รีวิว Binance 2024: นี่คือกระดานเทรดคริปโตที่เหมาะกับคุณหรือไม่?

Binance คือ กระดานเทรดคริปโตแบบรวมศูนย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขามีผลิตภัณฑ์และบริการมากมาย นอกเหนือไปจากการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล และด้วยจำนวนผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนมากกว่า 150 ล้านคนทั่วโลก ดูเหมือนว่า Binance ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่มันจะเป็นกระดานเทรดที่เหมาะสมกับคุณหรือไม่? ใน “รีวิว Binance” นี้ เราจะมาสำรวจคุณสมบัติและข้อเสนอต่างๆ ที่พวกเขามีเกี่ยวกับการซื้อขายคริปโต และอื่นๆ อีกมากมาย

ในบทความนี้ เรายังจะมาพูดถึงเรื่องที่เป็นประเด็นล่าสุด และข้อกังวลด้านกฎระเบียบเกี่ยวกับกระดานเทรดชั้นนำรายนี้ ผู้ใช้งาน Binance ควรที่จะกังวลหรือไม่? มาหาคำตอบกัน

รีวิว Binance: คะแนนโดยรวมจากเรา

Binance เป็นที่รู้จักในฐานะกระดานเทรดที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อพูดถึงเรื่องปริมาณการซื้อขายโดยรวม พวกเขามีบริการที่หลากหลาย น่าเสียดายที่พวกเขาไม่มีการสนับสนุนลูกค้าทางโทรศัพท์ แต่ถึงอย่างนั้น Binance ก็ยังถือว่าเป็นกระดานเทรดแบบรวมศูนย์ (CEX) ที่ดีที่สุดในโลกอย่างไม่ต้องสงสัยอย่างแน่นอน

เราสามารถคาดหวังอะไรจาก “รีวิว Binance” นี้ได้บ้าง?

ในการรีวิว Binance นี้ เรามาดูกันว่าแพลตฟอร์ม Binance นำเสนออะไรบ้าง รวมถึง การซื้อขายในประเภทต่างๆ (สปอต, อนุพันธ์, P2P และอื่นๆ) นอกจากนี้ เรายังจะมาสำรวจวิธีสร้างรายได้แบบพาสซีฟที่ Binance ตามมาด้วยฟีเจอร์พิเศษต่างๆ เช่น กลุ่มการขุด, เครื่องมือการจัดการสินทรัพย์, การเข้าถึง NFT และอื่นๆ อีกมากมาย

หลังจากตรวจสอบข้อเสนอต่างๆ ของ Binance แล้ว เราก็จะไปพิจารณากันต่อที่เรื่องความปลอดภัย และกฎระเบียบในการดำเนินงานของ Binance สุดท้าย เราจะมาโฟกัสที่ผู้ใช้งานของ Binance โดยจะเน้นไปที่ประสบการณ์ของผู้ใช้งาน, โครงสร้างค่าธรรมเนียม, คุณภาพของการสนับสนุนลูกค้า และทรัพยากรทางการศึกษา

รีวิวเหมาะสำหรับใคร?

โดยรวมแล้ว รีวิว Binance ฉบับสมบูรณ์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ยังใหม่กับสกุลเงินดิจิทัล, นักลงทุน, นักเทรดที่มีประสบการณ์, ผู้เชี่ยวชาญด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบ, ผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยี หรือแม้แต่กับผู้ที่ได้รับเงินเดือนเป็นสกุลเงินดิจิทัล

ตอนนี้ เรามาเริ่มต้นการรีวิว Binance อย่างละเอียด โดยเริ่มจากการตรวจสอบสอบภูมิหลังของ Binance และสถิติที่สำคัญกันเลยดีกว่า

Binance คืออะไร?

Binance คือ กระดานเทรดที่อยู่ในอันดับที่ 1 ในรายชื่อกระดานเทรดชั้นนำของ CoinMarketCap โดยมีคะแนนความน่าเชื่อถืออยู่ที่ 9.9 ซึ่งสูงกว่า 8.6 คะแนนของ Coinbase กระดานเทรดที่อยู่ในอันดับที่ 2 เป็นอย่างมาก

กระดานเทรดนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 โดยมี Changpeng Zhao (CZ) เป็นผู้ก่อตั้งและ CEO ทีมผู้ก่อตั้งในปัจจุบันยังรวมไปถึง He Yi ซึ่งอยู่ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด (CMO)

คณะกรรมการที่ปรึกษาระดับโลกประกอบไปด้วย Bruno Bezard, Ibukun Awosika, Leslie Maasdrop และสมาชิกคนอื่นๆ อีกมากมาย

สำหรับสถิติและตัวเลขต่างๆ Binance โฮสต์โทเค็นกว่า 385 รายการ และมีตลาดหรือคู่การซื้อขายมากกว่า 1,600 รายการ ในปี 2022 กระดานเทรดของพวกเขาทำสถิติมีปริมาณการซื้อขายรายวันโดยเฉลี่ยสูงถึง 65,000 ล้านดอลลาร์ โดยมีธุรกรรมสปอตมากกว่า 300,000 ล้านรายการเกิดขึ้นตลอดทั้งปีนั้น

นอกจากนี้ Binance U.S. ซึ่งเป็นบริษัทสาขาของ Binance ในสหรัฐฯ ยังไม่ได้เปิดให้บริการในทุกรัฐ และรองรับสกุลเงินดิจิทัลกว่า 150 สกุล ซึ่งสาเหตุหลักนั้นมาจากข้อกังวลด้านกฎระเบียบที่มีในสหรัฐฯ จากการจัดอันดับของ CoinMarketCap Binance U.S. อยู่ในอันดับที่ 52 ในขณะที่ Binance TR (ตุรกี) อยู่ในอันดับที่ 33

Binance ซึ่งเป็นบริษัทระดับโลก ยังมีคะแนนสภาพคล่องสูงสุดในบรรดากระดานเทรดทั่วโลกที่ 868 คะแนน ซึ่งเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พวกเขาสามารถพูดได้เต็มปากว่าเป็นกระดานเทรดอันดับหนึ่ง

Binance เปิดให้บริการที่ใดบ้าง?

