมีความปลอดภัย ช่วยให้ผู้ใช้งานสร้างกระเป๋าเงิน Ethereum, เก็บสะสม NFT, และสำรวจโลกใหม่ของ Web3 ได้
ปัจจุบัน Rainbow สามารถใช้งานได้ทั้งในอุปกรณ์ iOS และ Android
กระเป๋าเงินouhมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ๆ มากมาย เช่น การรองรับ NFT, การผสานรวม WalletConnect และอื่นๆ อีกมากมาย
กระเป๋าเงิน Rainbow เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้งานได้ง่าย และยังมีฟังก์ชั่นสวอปในตัวอีกด้วย มันจะช่วยให้คุณสามารถทำธุรกรรมระหว่างโทเค็น ERC-20 หลายรายการโดยไม่ต้องทำการแลกเปลี่ยนภายนอก กระเป๋าเงินนี้ยังช่วยให้แน่ใจว่าคุณจะไม่ตกเป็นเหยื่อของโครงการหลอกลวง เนื่องจากมันมีรายการโทเค็นที่ผ่านการตรวจสอบแล้วว่าปลอดภัยสำหรับการแลกเปลี่ยน
กระเป๋าเงิน Rainbow ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย จากการที่มันช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเก็บ Private Key ที่เข้ารหัสไว้บน iCloud เพื่อการกู้คืนบัญชีของคุณได้ หากคุณประสบปัญหาในการรักษาความปลอดภัย Seed Phrase กระเป๋าเงินของ Rainbow อนุญาตให้คุณสามารถสำรองข้อมูลได้ ดังนั้น คุณจะไม่เสียสิทธิ์ในการเข้าถึงกระเป๋าเงินของคุณ
10. Trust Wallet
Trust Wallet เป็น Web3 Wallet ที่ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึง Cryptocurrency และ NFTs หลายล้านตัวที่อยู่บนบล็อกเชนต่างๆ เช่น Ethereum และ Binance Chain ได้อย่างง่ายดาย และคุณสามารถเติมเงินในกระเป๋าเงินของคุณได้โดยตรงผ่านผู้ให้บริการ 3rd Party เช่น Mercuryo, MoonPay, Ramp Network, Simplex, Transak และ Wyre เป็นต้น
มันทำงานได้ดีบนอุปกรณ์พกพา และยังสามารถใช้งานแอปต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยใช้เวลาตั้งค่าเพียงไม่กี่นาที Trust Wallet ยังอนุญาตให้ผู้ใช้งานที่มีกระเป๋าเงินอื่นๆ เช่น MetaMask หรือ MyEtherWallet นำเข้าข้อมูลโดยใช้ Secret Phrase หรือ Private Key ได้อีกด้วย
ผู้ใช้งานสามารถรับรางวัลเพิ่มเติมได้ด้วยการล็อกสินทรัพย์ที่ถือครองไว้โดยตรงจากกระเป๋าเงินของพวกเขา โทเค็นบางส่วนที่สามารถล็อกได้คือ BNB, Cosmos และ Tezos เป็นต้น Trust Wallet ยังมีเบราว์เซอร์ในตัวสำหรับ DApps ด้วยเช่นกัน ดังนั้น คุณจึงสามารถเข้าถึงบริการ DeFi ที่คุณชื่นชอบ หรือค้นหาบริการใหม่ๆ ทั้งหมดได้ภายใน 1/2 แดชบอร์ดเท่านั้น
ในแง่มุมของความปลอดภัย Trust Wallet รักษาความปลอดภัยด้วย 12-Word Recovery Phrase และสามารถใช้งานได้ทั้งในระบบ Android และ iOS โดยการใช้ PIN หรือไบโอเมตริกซ์ อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนเดียวของกระเป๋าเงินนี้คือ มันไม่รองรับ 2FA ซึ่งหมายความว่า หากมีผู้ไม่ประสงค์ดีพยายามแฮ็กบัญชีของคุณ คุณจะไม่สามารถป้องกันได้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจากคุณไม่สามารถตั้งค่ารหัสยืนยันส่งไปยังอีเมลหรือส่งเป็นข้อความได้
11. Argent
Argent Wallet ช่วยให้คุณสามารถซื้อ, รับ, ล็อก, และซื้อขายบน Ethereum Layer 2 ได้โดยมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำ สุดท้ายแล้ว กระเป๋าเงิน Argent ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ผสานรวม Ethereum DApps ไว้ในแอปที่มีอินเทอร์เฟสการใช้งานที่ครอบคลุมเพียงแอปเดียว มันสามารถใช้งานได้กับ Ethereum โดยรองรับเฉพาะโทเค็นและ NFT ที่อยู่บนเครือข่าย Ethereum ทั้งหมดเท่านั้น
หากต้องการใช้งานแพลตฟอร์ม ผู้ใช้งานก็เพียงแค่ต้องระบุหมายเลขโทรศัพท์ แล้วสร้างชื่อผู้ใช้งานเท่านั้น ชื่อผู้ใช้งานนี้สามารถใช้เพื่อส่งและรับเหรียญ/โทเค็นคริปโตได้ โดยจะคล้ายกับแพลตฟอร์มการชำระเงินแบบดั้งเดิมเช่น Cashapp
Argent Wallet ยังมีบริการ “Bulletproof Security” ซึ่งหมายความว่า ผู้ใช้งานสามารถกู้คืนกระเป๋าเงินของพวกเขาได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องใช้ Seed Phrase แต่จะเป็นการใช้ “Social Recovery” ซึ่งเป็นการเสนอชื่อญาติสนิทให้เป็น “การ์เดี้ยน” เพื่อช่วยยืนยันบัญชีของผู้ใช้งานในกรณีที่อุปกรณ์สูญหายหรือใช้อุปกรณ์ใหม่ได้
กระเป๋าเงินนี้ได้ผสานรวมเอาแพลตฟอร์มต่างๆ ของ Ethereum เข้ามาไว้ด้วยกัน เช่น Compound และ Kyber ซึ่งช่วยให้คุณสร้างรายได้จากการล็อกโทเค็นภายในแอปได้ Argent ได้รวมเอาคุณสมบัติเหล่านั้นมาไว้ในแอปมือถือ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถลงทุนได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ มันยังรองรับ WalletConnect สำหรับโทเค็นที่ไม่ได้ผสานรวมเข้ากับ Argent Wallet โดยตรงอีกด้วย
12. Math Wallet
Math Wallet ระบุว่าพวกเขาคือกระเป๋าเงินแบบ Multichain แห่งโลก Web3 ซึ่งรองรับโทเค็นและเหรียญจากเครือข่ายบล็อกเชนมากกว่า 100 เครือข่าย กระเป๋าเงินตัวนี้สามารถใช้งานได้ทั้งบน Android, IOS และเป็นส่วนขยายมือถือได้อีกด้วย แอปนี้ยังมีคุณสมบัติพื้นฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการส่งหรือการรับ และยังช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง DApps ได้เช่นกัน
สิ่งนี้ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงบริการ DeFi บนโทรศัพท์ของพวกเขาได้ ยิ่งไปกว่านั้น Math Wallet ยังอนุญาตให้ผู้ใช้งานทำการ Staking จากแอปได้โดยตรง กระเป๋าเงินกำหนดให้มีการล็อกคริปโตที่ Stake ไว้เป็นเวลา 21 วัน และระงับการถอนเป็นเวลา 28 วัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเครือข่ายได้อีกทางหนึ่ง
Math Wallet เป็นกระเป๋าเงินแบบ Non-Custodial สินทรัพย์ของคุณจะได้รับการปกป้องโดย Private Keys, Mnemonic Phrases, 2FA และคุณสมบัติความปลอดภัยอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถเลือกใช้งานได้ ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ใช้งานหน้าใหม่ หรือ ผู้มีประสบการณ์ที่ต้องการความราบรื่นในการใช้งาน Web3
นอกจากนี้ พวกเขายังรองรับกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์อย่าง Ledger อีกด้วย ซึ่งสะดวกสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการจัดเก็บสินทรัพย์แบบออฟไลน์เมื่อไม่ได้ทำการเทรด MathWallet เป็นโซลูชั่นที่สมบูรณ์แบบสำหรับทุกความต้องการในการจัดเก็บสินทรัพย์คริปโตของคุณ
13. Cypher
กระเป๋าเงิน Cypher ถือเป็นน้องใหม่ในตลาด คุณสามารถใช้ Cypher เพื่อย้ายไปมาระหว่างบล็อกเชนต่างๆ เชื่อมต่อกับ DApps ที่คุณชื่นชอบในระบบนิเวศที่แตกต่างกัน, และจัดการพอร์ตสกุลเงินคริปโตทั้งหมดของคุณได้อย่างง่ายดาย จัดว่าเป็นกระเป๋าเงินแบบ Multichain ที่มากความสามารถจริงๆ