Binance มีให้บริการในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก รวมทั้ง สหรัฐอเมริกา, ประเทศในยุโรปและเอเชียส่วนใหญ่, และบางประเทศในแอฟริกา, ตะวันออกกลาง, และอเมริกาใต้ อย่างไรก็ตาม พวกเขาถูกบล็อกในพื้นที่เนื่องจากกฎหมายการเงินท้องถิ่น เช่น มาเลเซีย แคนาดา เนเธอร์แลนด์ และเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ Binanceยังไม่สามารถเข้าใช้บริการได้จากในคิวบา, ซีเรีย, และไครเมีย

วิธีการสมัครบัญชี Binance

1. เพื่อสมัครบัญชี เริ่มด้วยการไปที่เว็บไซต์ของ Binance และคลิกที่ปุ่ม “Register” (ลงทะเบียน)

2. จากนั้น คุณสามารถสมัครบัญชีได้ด้วยการใช้อีเมล, หมายเลขโทรศัพท์, หรือบัญชี 3rd Party ต่างๆ (เช่น Google หรือ Apple)

3. หลังจากที่คุณยืนยันบัญชีของคุณด้วยรหัสที่ส่งไปยังอีเมลของคุณ คุณก็ได้ทำการสมัครบัญชี Binance อย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว

4. หลังจากที่คุณเสร็จสิ้นขั้นตอนก่อนหน้าแล้ว คุณจะต้องผ่านกระบวนการ KYC เพื่อรับสิทธิพิเศษของบัญชีเพิ่มเติม

รางวัล/โบนัสต้อนรับ

ในฐานะที่เป็นกระดานเทรดรายใหญ่ Binance จึงมีการแจกรางวัลมากมาย รางวัลเหล่านี้รวมไปถึง การเรียนรู้เพื่อรับคริปโตฟรี, รับคริปโตฟรีจากภารกิจต่างๆ, โบนัสต้อนรับ, และโปรแกรมพันธมิตร

เมื่อคุณสมัครบัญชีและเสร็จสิ้นกระบวนการ KYC คุณจะได้รับ 100 USDT คุณยังสามารถกลายมาเป็นพันธมิตรและรับรางวัลเพิ่มโดยการแนะนำเพื่อนของคุณได้ นอกจากนี้ การทำภารกิจต่างๆ ให้สำเร็จ เช่น การเรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้คุณได้รับคริปโตเพิ่มเช่นกัน

รีวิว Binance: ข้อเสนอหลัก

Binance คือ แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ซึ่งมีฟีเจอร์และข้อเสนอต่างๆ มากมาย ดังนั้น เราจะมาตรวจสอบข้อเสนอเหล่านี้ทีละรายการ ซึ่งจะรวมไปถึง การซื้อขาย, การสร้างรายได้แบบพาสซีฟ, เครื่องมือสำหรับนักลงทุนสถาบัน, สินเชื่อคริปโต, พื้นที่การเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi), NFT, บริการขุดบนคลาวด์ และ Binance Launchpad

ฟีเจอร์การซื้อขาย

การซื้อขายคือหัวใจสำคัญของกระดานเทรดคริปโต ต่อไปนี้คือ ระบบการซื้อขายทั้งหมดที่คุณสามารถทำได้บน Binance

การซื้อขายแบบสปอต และ การแปลงสกุลเงินดิจิทัล

ที่ Binance คุณสามารถเข้าร่วมการซื้อขายคริปโตแบบสปอตได้ ซึ่งเป็นกิจกรรมหลักบนแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ หากคุณไม่มีสกุลเงินดิจิทัลที่จะใช้ทำการซื้อขายแบบสปอตได้ คุณยังสามารถใช้ฟีเจอร์การแปลงสกุลเงินดิจิทัลจากโทเค็นหนึ่งไปเป็นอีกโทเค็นหนึ่งได้ การแปลงนี้สามารถทำได้ด้วยการใช้ Web3 Wallet หรือคำสั่งซื้อแบบ Limit Order นอกจากนี้ แพลตฟอร์ม Binance จะไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมใดๆ สำหรับบริการนี้

OTC Trading

คุณต้องการซื้อ USDT, ETH, หรือเหรียญคริปโตอื่นๆ จำนวนมากใช่หรือไม่? คุณสามารถทำการซื้อขายจำนวนมากได้ด้วยการยอมรับราคาและเงื่อนไขอื่นๆ ได้ ด้วยวิธีนี้ คุณไม่จำเป็นต้องไปที่ Order Book เฉพาะของกระดานเทรดและสามารถหลีกเลี่ยง Slippage (ค่าความคลาดเคลื่อน) ได้ อย่างไรก็ตาม คำสั่งซื้อขายแบบ OTC มีเกณฑ์ขั้นต่ำอยู่ที่ 200,000 USD หรือเทียบเท่า

การซื้อขายมาร์จิ้น

บน Binance แม้แต่การซื้อขายคริปโตแบบสปอตตามมาตรฐานก็มีเลเวอเรจให้คุณใช้งานได้ คุณสามารถเลือกระหว่างการซื้อขายแบบ Cross-Margin หรือ Isolated-Margin ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ คุณสามารถมทำการซื้อขายมาร์จิ้นมาตรฐานได้ตั้งแต่ 3 เท่า ถึง 10 เท่า ขึ้นอยู่กับประเภทของการซื้อขายที่คุณต้องการดำเนินการ

สุดท้าย คุณสามารถยืมเงินเพื่อทำการซื้อขายแบบ Cross-Margin หรือ Isolated-Margin ได้โดยการใช้สินทรัพย์ที่คุณถือครองอยู่เพื่อเป็นหลักประกัน

การซื้อขายแบบ P2P

ยังไม่มั่นใจเกี่ยวกับการซื้อขายแบบ OTC หรือคุณอาจจะไม่สามารถทำตามข้อกำหนดขั้นต่ำในการซื้อขายปริมาณมากๆ ได้? ไม่ต้องกังวลไป เนื่องจากคุณยังสามารถใช้บริการการซื้อขายแบบ Peer-to-Peer ของ Binance ได้

ตั้งแต่ USDT ถึง BTC ไปจนถึงสินทรัพย์อื่นๆ อีก 11 รายการ คุณสามารถเชื่อมต่อกับผู้ซื้อและผู้ขายที่เฉพาะเจาะจงเพื่อทำการซื้อขายได้ ในส่วนของ P2P นี้ยังมีอินเตอร์เฟสการซื้อขายแบบ “Block” สำหรับการซื้อขายปริมาณมากแยกต่างหากอีกด้วย หรือ หาก P2P อาจจะดูยุ่งยากเกินไป คุณยังสามารถใช้งานตัวเลือกการซื้อขายแบบ “Express” เมื่อใช้ตัวเลือกนี้ คุณสามารถซื้อสกุลเงินดิจิทัลได้อย่างรวดเร็วในราคาที่ค่อนข้างดี โดยที่ไม่ต้องตรวจสอบข้อเสนออื่นๆ ทั้งหมด ทั้งหมดนี้สามารถใช้งานในการขายได้เช่นกัน

Bots และ APIs

หากคุณต้องการทำการซื้อขายเป็นแบบอัตโนมัติ คุณสามารถใช้งานบอทเทรดได้ มันสามารถทำได้ทั้ง Spot Grids, Futures Trading, DCA หรือ ใช้กลยุทธ์ในการปรับพอร์ตการลงทุน มีบอทให้เลือกสำหรับทุกๆ โอกาสและความต้องการในการซื้อขายของคุณ

นอกจากนี้ หากคุณเป็นนักเทรดที่เต็มไปด้วยกลยุทธ์ หรือ มีความสนใจที่จะนำเสนอประสบการณ์การเทรดที่ไม่เหมือนใครให้แก่ผู้ใช้งานคนอื่นๆ Binance ก็ยังมีการเสนอการเข้าถึง API ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับสถาบันที่สนใจนำเสนอบริการการซื้อขายขั้นสูงที่เกี่ยวข้องกับกระเป๋าเงิน, การขุด NFT, การ Staking, และอื่นๆ อีกมากมาย

การซื้อขายอนุพันธ์

หากคุณต้องการซื้อขายคริปโตฟิวเจอร์ส Binance ก็มีเซคชั่นนี้ให้บริการโดยเฉพาะ คุณสามารถเข้าถึงประสบการณ์การซื้อขายจำลอง, สินทรัพย์หลายรายการ, และเลเวอเรจสูงถึง 125 เท่าสำหรับสินทรัพย์ที่เฉพาะเจาะจง Binance ยังเสนอการชำระหนี้ใน UDST หรือ COIN (สกุลเงินดิจิทัลที่คุณวางแผนจะซื้อขาย) สำหรับการซื้อขายอนุพันธ์ คุณสามารถเข้าถึงโหมด Perpetual และ Delivery ได้

แพลตฟอร์ม Binance ยังช่วยให้คุณซื้อขายคริปโตออปชั่นได้อีกด้วย

Binance Earn

กระดานเทรดชั้นนำของโลกมีบริการการสร้างรายได้แบบพาสซีฟให้ผู้ใช้งานได้เลือกใช้ หนึ่งในบริการที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ “Simple Earn” และ BNB Vault คุณสามารถเลือกได้จากแผนการสร้างรายได้ที่มีการคุ้มครองเงินต้น, ตัวเลือกที่ให้ผลตอบแทนสูง, และกลยุทธ์การลงทุนอัตโนมัติที่คล้ายกับ SIP (Specific Investment Product)

คุณยังสามารถเลือกแผนการสร้างรายได้แบบพาสซีฟอื่นๆ ได้ เช่น Staking โดยมี ETH 2.0 เป็นตัวเลือก Binance ยังสนับสนุนการทำฟาร์มคริปโตข้ามพูล ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเติมสภาพคล่องและรับรางวัลจากกระบวนการดังกล่าวได้

นอกจากนี้ ยังมีตัวเลือกการลงทุนแบบคู่ พร้อมตัวเลือกในการชำระเงินในราคาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าและรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น และสุดท้าย การเคลื่อนไหวตามช่วงระดับที่คุณสามารถเตรียมสินทรัพย์ของคุณเพื่อซื้อขายภายในช่วงที่กำหนดและรับรางวัลได้ คุณยังสามารถเลือกตัวเลือกการซื้อขายเฉพาะสำหรับเครือข่ายใดเครือข่ายหนึ่งได้ โดยมี Cosmos และ Polkadot ให้เลือกใช้งาน (นอกเหนือไปจาก BNB Chain)

หรือคุณสามารถสำรวจตัวเลือกในการ Staking หรือ Farming สำหรับเหรียญหรือโทเค็นที่เฉพาะเจาะจงได้ ซึ่งอาจจะให้ APY ที่สูงขึ้น หรือแม้แต่โบนัสอื่นๆ เพิ่มเติมก็ตาม