Cypher ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างราบรื่น ช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับระบบนิเวศ L2 ได้ นอกจากนี้ Cypher ยังมีเบราเซอร์ในตัวอีกด้วย ซึ่งช่วยผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง DApps ที่พวกเขาชื่นชอบได้ง่ายๆ แทนที่จะต้องสร้างและจัดการกระเป๋าเงินหลายใบ แค่มีกระเป๋าเงินนี้คุณสามารถเข้าถึงพื้นที่ Web3 ทั้งหมดได้ในที่เดียว
และหากคุณต้องการใช้บริการ Fiat on-ramp (การชำระเงินด้วยสกุลเงินเฟียตโดยตรง) ที่เรียบง่าย คุณคงจะยินดีที่ได้รู้ว่า Cypher มีบริการของผู้ให้บริการชำระเงิน 3rd Party อยู่ด้วย ซึ่งประกอบไปด้วยผู้ให้บริการที่มีชื่อเสียง เช่น Coinbase Pay, Onmeta และ Sardine Pay ที่เพิ่งจะผสานรวมเข้ากับกระเป๋าเงิน Metamask ด้วยเหตุผลเดียวกัน
14. FoxWallet
FoxWallet เป็นกระเป๋าเงิน Web3 แบบ Non-Custodial ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้มือใหม่เริ่มต้นและเชื่อมต่อกับโลก Web3 ได้อย่างง่ายดาย ผู้พัฒนาของ FoxWallet เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนและความปลอดภัยของเครือข่าย และโค้ดของกระเป๋าเงินก็ได้รับการตรวจสอบโดยสถาบันที่มีชื่อเสียง ทำให้พวกเขามีความน่าเชื่อถือเพิ่มมากขึ้น
FoxWallet มีคุณสมบัติที่หลากหลาย ไม่เพียงแต่สามารถส่งหรือรับธุรกรรมได้เท่านั้น แต่ผู้ใช้งานยังสามารถซื้อสกุลเงินคริปโตได้โดยตรงจากภายใน FoxWallet นอกจากนี้ คุณยังสามารถเข้าถึง Etherscan ได้โดยไม่ต้องออกจากแอปมือถือ ช่วยให้คุณสามารถยืนยันการทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็ว
หากคุณคิดว่านั่นน่าประทับใจแล้ว รอจนกว่าคุณจะได้ฟังเรื่องต่อไปที่เรากำลังจะบอก FoxWallet เป็นหนึ่งในกระเป๋าเงินที่สามารถทำงานร่วมกับเครือข่ายอื่นๆ ได้มากที่สุดในตลาด มันรองรับทั้งเชน, โรลอัพ, และเทสเนตยอดนิยมต่างๆ มากมาย ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังมี Bridges (สะพานเชื่อมไปยังเครือข่ายอื่น) ที่ช่วยให้คุณเชื่อมต่อไปยังเชนและโรลอัพอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมในตัวอีกด้วย ด้วยตัวเลือกมากมายเหล่านี้ ผู้ใช้งานสามารถทำกิจกรรม Web3 ส่วนใหญ่ได้โดยไม่ต้องออกจากแอปเลย
คุณสามารถค้นหา DApps มากมายภายในกระเป๋าเงินได้ เพราะมันมาพร้อมกับเบราเซอร์ในตัว FoxWallet ยังรองรับ NFT, WalletConnect และมีฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมายที่เยอะเกินกว่าเราจะพูดได้หมด
15. Exodus
Exodus Wallet คือหนึ่งในกระเป๋าเงินคริปโตแบบดั้งเดิมที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด Exodus — ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่รัฐเนบราสกา — ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 โดย Daniel Castagnoli และ JP Richardson โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงสกุลเงินดิจิทัลได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่กระเป๋าเงินต่างๆ ถือกำเนิดขึ้นมาแล้วก็หายไป Exodus ยังคงอยู่ และยังเป็นตัวเลือกที่ดีให้แก่ผู้ที่เลือกใช้งานมัน