สิทธิพิเศษของนักลงทุนสถาบัน

ในขณะที่ Binance มีบริการมากมายสำหรับนักลงทุนรายย่อย แต่พวกเขาก็ยังให้ความสำคัญกับนักลงทุนสถาบันและวีไอพีเช่นกัน พวกเขาสามารถใช้งานแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์ ตั้งแต่ โซลูชั่นการซื้อขาย, เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล ไปจนถึง ทรัพยากรต่างๆ ที่หลากหลาย Binance มีทุกสิ่งที่นักลงทุนสถาบันต้องการ นอกจากนี้ ยังมีบริการอื่นๆ ให้เลือกใช้งานอีกมากมายอีกด้วย

โซลูชั่นการจัดการสินทรัพย์

Binance ช่วยให้ผู้จัดการสินทรัพย์สามารถตอบสนองต่อผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการให้บริการสำหรับการจัดการคำสั่งซื้อ การรายงานข้อมูล การตรวจสอบความเสี่ยง และอื่นๆ อีกมากมาย ตั้งแต่กองทุนบริหารความเสี่ยง, ผู้ให้บริการสภาพคล่อง ไปจนถึง โบรกเกอร์ ทุกคนสามารถได้รับประโยชน์จากบริการเหล่านี้

แดชบอร์ดและสินเชื่อ

สำหรับนักลงทุนสถาบันและวีไอพี Binance นำเสนอแพลตฟอร์มระดับพรีเมียมที่สามารถปรับแต่งได้ ซึ่งรวมถึงการวิเคราะห์อุตสาหกรรมโดยละเอียด และ ข้อเสนอพิเศษต่างๆ เช่น ไวท์ลิสต์สำหรับการยืมมาร์จิ้น และ ศูนย์เฉพาะสำหรับการรายงานข้อมูล

สถาบันที่ถือครองสกุลเงินดิจิทัลสามารถใช้บริการสินเชื่อของ Binance ได้เช่นกัน ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่ามีข้อจำกัดที่กว้าง, มีความยืดหยุ่นของหลักประกัน, และการใช้เงินทุนที่เหมาะสม อัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อวีไอพีก็ค่อนข้างต่ำเลยทีเดียว

Binance Launchpad

Binance ไม่ได้เป็นเพียงแพลตฟอร์มสำหรับนักเทรดและนักลงทุนเท่านั้น พวกเขายังช่วยให้บริษัทสตาร์ทอัพ Web3 เปิดตัวโทเค็นและทำการระดมทุนได้อีกด้วย มีโปรเจกต์อยู่มากกว่า 70 โปรเจกต์บน Launchpad ของ Binance บางโปรเจกต์นั้นก็มาพร้อมกับ Launch Pools ซึ่งให้สภาพคล่องและโอกาสในการ Staking คุณสามารถทำทั้งหมดนี้ได้บน Binance

Binance และ สถานะ DeFi

Binance นั้นไม่ได้เป็นแค่ CEX เท่านั้น แต่ยังเป็นระบบนิเวศ ซึ่งอยู่บน BNB Smart Chain และยังเป็นบ้านของ DEXs และแอป DeFi มากมาย ซึ่งหมายความว่า นักเทรดสามารถใช้แอป DeFi อย่าง Linear Finance, Wombat, หรือแม้แต่ DEXs อย่าง SushiSwap เพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากการกระจายอำนาจของ Binance ได้

Mining Pool ของ Binance

หากคุณสนใจเฉพาะคริปโตแบบ PoW อินเทอร์เฟส Could Mining ของ Binance จะช่วยให้คุณเข้าถึงอัลกอริธึม 8 ตัวและตัวขุดหลายตัวได้ และ Binance ยังช่วยให้คุณมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอัตราแฮช เช่น การสร้าง Ordinals, การเร่งความเร็วและการติดตามธุรกรรม PoW ได้อีกด้วย

นอกเหนือจากฟีเจอร์เหล่านี้แล้ว Binance ยังช่วยให้นักลงทุนรายย่อยสามารถกู้ยืมสกุลเงินดิจิทัลได้, มีตลาดที่เต็มไปด้วยฟีเจอร์สำหรับ NFT และเสนอการสำรวจข้อมูลตลาดตามความต้องการของผู้ใช้งาน นี่คือแคตตาล็อกทั้งหมดที่คุณสามารถสำรวจได้

นอกจากนี้ Binance ยังมีโปรแนะนำเพื่อนที่ให้รางวัลมากมายอีกด้วย เมื่อคุณแนะนำคนมาสมัครใช้งานแพลตฟอร์มโดยการใช้ลิงก์เชิญชวนของคุณ ทั้งคุณและเพื่อนของคุณจะได้รับค่าธรรมเนียมการซื้อขายมูลค่า 100 USDT นอกจากนี้ Binance ยังมีบัตรของขวัญให้บริการ, สามารถชำระเงินด้วยสกุลเงินดิจิทัลได้ในบางพื้นที่ และมีอินเตอร์เฟสสำหรับการศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล

Binance เป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่นๆ?

รีวิว Binance ของเราแสดงให้เห็นแล้วว่า Binance คือ กระดานเทรดคริปโตแบบครบวงจรสำหรับทั้งนักเทรดมือใหม่และนักเทรดที่มีประสบการณ์มากมาย อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการที่จะลองใช้งาน CEX อื่นๆ นี่คือตัวเลือกบางส่วนที่คุณสามารถลองพิจารณาดูได้:

1. Coinbase: กระดานเทรดคริปโตที่เป็นมิตรต่อมือใหม่มากกว่า
2. Kraken: มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง รวมถึงการทดสอบการเจาะระบบและการป้องกันการโจมตี DDoS เป็นประจำ
3. eToro: ให้ประสบการณ์การซื้อขายที่ดีและคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ด้วยฟีเจอร์ CopyTrader ที่ช่วยให้ผู้ใช้งาน eToro เลียนแบบการซื้อขายของนักเทรดที่ประสบความสำเร็จได้
4. Stormgain: หนึ่งในแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดแบบเลเวอเรจ โดยให้เลเวอเรจสูงถึง 200 เท่า
5. OKX: นำเสนอประสบการณ์การ Staking ในระดับแนวหน้าด้วยสินทรัพย์ที่รองรับมากมาย

โปรดทราบว่า เราพูดถึงเฉพาะคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องกับ Binance เท่านั้น แต่ละแพลตฟอร์มนั้นยังมีบริการต่างๆ อีกมากมายที่คุ้มค่ามากกว่าจะเป็นตัวเลือกที่ใช้งานแทน Binance เท่านั้น

ฟีเจอร์และเครื่องมือต่างๆ จาก Binance

Binance ถือเป็นหนึ่งในกระดานเทรดที่มีความน่าเชื่อถือสูง ที่ซึ่งแดชบอร์ดของ CoinGecko ให้คะแนนเต็ม 10 เลยทีเดียว

Binance เป็นหนึ่งในกระดานเทรดรายแรกๆ ที่มีการเปิดเผย Proof-of-Reserves ที่ขับเคลื่อนโดย Merkle Tree พร้อมกลไกการตรวจสอบและอัพเดตข้อมูลด้วยตนเอง

“กระดานเทรดคริปโตทั้งหมดควรทำ Merkle-Tree Proof-of-Reserves

ธนาคารดำเนินการโดยใช้ทุนสำรองบางส่วน

กระดานเทรดคริปโตไม่ควรทำเช่นนั้น

Binance จะเริ่มทำ Proof-of-Reserves ในเร็วๆ นี้ มีความโปร่งใสอย่างสมบูรณ์”

Changpeng Zhao, ผู้ร่วมก่อตั้ง Binance: Twitter

อย่างที่คุณเห็น สินทรัพย์ส่วนใหญ่นั้นมีมูลค่าเกินหลักประกัน

นอกจากความน่าเชื่อถือในเรื่องเงินทุนสำรองแล้ว Binance ยังมีมาตรการรักษาความปลอดภัยดังต่อไปนี้:

1. การยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอน
2. ที่อยู่และอุปกรณ์ที่อนุญาตให้ใช้งาน
3. จำกัดการเข้าถึงอุปกรณ์
4. การให้สิทธิ์ด้วยการใช้ QR
5. การจัดเก็บเงินทุนของผู้ใช้งานใน Hot และ Cold Wallets หลายใบ
6. การแจ้งเตือนการถอนเงิน และ รองรับการใช้ Passkey เพื่อทำการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลผ่านช่องทาง P2P

นี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของสิ่งที่ Binance สร้างความแตกต่าง:

นอกจากนี้ Binance ยังมีมาตรการการเข้ารหัสที่แข็งแกร่ง และได้ผ่านการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาจุดยืนที่น่าเชื่อถือนี้เอาไว้

รู้หรือไม่ว่า? Binance มีมาตรการรักษาความปลอดภัยแบบใหม่ที่เรียกว่า Binance Verify ซึ่งผู้ใช้สามารถวางลิงก์, ที่อยู่อีเมล, หมายเลข Twitter, และ ID อื่นๆ เพื่อตรวจสอบว่าการติดต่อนั้นมาจากบัญชีอย่างเป็นทางการของ Binance หรือไม่

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2023 Binance.US ระงับการถอนเงินดอลลาร์บนแพลตฟอร์ม ตามเงื่อนไขซึ่งเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สิ่งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) ยื่นฟ้อง Binance, Changpeng Zhao ซีอีโอของบริษัท และ Binance.US โดยกล่าวหาว่า พวกเขาว่ามีการกระทำผิดต่างๆ เช่น การเพิ่มตัวเลขปริมาณการซื้อขาย และ พฤติกรรมหลอกลวง

ลูกค้าที่ต้องการถอนเงินดอลลาร์สหรัฐออกจากบัญชีของตน ได้รับคำแนะนำให้แปลงเงินของตนเป็น Stablecoins หรือ สินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ การกระทำของ SEC ในครั้งนี้ก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการดำเนินงานของ Binance ในสหรัฐอเมริกา และส่งผลโดยตรงต่อบริการถอนเงินเฟียต ยังไม่ชัดเจนว่าการต่อสู้ทางกฎหมายและการตรวจสอบด้านกฎระเบียบจะส่งผลกระทบต่อสถานะในระยะยาวของ Binance ในอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัลอย่างไร

โครงสร้างค่าธรรมเนียม

เนื่องจาก Binance มีผลิตภัณฑ์และบริการมากมาย ค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และบริการนั้นๆ อาจจะแตกต่างกันออกไป ซึ่งเราจะมาตรวจสอบแต่ละหัวข้อกัน โดยเริ่มจากค่าธรรมเนียมการซื้อขายแบบสปอต

ค่าธรรมเนียมการซื้อขายแบบสปอตที่คุณต้องจ่ายจะขึ้นอยู่กับระดับ VIP ตัวอย่างเช่น ตอนนี้ เรากำลังใช้งานในระดับ “ผู้ใช้งานทั่วไป” ซึ่งจะมีค่าธรรมเนียมการซื้อขายแบบสปอตที่ 0.1% สำหรับทั้ง Maker และ Taker และเนื่องจาก Binance เป็นหนึ่งในกระดานเทรดคริปโตที่มีสภาพคล่องสูง ค่าธรรมเนียมสำหรับ Maker และ Taker จึงเท่ากัน