วงการคริปโตเคอร์เรนซี่ก้าวหน้าไปอย่างมาก รวมถึงกระเป๋าเงินนี้เช่นกัน Exodus ก้าวทันยุคสมัยและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมาเพื่อรองรับการทำงานของ Web3 ซึ่งรวมไปถึงการรองรับ NFT, เครือข่ายบล็อกเชนมากมาย และผู้ให้บริการการชำระเงิน 3rd Party เช่น Apple Pay
ยิ่งไปกว่านั้น ในขณะที่บางคนเลือกที่จะออกไปสำรวจพื้นที่อื่นๆ Exodus ยังคงภักดีต่อชุมชน Bitcoin โดยการสนับสนุน Lightning Network ดังนั้น ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถชำระเงิน Bitcoin ได้อย่างรวดเร็วและราคาไม่แพง และคุณคงจะยินดีที่จะได้ทราบว่า Exodus ยังมี Lightning Wallet ในตัวอีกด้วย
นอกจากนี้ Exodus ยังสนับสนุนการวิเคราะห์สำหรับเหรียญที่คุณชื่นชอบอีกด้วย เช่น Top Movers (ความเคลื่อนไหวของเหรียญชั้นนำ) และมันยังมีส่วนขยายเบราว์เซอร์และรองรับการเชื่อมต่อกระเป๋าเงินได้ ดังนั้น คุณไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่เพียงบนมือถือเท่านั้น สุดท้าย หากคุณยังใหม่กับ Web3 และไม่แน่ใจว่าจะติดตามข่าวสารได้จากที่ไหน Exodus Wallet นั้นก็ยังมีฟีดข่าวในตัวอีกด้วย
ทำไมเราถึงต้องใช้ Web3 Wallet?
หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ต้องพิจารณาก่อนที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในพื้นที่ Web3 คือ คุณต้องมี Web3 Wallets ที่เหมาะสม มันจะช่วยเก็บรักษา Private Key ของคุณไว้ให้ปลอดภัย และช่วยให้คุณส่งและรับสินทรัพย์คริปโต เช่น Ethereum, Bitcoin, Solana และอื่นๆ อีกมากมายได้
กระเป๋าเงินเหล่านี้มีให้เลือกใช้งานอยู่หลายร้อยรายการ แต่แพลตฟอร์มที่เราได้แนะนำไปข้างต้นนั้นเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมและมีความน่าเชื่อถือมากที่สุด ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ใช้งานในระดับเริ่มต้น กระเป๋าเงินเหล่านี้มีเครื่องมือมากมายที่จะช่วยคุณจัดการและจัดเก็บทรัพย์สินของคุณได้อย่างปลอดภัย
คำถามที่พบบ่อย
จะสร้าง Web3 Wallet ได้อย่างไร?
มี Web3 Wallet ให้เลือกใช้งานมากมายเพียงใด?
Trust Wallet เป็น Web3 Wallet หรือไม่?
Web3 Wallet คืออะไร?
Web3 Wallet ที่ดีที่สุดคือตัวใด?
Coinbase เป็น Web3 Wallet หรือไม่?
MetaMask เป็น Web3 Wallet หรือไม่?
ข้อจำกัดความรับผิด
ข้อมูลทั้งหมดที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของเราเผยแพร่ด้วยเจตนาที่ดีและเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น การกระทำใด ๆ ที่ผู้อ่านดำเนินการตามข้อมูลที่พบบนเว็บไซต์ของเราถือเป็นความเสี่ยงของผู้อ่านโดยเฉพาะ Learn ให้ความสำคัญกับข้อมูลคุณภาพสูง เราอุทิศเวลาให้กับการแยกแยะ ค้นคว้า และสร้างเนื้อหาเพื่อการศึกษาซึ่งเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานนี้และเพื่อสร้างเนื้อหาคุณภาพได้อย่างต่อเนื่อง พาร์ตเนอร์ของเราอาจตอบแทนเราด้วยค่าคอมมิชชั่นสำหรับการจัดวางตำแหน่งต่าง ๆ ในบทความของเรา อย่างไรก็ดี ค่าคอมมิชชั่นนี้ไม่มีผลต่อกระบวนการของเราในการสร้างเนื้อหาที่ไร้อคติ ตรงไปตรงมา และเป็นประโยชน์