อย่างไรก็ตาม หากคุณเลื่อนระดับจาก VIP 1, VIP 2 ไปจนถึง VIP 9 ค่าธรรมเนียมการซื้อขายแบบสปอตของคุณอาจจะลดเหลือเพียง 0.012% สำหรับ Maker และ 0.024% สำหรับ Taker ระดับ VIP ของคุณนั้นจะขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่คุณซื้อขายในช่วง 30 วัน

คุณสามารถรับส่วนลดค่าธรรมเนียมการซื้อขายเพิ่มเติมได้ หากคุณใช้ BNB ซึ่งเป็นโทเค็นของ Binance ในการชำระเงิน Binance มีโครงสร้างค่าธรรมเนียมที่โปร่งใสมาก นอกจากนี้ พวกเขายังมีการเปิดเผยอัตราดอกเบี้ยของการกู้ยืมและมาร์จิ้นล่วงหน้าอีกด้วย อัตราเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับระดับ VIP และประเภทของสินทรัพย์ที่คุณกู้ยืม

โครงสร้างค่าธรรมเนียมสำหรับการเทรด Perpetual และ Futures

สำหรับ USDT-M Futures ค่าธรรมเนียมการซื้อขายเริ่มต้นที่ 0.0200% สำหรับ Maker และ 0.0400% สำหรับ Taker และค่าธรรมเนียมอาจจะลดลงไปได้ต่ำสุดถึง 0.012% และ 0.030% ตามลำดับ สำหรับ COIN-M Futures จะมีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 0.01% สำหรับ Maker และ 0.05% สำหรับ Taker (นี่เป็นค่าธรรมเนียมสำหรับระดับ “ผู้ใช้งานทั่วไป”)

สำหรับ European-Style ผู้ใช้งานทั่วไปจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 0.03% ทั้ง Maker และ Taker นอกเหนือจากโครงสร้างค่าธรรมเนียมเหล่านี้แล้ว Binance ระดับต่างๆ สำหรับการ Swap Farming, การซื้อขาย NFT และการซื้อขายแบบ P2P อีกด้วย

คุณสามารถดูรายละเอียดต่างๆ ได้ที่หน้านี้

การฝากและถอนเงิน: สกุลเงินเฟียต และ คริปโต

Binance ช่วยให้คุณสามารถฝากและถอนเงินได้ทั้งแบบเฟียตและคริปโต สำหรับการฝากคริปโตจากกระเป๋าเงินภายนอก คลิกไปที่แท็บ “Deposit” ที่อยู่ด้านบนของหน้า เมื่อเปิดอินเตอร์เฟสขึ้นมาแล้ว คุณสามารถเลือกสินทรัพย์คริปโต เครือข่ายที่ใช้ในการโอนเงิน และ Public Address ของบัญชีเครือข่ายที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย

Address นี้สามารถมอบให้กับบุคคลที่จะจ่ายเงินให้คุณได้ เมื่อฝากเงินแล้ว คุณสามารถดูเงินได้ในกระเป๋า “Funding” Binance จะไม่คิดค่าธรรมเนียมใดๆ สำหรับการฝากคริปโต

เพื่อจะฝากสกุลเงินเฟียต คุณจะต้องเลือกสกุลเงิน (รองรับสกุลเงินเฟียตเกือบ 30 สกุลเงิน), เลือกวิธีการชำระเงิน และ กดดำเนินการต่อ สิ่งหนึ่งที่ควรทราบก็คือ หากคุณใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตในการชำระเงิน จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมคงที่ที่ 1.8% อย่างไรก็ตาม มีตัวเลือกอื่นๆ ที่คุณสามารถเลือกได้นอกเหนือจากบัตรเดบิต อย่าลืมตรวจสอบวิธีการต่างๆ ก่อนที่จะเริ่มดำเนินการ นอกจากนี้ แทนที่จะฝากสกุลเงินเฟียต คุณสามารถใช้มันเพื่อซื้อสกุลเงินดิจิทัลได้โดยตรง

หากต้องการถอนเงิน ให้ไปที่แท็บ “Wallet” และเลือกหัวข้อ “Fiat and Spot” ภายใต้สินทรัพย์ที่คุณเลือก คุณจะพบตัวเลือกในการถอนเงินเป็นสกุลเงินดิจิทัล เพียงแค่เลือกที่อยู่ปลายทาง เลือกเครือข่าย แล้วคลิกดำเนินการต่อ ก็จะเสร็จสิ้นกระบวนการ

หากคุณมีสกุลเงินเฟียตอยู่ในบัญชี Binance คุณสามารถโอนเงินเข้าธนาคารได้โดยเสียค่าธรรมเนียม 1.8% สำหรับค่าธรรมเนียมการฝากและถอนสกุลเงินดิจิทัล คุณจะต้องชำระแค่เพียงค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมของเครือข่าย อย่างไรก็ตาม ค่าธรรมเนียมการถอน = ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม ซึ่งจะขึ้นอยู่กับเครือข่ายและประเภทของสกุลเงินดิจิทัล

รายละเอียดอื่นๆ

สำหรับการฝากและถอนสกุลเงินเฟียต คุณมีตัวเลือกที่สามารถทำได้อยู่มากมาย ซึ่งรวมไปถึง ประเภทของสกุลเงิน และ วิธีการฝากและถอนเงิน อย่างไรก็ตาม ค่าธรรมเนียมการฝากและถอนเงินเป็นสกุลเงินเฟียตอาจจะสูงถึง 2% สำหรับธุรกรรมบางรายการ

รีวิว Binance: ตรวจสอบประสบการผู้ใช้งาน

เราได้ดูแดชบอร์ดของ Binance ไปแล้วในขณะที่พูดคุยเกี่ยวกับข้อเสนอต่างๆ แต่ยังมีเรื่องอยู่อีก 2-3 ประการที่เราจะต้องให้ความสนใจกัน

ประการแรก Binance เป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายที่รองรับการใช้งานบนหลายๆ แพลตฟอร์ม ซึ่งรวมไปถึง แอปมือถือสำหรับ Android และ iOS, แอปพลิเคชั่นเดสก์ท็อปสำหรับ macOS, Linux และ Windows หรือจะใช้งานเว็บอินเตอร์เฟสเช่นเดิมก็สามารถทำได้

Binance ยังมีเครื่องมือพิเศษที่จะช่วยเพิ่มการรักษาความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่งให้กับบัญชีของคุณโดยใช้การยืนยันตัวตนแบบ 2 ขั้นตอน

สำหรับการตั้งค่า เพียงแค่เข้าสู่ระบบด้วยอีเมล์และเบอร์โทรศัพท์ของคุณ เมื่อรายละเอียดของคุณได้รับการตรวจสอบแล้ว คุณจะต้องทำการยืนยันข้อมูล KYC และใช้งานมาตรการความปลอดภัย เช่น 2FA, รหัสผ่าน, ล็อกไบโอเมตริกซ์, และ Passkey เพื่อเริ่มต้นการใช้งาน

อินเตอร์เฟสการซื้อขายจะแบ่งออกเป็นตัวเลือกต่างๆ เช่น สปอต, อนุพันธ์, P2P และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ อินเตอร์เฟสยังจะแบ่งออกเป็น 2 ตัว ได้แก่ Binance Lite และ Binance Pro และตามชื่อของมัน Binance Lite ได้รับการออกแบบมาสำหรับนักเทรดหน้าใหม่ และจะมีอินเตอร์เฟสที่เรียบง่าย ในทางกลับกัน Binance Pro เหมาะสำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์มากกว่า

แหล่งข้อมูลทางการศึกษาสำหรับผู้ที่มีความสงสัยในเรื่องคริปโต: แผนการเรียนรู้ของ Binance

Binance มีแหล่งข้อมูลมากมายเพื่อช่วยให้คุณเรียนรู้เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล แหล่งข้อมูลเหล่านี้ประกอบด้วยบทความ วิดีโอ อภิธานศัพท์ และบทช่วยสอน ซึ่งทั้งหมดนี้มีให้บริการอยู่ใน Binance Academy

นอกจากนี้ Binance Academy ยังมีแผน Learn and Earn ซึ่งจะให้คริปโตเป็นรางวัลแก่ผู้ใช้งาน (ทั้งมือใหม่และผู้ที่มีประสบการณ์) สำหรับการตอบคำถามที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อต่างๆ

นอกจากนี้ พวกเขาก็ยังมีบล็อกของ Binance ที่จะคอยรายงานทุกเหตุการณ์สำคัญภายในระบบนิเวศ นอกจากนี้ Binance ยังมีคอมมูนิตี้ที่แข็งแกร่งมาก ซึ่งเห็นได้จากยอดผู้ติดตามเป็นจำนวนมากบน X (อดีต Twitter), การมีส่วนร่วมของผู้ใช้ผ่านฟีด Binance, และอื่นๆ อีกมากมาย

นี่คือตัวอย่างการแจ้งข่าวเกี่ยวกับพัฒนาการต่างๆ:

รีวิว Binance: ข้อดี และ ข้อเสีย

ต้องการสรุปย่อๆ เกี่ยวกับสิ่งที่เราค้นพบใช่หรือไม่? ลองมาดูข้อดีและข้อเสียสั้นๆ เพื่อทำความเข้าใจถึงประโยชน์และข้อจำกัดของกระดานเทรดนี้

ข้อดี

• มีสภาพคล่องสูง
• รองรับคู่สกุลเงินดิจิทัลมากมาย (กว่า 1600+ รายการ)
• เต็มไปด้วยบริการการซื้อขายขั้นสูงมากมาย รวมถึง Mock Trading, Inverse Perpetual Contracts, และอื่นๆ อีกมากมาย
• ค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่ต่ำ ซึ่งยังสามารถลดลงได้อีกเมื่อมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น หรือ ถือครองเหรียญ BNB
• คุณสมบัติความปลอดภัยขั้นสูง
• อินเตอร์เฟสการซื้อขายแบบ P2P ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ข้อเสีย

• การบริการลูกค้าอาจจะไม่รวดเร็วในช่วงเวลาที่มีคนใช้งานสูง
• มีข้อจำกัดสำหรับการฝากและถอนสกุลเงินเฟียต (แตกต่างกันไปตามแต่ละภูมิภาค)

การสนับสนุนลูกค้า

ณ เดือนกันยายน 2023 Binance ไม่มีการให้บริการทางโทรศัพท์สำหรับการสนับสนุนลูกค้า อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานของ Binance ยังมีตัวเลือกอีกมากมายที่จะสามารถขอความช่วยเหลือต่อทีมงานได้ นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถส่งทิคเก็ตและแจ้งปัญหาผ่านทางอีเมลได้อย่างง่ายดาย

นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่มองหาคำแนะนำอย่างเร่งด่วน พวกเขายังมี Help Center ที่เต็มไปด้วยข้อมูลที่มีประโยชน์ต่างๆ และยังมี Live Chat ที่พร้อมให้บริการตอบคำถามต่างๆ ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย

เราทำการทดสอบ Binance อย่างไรบ้าง

เป้าหมายของเราคือการประเมิน Binance อย่างละเอียดเพื่อค้นหาปัญหาหรือข้อบกพร่องที่อาจจะมีอยู่ และเสนอแนะวิธีการที่จะสามารถปรับปรุงได้ การทดสอบของเราจะครอบคลุมส่วนต่างๆ ของ Binance รวมถึง ฟังก์ชั่นการทำงาน, ประสิทธิภาพ, ความปลอดภัย, ประโยชน์ใช้งาน, และความเข้ากันได้กับสิ่งอื่นๆ

ทีมงานของเราผสมผสานทั้งการทดสอบด้วยตัวเองและแบบอัตโนมัติ โดยจะใช้รูปแบบการทดสอบและสถานการณ์ที่หลากหลายเพื่อทำการประเมินผลิตภัณฑ์ต่างๆ อย่างละเอียด

ในกระบวนการทดสอบนี้ เป้าหมายของเราคือการนำเสนอมุมมองที่ชัดเจนและให้ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับ Binance แก่ผู้อ่าน เพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถตัดสินใจทำกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลได้อย่างรอบคอบ

การปฏิบัติตามกฎระเบียบและความปลอดภัย

Binance ปฏิบัติตามกฎระเบียบสากลในเรื่องกระบวนการตรวจสอบตัวตนของลูกค้า (KYC) นอกจากนี้ พวกเขายังปฏิบัติตามข้อกำหนดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการฟอกเงิน, การสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย, มาตรการคว่ำบาตร, และอื่นๆ อีกมากมาย

อย่างไรก็ตาม Binance ยังเป็นผู้นำในการปฏิบัติตามกฎระเบียบในประเทศต่างๆ ตัวอย่างเช่น ในฝรั่งเศส Binance ทำหน้าที่เป็น DASP หรือ ผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลซึ่งได้รับใบอนุญาตโดย AMF และพวกเขายังมีใบอนุญาตที่ถูกต้องตามกฏระเบียบที่คล้ายๆ กันในประเทศอื่นๆ ในยุโรป รวมถึง โปแลนด์ อิตาลี และสวีเดน เป็นต้น

นอกจากนี้ พวกเขายังได้รับการอนุมัติที่ถูกต้องตามกฏระเบียบที่คล้ายๆ กันสำหรับการดำเนินงานในคาซัคสถาน และหลายประเทศในตะวันออกกลาง เช่น ดูไบ บาห์เรน อาบูดาบี และประเทศในเอเชียแปซิฟิก เช่น อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และอื่นๆ อีกมากมาย

ในส่วนของเรื่องอื้อฉาวนั้น Binance และ Changpeng Zhao มีส่วนเป็นอย่างมากในวิกฤตของ FTX การตัดสินใจของ Binance ในการขายโทเค็น FTT เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ FTX เกิดการล่มสลาย Binance ยังได้เผชิญหน้ากับการฟ้องร้องหลายคดีจากสำนักงาน ก.ล.ต. ในเรื่องความกังวลของแผนการ Staking ที่มีความสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของหลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียน

ถึงแม้ว่าจะมีปัญหาต่างๆ มากมายทั้งเรื่องกฎระเบียบต่างๆ และเรื่องอื้อฉาวบางส่วน แต่ Binance ยังคงเป็นผู้เล่นชั้นนำในตลาดสปอตและอนุพันธ์

ทำการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ

สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่คุณต้องการทราบก็คือ การลงทุนและการซื้อขายมีความเสี่ยง และมีโอกาสที่คุณจะเกิดการขาดทุนได้ ดังนั้น คุณจึงไม่ควรที่จะลงทุนมากกว่าที่คุณจะสูญเสียไปได้อย่างไม่หนักใจ

นอกจากนี้ รีวิว Binance นี้ไม่ได้เป็นการรับรองอย่างเป็นทางการของกระดานเทรด Binance และมีวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและความบันเทิงเท่านั้น ผู้อ่านควรพิจารณาภาระผูกพันทางการเงินของตนเอง และทำการศึกษาข้อมูลต่างๆ ด้วยตัวเองให้รอบด้านก่อนที่จะทำการตัดสินใจลงทุน

Binance ช่วยให้คุณดำดิ่งเข้าสู่โลกสกุลเงินดิจิทัลได้อย่างง่ายด่าย

รีวิวนี้ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าระบบนิเวศของ Binance นั้นลึกซึ้งเพียงใด ตั้งแต่ ฟีเจอร์การซื้อขาย ไปจนถึง บริการระดับพรีเมี่ยมสำหรับสถาบัน และ แหล่งข้อมูลทางการศึกษามากมายสำหรับคอมมูนิตี้คริปโต Binance มีบริการทุกอย่างที่คุณต้องการ พวกเขาโดดเด่นในฐานะหนึ่งในกระดานเทรดคริปโตไม่กี่แห่งที่มักจะแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบถึงข่าวสารและการอัพเดตใหม่ๆ ผ่านหน้าข้อเสนอแนะที่สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ

คำถามที่พบบ่อย

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤศจิกายน 2024

CoinEx สำรวจเลย

Margex สำรวจเลย

BYDFi สำรวจเลย

BingX สำรวจเลย

Coinrule สำรวจเลย

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤศจิกายน 2024

CoinEx สำรวจเลย

Margex สำรวจเลย

BYDFi สำรวจเลย

BingX สำรวจเลย

Coinrule สำรวจเลย

แพลตฟอร์มคริปโตที่ดีที่สุดในไทย | พฤศจิกายน 2024

CoinEx

Margex

BYDFi

BingX

Coinrule